จบศึกษาศาสตร์ ไม่เป็นครู แล้วจะทำอะไรได้บ้าง ?

P
Part 3. คณะศึกษาศาสตร์ 
                        จิตวิทยาการแนะแนว

 
ตอนที่ 3/3 : จบศึกษาศาสตร์ ไม่เป็นครู
                    จะทำอะไรได้บ้าง?
   
 

        
        มาแล้วครับ ทุกวันพุธกลางสัปดาห์แบบนี้ มาแล้วกับสัปดาห์นี้ตามสัญญา สำหรับน้องๆ ที่สงสัยว่าคณะศึกษาศาสตร์ จิตวิทยาการแนะแนว ชื่อก็บอกว่าศึกษาแปลว่าต้องประกอบอาชีพครูแน่ๆ แต่ถ้าไม่เป็นครูล่ะ จะประกอบอาชีพอะไร วันนี้เราตามมาดูกันกับพี่คนนี้  ... 

 

 

สวัสดีครับ !! ช่วยแนะนำตัวกับน้องๆ ชาวเด็กดี หน่อยนะครับ

    - สวัสดีค่ะ ชื่อนางสาวมนต์ชนก รื่นสุข ชื่อเล่น รีณาค่ะ เรียนจบจากคณะศึกษาศาตร์ เอกจิตวิทยาการแนะแนว มศว ตอนนี้ทำงานอยู่ บริษัท สยามเอชอาร์ คะ (เป็นช่วงระหว่างรอการบรรจุครู)

 

เมื่อพูดถึงคณะศึกษาศาสตร์ เอกจิตวิทยาการแนะแนว พี่รีณามีแรงบันดาลใจอะไร ที่ทำให้เลือกคณะ/สาขา นี้ครับ

    - แรงบันดาลใจที่ทำให้เลือก คณะศึกษาศาตร์ เอกจิตวิทยาการแนะแนว มศว (ถ้าให้เล่าคงยาวมาก !!) เรื่องของเรื่อง คือ มีความใฝ่ฝันอยากที่จะเป็นครูมาตั้งแต่เด็กแล้ว ... แต่มาเอาแน่เอานอน ก็น่าจะตอนที่เรียน ม.3 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ตอนนั้นมีความรู้สึกว่าไม่ชอบคุณครูที่ไม่ชอบสอนเด็ก โดยเฉพาะนักเรียนห้อง 1 (เราเรียนอยู่ห้อง 1 นะ สายวิทย์ – คณิต) ชอบคิดว่าเด็กเก่งแล้ว แถมยังเรียนใช้ไปทำงานอีก

พอขึ้น ม.4 ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากคุณครูอีกท่านนึง เป็นคุณครูแนะแนว ครูคนนี้เป็นครูที่มีความสามารถมาก เอาใจใส่นักเรียน ช่วยเหลือนักเรียนอย่างมาก ทำงานด้วยใจไม่ใช่หน้าที่ ก็เลยได้ท่านมาเป็นแบบอย่างของการเป็นครู ช่วงสุดท้ายของมัธยมศึกษาตอนปลาย มีอะไรหลายๆ อย่างที่ทำให้เราคิดว่า เราคงทำงานอย่างอื่นไม่ได้หรอก ถ้าไม่ใช่การทำงานกับเด็ก ตอนแอดมิชชั่นมีความตั้งใจไว้เลยว่า จะต้องเข้าคณะศึกษาศาสตร์ที่ มศว แบบไม่มีความลังเลเลย เลือกเป็นอันดับ 1 ด้วยค่ะ แต่ไม่ใช่เอกนี้ ต้องการเรียนเอกปฐมวัย แต่โชคร้ายที่เอกปฐมวัยปีนั้นของปริญญาตรีเขาปิด และให้ไปเปิดสอนในระดับปริญญาโท ก็เลยเลือกที่จะเรียนเอกจิตวิทยาการแนะแนว เพราะคิดว่า เป็นการเรียนที่ได้ศึกษาเรียนรู้กับพฤติกรรมของคน ก็เลยตัดสินใจเรียนคณะศึกษาศาสตร์ เอกจิตวิทยาการแนะแนว มศว

 

ตอนเรียนคณะนี้มีความประทับใจอะไรที่อยากจะเล่าให้น้องๆ ชาวเด็กดีฟังบ้างครับ

    - ตอนที่เรียนคณะนี้ มีเรื่องราวประทับใจเยอะแยะมากมาย เอาที่ประทับใจสุดๆ ก็คงจะเป็นอาจารย์ และเพื่อนๆ เพราะคณะศึกษาศาสตร์ เอกจิตวิทยาการแนะแนว เป็นรุ่นแรกที่เรียน 5 ปี มันเกิดปัญหาขึ้นเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวิชาที่เรียน ใบประกอบวิชาชีพ เป็นต้น แต่ท่านอาจารย์ และเพื่อนๆ ก็ช่วยกันแก้ไขปัญญาให้มันจบลง ทำให้มีวันนี้ได้ มันมีเรื่องราวอีกมากมายที่ทำให้เรารู้สึกว่าตอนเรียนเรามีความสุขมาก เพื่อนช่วยเพื่อนถึงแม้รู้ว่ามันผิด อย่างเช่น การเช็คชื่อแทน แอบกินขนม ให้คะแนนพรีเซนเพื่อนเยอะๆ เพื่อนจะได้ผ่าน เป็นต้น

 

แล้ววิชาที่ว่าเด็ด จบมาแล้วได้ใช้ประโยชน์มากที่สุด คิดว่าเป็นวิชาอะไรครับ

    - จิตวิทยาความเป็นครู และก็วิชาที่เรียนเกี่ยวกับการปรับพฤติกรรม 2 วิชานี้ เป็นวิชาที่นำมาใช้ในการทำงานได้มากที่สุด ไม่ใช่เฉพาะกับเด็กนะ กับเพื่อนร่วมงานเราก็ใช้ได้ เผลอๆ ใช้ได้ดีได้ผลกว่าใช้กับนักเรียนอีก

 

 

คณะ/สาขาที่จบมา ตอนสมัครงานมีงานรองรับเยอะไหมครับ จบมาประกอบอาชีพอะไรได้บ้าง

    - คณะ/สาขาที่จบมา ตอนสมัครงานมีงานรองรับเยอะนะ ถ้าโดยส่วนตัว มันน่าจะขึ้นอยู่กับการที่เราขวนขวายที่จะหาด้วย เพราะเท่าที่เรียนจบมา ได้พักผ่อนเพียงแค่ประมาน 2 สัปดาห์ ก็มีคนเรียกให้ไปสัมภาษณ์งานหลายที่นะ ตอนแรกก็คิดอยู่เหมือนกันว่า จบมาคงจะหางานทำยาก แต่ตอนนี้เปลี่ยนความคิดแล้ว ... ไม่ว่าจบจากคณะไหน “อย่าให้งานเดินเข้ามาหาเรา เพราะมันคงเป็นไปไม่ได้” เท่านี้งานก็จะมีเข้ามาให้เลือกมาก จนเราไม่รู้ว่าจะทำงานไหนดี

 

งานที่ทำอยู่ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ ทำหน้าที่อะไรบ้าง

    - งานที่ทำอยู่ตอนนี้เป็นงานที่มีความถนัด และมีความชอบมาก เลยทำให้ดูเหมือนว่า วันๆ ผ่านไปเร็วมาก แป๊บๆ วันหยุดอีกแล้ว เป็นงานที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการเขียนแผนการสอนให้กับสถาบันแห่งหนึ่ง เพื่อที่จะนำแผนการสอนฉบับนี้ เป็นมาตรฐานการสอนเด็กของสถาบันของแต่ละสาขา รวมถึงการสอนนักเรียนที่สถาบัน และสำนักงานใหญ่อีกด้วย ตอนนี้กำลังจะเป็นเทรนนิ่งให้กับครูของสาขาต่างๆ อีก

 

งานที่ทำอยู่ ถ้าพูดถึงบุคลิก คิดว่าควรมีบุคลิกอย่างไรบ้างครับ

    - ถ้าเป็นลักษณะงานของครู ก็น่าจะมีบุคลิกที่มีความน่าเชื่อถือ แต่ก็มีความเป็นกันเอง โดยเฉพาะการเป็นครูแนะแนวแล้ว หน้าตาจะต้องยิ้มแย้มตลอดเวลา ไม่ว่าคุณจะเหนื่อยมากกก เศร้าจะตาย แต่เวลาที่คุณทำหน้าที่ของครูแล้ว คุณต้องไม่เศร้า คุณต้องมีความสนุกสนาน น่าคุยด้วย ยิ้มแย้ม ทักทายนักเรียนก่อนเสมอ ครูไม่จำเป็นต้องวางตัวมาก จนกลายเป็นคนที่ดูหยิ่ง จนนักเรียนจะไม่กล้าเข้าหา มันเป็นความคิดแบบเดิมๆ เด็กสมัยชอบครูที่คุยแล้วเหมือนคุยกับเพื่อน เพราะเขาจะได้กล้าที่จะพูดคุยกับครูได้ทุกเรื่อง

 

 

มีอะไร อย่ากจะฝากถึงน้องๆชาวเด็กดีบ้างครับ

    - สำหรับน้องๆ ที่กำลังจะเลือกหรือกำลังคิดตัดสินใจเลือกคณะที่จะศึกษาต่อ พี่อยากจะแนะนำน้องๆ ว่า ถ้าน้องๆ มีคำถามที่อยู่ในใจว่า ก็เรายังไม่รู้เลยว่าจะเรียนอะไร ไม่รู้ว่าตนเองชอบอะไร ให้เราลองนึกจินตนาการไปว่า ถ้าวันนึงเราต้องอยู่กับสิ่งๆ นึงตลอด 24 ชั่วโมง น้องๆ คิดเราจะสามารถอยู่กับอะไร ทำอะไรได้ตลอด 24 ชั่วโมง แล้วน้องมีความสุข ไม่เบื่อ (สมมติเปรียบสิ่งนั้นเหมือนแฟนของเราอ่ะ ที่เราอยู่กับแฟนของเราได้นั้น ยอมทุกอย่าง ทำอะไรก็ได้ ของแค่เราได้อยู่ด้วยกัน ที่เราทำแบบนี้ได้ก็เพราะเรารัก ชอบ แฟนของเรา) อยากให้น้องๆ มองวิชาเรียนเหมือนแฟนน้องอ่ะค่ะ


 

 น้องๆ ที่อ่านจบแล้วคงหายสงสัยกันแล้วใช่ไหมว่า นอกจากเรียนคณะนี้แล้วจะประกอบอาชีพครูได้แล้ว ยังสามารถประกอบอาชีพอะไรได้อีก ... แต่พี่ว่ายังไงก็ขอให้น้องๆ เลือกคณะที่จบมาแล้วตรงตามสายนะครับ เราจะได้มีทักษะและสกิลนั้นๆ ติดตัวไปเลย ... 

 

 

พี่เบียร์

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

11 ความคิดเห็น

เก๋ศินีย์ Member 20 มิ.ย. 55 15:07 น. 1

เคยเรียนค่ะแต่ไม่จบ เพราะต้องตัดสินใจไปเรียนอีกมหา'ลัย ซึ่งเป็นคนละเอกกัน เสียดายมากเพราะเป็นคณะในฝันเลย ความต้องการของครอบครัวต้องมาก่อน 

 

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ko-jai Member 20 มิ.ย. 55 19:22 น. 4

นั่นสิ อาจารย์ชอบบอกว่า "ห้องคิงนี่คงไม่ต้องบอกหรอกมั้ง"

อยากบอกครูเหลือเกินว่า "ถ้ารู้แล้วจะมาเรียนทำไมอ่ะคะ-0-;;;;;;;;;; " 

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
sasi 10 เม.ย. 56 13:27 น. 8
คณะศึกษาศาสตร์ร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาคณิตศาสตร์ เรียนคณะศึกษาศาสตร์์ หรือว่าเรียนคณะวิทยาศาสตร์ ที่มหาลัยทักษิณ ช่วยตอบหน่วยด่วนมากเลย ภายในวันที่ 13 คะ ขอบคุณมากเลยคะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
น.ส ดวงใจ คอนโต 28 ก.ค. 56 13:28 น. 10
อยากเป็นครูที่สุดเลย อยากเป็นมากเลย ใฝฝันมาตั้งแต่เด็กเเล้วคับจะเป็นครูให้ได้
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด