สวัสดีค่ะน้องๆ^^ ประกาศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับรายชื่อผู้ที่ผ่านสัมภาษณ์ ได้เป็นเฟรชชี่เต็มตัวแล้ว พี่มิ้นท์ ก็ขอแสดงความยินดีอีกครั้งค่ะ ตอนนี้ก็เหลือแค่เตรียมตัวไปใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย และไปพบเจออะไรอีกมากมาย รวมไปถึง การรับน้อง บางคนก็กลัว (ผู้ปกครองยิ่งกลัวไปใหญ่) บางคนอยากเจอเร็วๆ บางคนก็มีคำถามมากมาย วันนี้พี่มิ้นท์เลยหยิบประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับการรับน้อง มาเคลียร์ให้รู้กันไปเลย
รับน้องคืออะไร มีไปทำไม การรับน้อง เป็นกิจกรรมที่รุ่นพี่หรือตัวแทนนักศึกษาจัดขึ้นเพื่อต้อนรับเฟรชชี่ ซึ่งอาจจะจัดขึ้นก่อนเปิดเทอมหรือเปิดเทอมไปแล้วค่อยจัดก็ได้ ส่วนใหญ่รูปแบบก็จะเน้นการสร้างสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษาใหม่ด้วยกัน เป้าหมายหลักๆ ก็เพื่อให้น้องๆ ได้รู้จักมหาวิทยาลัย รู้จักเพื่อนร่วมรุ่นรวมทั้งรู้จักรุ่นพี่มากขึ้น พร้อมทั้งละลายพฤติกรรมของเด็กแต่ละคน เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ตลอด 4 ปี การรับน้องบางที่มีทั้งรับน้องรวม คือ รับทั้งมหาวิทยาลัย และรับน้องแยกตามคณะ ซึ่งเท่ากับว่าบางที่อาจมีการรับน้องมากกว่าหนึ่งครั้ง ส่วนรูปแบบกิจกรรมก็แตกต่างกันไปตามข้อจำกัดของมหาวิทยาลัยนั้นๆ เช่น บางที่อาจจะมีรูปแบบทางการ บางที่ก็จัดแบบเฮฮาสนุกสนาน หรือบางที่ก็จัดแบบโหด มันส์ ฮา สำหรับระยะเวลาก็มีทั้ง วันเดียว, 3 วัน, อาทิตย์นึง
การรับน้อง vs การแก้แค้น : เหตุผลที่น้องไม่เข้าใจจนกว่าจะได้เป็นพี่ ประเด็นนี้ พี่มิ้นท์ ขอพูดในกรณีที่อาจจะมีการรับน้องรุนแรงนะคะ (แต่ก็น่าจะเป็นส่วนน้อย) น้องหลายคนอาจจะได้ยินข่าวตามสื่อ ก็เกิดความกลัวว่าการรับน้องเป็นเรื่องของความรุนแรง ก็เลยรู้สึกขยาดกับประเพณีรับน้อง บางทีก็เชื่อว่าการรับน้องเป็นโอกาสที่รุ่นพี่จะได้แก้แค้นและมาลงที่รุ่นน้อง หลังจากที่โดนกดดันมาเมื่อตอนตัวเองอยู่ปีหนึ่ง ซึ่งก็จะเป็นลูกโซ่ไม่มีวันจบ อันนี้ พี่มิ้นท์ ก็ไม่ฟันธงนะว่าการรับน้องไม่ใช่เรื่องของการแก้แค้น เพราะการรับน้องแบบพิเรนท์มันมีอยู่จริงแต่ทั้งนี้มันก็ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของความเป็นรุ่นพี่ที่ดีในแต่ละบุคคลมากกว่า แต่ พี่มิ้นท์ ว่าด้วยธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ด้วยกัน คงไม่มีใครบ้าระห่ำจัดงานขึ้นมาเพื่อคิดแก้แค้นคนที่เพิ่งรู้จักกันหรอกค่ะ เพียงแต่ว่าด้วยรูปแบบกิจกรรมอาจจะดูเข้มงวด เพื่อให้น้องๆ เกิดความกลัวจึงทำให้พฤติกรรมของรุ่นพี่ออกมาเป็นแบบนั้น ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลที่ตอนนี้น้องๆ อาจจะยังไม่เข้าใจ แต่เมื่อได้เป็นพี่เมื่อไหร่ ก็จะรู้คำตอบค่ะ
ระบบโซตัสคืออะไร มีจริงมั้ย ระบบโซตัสเป็นระบบฝึกนักศึกษา ซึ่งมีมหาวิทยาลัยบางแห่ง หรือบางคณะที่จะนำระบบนี้มาใช้ โซตัสเป็นระบบที่เน้นความเนี้ยบ และอาจจะโหดเป็นพิเศษ เนื่องจากต้องการให้เกิดความสามัคคี รู้สึกถึงความเป็น Unity (ความเป็นหนึ่งเดียว) และฝึกความมีระเบียบวินัย รวมทั้งอบรมให้น้องๆ รู้จักเคารพผู้ที่อาวุโสกว่า ดังนั้นจึงถือได้ว่าเป็นระบบที่รุนแรงกว่าแบบอื่นค่ะ อาจจะมีการกลั่นแกล้ง ลงโทษ หรือมีกิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่เหมาะสมบ้าง จึงทำให้เป็นระบบที่ถูกต่อต้านพอสมควร แต่ในมหาวิทยาลัยของไทยที่มีการใช้ระบบนี้ก็คงไม่รุนแรงเท่าต่างประเทศค่ะ พี่มิ้นท์ไม่ได้มองว่าโซตัสเป็นระบบที่แย่นะคะ เพราะด้านดีของระบบนี้ก็มีเยอะ ถ้านำมาใช้อย่างสร้างสรรค์ก็น่าจะมีประโยชน์ไม่น้อยนะคะ น้องๆ จะได้มีจิตใจที่เข้มแข็งและสามัคคีกัน
รับน้องแล้ว รักคณะ/รุ่นพี่/รุ่นตัวเอง มากขึ้นจริงหรือเปล่า อย่างที่ พี่มิ้นท์ ได้บอกไปตั้งแต่แรกว่าการรับน้องมีเป้าหมายเพื่อให้เฟรชชี่ได้รู้จักเพื่อน รู้จักมหาวิทยาลัย รู้จักรุ่นพี่ผ่านกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ต่างๆ ถ้าถามว่าคนที่ผ่านการรับน้องมาจะรักคณะ/ สถาบัน/ รุ่นพี่/ รุ่นตัวเองมากขึ้นมั้ย ฟันธงได้เลยค่ะ ว่าส่วนใหญ่ต้องรู้สึกแน่นอน เพราะกิจกรรมจะหล่อหลอมความคิด ความรู้สึกต่างๆ และให้ข้อคิดสอดแทรกเสมอ ยกเว้นเสียแต่ว่าถ้าน้องๆ ไม่เปิดใจ เจอรุ่นพี่กดดันก็ปิดตัวเองซะแล้ว หรือไม่อินกับการรับน้อง เป้าหมายพวกนี้ก็จะไม่เกิดกับน้องแน่นอนค่ะ แต่เรื่องแบบนี้ก็พูดยากค่ะ ต้องพิสูจน์กันเอาเอง^^
ว่ากันด้วยเรื่องพี่ว๊าก พี่ว๊าก คำนี้น่าจะทำให้น้องๆ หลอน!! บางที่ไม่มี แต่บางที่อาจจะเรียกว่าพี่วินัย/ พี่ระเบียบ/ พี่อบรม ฯลฯ เอาเข้าจริงๆ แต่ละชื่อก็ทำหน้าที่เหมือนกันค่ะ แค่เรียกให้เบาลงเท่านั้นเอง หน้าที่หลักๆ ของพี่ว๊ากคือ คอยอบรม ตักเตือนในช่วงรับน้องและมีบุคลิกดุดัน ทำเสียงจริงจังใส่ตลอดเวลา บางทีก็รู้สึกทำตัวไม่มีเหตุผลจนเกลียดหรือเสียความรู้สึกไปเลยก็มี หรืออาจะรู้สึกว่าจะว๊ากใส่ทำไม พูดดีๆ ก็เข้าใจแล้ว รับร้องว่าความรู้สึกเหล่าเกิดขึ้นกับน้องๆ แน่ค่ะ แต่พอจบกิจกรรมความรู้สึกเหล่านี้ก็จะหมดไป และน้องๆ ก็จะเข้าใจทุกอย่างเอง
รับน้อง ปลอดภัยแค่ไหน พี่มิ้นท์ กล้าพูดเลยค่ะ การรับน้องในปัจจุบันสร้างสรรค์ และปลอดภัยขึ้นเยอะ (แต่ก็ไม่ถึงกับปลอดภัย 100% ขึ้นอยู่กับแต่ละคณะมากกว่า) เพราะมีสื่อคอยเป็นหูเป็นตาอยู่ ดังนั้นแต่ละมหาวิทยาลัยก็เริ่มมีกฏในเรื่องการรับน้องที่เข้มงวดขึ้น เช่น ห้ามรุ่นพี่แตะเนื้อต้องตัวน้อง(เพื่อไม่ให้เกิดเหตุทำร้ายร่างกาย) ห้ามด่าด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ห้ามมีแอลกอฮอล์ ห้ามเต้นท่าลามกอนาจาร ฯลฯ หรือบางที่ก็จะรับน้องแบบเปิดกว้าง ให้ผู้ปกครองมาดูได้หรือมีอาจารย์มาคอยคุมตลอดการรับน้อง ซึ่งกฎพวกนี้จะทำให้การรับน้องมีมาตรฐานและปลอดภัยขึ้นมากกว่าแต่ก่อน ยกเว้นเสียแต่ว่ารุ่นพี่จะทำผิดกฎเสียเอง เช่น พาไปรับน้องต่างจังหวัดโดยไม่แจ้งให้อาจารย์ทราบ ถ้ามีแบบนี้ พี่มิ้นท์ ว่าน้องๆ ควรใช้วิจารณญาณหรือปรึกษาผู้ปกครองก่อนก็ดีค่ะ
ไม่ได้ท้าทาย แต่ไม่เข้ารับน้องจะเป็นอะไรมั้ย ส่วนใหญ่ถ้าจัดกิจกรรมรับน้องขึ้นมา ความคาดหวังของรุ่นพี่ก็คืออยากให้น้องๆ มาร่วมงาน แต่ในทุกๆที่ และทุกๆ ปี จะมีน้องบางส่วนที่ไม่อยากเข้าร่วม และก็มานั่งกังวลว่าถ้าไม่เข้ารับน้องจะเป็นอะไรมั้ย จริงๆ แล้วถ้าไม่เข้ารับน้องก็ไม่ผิดกฎหรือทำให้เรียนไม่จบหรอกค่ะ แต่น้องๆ อาจถูกกดดันทางด้านจิตใจจากเพื่อนหรือรุ่นพี่เพราะเค้าจะรู้สึกว่าน้องไม่เป็นส่วนหนึ่งของคณะ อันนี้ในกรณีที่น้องอยากโดดรับน้องเอง แต่ถ้ามีเหตุผลที่เพียงพอ เช่น ปัญหาสุขภาพ ถ้าแจ้งไว้รุ่นพี่ต้องเข้าใจแน่นอนค่ะ แต่อย่างว่าแหละค่ะ การรับน้องมีข้อดีมากกว่าข้อเสียและก็เป็นกิจกรรมที่รุ่นพี่ยอมเหนื่อยจัดขึ้นมา อย่าให้เหตุผลเพียงแค่เรื่องความกลัวมาปิดโอกาสดีๆ เลยนะคะ^^
มาเตรียมความพร้อมก่อนรับน้องกันเถอะ เคลียร์กันมาพอสมควร หวังว่าน้องๆ น่าจะอยากรับน้องกันแล้ว ถ้างั้นเรามาเตรียมความพร้อมกันเถอะ 1.เตรียมตัว เพราะงานรับน้องจะต้องใช้พลังเยอะมาก ถ้ากิจกรรมไม่เหนื่อย ก็สันทนาการกันเหนื่อยไปข้างนึงล่ะ ฟิตร่างกายมาให้พร้อมดีที่สุด 2.เตรียมใจ เตรียมใจรับความสนุก ความกดดัน ความสุข ความซึ้ง ฯลฯ ถ้าเตรียมใจมาไม่ดี ระวังจิตหลุด ล้อเล่นค่ะ^^ 3.เตรียมเสื้อผ้า ถ้าเตรียมตัวเตรียมใจแล้ว ก็เตรียมเสื้อผ้าพร้อมเละกันได้เลย เพราะรับน้องทั้งที ไม่เละก็ไม่มันส์ค่ะ
สิ่งที่อยากจะบอกน้องๆ ก็คือ การรับน้องไม่ใช่เรื่องไร้สาระหรือน่ากลัวอย่างที่คิด การรับน้องที่สร้างสรรค์และสุภาพก็มีมาก อย่าให้ภาพการรับน้องเก่าๆ มาทำให้น้องระแวงแล้วไม่เปิดใจรับสิ่งเหล่านั้น ถ้าการรับน้องไม่มีประโยชน์จริง ก็คงไม่ทำต่อกันมาเป็นประเพณีจนถึงทุกวันนี้หรอกค่ะ อีกอย่างตอนนี้สื่อก็เข้าถึงได้ง่ายขึ้น กระบวนการทางกฎหมายก็มี ความรุนแรงก็ย่อมลดลงตามลงไปเพราะไม่มีสถาบันไหนที่อยากให้มหาวิทยาลัยของตนเองเสียชื่อเสียงแน่นอน ขอแค่น้องๆ ลองเปิดใจดู อย่าลืมว่าการรับน้องมีครั้งเดียวในชีวิต จะยอมสูญเสียโอกาสนี้ไปจริงๆ หรือ?? แต่ที่พูดมาทั้งหมดนี้พี่มิ้นท์ก็ไม่ได้อยากชี้นำความคิดให้น้องๆ ต้องเข้าร่วมรับน้องนะ ของแบบนี้ก็ต้องอยู่ที่วิจารณญาณของตัวเองด้วย ถ้าคิดว่าการรับน้องในสถาบันตัวเองมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ก็ควรเลี่ยง อย่าตกไปเป็นทาสความคะนองของรุ่นพี่ค่ะ ไหนน้องๆ ลองมาแชร์กันหน่อยว่าตอนนี้จะรับน้องแล้วรู้สึกยังไงกันบ้าง ส่วนพี่มิ้นท์ก็ขอให้น้องๆ มีความสุขและสนุกกับบรรยากาศการรับน้องนะคะ
รูปภาพประกอบ http://gottosx.multiply.com/photos/album/63/63 http://www.learners.in.th/blog/bee-sru
|
แสดงความคิดเห็น
ถูกเลือกโดยทีมงาน
ยอดถูกใจสูงสุด
ไม่ชอบรับน้องค่ะ=_=
กำลังโหลด
ไม่อยากรับน้อง ไม่ชอบ เเละคิดว่าคงไม่เสียดายอะนะ
กำลังโหลด
ระบบโซตัส (sotus) เท่าที่รู้ มี ม.แม่โจ้ ที่เดียวที่ยังใช้ระบบนี้อยู่ แต่ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ลูกแม่โจ้ทุกคนที่ผ่านการรับน้องระบบ sotus จะรู้ซึ้งถึงคำว่า " เพื่อน พี่ น้อง" เป็นอย่างดี .....
เลิศน้ำใจ วินัยดี เชิดชูประเพณี สามัคคี อาวุโส = SOTUS
เลิศน้ำใจ วินัยดี เชิดชูประเพณี สามัคคี อาวุโส = SOTUS
กำลังโหลด
การรับน้องเป็นประเพณีของแต่ละมหาวิทยาลัยก็จริง แต่ไม่ได้มีกฏเกณฑ์ตายตัวสักหน่อยว่าต้องทำกิจกรรมแปลกๆ หรือ มีใครมาตะโกนใส่ รับน้องไม่กี่วันจะฝึกความอดทน สามัคคีได้มากจริงหรือเปล่า รุ่นพี่น่าจะฝึกให้น้องมุ่งมั่นกับการเรียน หรือ ทำเพื่อสังคมมากกว่า
กำลังโหลด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการที่จะลบความเห็นนี้ใช่หรือไม่ ?
44 ความคิดเห็น
ด้านกิจกรรมอะนะ พี่Staff (เรียกรุ่นพี่งี้นะเห็นใส่เสื้อเขียนว่าStaff)
Staff เขาก็ดูแลน้องๆดีเป็นกันเองมักๆ
สรุปก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะครับ
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 21 พฤษภาคม 2554 / 08:56
คือกระเป๋าที่เราจัดไปเข้าค่ายรับน้องอะ
พวกอุปกรณ์จิปะทะเราไม่ได้ยุ่งเอาออกมาเลยไงมันเลยมีตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันอุปกรณ์ปฐมพยาบาล
(อย่าถามนะพกไว้ทำไมมันเป็นกระเป๋าเดินทาง + ไว้เข้่าค่ายโดยเฉพาะติดไว้ไม่เสียหาย)
แล้วมันไปเสียหายตรงไหน?
ถามก่อนว่าปัญหาเด็กนักเรียนเกี่ยวกับสิ่งเสพติดอันดับแรกๆคืออะไร?
ไม่แน่ใจคนอ่านคิดเหมือนกันป่าวว่าสิ่งนั้นคือ บุหรี่
อะๆอย่าเพิ่งคิดว่า จขคห มีบุหรี่ในกระเป๋าครับผมไม่เคยสูบ
แล้วยังไงหละ?
มันมีไฟแช็ก!!! ไปรู้วันรับน้องว่าโรงเรียนนี้มีความคิด พกไฟแช็ก = คนสูบบุหรี่?
(เน้นอีกทีปกติผมไม่ได้พกไฟแช็กนะ แต่มันติดอยู่ักับกระเป๋าเข้าค่าย)
สรุปผมโดนเรียกทำรับคำสารภาพปฏิเสธก็ไม่ได้พกไว้ทำไมบอกมันติดกระเป๋านานแล้ว
เขาบอกฟังไม่ขึ้นในเมื่อมันมีหลักฐานอยู่ตรงหน้าแล้ว (แล้วจะถามทำไม?)
คือดูยังไงเขาก็ต้องการหักคะแนนอยู่แล้วผมเลยขี้เกลีัยดเถียง
สรุปโดนไป 30 คะแนน
ต้องเขียนใบรับสารภาพอีกเลยเขียนไปว่าพกไฟแช็กติดกระเป๋าเดินทางจบ
คนเอาบุหรี่มาสูบนอนห้องเดียวกันตอนกลางคืนเดินไปสูบในห้องน้ำมันไม่โดนจับวุ้ย-*-
เลยอคติกินไปเรียบร้อย ยังไม่ทันเปิดเรียนคะแนนประพฤติ 100 โดนหักไป30 คงไม่น่าปลื้มเนอะ
ถ้ารู้ว่าไม่ไปได้นั่งอยู่บ้านดีกว่า
รับน้องทำให้สามัคคีเป็นหนึ่งเดียวมากขึ้น ใช่ขอบคุณ
รับน้องทำให้รู้นิสัยคนบางคนได้ จริงขอบคุณ
รับน้องมีดีหลายๆอย่าง ไม่เถียง
แต่ขอเหอะ อย่าใช้การรับน้องเป็นหนทางในการหาแฟนเลย มันไม่ใช่อ่ะ เหอๆ
เพิ่มเติมนะคะ สำหรับเพื่อนที่กำลังจะรับน้อง
เรารับไปแล้ว2วันเดี๋ยวจะมีรับอีก2ครั้ง
เราไปแล้วก็กลัวเรื่องรับน้องโหดนะคะพวกแกล้งไรงี้
แต่รักสนุกค่ะเลยอยากไป(เริ่มเล่าตอนไปดีกว่าเนอะ)
ก็ไปแล้วก็สนิทกับเพื่อนๆพี่ๆดีค่ะ สนุกดีเหมือนไปดูโชว์ตลกด้วยซ้ำ- -''
ได้เล่มเกมกับเพื่อนๆ และเจอพี่ว๊ากนั่นแหล่ะค่าแต่ของเราเรียกพี่ระเบียบนะ
อันนี้รู้ว่ามีก่อนก็ดีเพราะเราไม่รู้ว่าจะมีพี่ระเบียบอีก
ตอนแรกก็คิดอะไรก๊านนนน(วิบัติเพื่อเสียง)
ฉันอยู่มหาลัยยังมีกฎล้านแปดพันเก้าอีกหรอ!
แต่ความจริงนั้นก็แค่ให้รุ่นน้องได้รู้ระเบียบเวลามีงานพิธีเฉยๆน่ะค่ะ
แต่พี่ระเบียบเราหน้านิ่งมากกกกกกก ไม่เคยเห็นพี่แกยิ้ม(เมื่อยแทน)
จริงๆพี่เค้าก็ใจดีนะคะแต่มันทำเป็นก็เลยเก๊กโหดไปงั้น
เพราะตอนแยกฝึก(ตอนรวมมีพี่ระเบียบ3คน) เราก็เลยได้คุยกับพี่ระเบียบแบบใกล้ชิด
ก็รุ้แหล่ะค่ะว่าเค้าเก๊กไปงั้นไม่งั้นอาจารย์/รุ่นปีจะมาว๊ากเค้าแทน)
และเพื่อให้น้องเชื่อฟังเร็วๆด้วยแหล่ะเลยต้องมานั่งขรึมๆ
บางคนอาจจะไม่อยากไปรับน้องเพราะพี่ระเบียบก็ได้แต่พอหมดช่วงพี่ระเบียบแล้วสนุกดีนะเราว่าได้รู้จักคนนั้นคนนี้ ได้เต้น(ส่วนใหญ่ไม่ใช่เต้นเดี่ยวนะ) เต้นท่าก็สุดยอดมว๊าก
สนุกดีเพื่อนรั่ว ก็จะมีตัวโจ๊กๆกันไป
อ่อเราแอดเฟสพี่คนอื่นไปนะพี่เค้าถามว่าเป้นไงบ้าง
เราก็ตอบไปตรงๆนั่นแหล่ะว่าไม่ชอบพี่ระเบียบ เห็นละเครียด
แล้วพี่ระเบียบมาเค้าก็พูดดีนะ เราก้ยังมีหน้าไปบอกเค้าว่า
เค้าทำหน้าดุจนเรากลัวเค้าเขมือบหัว555
แล้วคนที่คิดจะโดดก็เห็นใจพี่ๆเค้าหน่อย เพราะเราเห็นพี่ๆเราแล้วเหนื่อยแทน
ทั้งค่าจัดรับน้องพี่เค้าก็ออกเอง (เรามีเฟสรุ่นพี่นานแล้วน่ะเลยไปเจอ)
แล้วก้เตรียมตัวซ้อมนั่นซ้อมนี่ กลับบ้านเย็นทุกวันเงี้ย
เตรียมข้อมูลเผื่อน้องถามด้วย สงสารพี่ๆเค้า
ปล.สงสัยมากคณะเรามีพี่แฝงไหมว้า
ระบบโซตัสกับว๊ากน่าจะเจอในโรงเรียนเตรียมทหารหรือไม่ก็นายร้อยมากกว่านะเราว่า
เลิศน้ำใจ วินัยดี เชิดชูประเพณี สามัคคี อาวุโส = SOTUS
ปล.เเต่พี่เขาก็บอกว่ามีหลายๆที่ๆรุ่นพี่รับน้องเพื่อที่จะหาเเฟน หาคนสำเร็จอารม(อย่างที่รู้กัน) ก็ควรพึงระวังไว้ ถ้าได้พบเห็นหรือได้ข้อมูลว่า สถาบันของเราจะรับน้องเเบบไหน พี่เขาบอกว่าก็ควรจำไว้ว่า "ชีวิตเราสำคัญที่สุด อย่าให้การรับน้องมาจบอนาคตเรา" โดนมากคำนี้
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 21 พฤษภาคม 2554 / 21:27
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 21 พฤษภาคม 2554 / 21:33
แต่เหมือนว่าคณะมหาลัยที่เข้าไปเรียนจะใช้ระบบโซตัส - -"
รู้สึกได้ยินแล้วแอบรู้สึกกลัวนิดหน่อย-มาก
แต่อยากรับน้องเร็วๆแล้ว
เค้าเรียกว่าเป็นการฝึกความเข้มแแข็งมีระเบียบวินัย
ไม่เหมือนกับมหาลัยค่ะ อธิบายไม่ถูกแต่ว่าคนล่ะแบบ
ส่วนม.เราไม่มีพี่ว๊ากค่ะ สบาย...แหะๆ
อยากจะบอกว่ารับน้องที่พระจอมเกล้าพระนครเหนือ
สนุกมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
พี่ระเบียบตอนแรกก็มาแนวโหด เสียงเข้ม ดุมาก
วันๆเอาแต่สั่งจัดแถว! ช้า!หมอบลงไป! ลุกนั่ง!
พอมาหลังๆ พี่ระเบียบเริ่มยิงมุกกันขำกระจาย
จากเครียดๆ ก็หายเครียดกันเลย
ยิ่งพวกพี่สันทนาการ เต้นกันมันส์มาก
จากที่เราไม่ชอบเต้น ไม่กล้าแสดงออก
รุ่นพี่เขาก็สามารถทำให้เราสนุกไปกับการรับน้องได้
รับน้องไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
แต่ทำให้เรารู้จักรัก และสามัคคีกันในหมู่เพื่อน และเคารพรุ่นพี่
ใครที่กลัวทำใจให้สบายๆ รับน้องไม่ได้น่ากลัวเลย
ข้อควรระวังในมหาลัย
*เหล้า ยาเสพ
*เพศตรงข้าม รุ่นเดียวกันหรือรุ่นพี่
*game , dota ,game online.
*ความขี้เกียจ ผัดวันประกันพรุ่ง เช่น อ่านหนังสือสามวันก่อนสอบ*อย่าเด้ดขาดครับ ไม่เหมือนตอนมัธยมนะ
*
แต่ขอย้ำอีกทีนะครับว่าข้อความทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดของผม
ขอให้ประสพความสำเร็จด้านการเรียน และใช้ชีวิตครับ
เพราะ *ชีวิตเป็นของเรา* ไง