โปรดแวะ "แนะแนว" ห้องนี้ใช้ค้นหาอนาคตได้!!
พี่เกียรตินึกถึงตอนเรียนมัธยม ตอนนั้นพี่มีห้องพักใจสองที่ คือ ห้องสมุด และห้องแนะแนว ห้องสมุดนี่เข้าไปแข่งอ่านหนังสือ...นิยายเท่านั้นนะ อย่างอื่นไม่อ่าน!! แต่ห้องแนะแนว...นี่เอาไว้พักใจยามเหนื่อยล้า เพราะอาจารย์ที่ปรึกษาเป็นครูแนะแนวน่ะสิ เลยมีโอกาสได้เยี่ยมเยือนห้องแนะแนวบ่อยๆ ทำให้พี่เกียรตินึกได้ว่า ตัวช่วยใกล้ตัวของน้องๆ มัธยมทุกสายอยู่ที่ห้องแนะแนวนี่เอง
วิชาแนะแนวเป็นวิชาที่สำคัญมากๆ แม้จะไม่ได้เรียนวิชาการ แต่ก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับตนเองมากขึ้น น้องๆ หลายคนอาจเบื่อวิชานี้ เพราะอย่างมากก็แค่ทำแบบทดสอบ เขียนแผนภูมิอนาคต แต่บางคนก็ชอบวิชานี้มากๆ เพราะบางทีก็กลายเป็นคาบว่าง ปั่นการบ้านวิชาอื่นก็ได้ ด้วยคุณครูแนะแนวติดงานอื่นๆ มาสอนไม่ได้ เพราะไม่ใช่แต่นักเรียนเท่านั้นที่อาจคิดว่าแนะแนวเป็นวิชาลอยๆ ว่างๆ แม้แต่คุณครูวิชาอื่นๆ ด้วยกันเอง ก็เห็นความสำคัญของวิชาแนะแนวน้อยมาก เพราะว่าเนื้อหาไม่ใช่วิชาการ ไม่ต้องเอาไปสอบเข้าเรียนต่อที่ไหน คุณครูแนะแนวจึงมักได้รับมอบหมายงานอื่นๆ นอกเหนืองานสอนมากมาย จนสุดท้าย(ดัน)ไม่ได้สอนวิชาตัวเองตลอด
ใครๆ ก็ชอบคิดว่างานแนะแนวนี่มันง่ายๆ ครูแนะแนวว่างกว่าครูคนอื่นๆ พี่เกียรติเลยขอเล่าถึงงานหลักๆ ของคุณครูแนะแนวจ้า (งานหลักๆ นะ ยังไม่รวมงานย่อยๆ เลย)
1. งานสอน มุ่งเน้นให้นักเรียนเข้าใจตนเอง ครอบครัว และสังคม เข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเองในการเป็นนักเรียน และการเป็นพลเมืองที่ดี เข้าใจความต้องการของตนเอง และสามารถเลือกเรียนต่อได้ตรงตามความสนใจของตนเองได้ คุณครูแนะแนวจึงมักมีกิจกรรมให้นักเรียนได้เรียนรู้จิตใจตนเอง บางทีก็มีการทำสมาธิ และก็ ชอบให้ตอบคำถาม วาดรูปเกี่ยวกับอนาคตในสามปี ห้าปี สิบปี การให้ทำแบบทดสอบบุคลิกภาพและความสนใจต่างๆ บางทีน้องๆ ก็ทำซ้ำๆ วนไปมา แต่พี่เกียรติก็เชื่อว่า คำตอบของน้องๆ ไม่ตรงกันสักที ฮ่าๆ รวมถึงการเชิญวิทยากรหรือรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จมาบรรยายเคล็ดลับดีๆให้นักเรียนฟังค่ะ
2. รวบรวบข้อมูลต่างๆ พี่เกียรติคิดว่าน้องๆ ต้องชอบทำแบบทดสอบจิตวิทยาแน่ๆ และแหล่งที่รวมรวบข้อมูลแบบทดสอบต่างๆ คือ ห้องแนะแนวนี่เอง หากไม่เชื่อ ไปถามคุณครูแนะแนวได้ ที่คุณครูนำมาให้น้องๆ ทำในคาบเรียนเนี้ย ไม่ถึงครึ่งเท่าที่ห้องแนวแนวเก็บไว้หรอก รวมถึงการเก็บสถิตินักเรียนที่จบและศึกษาต่อในสถาบันต่างๆ ด้วย เจ้าส่วนนี้เป็นข้อมูลที่เก็บใช้ได้หลายปี
แต่ส่วนข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงไปทุกปี และคุณครูแนะแนวต้องคอยติดตามอัพเดตทุกวัน คือ ข้อมูลเกี่ยวกับค่ายกิจกรรม เช่น ค่ายที่จัดโดยรุ่นพี่มหาวิทยาลัย ค่ายที่จัดโดยหน่วยงานเอกชนเพื่อติวสอบ ข้อมูลนิทรรศการศึกษาต่อที่จัดขึ้นทุกปี ข้อมูลทุนการศึกษาจากสถาบันต่างๆ ข้อมูลรับสมัครจากทั่วประเทศ บางทีน้องๆ อาจบอกว่า หนูอัพเดตข่าวเองทุกวันอยู่แล้ว แต่จริงๆ แล้วก็มีบางข่าวที่ทางสถาบันต่างๆ จะส่งเรื่องมาถึงโรงเรียนโดยตรง หรือเป็นทุนการศึกษาพิเศษเฉพาะโรงเรียน ไม่เปิดเผยทั่วไปด้วยนะ ห้องแนะแนวจึงมีข่าวตรงและข้อมูลมาถึงมากมาย แต่บางทีคุณครูก็ลืมประกาศได้ น้องๆ สามารถเข้าไปสอบถามได้เองโดยตรงจ้า
|
3. คุณครูแนะแนวเป็นนักประชาสัมพันธ์ และศิราณีรับปรึกษาเรื่องหัวใจ เอ้ย รับปรึกษาปัญหาต่างๆ คุณครูแนะแนวหลายๆ คนต้องเตรียมสำรับข้าวปลาอาหารมาไว้ในห้อง เพราะนักเรียนจะเข้ามาสอบถามข้อมูลต่างๆ ตลอดเวลา บางทีก็ต้องรับปรึกษาปัญหาครอบครัวต่างๆ จากนักเรียนหรือผู้ปกครองด้วย เช่น บางทีพ่อแม่ไม่เข้าใจว่าทำไมลูกเลือกเรียนสายการเรียนนั้นนี้ไม่ได้ ต้องมาฉะ เอ้ย ปรึกษากับครูแนะแนว หรือลูกมีปัญหาเกเร คุณครูประจำชั้นก็จะพามาปรึกษาครูแนะแนวเสียด้วย
คุณครูแนะแนวเลยต้องอยู่ประจำการที่ห้อง ไปไหนแทบไม่ได้ เพราะมีนักเรียน และผู้ปกครองรอสอบถามข้อมูลตลอดเวลา คุณครูแนะแนวที่พี่เกียรติรู้จักคนหนึ่ง แปะข้อมูลค่าย และทุนต่างๆ ไว้ทาง Facebookเลยนะ แถมอัพเดตทุกสัปดาห์ ทันสมัยมาก สุดยอด!!
4. คุณครูแนะแนวเป็นครูนักเดินทางด้วย เพราะบางโรงเรียนเวลาที่เด็กๆ มีแข่งขันอะไร นอกจากจะให้งานแนะแนวเป็นผู้มาประกาศสมัคร หาคนไปแข้่งขันแล้ว ครูแนะแนวก็ต้องพานักเรียนไปแข่งขันเองด้วย (ไม่ว่าจะแข่งวิชาใดๆ ก็เถอะ) ที่สำคัญ เมื่อยามที่มีนิทรรศการศึกษาต่อไม่ว่าของรัฐหรือเอกชน หรืองาน Open house ของมหาวิทยาลัยต่างๆ ครูแนะแนวก็จะเป็นไกด์นำทางพาน้องๆ ไปทัวร์เสมอ!!
5. พาไปเที่ยวนอกสถานที่แล้ว ก็ต้องมาจัดป้ายนิเทศ (จัดบอร์ด) หรือจัดนิทรรศการในโรงเรียนให้นักเรียนได้รับทราบข้อมูลน่าสนใจต่างๆ ด้วย คุณครูแนะแนวหลายๆ คน เลยต้องใส่หัวใจศิลป์จัดนู้นจัดนี่ หน้าห้องแนะแนวไว้แปะข้อมูลค่าย ที่เรียนต่อ ทุนการศึกษา อาชีพที่น่าสนใจ ฯลฯ เพื่อเป็นประโยชน์แก่นักเรียนในโรงเรียนทุกคน (รักครูแนะแนวแฮะ >.<)
6. จัดประชุมแนะแนวผู้ปกครองเกี่ยวกับการศึกษาต่อ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ปกครองที่เรียนอยู่ช่วงชั้นสุดท้ายของแต่ละช่วง อย่าง ม.3 ม.6 ปวช.3 และ ปวส.2 เพื่อแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนต่อให้ผู้ปกครองทราบ และแนะนำแนวทางในการดูแลลูกหลานในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเปลี่ยนย้ายที่เรียนค่ะ
จากงานหลักๆ เพียงเท่านี้ น้องๆ คงจะเห็นแล้วว่า วิชาแนะแนวนี่ก็สำคัญมากๆ ไม่แพ้วิชาอื่นเลย เพราะน้องๆ จะได้มีโอกาสศึกษาเรื่องราวความสนใจของตนเอง เป็นสาระที่จะทำให้น้องๆ ค้นหาตัวเอง และเลือกเรียนต่อได้อย่างเหมาะสม และคุณครูแนะแนวหลายโรงเรียนไม่ได้เป็นแค่ครูที่ช่วยแนะนำทางเลือกในการเรียนต่อเท่านั้น ยังเป็นคุณครูที่รับปรึกษาปัญหาชีวิตทั้งเรื่องเรียน เรื่องรัก เรื่องเล่น ปัญหาครอบครัว ฯลฯ อีกด้วย เรียกว่าสมชื่อ ครูแนะแนวและที่ปรึกษา เลยล่ะ!!
ด้วยประการฉะนี้ ห้องแนะแนวจึงเป็นขุมทรัพย์แหล่งใหญ่ใกล้ตัวน้องๆ ชาว Dek-D.com ที่จะช่วยให้น้องๆ ค้นหาตนเอง และเพิ่มโอกาสการเรียนต่อได้อย่างไม่มีปัญหาติดขัด หนูจะเรียนต่ออะไร เกรดอย่างผมไปต่อวิศวะได้ไหม ครูว่าผมจะเลือกที่ชอบหรือที่เงินเยอะๆดี จะไปสอบที่ไหนได้บ้าง มีค่ายที่ไหนไหม จ่ายเงินค่าสมัครสอบอย่างไร มีทุนการศึกษาหรือเปล่า ที่ไหนเปิดรับสมัครบ้าง ฯลฯ ทุกคำตอบมีที่นี่เลย "ห้องแนะแนว"
คุณครูแนะแนวใจดีทุกคน เพราะฉะนั้น ไม่ต้องรอให้ถึงคาบแนะแนว ก็แวะเวียนไปหาข้อมูลดีๆ เพื่อค้นหาตนเอง หรือไปพักผ่อนหย่อนใจ นอนกลิ้ง(แบบพี่เกียรติ)กันได้ที่ห้องแนะแนวของโรงเรียนน้องๆ เลยจ้า
ขอขอบคุณ ข้อมูลจากคุณครูดวงกมลค่ะ ^_^
แหล่งอ้างอิง, ภาพประกอบ http://ysp30553.blogspot.com/ http://www.thaigoodview.com/node/105494?page=0%2C1 http://www.thepbodint.ac.th/topmenu.php?c=show_note_work&w_id=168&titlebar=%CB%E9%CD%A7%E1%B9%D0%E1%B9%C7
|
25 ความคิดเห็น
ขอบคุณนะค่ะ
ห้องแนะแนวดีที่สุดแล้ว ~ ววว
ครูไม่ค่อยจะแนะแนวเลยอ่ะ สอนไรก็ไม่รู้
แต่ถ้าอยากได้รายละเอียดเรียนต่อก็ต้องที่นี่แหละ (^.^)v
เคยลองนั่งคุยกับครูแนะแนวแล้วถามครูเขาว่ามันง่ายไหม
ครูเขาก็บอกว่า จะว่าง่ายมันก็ง่ายนะ(ไม่ต้องใช้เนื้อหาตายตัวอย่างวิชาหลัก) แต่มันยากตรงที่เราต้องเป็นคนหาข่าวสารมาประชาสัมพันธ์ในโรงเรียน ต้องเป็นคนรู้ทันข่าวสารนอกโรงเรียน
(เหมือนอย่างที่พี่เกียรตินำมาเขียนเลยค่ะ)
แต่ส่วนใหญ่ นร. และโรงเรียนมักมองว่าไม่สำคัญอะไรค่ะ
น่าน้อยใจชะมัดเลย
ใช่เลย รักคนเขียนจริงๆ ^____^
ต้องดิ้นรนหาที่ตาย เอ้ย หาที่เรียนเอง เฮ้อ