วัสดีค่า... น้องๆ รู้หรือเปล่าคะว่าเวลาเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยแล้ว หลายคณะจะต้องให้นักศึกษาออกไปฝึกงานที่เกี่ยวข้องกับสาขาของตัวเองเพื่อเอาความรู้ที่เราเรียนไปใช้ประโยชน์ โดยจะฝึกกันในช่วงปิดเทอม หรือเทอมสุดท้าย หรืออาจจะกินเวลาทั้งปีไปเลย

          แต่จะมีบางคณะที่ใช้เวลาฝึกมากกว่าเพื่อน หนึ่งในนั้นก็เป็นคณะในฝันของใครหลายๆ คน "คณะเภสัชศาสตร์" นั่นเอง โดยฝึกกันตั้งแต่ปี 4-6 ส่วนรายละเอียดจะเป็นยังไงวันนี้พี่มิ้นท์ได้พารุ่นพี่มานั่งพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์การฝึกงาน และรุ่นพี่คนนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน อาจคุ้นหน้าคุ้นตากันแล้ว เพราะพี่มะเหมี่ยวของเราได้เผยโฉมบนหน้าปกหนังสือ
"กว่าจะเป็นเภสัชกร" ของเว็บไซต์เด็กดีนั่นเอง


   Dek-D.com :  แนะนำตัวให้น้องๆ ชาว Dek-D.com รู้จักกันหน่อยจ้า
   พี่มะเหมี่ยว : สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com พี่ชื่อ นศภ.มณฑิตา ปรกติ ชื่เล่น มะเหมี่ยว ค่ะ ตอนนี้อยู่ชั้นปีที่ 4 คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ค่ะ

  
Dek-D.com : 3 ปีที่ผ่านมาในคณะเภสัชศาสตร์ ได้เรียนอะไรไปบ้างคะ
   พี่มะเหมี่ยว : วิชาเรียนในคณะเภสัชฯ จะยากขึ้นตามชั้นปีที่สูงขึ้นค่ะ ที่ยากขึ้นเพราะจะเริ่มมีรายวิชาที่ลงลึกเกี่ยวกับตัวยามากขึ้น ส่วนปีสูงก็จะเน้นวิชาในสาขามากขึ้น แต่พี่เองเพิ่งอยู่ปี 4 ยังไม่ได้แยกสายก็จะขอพูดวิชาปี 1-4 แล้วกันนะคะ
    - ปี1จะเรียนพวกเนื้อหาคล้ายๆ ม.ปลาย เหมือนที่เคยเรียนมาแล้ว วิชาวิทย์ต่างๆ เรียนเหมือนคณะอื่นๆ เช่น คณะแพทย์ ทันตะ (เวลาสอบก็ตัดเกรดรวมกันด้วย เศร้ามาก T^T) แล้วก็มีวิชาเลือกเสรี เรียนพวกกีฬาหรือร้องเพลงก็ได้แล้วแต่เราจะลง
    - เริ่มเรียนวิชาคณะจริงๆ ตอนปี2 ค่ะ ก็จะเรียนพวก anatomy & physiology, medicinal chemistry, pharmaceutical, biochemistry, genetics , immunology, microbiology, analysis แล้วก็มีเรียนแลปหลายวิชา เป็นพื้นฐานของการเรียนต่อในปี 3
    - ปี 3 ก็เรียนวิชาคล้ายๆ ปี 2 แต่จะยากกว่า แล้วก็เป็นการต่อยอดจากปี 2 เช่น medicinal chemistry, pharmaceutical, microbiology, analysis ส่วนวิชาที่เพิ่มเติมขึ้นมาก็คือ วิชา pathophysiology, pharmacology, botany, pharmacognosy, biopharmaceutical แล้วก็เรียนแลปเหมือนเดิมค่ะ ปี3 เป็นปีที่เรียนหนักที่สุดแล้ว เนื้อหาเยอะมาก ใช้ทั้งความเข้าใจและความจำ และดูเหมือนจะเป็นวิชาชีพ ที่จำเป็นต้องใช้ในการทำงานจริงๆ
    - ปี 4 เน้นหนักไปทางวิชา clinical pharmacy & therapeutics, clinical toxicology, clinical microbiology,  health system, pharmaceutics แล้วก็มีวิชาเลือกเสรีให้เรียนด้วย แต่จะเป็นวิชาคณะ ไม่มีกีฬาเหมือนปี 1 แล้วค่ะ
    น้องๆ เห็นชื่อวิชาแล้วอาจจะตกใจเพราะแปลไม่ออก แต่ไม่ต้องเครียดไปนะคะ เรียนๆ ไปแล้วจะชินเองค่ะ เพราะส่วนใหญ่จะเรียกวิชาเป็นภาษาอังกฤษกันอยู่แล้ว

   Dek-D.com : รู้มาว่าคณะเภสัชฯ มีการฝึกงานด้วย การฝึกงานของคณะนี้เป็นยังไงบ้างคะ
   พี่มะเหมี่ยว : ของคณะเภสัชฯ ฝึกกันค่อนข้างหนัก ตลอด 6 ปีจะฝึกกัน 3 ครั้ง
    - ครั้งแรกตอนปิดเทอมขึ้นปี 4 ฝึก 1 ผลัด (160 ชั่วโมง)
    - ครั้งที่ 2 ตอนปิดเทอมขึ้นปี 5 ฝึก 2 ผลัด ( 2 เดือน ) ผลัดนึงฝึกที่โรงพยาบาล อีกผลัดจะฝึกที่ร้านยาค่ะ
    - ครั้งที่ 3 ตอนปี 6 ฝึกตลอดทั้งปี ทางคณะจะมีแหล่งฝึกงานมาให้แล้วให้เราเลือกค่ะ

 
  
Dek-D.com : อยากให้น้องมะเหมี่ยวเล่าให้ฟังว่าปิดเทอมที่ผ่านมาได้ไปฝึกงานที่ไหน และทำอะไรบ้าง
   พี่มะเหมี่ยว : ก่อนจะขึ้นปี 4 พี่ได้ไปฝึกงานที่โรงงานยามาค่ะ  ที่เลือกฝึกที่โรงงานยาก่อนเพราะปีนี้มีให้เลือกฝึกที่โรงงานยากับโรงพยาบาล ส่วนปีหน้ามีให้เลือกฝึกโรงพยาบาลกับร้านยา ไม่มีโรงงานให้เลือก เลยเลือกโรงงานก่อนเลย :) แล้วค่อยฝึกโรงพยาบาลกับร้านยาปีหน้า จะได้ฝึกให้ครบทุกที่ค่ะ อีกเหตุผลนึงคือ เอาไว้ประกอบการตัดสินใจเวลาเลือกสายเรียนตอนขึ้นปี 5 จะได้รู้ว่าเรา "ชอบ" หรือ "ไม่ชอบ" งานสายโรงงาน (ส่วนตัวตอนนี้คิดว่าชอบสายโรงพยาบาลมากกว่า เลยฝึกโรงงานให้ชัวร์ๆไปเลย ว่าชอบหรือไม่ชอบค่ะ)
    สำหรับที่ได้ไปฝึกงานมา ได้ฝึกในตำแหน่ง QC/QA  เกี่ยวกับการประกันคุณภาพยา ดูว่ายาที่มีการผลิตออกมา การผลิตแต่ละขั้นตอนผ่านมาตรฐานหรือเปล่า ถือว่าเป็นหน้าที่นึงที่สำคัญมากๆ ของสายโรงงานยาเลยค่ะ

   Dek-D.com : ได้ทำอะไรสนุกๆ บ้างคะ
   พี่มะเหมี่ยว : โอ้โห...ได้ทำอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่เคยทำเลยค่ะ เพราะเราเรียนในห้องเรียน ห้องแล็บ ก็จะเป็นอีกบรรยากาศนึง แต่พอได้เข้ามาอยู่ในโรงงานยาจริงๆ ก็จะได้เห็นของจริงทั้งหมด
       สิ่งที่พี่ได้ทำตอนไปฝึกงานก็เช่น การเข้าไปดูฝ่ายผลิตของโรงงาน ได้ใส่ชุดหมี ชุดหมีในที่นี้ไม่ใช่ชุดมาสคอตนะคะ แต่จะเป็นชุดที่ไว้สวมป้องกันฝุ่นผง สิ่งสกปรกจากตัวเราไม่ให้ออกไปสู่บริเวณผลิตยา เพราะการผลิตยาต้องสะอาดมากๆ ค่ะ, ได้ดูขั้นตอนการผลิตยาจริงๆ, ได้ลองทดสอบยาจริงๆ, ได้เห็นเครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้งานจริง และเห็นอุปกรณ์ใหม่ๆ ที่ในคณะไม่มี หรือมีแต่ที่โรงงานจะเป็นรุ่นใหม่กว่า เครื่องใหญ่กว่า และที่สำคัญ ได้พูดคุยกับพี่ๆ พนักงานที่โรงงาน ทุกคนเป็นกันเองและน่ารักมาก คอยแนะนำ ให้คำปรึกษาตลอดเลยค่ะ ปลื้มมาก :)

  
Dek-D.com : พอมาฝึกงานจริง มีอะไรที่เหนือความคาดหมายจากตอนเรียนบ้างมั้ยคะ
   พี่มะเหมี่ยว : ก็มีหลายอย่างค่ะ ทำให้ได้รู้ว่าสิ่งที่เคยเรียนในตำรา บางทีในการใช้งานจริงๆ มันก็ไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว เราไม่สามารถใช้ความรู้ตามตำราเป๊ะๆ ได้ ต้องนำความรู้ที่มีอยู่เป็นแนวทางเพื่อนำไปปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์การทำงานในชีวิตจริงมากกว่าค่ะ
           นอกจากนี้สิ่งสำคัญของการทำงานคือ เรื่องกฎระเบียบ เวลาทำแลปในคณะอาจจะไม่เคร่งครัดมาก แต่ที่โรงงานจะต้องทำตามระเบียบของโรงงานค่ะ ส่วนงานที่ทำก็ไม่ยากมาก เหมือนที่เคยทำในแลปมาก่อน แต่สิ่งที่ได้เพิ่มเติมคือระบบการจัดการงานต่างๆ ที่เราต้องพยายามเรียนรู้เพิ่มเติมค่ะ

  
Dek-D.com : มีวิธีเตรียมตัวก่อนไปฝึกงานยังไงบ้างคะ
   พี่มะเหมี่ยว : หลังจากที่รู้ที่ฝึกงานแล้ว ก็ต้องเตรียมตัวหลายอย่าง เช่น ศึกษาเส้นทางการเดินทางไปโรงงาน เดินทางไปดูโรงงานก่อนฝึกงาน จะได้ไม่หลงทาง 555  นอกจากนี้ก็ถามรุ่นพี่ที่เคยไปฝึกงานโรงงานนี้ว่าเค้าให้ทำอะไรบ้าง ที่โรงงานเป็นยังไงบ้าง รุ่นพี่ส่วนใหญ่ก็จะบอกว่าทุกคนใจดี สอนเราดีค่ะ

   Dek-D.com : ฝึกงานรอบแรกมาแล้ว ได้ข้อคิดอะไรบ้างคะ
   พี่มะเหมี่ยว : ข้อคิดที่ได้จากการฝึกงานก็คือ อาชีพเภสัชกรเป็นอาชีพที่มีความสำคัญอาชีพนึง ต้องใช้ทั้งความรู้และความสามารถ สำหรับในส่วนของการผลิตยา ค่อนข้างละเอียดอ่อนและมีความสำคัญมาก การผลิตยาแต่ละครั้ง ต้องคำนึงถึงผู้ป่วยเป็นสำคัญค่ะ ทุกอย่างจะต้องสะอาด ปราศจากเชื้อและถูกต้องตามมาตรฐาน ทำให้รู้สึกว่าจะต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ต้องตั้งใจเรียน เพื่อที่จะสามารถนำความรู้ต่างๆไปช่วยเหลือคนอื่นต่อไปในอนาคตได้

  
Dek-D.com : น้องมะเหมี่ยวคิดไว้หรือยังว่าอยากเรียนเภสัชสาขาไหนต่อคะ
   พี่มะเหมี่ยว : มีคิดไว้บ้างแล้วค่ะ คิดว่าจะเรียนสายคลินิก คือเภสัชกรโรงพยาบาล เพราะว่าชอบวิชาทางสายนี้มากกว่าทางสายโรงงานค่ะ

  
Dek-D.com :  ขอ 3 คำ สำหรับน้องๆ ที่อยากเรียนเภสัชฯ ค่ะ
   พี่มะเหมี่ยว : สู้-สู้-นะ^^


        ว้าวๆๆๆ พี่มะเหมี่ยวกลับมาคราวนี้ยังสดใสเหมือนเดิม แถมมีประสบการณ์สนุกๆ จากการฝึกงานมาฝากน้องๆ อีกด้วย หวังว่าน้องๆ ที่อยากเรียนคณะเภสัชฯ คงได้เห็นภาพการเรียนและการฝึกงานในโรงงานยาแล้วว่าต้องเจออะไร ทำอะไรบ้าง แต่การฝึกงานยังไม่จบเท่านี้นะคะ ปี 5 และ ปี 6 ยังต้องผ่านการฝึกงานอีก นับรวมๆ เป็นพันชั่วโมงเลย ทั้งการฝึกงานในโรงพยาบาล และร้านขายยา ถ้ามีโอกาสพี่มิ้นท์จะนำมาฝากนะคะ ^^

เด็กดีดอทคอม :: มศว รับตรงหลังแอดฯ 56 (ทันตะฯ,วิทยาฯ, พยาบาลฯ, วิศวฯ)

       แจ้งน้องๆ ที่สมัครรับข่าวแอดฯผ่าน SMS ในเดือน ก.ค.-ส.ค. นี้ รอพบ SMS เด็ดๆ ดังนี้

                  - เกาะติดผลแอดมิชชั่น 57 ของเด็ก ม.6 ทั้งประเทศ  เด็กดีดอทคอม :: มศว รับตรงหลังแอดฯ 56 (ทันตะฯ,วิทยาฯ, พยาบาลฯ, วิศวฯ)
                  - อัพเดทไว!! ข่าวรับตรงหลังแอดมิชชั่น 57 ของทุกสถาบันเด็กดีดอทคอม :: มศว รับตรงหลังแอดฯ 56 (ทันตะฯ,วิทยาฯ, พยาบาลฯ, วิศวฯ)              
                  - ตามติดข่าววงใน ทุกเหตุการณ์เรื่องสอบตรง และแอดมิชชั่นที่เด็กรุ่น 57 ต้องรู้!!
                  - รวมงานติวฟรีของทุกคณะ ทุกมหาวิทยาลัย ที่เด็ก ม.6 ไม่ควรพลาด 
เด็กดีดอทคอม :: มศว รับตรงหลังแอดฯ 56 (ทันตะฯ,วิทยาฯ, พยาบาลฯ, วิศวฯ)

(อยากรับข่าว SMS บ้าง มาอ่านวิธีสมัคร คลิกที่นี่ เลย)

เด็กดีดอทคอม :: โรงเรียนนี้น่าอยู่ (11) : โรงเรียนวัดบวรนิเวศ (บ.น.)


      

พี่มิ้นท์
พี่มิ้นท์ - Columnist พี่สาวใจเย็น ผู้เกิดมาในแอดมิชชั่นยุคแรก แต่เข้าใจ TCAS มากกว่า

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด

15 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
Bunny_9 Member 27 ก.ค. 56 16:51 น. 2
เห็นชื่อวิชาแล้วกลัวว่าจะจำไม่หมด เพราะเป็นคนจำอะไรนานๆไม่ได้น่ะสิ เฮ้ออออ สงสัยต้องฟิต
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
♬กุงเกงในไร้สมอง♫ Member 8 พ.ค. 58 02:07 น. 13

พี่ชื่อจริงชื่อเดียวกันเลยอ่าา ดีจัง...จะเก็บไว้เป็นแรงฮึดในการเรียนการสอบนะคะ >w<

รักเลย

0
กำลังโหลด
เด็กเภสัช 8 พ.ค. 58 16:24 น. 14
เป็นคณะที่น่าเรียนมากก (เรียนปี2เภสัช) สามารถidentify เชื้อได้ มองต้นไม้รู้สรรพคุณการรักษา หาส่วนที่ใช้ทำยา สังเคราะห์ตัวยาจากตัวเล็กๆ ทำยาน้ำ ยาฉีด ยาเม็ด แคปซูล สนุกจริงๆ
0
กำลังโหลด
ทททท 8 พ.ค. 58 21:03 น. 15
ทำงานในโรงพยาบาลนี่ใช่ สาขาเภสัชศาสตร์รึป่าวคะ หรือว่าสาขาบริบาลเภสัชกรรม เราเองก็อยากเรียนคณะนี้ อยากทำงานในรพ.เหมือนกัน แต่ยังไม่รู้เลยว่าต้องเลือกทางไหน T^T //แอบงงนิดหน่อย เห็นม.อื่นเขาแยกสายกันตั้งแต่ตอนเข้า เลยอยากรู้ว่ามันแตกต่างกันยังไง ใครรู้รบกวนบอกทีนะคะ ขอบคุณค่าา
1
นศภ 8 พ.ค. 58 23:25 น. 15-1
ส่วนใหญ่ในห้องจ่ายยาเป็นสาขาบริบาล แต่เภสัชก็ทำงานได้แต่อาจไม่เก่งเท่า ส่วนเภสัชที่ทำยาฉีด ยาคีโม หรือยาเฉพาะบุคคลเช่น คนไข้ตับ ไต ส่วนใหญ่เป็นสาขาเภสัชศาสตร์ (เภสัชอุตสาหการ)
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด