เคลียร์ !! เตรียมพร้อม และตอบทุกคำถามเรื่อง "รับน้อง"

 

          วัสดีค่ะน้องๆ^^ ประกาศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับรายชื่อผู้ที่ผ่านสัมภาษณ์ ได้เป็นเฟรชชี่เต็มตัวแล้ว พี่มิ้นท์ ก็ขอแสดงความยินดีอีกครั้งค่ะ ตอนนี้ก็เหลือแค่เตรียมตัวไปใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย และไปพบเจออะไรอีกมากมาย รวมไปถึง “การรับน้อง” บางคนก็กลัว (ผู้ปกครองยิ่งกลัวไปใหญ่) บางคนอยากเจอเร็วๆ บางคนก็มีคำถามมากมาย วันนี้พี่มิ้นท์เลยหยิบประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับการรับน้อง มาเคลียร์ให้รู้กันไปเลย

 


รับน้องคืออะไร มีไปทำไม

          การรับน้อง เป็นกิจกรรมที่รุ่นพี่หรือตัวแทนนักศึกษาจัดขึ้นเพื่อต้อนรับเฟรชชี่ ซึ่งอาจจะจัดขึ้นก่อนเปิดเทอมหรือเปิดเทอมไปแล้วค่อยจัดก็ได้ ส่วนใหญ่รูปแบบก็จะเน้นการสร้างสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษาใหม่ด้วยกัน เป้าหมายหลักๆ ก็เพื่อให้น้องๆ ได้รู้จักมหาวิทยาลัย รู้จักเพื่อนร่วมรุ่นรวมทั้งรู้จักรุ่นพี่มากขึ้น พร้อมทั้งละลายพฤติกรรมของเด็กแต่ละคน เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ตลอด 4 ปี

          การรับน้องบางที่มีทั้งรับน้องรวม คือ รับทั้งมหาวิทยาลัย และรับน้องแยกตามคณะ ซึ่งเท่ากับว่าบางที่อาจมีการรับน้องมากกว่าหนึ่งครั้ง ส่วนรูปแบบกิจกรรมก็แตกต่างกันไปตามข้อจำกัดของมหาวิทยาลัยนั้นๆ เช่น บางที่อาจจะมีรูปแบบทางการ บางที่ก็จัดแบบเฮฮาสนุกสนาน หรือบางที่ก็จัดแบบโหด มันส์ ฮา สำหรับระยะเวลาก็มีทั้ง วันเดียว, 3 วัน, อาทิตย์นึง

 

การรับน้อง vs การแก้แค้น : เหตุผลที่น้องไม่เข้าใจจนกว่าจะได้เป็นพี่

         ประเด็นนี้ พี่มิ้นท์ ขอพูดในกรณีที่อาจจะมีการรับน้องรุนแรงนะคะ (แต่ก็น่าจะเป็นส่วนน้อย) น้องหลายคนอาจจะได้ยินข่าวตามสื่อ ก็เกิดความกลัวว่าการรับน้องเป็นเรื่องของความรุนแรง ก็เลยรู้สึกขยาดกับประเพณีรับน้อง บางทีก็เชื่อว่าการรับน้องเป็นโอกาสที่รุ่นพี่จะได้แก้แค้นและมาลงที่รุ่นน้อง หลังจากที่โดนกดดันมาเมื่อตอนตัวเองอยู่ปีหนึ่ง ซึ่งก็จะเป็นลูกโซ่ไม่มีวันจบ

         อันนี้ พี่มิ้นท์ ก็ไม่ฟันธงนะว่าการรับน้องไม่ใช่เรื่องของการแก้แค้น เพราะการรับน้องแบบพิเรนท์มันมีอยู่จริงแต่ทั้งนี้มันก็ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของความเป็นรุ่นพี่ที่ดีในแต่ละบุคคลมากกว่า แต่ พี่มิ้นท์ ว่าด้วยธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ด้วยกัน คงไม่มีใครบ้าระห่ำจัดงานขึ้นมาเพื่อคิดแก้แค้นคนที่เพิ่งรู้จักกันหรอกค่ะ เพียงแต่ว่าด้วยรูปแบบกิจกรรมอาจจะดูเข้มงวด เพื่อให้น้องๆ เกิดความกลัวจึงทำให้พฤติกรรมของรุ่นพี่ออกมาเป็นแบบนั้น ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลที่ตอนนี้น้องๆ อาจจะยังไม่เข้าใจ แต่เมื่อได้เป็นพี่เมื่อไหร่ ก็จะรู้คำตอบค่ะ

 

ระบบโซตัสคืออะไร มีจริงมั้ย

          ระบบโซตัสเป็นระบบฝึกนักศึกษา ซึ่งมีมหาวิทยาลัยบางแห่ง หรือบางคณะที่จะนำระบบนี้มาใช้ โซตัสเป็นระบบที่เน้นความเนี้ยบ และอาจจะโหดเป็นพิเศษ เนื่องจากต้องการให้เกิดความสามัคคี รู้สึกถึงความเป็น Unity (ความเป็นหนึ่งเดียว) และฝึกความมีระเบียบวินัย รวมทั้งอบรมให้น้องๆ รู้จักเคารพผู้ที่อาวุโสกว่า ดังนั้นจึงถือได้ว่าเป็นระบบที่รุนแรงกว่าแบบอื่นค่ะ อาจจะมีการกลั่นแกล้ง ลงโทษ หรือมีกิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่เหมาะสมบ้าง จึงทำให้เป็นระบบที่ถูกต่อต้านพอสมควร แต่ในมหาวิทยาลัยของไทยที่มีการใช้ระบบนี้ก็คงไม่รุนแรงเท่าต่างประเทศค่ะ พี่มิ้นท์ไม่ได้มองว่าโซตัสเป็นระบบที่แย่นะคะ เพราะด้านดีของระบบนี้ก็มีเยอะ ถ้านำมาใช้อย่างสร้างสรรค์ก็น่าจะมีประโยชน์ไม่น้อยนะคะ น้องๆ จะได้มีจิตใจที่เข้มแข็งและสามัคคีกัน

 

 

รับน้องแล้ว รักคณะ/รุ่นพี่/รุ่นตัวเอง มากขึ้นจริงหรือเปล่า

          อย่างที่ พี่มิ้นท์ ได้บอกไปตั้งแต่แรกว่าการรับน้องมีเป้าหมายเพื่อให้เฟรชชี่ได้รู้จักเพื่อน รู้จักมหาวิทยาลัย รู้จักรุ่นพี่ผ่านกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ต่างๆ ถ้าถามว่าคนที่ผ่านการรับน้องมาจะรักคณะ/ สถาบัน/ รุ่นพี่/ รุ่นตัวเองมากขึ้นมั้ย ฟันธงได้เลยค่ะ ว่าส่วนใหญ่ต้องรู้สึกแน่นอน เพราะกิจกรรมจะหล่อหลอมความคิด ความรู้สึกต่างๆ และให้ข้อคิดสอดแทรกเสมอ ยกเว้นเสียแต่ว่าถ้าน้องๆ ไม่เปิดใจ เจอรุ่นพี่กดดันก็ปิดตัวเองซะแล้ว หรือไม่อินกับการรับน้อง เป้าหมายพวกนี้ก็จะไม่เกิดกับน้องแน่นอนค่ะ แต่เรื่องแบบนี้ก็พูดยากค่ะ ต้องพิสูจน์กันเอาเอง^^

 

ว่ากันด้วยเรื่องพี่ว๊าก

            “พี่ว๊าก” คำนี้น่าจะทำให้น้องๆ หลอน!! บางที่ไม่มี แต่บางที่อาจจะเรียกว่าพี่วินัย/ พี่ระเบียบ/ พี่อบรม ฯลฯ เอาเข้าจริงๆ แต่ละชื่อก็ทำหน้าที่เหมือนกันค่ะ แค่เรียกให้เบาลงเท่านั้นเอง

           หน้าที่หลักๆ ของพี่ว๊ากคือ คอยอบรม ตักเตือนในช่วงรับน้องและมีบุคลิกดุดัน ทำเสียงจริงจังใส่ตลอดเวลา บางทีก็รู้สึกทำตัวไม่มีเหตุผลจนเกลียดหรือเสียความรู้สึกไปเลยก็มี หรืออาจะรู้สึกว่าจะว๊ากใส่ทำไม พูดดีๆ ก็เข้าใจแล้ว รับร้องว่าความรู้สึกเหล่าเกิดขึ้นกับน้องๆ แน่ค่ะ แต่พอจบกิจกรรมความรู้สึกเหล่านี้ก็จะหมดไป และน้องๆ ก็จะเข้าใจทุกอย่างเอง

 

รับน้อง ปลอดภัยแค่ไหน

            พี่มิ้นท์ กล้าพูดเลยค่ะ การรับน้องในปัจจุบันสร้างสรรค์ และปลอดภัยขึ้นเยอะ (แต่ก็ไม่ถึงกับปลอดภัย 100% ขึ้นอยู่กับแต่ละคณะมากกว่า) เพราะมีสื่อคอยเป็นหูเป็นตาอยู่ ดังนั้นแต่ละมหาวิทยาลัยก็เริ่มมีกฏในเรื่องการรับน้องที่เข้มงวดขึ้น เช่น ห้ามรุ่นพี่แตะเนื้อต้องตัวน้อง(เพื่อไม่ให้เกิดเหตุทำร้ายร่างกาย) ห้ามด่าด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ห้ามมีแอลกอฮอล์ ห้ามเต้นท่าลามกอนาจาร ฯลฯ หรือบางที่ก็จะรับน้องแบบเปิดกว้าง ให้ผู้ปกครองมาดูได้หรือมีอาจารย์มาคอยคุมตลอดการรับน้อง ซึ่งกฎพวกนี้จะทำให้การรับน้องมีมาตรฐานและปลอดภัยขึ้นมากกว่าแต่ก่อน ยกเว้นเสียแต่ว่ารุ่นพี่จะทำผิดกฎเสียเอง เช่น พาไปรับน้องต่างจังหวัดโดยไม่แจ้งให้อาจารย์ทราบ ถ้ามีแบบนี้ พี่มิ้นท์ ว่าน้องๆ ควรใช้วิจารณญาณหรือปรึกษาผู้ปกครองก่อนก็ดีค่ะ

         


ไม่ได้ท้าทาย แต่ไม่เข้ารับน้องจะเป็นอะไรมั้ย

          ส่วนใหญ่ถ้าจัดกิจกรรมรับน้องขึ้นมา ความคาดหวังของรุ่นพี่ก็คืออยากให้น้องๆ มาร่วมงาน แต่ในทุกๆที่ และทุกๆ ปี จะมีน้องบางส่วนที่ไม่อยากเข้าร่วม และก็มานั่งกังวลว่าถ้าไม่เข้ารับน้องจะเป็นอะไรมั้ย จริงๆ แล้วถ้าไม่เข้ารับน้องก็ไม่ผิดกฎหรือทำให้เรียนไม่จบหรอกค่ะ แต่น้องๆ อาจถูกกดดันทางด้านจิตใจจากเพื่อนหรือรุ่นพี่เพราะเค้าจะรู้สึกว่าน้องไม่เป็นส่วนหนึ่งของคณะ อันนี้ในกรณีที่น้องอยากโดดรับน้องเอง แต่ถ้ามีเหตุผลที่เพียงพอ เช่น ปัญหาสุขภาพ ถ้าแจ้งไว้รุ่นพี่ต้องเข้าใจแน่นอนค่ะ

          แต่อย่างว่าแหละค่ะ การรับน้องมีข้อดีมากกว่าข้อเสียและก็เป็นกิจกรรมที่รุ่นพี่ยอมเหนื่อยจัดขึ้นมา อย่าให้เหตุผลเพียงแค่เรื่องความกลัวมาปิดโอกาสดีๆ เลยนะคะ^^

 


มาเตรียมความพร้อมก่อนรับน้องกันเถอะ

         เคลียร์กันมาพอสมควร หวังว่าน้องๆ น่าจะอยากรับน้องกันแล้ว ถ้างั้นเรามาเตรียมความพร้อมกันเถอะ

         1.เตรียมตัว เพราะงานรับน้องจะต้องใช้พลังเยอะมาก ถ้ากิจกรรมไม่เหนื่อย ก็สันทนาการกันเหนื่อยไปข้างนึงล่ะ ฟิตร่างกายมาให้พร้อมดีที่สุด

         2.เตรียมใจ เตรียมใจรับความสนุก ความกดดัน ความสุข ความซึ้ง ฯลฯ ถ้าเตรียมใจมาไม่ดี ระวังจิตหลุด ล้อเล่นค่ะ^^

         3.เตรียมเสื้อผ้า ถ้าเตรียมตัวเตรียมใจแล้ว ก็เตรียมเสื้อผ้าพร้อมเละกันได้เลย เพราะรับน้องทั้งที ไม่เละก็ไม่มันส์ค่ะ

 


           สิ่งที่อยากจะบอกน้องๆ ก็คือ การรับน้องไม่ใช่เรื่องไร้สาระหรือน่ากลัวอย่างที่คิด การรับน้องที่สร้างสรรค์และสุภาพก็มีมาก อย่าให้ภาพการรับน้องเก่าๆ มาทำให้น้องระแวงแล้วไม่เปิดใจรับสิ่งเหล่านั้น ถ้าการรับน้องไม่มีประโยชน์จริง ก็คงไม่ทำต่อกันมาเป็นประเพณีจนถึงทุกวันนี้หรอกค่ะ อีกอย่างตอนนี้สื่อก็เข้าถึงได้ง่ายขึ้น กระบวนการทางกฎหมายก็มี ความรุนแรงก็ย่อมลดลงตามลงไปเพราะไม่มีสถาบันไหนที่อยากให้มหาวิทยาลัยของตนเองเสียชื่อเสียงแน่นอน ขอแค่น้องๆ ลองเปิดใจดู อย่าลืมว่าการรับน้องมีครั้งเดียวในชีวิต จะยอมสูญเสียโอกาสนี้ไปจริงๆ หรือ??

              แต่ที่พูดมาทั้งหมดนี้พี่มิ้นท์ก็ไม่ได้อยากชี้นำความคิดให้น้องๆ ต้องเข้าร่วมรับน้องนะ ของแบบนี้ก็ต้องอยู่ที่วิจารณญาณของตัวเองด้วย ถ้าคิดว่าการรับน้องในสถาบันตัวเองมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ก็ควรเลี่ยง อย่าตกไปเป็นทาสความคะนองของรุ่นพี่ค่ะ

               ไหนน้องๆ ลองมาแชร์กันหน่อยว่าตอนนี้จะรับน้องแล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง ส่วนพี่มิ้นท์ก็ขอให้น้องๆ มีความสุขและสนุกกับบรรยากาศการรับน้องนะคะ

 

รูปภาพประกอบ http://gottosx.multiply.com/photos/album/63/63

 http://www.learners.in.th/blog/bee-sru

 

พี่มิ้นท์
พี่มิ้นท์ - Columnist พี่สาวใจเย็น ผู้เกิดมาในแอดมิชชั่นยุคแรก แต่เข้าใจ TCAS มากกว่า

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
กำลังโหลด
aoaor 21 พ.ค. 54 17:14 น. 10
ระบบโซตัส (sotus) เท่าที่รู้ มี ม.แม่โจ้ ที่เดียวที่ยังใช้ระบบนี้อยู่ แต่ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ลูกแม่โจ้ทุกคนที่ผ่านการรับน้องระบบ sotus จะรู้ซึ้งถึงคำว่า " เพื่อน พี่ น้อง" เป็นอย่างดี .....

เลิศน้ำใจ วินัยดี เชิดชูประเพณี สามัคคี อาวุโส = SOTUS
0
กำลังโหลด
น้ำทิพย์ 22 พ.ค. 54 19:15 น. 18
การรับน้องเป็นประเพณีของแต่ละมหาวิทยาลัยก็จริง แต่ไม่ได้มีกฏเกณฑ์ตายตัวสักหน่อยว่าต้องทำกิจกรรมแปลกๆ หรือ มีใครมาตะโกนใส่ รับน้องไม่กี่วันจะฝึกความอดทน สามัคคีได้มากจริงหรือเปล่า รุ่นพี่น่าจะฝึกให้น้องมุ่งมั่นกับการเรียน หรือ ทำเพื่อสังคมมากกว่า
0
กำลังโหลด

44 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
TimeStop Member 21 พ.ค. 54 09:01 น. 4
  ผมเพิ่งไปเข้ารับน้องมาวันที่ 12 -13 สนุกดีครับ

ด้านกิจกรรมอะนะ   พี่Staff (เรียกรุ่นพี่งี้นะเห็นใส่เสื้อเขียนว่าStaff)

Staff เขาก็ดูแลน้องๆดีเป็นกันเองมักๆ

สรุปก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะครับ




แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 21 พฤษภาคม 2554 / 08:56
0
กำลังโหลด
เซ็ง 21 พ.ค. 54 09:03 น. 5
 ขอระบายนิสเก็บกดมาตั้งแต่วันรับน้อง + เตือนเพื่อนๆ

คือกระเป๋าที่เราจัดไปเข้าค่ายรับน้องอะ
พวกอุปกรณ์จิปะทะเราไม่ได้ยุ่งเอาออกมาเลยไงมันเลยมีตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันอุปกรณ์ปฐมพยาบาล
(อย่าถามนะพกไว้ทำไมมันเป็นกระเป๋าเดินทาง + ไว้เข้่าค่ายโดยเฉพาะติดไว้ไม่เสียหาย)
แล้วมันไปเสียหายตรงไหน?
ถามก่อนว่าปัญหาเด็กนักเรียนเกี่ยวกับสิ่งเสพติดอันดับแรกๆคืออะไร?
ไม่แน่ใจคนอ่านคิดเหมือนกันป่าวว่าสิ่งนั้นคือ   บุหรี่

อะๆอย่าเพิ่งคิดว่า จขคห มีบุหรี่ในกระเป๋าครับผมไม่เคยสูบ
แล้วยังไงหละ?
มันมีไฟแช็ก!!!   ไปรู้วันรับน้องว่าโรงเรียนนี้มีความคิด  พกไฟแช็ก = คนสูบบุหรี่?
(เน้นอีกทีปกติผมไม่ได้พกไฟแช็กนะ   แต่มันติดอยู่ักับกระเป๋าเข้าค่าย)

สรุปผมโดนเรียกทำรับคำสารภาพปฏิเสธก็ไม่ได้พกไว้ทำไมบอกมันติดกระเป๋านานแล้ว
เขาบอกฟังไม่ขึ้นในเมื่อมันมีหลักฐานอยู่ตรงหน้าแล้ว (แล้วจะถามทำไม?)

คือดูยังไงเขาก็ต้องการหักคะแนนอยู่แล้วผมเลยขี้เกลีัยดเถียง
สรุปโดนไป 30 คะแนน
ต้องเขียนใบรับสารภาพอีกเลยเขียนไปว่าพกไฟแช็กติดกระเป๋าเดินทางจบ

คนเอาบุหรี่มาสูบนอนห้องเดียวกันตอนกลางคืนเดินไปสูบในห้องน้ำมันไม่โดนจับวุ้ย-*-

เลยอคติกินไปเรียบร้อย  ยังไม่ทันเปิดเรียนคะแนนประพฤติ 100 โดนหักไป30 คงไม่น่าปลื้มเนอะ

ถ้ารู้ว่าไม่ไปได้นั่งอยู่บ้านดีกว่า
0
กำลังโหลด
หัวฟู 21 พ.ค. 54 11:35 น. 6
รับน้องทำให้รู้จักเพื่อนใหม่ ดีขอบคุณ
รับน้องทำให้สามัคคีเป็นหนึ่งเดียวมากขึ้น ใช่ขอบคุณ
รับน้องทำให้รู้นิสัยคนบางคนได้ จริงขอบคุณ
รับน้องมีดีหลายๆอย่าง ไม่เถียง

แต่ขอเหอะ อย่าใช้การรับน้องเป็นหนทางในการหาแฟนเลย มันไม่ใช่อ่ะ เหอๆ
0
กำลังโหลด
SOTUS 21 พ.ค. 54 13:04 น. 7
เราเป็นคนนึงที่ผ่านการรับน้องระบบ โซตัสมา ตอนแรกก็ไม่เข้าใจทำไมต้องมาโหด มาตะโกนใส่เรา มีระเบียบอะไรนักหนา แต่พอผ่านการรับน้องตรงนี้ ขอยืนยันได้เลยว่าทุกคนจะรักเพื่อน รักคณะของตัวเองอย่างแน่นอน ระบบนี้มีด้านดีมากมาย อย่างที่เห็นชัดคือ การเคารพรุ่นพี่ มันยังทำให้เราเคยตัวด้วย ต่อไปเราเจอใครที่เป็นผู้ใหญ่กว่าก็จะยกมือไหว้เอง โดยไม่มีใครบังคับ อย่ากลัวการรับน้องเลยค่ะ ที่พี่ๆทุกคนทำไป ก็เพื่อน้องๆทุกคน ^^
0
กำลังโหลด
TEARz Member 21 พ.ค. 54 13:56 น. 8

เพิ่มเติมนะคะ สำหรับเพื่อนที่กำลังจะรับน้อง

เรารับไปแล้ว2วันเดี๋ยวจะมีรับอีก2ครั้ง
เราไปแล้วก็กลัวเรื่องรับน้องโหดนะคะพวกแกล้งไรงี้
แต่รักสนุกค่ะเลยอยากไป(เริ่มเล่าตอนไปดีกว่าเนอะ)

ก็ไปแล้วก็สนิทกับเพื่อนๆพี่ๆดีค่ะ สนุกดีเหมือนไปดูโชว์ตลกด้วยซ้ำ- -''
ได้เล่มเกมกับเพื่อนๆ และเจอพี่ว๊ากนั่นแหล่ะค่าแต่ของเราเรียกพี่ระเบียบนะ
อันนี้รู้ว่ามีก่อนก็ดีเพราะเราไม่รู้ว่าจะมีพี่ระเบียบอีก
ตอนแรกก็คิดอะไรก๊านนนน(วิบัติเพื่อเสียง)
ฉันอยู่มหาลัยยังมีกฎล้านแปดพันเก้าอีกหรอ!


แต่ความจริงนั้นก็แค่ให้รุ่นน้องได้รู้ระเบียบเวลามีงานพิธีเฉยๆน่ะค่ะ
แต่พี่ระเบียบเราหน้านิ่งมากกกกกกก ไม่เคยเห็นพี่แกยิ้ม(เมื่อยแทน)
จริงๆพี่เค้าก็ใจดีนะคะแต่มันทำเป็นก็เลยเก๊กโหดไปงั้น
เพราะตอนแยกฝึก(ตอนรวมมีพี่ระเบียบ3คน) เราก็เลยได้คุยกับพี่ระเบียบแบบใกล้ชิด
ก็รุ้แหล่ะค่ะว่าเค้าเก๊กไปงั้นไม่งั้นอาจารย์/รุ่นปีจะมาว๊ากเค้าแทน)
และเพื่อให้น้องเชื่อฟังเร็วๆด้วยแหล่ะเลยต้องมานั่งขรึมๆ


บางคนอาจจะไม่อยากไปรับน้องเพราะพี่ระเบียบก็ได้แต่พอหมดช่วงพี่ระเบียบแล้วสนุกดีนะเราว่าได้รู้จักคนนั้นคนนี้ ได้เต้น(ส่วนใหญ่ไม่ใช่เต้นเดี่ยวนะ) เต้นท่าก็สุดยอดมว๊าก
สนุกดีเพื่อนรั่ว ก็จะมีตัวโจ๊กๆกันไป


อ่อเราแอดเฟสพี่คนอื่นไปนะพี่เค้าถามว่าเป้นไงบ้าง
เราก็ตอบไปตรงๆนั่นแหล่ะว่าไม่ชอบพี่ระเบียบ เห็นละเครียด
แล้วพี่ระเบียบมาเค้าก็พูดดีนะ เราก้ยังมีหน้าไปบอกเค้าว่า
เค้าทำหน้าดุจนเรากลัวเค้าเขมือบหัว555

แล้วคนที่คิดจะโดดก็เห็นใจพี่ๆเค้าหน่อย เพราะเราเห็นพี่ๆเราแล้วเหนื่อยแทน
ทั้งค่าจัดรับน้องพี่เค้าก็ออกเอง (เรามีเฟสรุ่นพี่นานแล้วน่ะเลยไปเจอ)
แล้วก้เตรียมตัวซ้อมนั่นซ้อมนี่ กลับบ้านเย็นทุกวันเงี้ย
เตรียมข้อมูลเผื่อน้องถามด้วย สงสารพี่ๆเค้า





ปล.สงสัยมากคณะเรามีพี่แฝงไหมว้า

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
aoaor 21 พ.ค. 54 17:14 น. 10
ระบบโซตัส (sotus) เท่าที่รู้ มี ม.แม่โจ้ ที่เดียวที่ยังใช้ระบบนี้อยู่ แต่ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ลูกแม่โจ้ทุกคนที่ผ่านการรับน้องระบบ sotus จะรู้ซึ้งถึงคำว่า " เพื่อน พี่ น้อง" เป็นอย่างดี .....

เลิศน้ำใจ วินัยดี เชิดชูประเพณี สามัคคี อาวุโส = SOTUS
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Wongrak Member 21 พ.ค. 54 21:32 น. 12
จริงๆเเล้วอยากขอบอกว่า พี่ว๊าก ผมเคยได้คุยกับเขาอย่างจริงๆจังๆ เขาบอกว่า ไม่ว่าที่ไหน พี่ว๊ากเขาก็ทำเป็นเก๊กเสียงดุเพื่อให้สามารถคุมรุ่นน้องได้ครับ กิจกรรมรับน้องจะได้สำเร็จผล คือทำให้รุ่นน้องรักใคร่กลมเกลียวกัน
ปล.เเต่พี่เขาก็บอกว่ามีหลายๆที่ๆรุ่นพี่รับน้องเพื่อที่จะหาเเฟน หาคนสำเร็จอารม(อย่างที่รู้กัน) ก็ควรพึงระวังไว้ ถ้าได้พบเห็นหรือได้ข้อมูลว่า สถาบันของเราจะรับน้องเเบบไหน พี่เขาบอกว่าก็ควรจำไว้ว่า "ชีวิตเราสำคัญที่สุด อย่าให้การรับน้องมาจบอนาคตเรา" โดนมากคำนี้


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 21 พฤษภาคม 2554 / 21:27
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 21 พฤษภาคม 2554 / 21:33
0
กำลังโหลด
Kim_Heechul-Sarang Member 21 พ.ค. 54 21:35 น. 13
โอ ช่วยได้เยอะเลยค่ะ
แต่เหมือนว่าคณะมหาลัยที่เข้าไปเรียนจะใช้ระบบโซตัส - -"
รู้สึกได้ยินแล้วแอบรู้สึกกลัวนิดหน่อย-มาก

แต่อยากรับน้องเร็วๆแล้ว
0
กำลังโหลด
Mejun Member 21 พ.ค. 54 22:34 น. 14
เตรียมทหารเนี่ยเข้าไม่ได้ว๊ากค่ะ
เค้าเรียกว่าเป็นการฝึกความเข้มแแข็งมีระเบียบวินัย
ไม่เหมือนกับมหาลัยค่ะ อธิบายไม่ถูกแต่ว่าคนล่ะแบบ

ส่วนม.เราไม่มีพี่ว๊ากค่ะ สบาย...แหะๆ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
นนน 22 พ.ค. 54 13:10 น. 17
ไม่อยากรับแบบโหด หรือว้ากเลย ไม่ชอบอ่ะพูดดีๆก็รู้เรื่อง อยากรับแบบสนุกสนานเฮฮามากกว่า มันมีอะไรที่น่าจดจำ เคยโดนสมัยมัธยมไม่เค้าใจเลยจะทำแบบนี้ทำไม
0
กำลังโหลด
น้ำทิพย์ 22 พ.ค. 54 19:15 น. 18
การรับน้องเป็นประเพณีของแต่ละมหาวิทยาลัยก็จริง แต่ไม่ได้มีกฏเกณฑ์ตายตัวสักหน่อยว่าต้องทำกิจกรรมแปลกๆ หรือ มีใครมาตะโกนใส่ รับน้องไม่กี่วันจะฝึกความอดทน สามัคคีได้มากจริงหรือเปล่า รุ่นพี่น่าจะฝึกให้น้องมุ่งมั่นกับการเรียน หรือ ทำเพื่อสังคมมากกว่า
0
กำลังโหลด
Margie 22 พ.ค. 54 20:07 น. 19
เรากำลังอยู่ในช่วงของรับน้องพอดี

อยากจะบอกว่ารับน้องที่พระจอมเกล้าพระนครเหนือ

สนุกมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

พี่ระเบียบตอนแรกก็มาแนวโหด เสียงเข้ม ดุมาก

วันๆเอาแต่สั่งจัดแถว! ช้า!หมอบลงไป! ลุกนั่ง!

พอมาหลังๆ พี่ระเบียบเริ่มยิงมุกกันขำกระจาย

จากเครียดๆ ก็หายเครียดกันเลย

ยิ่งพวกพี่สันทนาการ เต้นกันมันส์มาก

จากที่เราไม่ชอบเต้น ไม่กล้าแสดงออก

รุ่นพี่เขาก็สามารถทำให้เราสนุกไปกับการรับน้องได้

รับน้องไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด

แต่ทำให้เรารู้จักรัก และสามัคคีกันในหมู่เพื่อน และเคารพรุ่นพี่

ใครที่กลัวทำใจให้สบายๆ รับน้องไม่ได้น่ากลัวเลย
0
กำลังโหลด
นนนน 23 พ.ค. 54 23:17 น. 20
การเรียนมหาลัยสำหรับผม ****ย้ำนะครับ สำหรับผม มันคือการเรียนควบคู่ไปกับการใช้ชีวิตนะครับ หน้าที่หลักเราคือ"เรียน"ครับ หาความรู้มากๆทั้งในห้องสมุดและอินเตอร์เนตครับเพราะอาจารย์สอนน้อยบางครั้งก็ผ่านๆๆไปเลย เราก็งง เลยต้องหาความรู้เพิ่ม และที่เหลือคือการใช้ชีวิตนะครับ ตอนนี้ผมกำลังจะขึ้นปีสองแล้วครับ ก็อยากบอกกับน้องๆเลยว่า ใช้ชีวิตให้คุ้มครับทำในสิ่งที่เราเป็น และอยากจะทำ(ถ้าการเป็นตัีวของตัวเองไม่เดือดร้อนใครเป็นตัวของตัวเองดีสุดครับ อย่าลืมว่าตัวเองเข้ามาเรียนเพื่ออะไร) การรับน้องประสงค์เพื่อทำความรู่้จักกัน และรู้จักมหาลัยนะครับ ถ้าพี่ๆบังครับขื่นใจให้ทำผิดกฎหมาย หรือศีีลธรรมละ่ก็ อย่าทำครับ(มันมีจริงนะบาง มอ) อย่าทำ จดจำแต่สิ่งที่ดีครับ ใช่ประโยชน์กับชีวิต
ข้อควรระวังในมหาลัย
*เหล้า ยาเสพ
*เพศตรงข้าม รุ่นเดียวกันหรือรุ่นพี่
*game , dota ,game online.
*ความขี้เกียจ ผัดวันประกันพรุ่ง เช่น อ่านหนังสือสามวันก่อนสอบ*อย่าเด้ดขาดครับ ไม่เหมือนตอนมัธยมนะ
*


แต่ขอย้ำอีกทีนะครับว่าข้อความทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดของผม
ขอให้ประสพความสำเร็จด้านการเรียน และใช้ชีวิตครับ
เพราะ *ชีวิตเป็นของเรา* ไง
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด