สวัสดีครับ..ช่วงปิดเทอมอย่างนี้ น้องๆหลายคนคงนอนตีพุง เรียนพิเศษ เล่นmsn หรือดูละครสังข์ทอง อยู่ที่บ้าน..แต่วันนี้ พี่ลาเต้ มีประสบการณ์ที่น่าสนุกสนานมากกว่านั้น มาฝากกันครับ เป็นเรื่องราวประสบการณ์ การทำงานพาร์ทไทม์ ในคราบชุดนักเรียน ของ พี่ลาเต้ ตอนช่วงปิดเทอมเองคร๊าบ..
พทำไงดี..ไม่มีตังค์เติมเงินมือถือพ เหตุการณ์มันเกิดขึ้นตอนช่วงปิดเทอมใหญ่[หัวใจหว้าเหว่] ครั้นเรียนจบ ม.6 ตอนนั้นเอง..ระหว่างที่รอการสอบเข้ามหาวิทยาลัย..พี่ลาเต้ ซะอย่างไม่อ่านหนังสืออยู่แล้ว..อิอิ..กำ..วันๆก็เอาแต่นั่งดูรายการเพลงทางทีวี กับละครช่วงบ่ายๆ ส่วนตอนเย็นๆก็คุยโน่นคุยนี้กับเพื่อนๆแถวบ้าน แหม..แต่ละวันช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วจริงๆ.. จนกระทั่งวันหนึ่ง[คิดถึงพอสังเขป] รู้สึกว่า เฮ้ย..ตัวเราเองมันจะสบายเกินไป หรือเปล่าเนี่ย..ตอนเช้ารับเงินค่าขนมจากแม่ ตอนเที่ยงไปซื้อข้าวกล่องข้างนอกมากินพร้อมดูทีวี แหม..ชาติที่แล้วทำบุญด้วยเฟอร์นิเจอร์อำนวยความสะดวกแน่ๆเลย ชาตินี้ถึงได้สบายซะจริงๆ หลังจากนั้นจึงคิดได้ว่าตัวเองจะต้องทำอะไรซักอย่าง..ให้มีประโยชน์บ้างแล้วหละ..ไหนๆก็ช่วยพ่อแม่ทำงานไม่ได้ เราก็ทำงานเอง และช่วยเหลือเป็นเงินแทนแล้วกัน.. จำได้แม่นเลย..เวลาขอตังค์แม่ไปซื้อบัตรเติมเงินมือถือแต่ละครั้ง มันดูเหมือนลูกทรพียังไงไม่รู้..ขอที 300 บาทอย่างต่ำ เดือนหนึ่งเติมประมาณ 2 ครั้ง เพราะสมัยนั้น msn ยังไม่ค่อยบูม อาศัยคุยโทรศัพท์ทั้งกับเพื่อน กับรุ่นพี่ หรือแม้กระทั่งโทรขอเพลงตามรายการวิทยุก็ด้วย ซึ่งที่ว่ามันเหมือนลูกทรพี ก็เพราะว่าเหมือนมันไม่เหมือนกับตอนที่ขอไปซื้อขนมที่ได้ครั้งละน้อยๆเพียง 20 บาท และไอ้จุดตรงนี้แหละ ที่ทำให้เกิดประเด็นในหัวว่า จะต้องไปหาทำงานพิเศษ เพื่อเอาเงินมาซื้อบัตรเติมเงินเอง แทนการขอแม่ให้ได้..[ตั้งปณิธานแน่วแน่มากๆ..] ไอเดียกระฉูดในบ่ายวันนั้น ตกเย็นก็ลงมือคุยกับทางบ้านทันที "พ่อครับ แม่ครับ นี่ผมก็จบ ม.6 แล้ว..ตอนนี้ก็ว่างๆ รอการสอบเข้ามหาวิทยาลัย อยู่บ้านวันๆก็ไม่ได้ทำอะไร เปลืองน้ำ เปลืองไฟ เปลื่อค่าโทรศัพท์เปล่าๆ ผมเลยอยากไปทำงานพิเศษดูครับ" "งานอะไรล่ะ..ดูดีๆแล้วกันนะ..ว่าคุ้มไหม..การเดินทางค่าใช้จ่าย" สิ้นเสียงประโยคนี้ของแม่ปุ๊ป..พี่ลาเต้ ก็หาข้อมูลการทำงานพิเศษปั๊ปทันที..อิอิ..เร็วจริงๆ
พสมัครยังไงนะ..อ๊าย..อาย..พ การหาข้อมูลในตอนนั้น ต้องบอกว่าธรรมด๊า ธรรมดามากๆ ไม่ต้องใช้ไอที เทคโนโลยีอะไรค้นหามากมาย..เพราะตอนนั้นจำได้ว่า นั่งรถเมล์ไปห้างซีคอนตอนกลางวันแสกๆเลย ไปเดินตากแอร์ให้ทั่วห้างเลย เพื่อดูว่ามีร้านไหนติดป้ายรับสมัครนักเรียนทำงานบ้าง..ส่วนใหญ่เขาจะติดไว้ที่กระจกหน้าร้าน ซึ่งก็เจอบ้าง ไม่เจอบ้าง..แต่จะหนักทางไม่เจอซะส่วนใหญ่ ส่วนร้านที่เจอก็ใช่ว่าจะกล้าเข้าไปทักทายบอกเขาว่า "ผมมาสมัครงานครับ" เพราะอายสุดๆ แหม..คนยังไม่เคยก็ต้องอายเป็นเรื่องธรรมดา..จริงไหม..อิอิ..เพราะไม่รู้ว่าจะต้องปั้นหน้า ปั้นหู ปั้นตายังไง ลำพังแค่ไปยืนอ่านประกาศรับสมัครก็อายจะแย่อยู่แล้ว..คิดไปคิดมา จะอายอะไรว่ะ..กำ.. เดินมาร่วม 5 ชม.ครึ่งวัน บางร้านเดินผ่าน 10 รอบ รอบที่ 1-5 ผ่านเฉยๆ ไม่กล้าเข้าไปอ่าน รอบที่ 6-7 ตัดสินใจหน้าด้านเดินเข้าไปอ่าน แต่อ่านแบบผ่านๆ รอบที่ 8-9 ก็เริ่มอ่านให้หมด หากสนใจจริงๆจึงมีรอบที่ 10 อย่างที่บอกว่าไม่กล้าแม้ที่จะไปแสดงตัวถามรายละเอียดว่ารับสมัครยังไง ต้องใช้หลักฐานอะไรบ้าง ทางออกกันอายในตอนนั้นคือ จดเบอร์โทรศัพท์มา เพื่อมาโทรถามที่บ้าน เพราะคุยทางโทรศัพท์จะช่วยลดความเขินอายบ้าง..อิอิ.. [เขียนไปก็อยากขำไป เป็นไปได้นะลาเต้]..555..ในที่สุด 5 ชม.ที่เสียไปก็ได้กลับมาเป็นเบอร์โทรศัพท์ 3 เบอร์ ที่เป็นร้านอาหารยอดนิยมทั้งนั้นเลย..วันรุ่งขึ้นก็โทรไปเลยหละครับ.."สวัสดีครับ..ผมขอสอบถามเรื่องการสมัครงานหน่อยครับ ไม่ทราบว่าจะสามารถสมัครได้ที่ไหนครับ ต้องเตรียมหลักฐานอะไรบ้าง"............."อ๋อๆๆ ได้ครับ ได้ครับ พรุ่งนี้ผมจะเข้าไปยื่นเอกสารนะครับ สวัสดีครับ"...ทันที่วางสายบอกตามตรงว่าตื่นเต้นที่สุดครับ..นี่แค่ไปยื่นเอกสารนะ..ว้าว..พรุ่งนี้ต้องรีดชุดนักเรียนเพื่อใส่ไปสมัครงานให้เรียบร้อยซะแล้ว..ตื่นเต้น ตื่นเต้น.. พวันสมัคร ขอตั้งหลักที่ห้องน้ำ..พ อายจริงๆที่จะเล่าเรื่องในวันสมัครให้น้องๆได้ฟัง.. [อย่ามาล้อพี่นะ]..วันนั้นเตรียมเอกสาร รูปถ่าย ลงแฟ้ม ใส่ชุดนักเรียนขาสั้นมัธยม นั่งรถเมล์ไปเลย..ระหว่างทางก็คิดไปต่างๆนาๆ ว่าเขาจะให้เราทำอะไรนะ เราจะเดินเข้าไปยังไง ทักทายยังไง โอ๊ย..ตื่นเต้นไปหมด..แต่ทั้งหมดก็ไม่เท่าเหตุการณ์ตอนที่ขึ้นลิฟท์ไปฝ่ายบุคคล [ฝ่ายที่ดูแลการรับสมัครงาน] ทันที่ลิฟท์เปิด ด้านหน้าคือบริษัท ซึ่งมีคนมาสมัครเพียบ ทั้งผู้ใหญ่ นักเรียน ยืนเรียงพูดคุย ขีดเขียนกันให้พรึบ..แต่ละคนดูท่าทางสนิทกัน เราไปคนเดียวจะไปอยู่มุมไหนก่อนดีนะเนี่ย..และแล้วมุมที่ พี่ลาเต้ ขอเลือกไปตั้งหลักหลบสายตาคนอื่นๆก่อนก็คือ......ห้องน้ำ....ให้ตายเถอะ..ทำไงดีไม่กล้าออกไปไหนแล้ว อายเขา ทั้งๆที่ไม่รู้จะอายอะไร ไม่กล้าแม้จะถามว่า "ต้องไปสมัครที่ไหนเหรอครับ..."อยู่ในห้องน้ำก็ใช่ว่าจะอยู่นานได้ เพราะมีคนเข้าออกบ่อยๆ จึงตัดสินใจยืนดูความเรียบร้อยของทรงผมหน้ากระจกเพื่อสร้างความมั่นใจ หลังจากนั้นก็เดินออกมาทันที..เดินมาสายตาคนอื่นๆก็ยังมองมาอีกอยู่ดี..พุทโธ พุทโธ ตั้งสติระงับความอายไว้ครับ..จากนั้นก็เดินไปหาเจ้าหน้าที่ทันที พร้อมกับแนะนำตัวว่า "สวัสดีครับ ผมมาสมัครงานนักเรียนพาร์ทไทม์ครับ" ด้านพนักงานเจ้าหน้าที่ ก็ยิ้มรับพร้อมตอบมาว่า "น้องสุดหล่อ รอสักครู่นะค่ะ เดี๋ยวพี่ไปเอาเอกสารมาให้"..แหม..ไอ้แค่คำว่า "สุดหล่อ" คำเดียว..มันทำให้เราหายตื่นเต้นไปเยอะเลยนะเนี่ย..พี่เขาเป็นกันเองกับเราจริงๆ นั่งรอได้สักพักเอกสารก็มาถึง โอ้แม้เจ้า..ทำไมเอกสารหนาอย่างนั้นแหละครับ..นี่ยังไม่รับเข้าทำงานนะเนี่ย..แค่คนมาสมัคร ไม่เปลืองกระดาษเหรอเนี่ย.. [เป็นความเห็นส่วนตัวที่คิดไว้ในใจ..อิอิ..] อ่านดูในใบสมัครเขียนไว้ว่า ให้เวลา 40 นาทีในการกรอกใบสมัครนี้..ในใบสมัครมีถามประวัติของเราทุกอย่าง ทุกมุม ถามแม้กระทั่งว่าเกิดเวลาไหนส่วนหน้ากลางๆจะถามว่าพ่อแม่ พี่น้องทำงานอะไร ประวัติการศึกษาตั้งแต่เกิดเรียนอะไรมา พ่อแม่อายุเท่าไหร่ แหม...พี่ลาเต้ พลาดตรงนี้แหละ..จำไม่ได้ว่าพ่อแม่อายุเท่าไหร่ แต่ก็แก้ปัญหาโดยการดู พ.ศ.เกิดของท่านในทะเบียนบ้านแล้วมาบวกลบดู..ส่วนหน้าท้ายๆ ต้องบอกว่า งานเข้าจริงๆ เพราะถามประมาณว่าความสามารถพิเศษว่าเรามีอะไรบ้าง แถมยังปิดท้ายด้วยว่า "ให้เขียนอะไรก็ได้ เพื่อเป็นการแนะนำตัวให้คณะกรรมการรู้จักเรามากที่สุด" เวรกรรม..จะเขียนอะไรดีหละคราวนี้.. |
พอยากรู้ไหม พี่ลาเต้ สมัครงานในตำแหน่งอะไร และร้านอาหารไหนพ พรออ่านตอนต่อไปคร๊าบ..สนุกแน่ๆพ |
พอ่านบทความนี้ในตอนอื่นๆ คลิกที่นี่ ครับพ |
18 ความคิดเห็น
โห รีบมาลงตอนต่อไปเร็วๆพี่ ติดลม อิอิ
สพฐ.อ่ะพี่...
ไปสมัครที่กระทรวง...
ตอนนี้ทำอยู่ TK park วันอาทิตย์
ตอนนั้นทำช่วงปิดเทอมเดือนเมษายน ทั้งเดือนไม่มีวันหยุด ได้ 8000 (สพฐ.ให้ 20 วัน = 4000 + TK park วันหยุดทำได้วันละ 210 บาท รายได้งาม)
ส่วนมากทำแบบรับเป็นงานๆไปอ่ะ
เช่นพวกงานหนังสือหรือเอากลับมาทำที่บ้าน
ได้มาหลายร้อยเหมือนกัน ทำตอนป.2-3 ได้ นานเนอะ=_=
งานอุบาทว์จริงๆ
อยากอ่านต่ออะค่ะ
อยากลองทำงานบ้างจัง
แต่อายุดันไม่ถึง 555+
เคยสมัคร แต่ไม่มีติดต่อกลับมาเลย เราก็ชิวไปเพราะอยากทำงานแต่ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ถ้าติดต่อให้ไปทำงานจริงๆก็ดีสิ
อยากรู้ตอนต่อไปอ่า อิอิ
ชีวิต การทำงานช่วงปิดเทอม น่าหนุกอ่า
คิดจะทำเหมือนกัน แต่ว่าไม่คุ้มกับค่ารถอ่ะ ถ้าแถวๆบ้านก็อายุไม่ถึง
ปีหน้า ลุยแน่
อยากลดเงินแม่ ^^
ไว้เป็นแนวทาง
อิอิ
(ยังไม่มีบัตรประชาชนเล้ยยยย =_=;;)