แฉ!! กว่าจะเป็นหนังสือ 1 เล่ม!! เคล็ดลับเด็ดจาก Dr.Pop (ตอนจบ)

 

 

          กลับมาพบกันอีกแล้วจ้าน้องๆ นักเขียนชาว Dek-d.com ตามสัญญากับตอนที่ 2 มาดูกันว่า ขั้นตอนการจัดหน้ากระดาษ การเข้ารูปเล่มเข้าทำกันอย่างไร มีรายละเอียดอะไรบ้าง ว่าแล้วพี่นัทว่าอย่ารอช้าเลย ไปลุยกันต่อเลยจ้าน้องๆ นักเขียนชาว Dek-d.com

 


7.)การจัดหน้ากระดาษ
          หลังจากที่"ต้นฉบับ" A4 ถูกตรวจตราครบถ้วนแล้ว จะมีทีมงานฝ่ายบรรณาธิการที่ต้องทำหน้าที่จัดการกับหน้ากระดาษให้ออกมาเป็น A5 ซึ่งก็คือขนาดมาตรฐานของพ็อกเก็ตบุ๊คทั่วไป ตรงนี้จะมีการกำหนดรูปแบบของหนังสือด้วยนะครับว่า
          - ขอบบน ขอบล่าง ด้านข้างทั้งสอง เว้นเท่าไร?
          - ตัวหนังสือแบบไหน? ไซส์อะไร?
          - ขนาดช่องไฟ ช่องว่างการเว้นบรรทัดเท่าไร?
          - การย่อหน้าเท่าไร?
          ส่วนใหญ่กระบวนการนี้จะอิงตามมาตรฐานของสำนักพิมพ์แต่ละที่ครับ เพราะทุกที่มีรูปแบบการพิมพ์หนังสือต่างกันอยู่แล้วครับผม 


          แต่ป๊อบอยากจะแนะนำอะไรบางอย่าง?
          สำหรับคนที่คิดจะพิมพ์เอง เราอาจจะเจอปัญหาการจัดรูปแบบด้วยนะครับ เพราะว่าคอมส่วนใหญ่ที่เราใช้เป็นวินโดวส์ แต่บางโรงพิมพ์เขาใช้ MAC ในการจัด เพราะฉะนั้นถ้าไม่จัดการดีๆ ขยะจากวินโดว์จะไปโชว์เพียบเลยนะครับ นี่คือความผิดพลาดโดยตรงที่ป๊อบเจอ ป๊อบส่งไฟล์ไปปรากฏว่าเว้นวรรค ย่อหน้าอะไรหายหมดเลยครับ ทุกสิ่งทุกอย่างติดกันเป็นพรืด มีสระ ขยะ บ้าบอเป็นพันเป็นหมื่นตัวเลยครับ ซึ่งถ้าทีมงานไม่ชำนาญจะเสียเวลาตรงนี้มากครับ อยากให้ศึกษาดีๆ ด้วย แต่ถ้าเป็นสำนักพิมพ์ทั่วไป เขาจะมีโปรแกรมแปลง อะไรของเขาอยู่แล้วอ่ะครับ ไม่ต้องห่วง 
          หลังจากจัดหน้ากระดาษแล้ว ส่วนมากเราจะได้ดูอีกรอบครับ เพื่อตรวจว่าเขาจัดการถูกต้องไหม ? แล้วแก้ไขส่งกลับไป

8. ) การยิงแผ่นเพลท

          เพลทจะมีลักษณะเหมือนแผ่นใสครับแต่หนากว่า หลังจากที่จัดหน้ากระดาษเสร็จสิ้นสมบูรณ์เขาจะยิงทุกสิ่งทุกอย่างที่จัดไว้ลงในแผ่นเพลท ซึ่งแผ่นเพลทตัวนี้จะไม่สามารถแก้ไขได้แล้วนะครับผม เขาจะเอามันไปใช้เพื่อการพิมพ์รูปเล่มครับ เพราะฉะนั้นใครที่เข้าใจว่าเขาเอาต้นฉบับไปปริ๊นท์เป็นพันๆ แผ่น ผิดนะครับผม อิอิ



9.) การเข้ารูปเล่ม
          หลังจากที่ต้นฉบับถูกพิมพ์เพลทออกมาเรียบร้อย เขาก็เอาต้นฉบับพวกนี้ไปเข้ารูปเล่ม แบบที่เราเห็นตรงสันจะมีการใส่กาวด้วยอะไรประมาณนั้น ซึ่งตรงนี้นี่ต้องมีความเชี่ยวชาญอย่างสูงครับ เนื่องจากผิดนิดเดียว อาจเกิดกรณีหน้าสลับ หน้าหาย หน้าขาว (ขาวจริงๆ โอเลย์ตายไปเลย แบบว่าหน้าเปล่า) หน้ายับ ทำนองนั้น ซึ่งไวท์โรดเล่มล่าสุดของป๊อบก็โดนมาทุกรูปแบบเรียบร้อยครับ อิอิ ในขั้นตอนนี้เขาจะเอาปกเข้ามาเย็บด้วยนะครับผม 
          จะมีการเย็บอีกประเภทที่เรียกว่า "เย็บกี่" ซึ่งเป็นการเย็บที่ทนทานมาก จะเห็นเวลาเราเปิดแล้วถึงสันอ่ะครับ มันการเย็บกี่ ซึ่งจะคงสภาพหนังสือไว้ค่อนข้างนานเลยครับ แต่เสียค่าใช้จ่ายเยอะพอสมควร ใช้กับพวกอย่างหนาทั้งหลายครับ 
          เมื่อเสร็จการเข้ารูปเล่ม "ต้นฉบับ" ของคุณ ก็จะกลายเป็น "ผลงาน" ครับ

          แต่ยังไม่จบ เพราะป๊อบยังไม่ได้เจาะลึกบางสิ่งที่จะเกิดขึ้นระหว่างกระบวนการทำหนังสือนะครับ
          โอเค คุณทราบหมดแล้วว่าหนังสือ 1 เล่ม กว่าจะได้มามันลำบากแค่ไหน แต่ไม่ใช่แค่คุณ หรือ บรรณาธิการ หรือ โรงพิมพ์นะครับ ที่ลำบาก มีอีกหลายคนเลยที่จะมาร่วมชะตากรรมกับคุณ


1. ) ประชุมสโคป project
          ส่วนมากขั้นตอนนี้จะเกิดขึ้นหลังจากที่ต้นฉบับเสร็จและได้รับการยืนยันว่าจะตีพิมพ์ชัวร์ ทีมงานอันประกอบด้วย ประชาสัมพันธ์ ผู้จัดการ บรรณาธิการ กราฟิก การตลาด และอีกมามาย รวมทั้งตัวนักเขียนจะมารวมกันอยู่ในห้องเดียวเพื่อกำหนดทิศทางของหนังสือ จะมีการวางแผนว่า 


           - เราจะออกหนังสือเมื่อไร?
           อาจจะในงานสัปดาห์หนังสือ หรือ มหกรรมหนังสือ เพราะเป็นช่วงที่สำนักพิมพ์จะได้รายได้เต็มๆโดยไม่ต้องผ่านตัวแทนจำหน่าย (ซีเอ็ด บีทูเอส ดอกหญ้า ดวงกมล และอื่นๆ) นักเขียนกับผู้อ่านมีโอกาสได้พบปะกัน แลกเปลี่ยนความเห็น ได้แจกลายเซ็น เช็คเรตติ้ง สนุกสนานเฮฮารื่นเรงยิ่งนัก ซึ่งหนังสือที่อ่านช่วงนี้จะขายได้เยอะนะครับ บางทีเป็นพัน บางทีเป็นหมื่นก็มี แต่ข้อจำกัดก็อาจจะเป็นที่โอกาสติด "ชาร์ตหนังสือ" ตามร้านหนังสือก็ลดลง เพราะคนหันไปซื้อในงานหมด เนื่องจากถูกกว่าครับ ซึ่งบางทีกำหนดการออกหนังสือก็อาจจะเป็นเดือนที่ใกล้ๆ กับงาน เพื่อสร้าง Awareness หรือ ให้ผู้อ่านได้เห็นก่อน มันจะได้เป็นการกระตุ้น ให้เขาไปหาข้อมูล เพื่อนำไปสู่ Purchase Intention การตัดสินใจซื้อในที่สุดครับผม 


           - ปกเป็นยังไง ?
          ปกเป็นสิ่งที่สำคัญสุดๆๆๆๆๆๆ ของหนังสือ เพราะมันคือ "หนังหน้า"เป็นอะไรที่คนจะเห็นอย่างรแก ถ้าปกห่วยมากกกก ต่อให้เนื้อเรื่องดีถึงขึ้นเทพบนโอลิมปัสคีรีอ่าน ก็ไม่ถูกหยิบหรอกครับ ฉะนั้นเราต้องคุยเรื่องปก, ตามประสบการณ์, ป๊อบจะวาดปกคร่าวๆ ให้ฝ่ายกราฟิก (คร่าวจริงๆ เส้นๆ เลยอ่ะ) แล้วเล่าว่า ทำไมถึงเลือกฉากนี้ ทำไมต้องเป็นเหตุการณ์นี้ มันสำคัญยังไง ฝ่ายกราฟิกเขาจะถามเราตตลอดว่า สีตรงนี้อะไรครับ? หน้าตาตัวนี้ยังไง? เป็นการคุยที่สนุกและละเอียดมาก ซึ่งส่วนใหญ่ปกจะไม่ได้ถูกวางไว้แบบเดียว จะมีหลายตัวเลือกสำหรับสำรองด้วย ดังนั้นทางที่ดีนักเขียนควรจะทำการบ้านให้หนักเรื่องปกครับ เพราะมันจะเป็นตัวสื่อความคิดของนักเขียนให้คนอ่านรับรู้เป็นอย่างแรก ป๊อบเห็นนักเขียนหลายคนที่ให้เขาวาด โดยไม่ได้ปรึกษากัน ผลก็คือ ผิดคอนเซ็ปต์ ไม่โดนใจนักเขียน แล้วใครผิดอ่ะครับ คุณไม่พูดเองนิ อิอิ เพราะฉะนั้น เราต้องขอมีส่วนร่วมกับปกให้มากที่สุดครับ อ้อ รวมถึงรูปประกอบด้วยนะครับ อย่าคิดว่าให้เขาไปคิดเอง อ่านเอง เขาไม่มีเวลาขนาดนั้นหรอกครับ เขาไม่ได้ทำงานให้เราคนเดียว ดังนั้นถ้าเป็นตัวละคร ต้องบอกสีผม สีตา ความสูง สีผิว เอาเป็น Reference ก็ได้ครับ เช่น
           "อยากได้หุ่นแบบโดราเอมอนอ่ะครับ ขอจางๆ แบบเซลเลอร์มูน เอาผ้าคลุมแบบแบทแมน กางเกงแบบฮัลก์ แอ๊บแบ๊วประมาณโฟร์มด ล่ำประมาณสไปเดอร์แมนก็พอพี่ อ้อๆ ทรงผมโงกุนนะครับ มีรอยยิ้มแบบลูฟี่ เปลือยอกแบบสังทอง ผิวแทนแบบข้าวนอกนา แล้วอย่าลืม อันนี้สำคัญขอสะดือจุ่นแบบเทเลทับบี้อ่ะครับ"  
           เพียงเท่านั้น ฝ่ายกราฟฟิกก็จะเนรมิตตัวละครของคุณได้ตามที่คุณหวังครับผม   


           บนตัวปกนั้นจะมีสิ่งที่เรียกว่า "บาร์โค๊ด" ด้วยนะครับ ซึ่งบาร์โค๊ดจะต้องขึ้นทะเบียน ISBN เพื่อจดหมายเลขหนังสือของคุณด้วย เวลายิงที่เครื่องตามร้าน มันก็จะขึ้นรายละเอียดมาครับว่า หนังสือชื่ออะไร - ใครแต่ง - แนวอะไร - กี่หน้าซึ่งป๊อบก็ได้หาข้อมูลจาก http://www.nlt.go.th/th_isbn.htm มาให้สำหรับคนที่สนใจครับ ลองอ่านเป็นเกร็ดความรู้ก็ได้ครับผม 
   
           - การตลาด + ประชาสัมพันธ์
          ใช่ว่าหนังสือ 1 เล่มจะวางขายในตลาดนัดซะเมื่อไร หนังสือก็เหมือน product ทั่วไปที่ต้องการ Marketing มาหนุนครับ นักเขียนที่ดีจะต้องเก่งการตลาด จำป๊อบเอาไว้นะ นักเขียนที่ดีต้องรู้เรื่องนี้ด้วยทุกคนครับ ทีมงานจะวางแผนให้เราว่า จะมีการสัมภาษณ์เมื่อไร? - ออกสื่อไหนบ้าง? - เว้นระยะเวลาห่างเท่าไร? - นักเขียนต้องออกไปแจกลายเซ็นต์เมื่อไร? - ต้องพบปะแฟนเมื่อไร? - ถ้านักเขียนไม่เป็นการตลาด ไม่รู้จักจุดยืนของตัวเอง แย่เลยนะครับ เราต้องรู้จัก Target หรือ กลุ่มเป้าหมายของเรา อย่างป๊อบ ป๊อบเสนอเลยว่า "พี่ป๊อบจะไปทัวร์ที่นี่ๆ โรงเรียนนั่นนี่นะ" เพื่อเราจะได้พบกับกลุ่มคนอ่านจริงๆ ไม่ใช่ว่าไวท์โรดไปโปรโมทใน "สถานบำเพ็ญธรรม" จะมีคนฟังไหมอ่ะครับ? เราต้องรู้เวลา สถานที่ เสนอเขาได้ครับผม เขาไม่ตบนะ ป๊อบลองแล้ว จากนั้นเขาจะสรุปแผนให้เรา มีตารางกิจกรรมน่ารักๆ ให้เรา - ประชาสัมพันธ์จะทำหน้าที่ส่งข้อมูลหนังสือเราไปให้นิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ต่างๆ เพื่อลงข้อควมโปรโมทให้ครับ อันนี้เขาทำให้เอง เราไม่เสียค่าใช้จ่ายนะครับผม บางคนอาจมีออกทีวี ออกวิทยุ อะไรก็ตามแต่นโยบายของแต่ละที่ไปครับ 

           นั่นก็คือเรื่องราวคร่าวๆ ที่เกิดในห้องประชุมนะครับผม คงจะเห็นแล้วว่าการเป็นนักเขียนนั้นต้องเจออะไรมากมายก่ายกองเลยครับ เพราะฉะนั้นป๊อบอยากให้ทุกคนเตรียมตัว ศึกษาอะไรต่างๆ ดีๆ โดยเฉพาะผลงานของตัวเอง ต้องตีให้แตกครับ เราจะได้พูดคุยกับทีมงานได้ถูกต้องครับผม อ้อ แล้วอย่าลืมที่ป๊อบบอก หมั่นศึกษาเรื่อง "การตลาด" ของตัวเองด้วย มันจะเป็นแนวทางที่ทำให้หนังสือประสบความสำเร็จได้ไม่ยากครับ 

 

 

 เป็นกันบ้างจ๊ะ น้องๆ นักเขียนชาว Dek-d.com อ่านจบมาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว กว่าจะมาเป็นหนังสือเล่มหนึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเนอะ แต่พี่นัทเชื่อว่าไม่ยากเกินความสามารถของน้องๆ นักเขียนชาวDek-d.com หรอกจ๊ะ จริงมะ ยังไงก็สู้ต่อไปนะจ๊ะ ความสำเร็จรออยู่จ้า

 

น้องๆ นักเขียนชาว Dek-d.com เคล็ดลับนักเขียนต่อไปอยากให้พี่นัทลงเรื่องอะไรก็เข้ามากระซิบบอกกันได้หรือจะแวะเข้ามาทักทายพี่นัทได้ที่ My id พี่นัทจ้า


 
 

 พี่นัท ขอบขอบคุณข้อมูลจาก Dr.Pop และสามารถติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับโปรเจ็กต์ใหม่ๆของ Dr.Pop ได้ที่ http://my.dek-d.com/drpop ค่ะ

 

 



พี่นัท

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

14 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
♪♫•_♦Luzifia&# Member 25 ก.ค. 52 23:43 น. 4
โห!~ O[]O

อ้าปากค้างกันเลยทีเดียว

แบบ... อย่างกับดารา ต้่องไปสัมภาษณ์ บางคนออกทีวีด้วยอย่างนี้อ่ะ >\\\\\*

แถมต้องแจกลายเซ็นต์ด้วย >[]O!~

กรี๊ดดดด!!!~~~ >\\\\\<

วรรณก็นึกว่าอยู่แต่เบื้องหลัง แต่ง ๆ ไป ไม่ต้องมีใครเห็นหน้าก็ได้ซะอีก! O.O

โฮ่ ๆ ๆ X) ก็อ่ะนะ... เราคงไม่มีวันนั้นอยู่แล้ว~ >[]TT ไม่คิดต่อให้ปวดหัวละ... ฮ่า ๆ ๆ...
0
กำลังโหลด
ย้ำคิดย้ำทำ Member 26 ก.ค. 52 23:55 น. 5
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆที่เอามาแบ่งปันค่ะ คล้ายการทำเล่มโปรเจคอยู่เหมือนกันนะเนี่ย
0
กำลังโหลด
ลูกแมวน้อยเลือดกลบปาก Member 27 ก.ค. 52 13:36 น. 6
ที่แจกลายเซ็นมีงานโชว์ตัว ทำอย่างนั้นได้ก็มีแต่นักเขียนดังๆที่ติดยอดขายเท่านั้นและครับ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
CROSS OF HELL Member 27 ก.ค. 52 20:33 น. 8
ความรู้ตรึม

แค่แต่งนิยายให้ได้พิมพ์นี่ก็ลากเลือดแล้ว

ยังมีขั้นตอนเยอะแยะขนาดนี้ก็ขออนุญาติลากไส้นะครับผม
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด