สวัสดีค่าสาวๆ NUGIRL ช่วงนี้พี่เตยกำลัง
อินกับเรื่องการมาส์กหน้าและสครับหน้ามากๆ
เลยค่ะ ยิ่งเป็นสูตรมาส์กและสครับที่เป็นแบบ
DIY ที่เราสามารถทำเองได้ที่บ้าน พี่เตยยิ่งชอบ
เลยค่ะ เพราะทำง่าย ประหยัด แถมยังได้ผล
จริงด้วยค่ะ ก่อนที่เราจะไปดูคลิปวีดีโอที่
“พี่เบล sistafriend” สอนสาวๆ NUGIRL
ทำสครับ เรามาทำความรู้จักกับการสครับ
ให้ ละเอียดมากขึ้นก่อนดีกว่าค่ะ

Scrub คืออะไร??

    ผิวหน้าของเราเป็นส่วนที่ละเอียดอ่อน
และต้องการการดูแลมากกว่าส่วนอื่น การ
สครับผิวคือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมา
โดยเฉพาะเพื่อช่วยเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
ออกไป รวมถึงคราบความสกปรกต่างๆ และ
ก้อนไขมันที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนออกไป ทำให้
ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส และดูมีสุขภาพดี นอกจากนี้ยังช่วยให้เนื้อครีม ที่เราทาลงไป
ซึมเข้าสู่ผิวได้เร็วและดีมากขึ้นด้วยค่ะ

“สครับ” มีกี่ประเภท ?

เราแบ่งสครับผิวหน้าออกเป็น 2 ประเภทค่ะ คือ
    1. Natural Scrubs – คือสครับที่เราทำเอง ส่วนมากจะเอาจากธรรมชาติ และพืช
เช่น น้ำตาล กากกาแฟ และข้าวโอ๊ต ข้อดีของสครับประเภทนี้คือราคาไม่แพงหาซื้อง่าย
ปลอดภัยต่อผิว ไม่ระคายเคืองและไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ค่ะ

    2. Chemical Scrub – คือสครับที่ผลิตมาจากการสังเคราะห์ในผลิตภัณฑ์ทำความ
สะอาดผิวหน้า โดยทั่วไปจะมีหลายสูตรให้เลือกตามสภาพผิวของแต่ละคน ข้อดีคือใช้ง่าย
หาซื้อง่ายสะดวก แต่อาจจะมีราคาแพงและบางคนอาจจะต้องระวังเรื่องการแพ้และระคาย
เคืองต่อผิวในบางสูตรด้วยค่ะ

สครับอย่างไรให้ได้ผล?

* ก่อนจะสครับ เราต้องสำรวจสภาพผิวของตัวเอง
ก่อนค่ะ ว่าผิวของเรามีปัญหาตรงจุดใดบ้าง เราจะได้
เลือกสครับให้เหมาะกับผิวของเราค่ะ

ผิวมัน :: สาวผิวมันมักจะมีปัญหารูขุมขนกว้างและ
สิวเสี้ยนตามมา เพราะฉะนั้นควรเลือกสครับที่ช่วย
เรื่องสิวเสี้ยนและช่วยกำจัดคราบไขมันในรูขุมขน
ออกไปค่ะ

ผิวแห้ง :: หลายคนอาจคิดว่าสาวผิวแห้งไม่จำเป็น
ต้องสครับผิวหน้า แต่จริงๆ แล้ว ผิวแห้งก็ต้องการ
การสครับเหมือนกันค่ะ โดยอาจจะต้องใช้เป็น
สครับที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และต้องเป็น
เนื้อสครับที่อ่อนโยนต่อผิวด้วยค่ะ

ผิวแพ้ง่าย :: ใครว่าคนที่ผิวแพ้ง่ายไม่จำเป็นต้อง
สครับ สาวๆ ที่มีผิวแพ้ง่ายต้องเลือกผลิตภัณฑ์
ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและแอลแอฮอลล์ค่ะ
เวลาที่สคัรบผิวต้องทำอย่างเบามือ ไม่เช่นนั้น
อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้ค่ะ

* การสครับผิวทำแค่สัปดาห์ละ 1 ครั้งก็พอแล้วค่ะ
ถ้าทำบ่อยกว่านี้อาจทำให้ผิวบางและทำให้เกิดการ
ระคายเคืองได้ง่าย

* เวลาสครับผิวควรเลี่ยงช่วงที่ใกล้ดวงตา ระวัง
อย่าให่เม็ดสครับเข้าตาและปากค่ะ

* อย่าลืมสังเกตตัวเองว่าแพ้สครับตัวไหนรึเปล่า
ถ้าเกิดการระคายเคือง มีรอยแดงสิว/ผื่นขึ้น หรือถ้า
มีความผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นต้องหยุดใช้ทันทีเลยค่ะ

* หลังจากสครับผิวแล้วอย่าลืมทาครีม กันแดดด้วยนะคะ เพราะการสครับผิว จะทำให้ผิวบาง
และไวต่อแสงแดดมากขึ้นนั่นเองจ้า

* คนที่มีปัญหาสิวก็สามารถสครับผิวได้เหมือนกัน
ค่ะ แต่อาจจะต้องทำอย่างเบามือ ไม่ใช่นั้นอาจ
ทำให้สิวอักเสบมากกว่าเดิม

ประโยชน์ของการสครับผิว??

     1. การสครับผิวช่วยกำจัดคราบความสกปรก
ออกไปจากรูขุมขน เพราะการล้างหน้าด้วยโฟม
ล้างหน้าและการใช้โทนเนอร์อาจไม่เพียงพอค่ะ
การสครับผิวจะช่วยทำความสะอาดได้ล้ำลึกมาก
ยิ่งขึ้น ละยังเป็นการช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
ออกไป ทำให้ผิวหน้าดู สดใส เปล่งปลั่งค่ะ

     2. โดยปกติแล้วผิวจะทำการฟื้นฟูสภาพผิวจะมี
กระบวนการธรรมชาติเองทุกๆ 30 วัน แต่เมื่อเราเริ่ม
มีอายุมากขึ้น กระบวนการเหล่านี้ของผิวก็จะทำงาน
ช้าลงเป็นเหตุทำให้เกิดริ้วรอยขึ้นนั่นเองค่ะ การสครับ
จะช่วยกำจัด เซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปและช่วยฟื้นฟู
สภาพผิวให้กลับมาดูสดใสและเปล่งปลั่งเหมือนเดิมค่ะ

     3. การสครับช่วยกำจัดสิวเสี้ยนได้ด้วย
โดยเฉพาะสาวๆ ที่มีปัญหาเรื่องสิวเสี้ยน
บริเวณจมูกและคาง ลองใช้การสครับเข้าช่วย
สัปดาห์ละ 1 ครั้งเพื่อกำจัดสิวเสี้ยนออกไป
โดยไม่ต้องใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนแปะให้เจ็บตัว
ด้วยค่ะ

     4. ช่วยในการหมุนเวียนของเส้นเลือดใต้
ผิวหนัง ทำให้ผิวหน้าดูขาวใส เปล่งปลั่ง
ดูมีน้ำมีนวล เรียบเนียน น่าสัมผัส

    พี่เตยเองก็เป็นคนนึงที่ชอบการสครับหน้ามากก (มากกว่า
การมาส์กหน้าอีกค่ะ!) เพราะพี่เตยจะรู้สึกว่าผิวหน้าสะอาดขึ้น ผิวดูขาวใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ สาวๆ คนไหนที่ยังไม่เคยลองสครับหน้า อย่าลืมเอาสูตรของพี่เบลจากในวีดีโอนี้ไปใช้กันด้วยน้า ส่วนวันนี้ พี่เตยกับพี่เบลและคอลัมน์
Beauty Story ต้องไป ก่อนละน้า เจอกันใหม่ครั้งหน้ากับ
เคล็ดลับความสวย ความงามแบบนี้เหมือนเดิมจ้า บ๊ายบาย