วัสดีค่า น้องๆ เคยได้ยินคำพูดที่ว่า "เกิดมาทั้งทีต้องใช้ชีวิตให้คุ้ม" มั้ยคะ คุ้มในที่นี้ คงหมายถึง คุ้มที่ชีวิตได้ลองอะไรใหม่ๆ ที่มีความหลากหลาย ไม่ใช่การใช้เวลาให้คุ้ม 24 ชั่วโมงในหนึ่งวันเป็นแน่!!
                 เวลาในหนึ่งวันของเราถูกแบ่งเป็นกลางวันกลางคืน ส่วนหนึ่งน่าจะเอื้อให้ร่างกายทำงานเป็นเวลา เพราะร่างกายของเราก็มี "นาฬิกาชีวิต" ด้วยเหมือนกัน ถึงเวลากินก็ต้องกิน ถึงเวลางานก็ต้องทำงาน และถ้าถึงเวลานอนเราก็ต้องนอน

                 แต่นาฬิการ่างกาย ไม่ได้มีแค่ กิน นอน ขับถ่าย ทุกๆ อวัยวะในร่างกายมีเวลาในการทำงานและพักผ่อนด้วย ซึ่งเราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน และความไม่รู้นี้เองอาจไปทำร้ายร่างกายโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นถ้าทุกวันนี้น้องๆ ใช้ชีวิตแบบทวนเข็มนาฬิกาอยู่ล่ะก็ คงไม่น่ารักแล้วอ้ะ!! เพื่อให้ได้ปรับตัวและเข้าใจระบบในร่างกายมากขึ้น พี่มิ้นท์จึงขอนำเกร็ดความรู้ดีๆ เกี่ยวกับช่วงเวลาทำงานและการดูแลร่างกายมาฝากกันด้วยล่ะค่ะ
    
    พี่มิ้นท์ขอเริ่มจากช่วงเช้าไล่ไปจนถึงช่วงกลางคืนนะคะ เพื่อให้นึกภาพชีวิตประจำวันออกกันด้วย

                กรี๊งงง...(เสียงนาฬิกาปลุกโบราณมาก) เริ่มต้นกันตั้งแต่
07.00 - 09.00 น. เช้าๆ แบบนี้เป็นช่วงเวลาของกระเพาะอาหาร อาหารเช้าที่กินเข้าไปจะนำไปใช้งานได้อย่างดีเป็นพิเศษ เหมือนกับที่พ่อแม่ หรือ คุณครู ย้ำกันตลอดว่าให้กินข้าวเช้าด้วยนั่นเอง ส่วนคนที่ไม่กินข้าวเช้า ผลก็จะตรงกันข้าม คือ หัวช้า คิดช้า หน้าตาไม่แจ่มใส สำหรับวัยเรียนอย่างน้องๆ ก็ส่งผลกับการเรียนเราด้วย

              
• 09.00 - 11.00 น. เป็นช่วงเวลาของม้าม น้องๆ รู้จักม้ามหรือเปล่าคะ?? ม้ามเป็นอวัยวะภายในที่อยู่ชายโครงด้านซ้าย ทำหน้าที่ควบคุมการสร้างเม็ดเลือด น้ำเหลือง และควบคุมไขมัน โดยปกติโรคที่เกี่ยวกับม้าม ก็จะมีม้ามโต เป็นโรคที่สร้างเม็ดเลือดขาวได้น้อย เหนื่อยง่าย และม้ามชื้น ทำให้อาหารและน้ำที่เรากินเข้าไปเปลี่ยนเป็นไขมัน ผลก็คือ อ้วน!! ค่ะ ถ้าอยากให้ม้ามแข็งแรง เวลานี้คนช่างเม้าท์ต้องรูดซิปปากกันหน่อย เพราะเค้าว่ากันว่าต้องพูดน้อย กินน้อยค่ะ ม้ามจึงจะแข็งแรง

              
• 11.00-13.00 น. เป็นช่วงเวลาของหัวใจ เรียกว่าเวลานี้หัวใจจะทำงานอย่างเต็มที่ ถ้าไม่อยากให้สมองทำงานหนัก เวลานี้ก็ห้ามเครียดนะคะ หัวใจจะได้ไม่เหนื่อยล้าเกินไป แต่พี่มิ้นท์ว่าเวลานี้คงไม่เครียดอะไรหรอก อาจจะหิวนั่นเอง 555

              
• 13.00-15.00 น. เป็นช่วงเวลาของลำไส้เล็ก ให้ลำไส้เล็กได้ทำหน้าที่ดูดซึมสารอาหารเพื่อนำไปใช้ซ่อมแซมร่างกายได้สะดวกตามนาฬิกาเวลา น้องๆ จึงควรงดกินอาหารทุกอย่าง ไม่ว่าจะของคาว ของหวาน หรือขนมจุบจิบ ใครหิวก็อดทนรอหน่อย หลังบ่ายสามค่อยว่ากัน

             
  • 15.00-17.00 น. เป็นช่วงเวลาของกระเพาะปัสสาวะ ถ้าอยากให้กระเพาะปัสสาวะแข็งแรง อันดับแรก น้องๆ จะต้องไม่อั้นปัสสาวะ ซึ่งเป็นหลักสากลอยู่แล้ว เพราะนอกจากจะทำให้เป็นโรคนิ่วแล้ว ยังทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ด้วย นอกจากนี้ในช่วงเวลานาทีทองช่วงนี้ สิ่งที่ควรทำ คือ ทำให้เหงื่อออก เช่น การออกกำลังกายเบาๆ ก็ได้ค่ะ เพียงเท่านี้กระเพาะปัสสาวะก็จะแข็งแรงแล้ว


               • 17.00 - 19.00 น. เป็นช่วงเวลาของไต หน้าที่ของไต คือ การขับถ่ายของเสีย และขับสารพิษ สารเคมีที่อยู่ในร่างกายด้วย ดังนั้นไตจึงเปรียบเสมือนเครื่องกรองของร่างกายที่สำคัญมากๆ ในช่วงเวลาของไตแบบนี้ น้องๆ ควรทำจิตใจให้สดชื่น อย่านอนในช่วงเวลานี้ค่ะ ถ้าใครง่วงนอนในช่วงนี้บ่อยๆ แสดงว่าอาจจะมีปัญหาเรื่องไตเสื่อมได้นะ

              
• 19.00 - 21.00 น. เป็นช่วงเวลาของเยื่อหุ้มหัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจจะมีลักษณะเป็นถุง ซึ่งหัวใจของเราก็จะอยู่ในถุงนี้นี่เอง โรคที่พบได้กับเยื่อหุ้มหัวใจ เช่น เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ติดเชื้อ เป็นต้น วิธีการดูแลง่ายมากๆ แค่หมั่นทำสมาธิ และสวดมนต์ ทำใจสบาย อย่าเครียด ในช่วงเวลานี้ จะเห็นได้ว่าละครตอนเย็นช่วงประมาณทุ่มนึงก็จะเป็นละครเบาสมองให้ผ่อนคลายนั่นเอง แค่นี้ก็ช่วยดูแลให้เยื่อหุ้มหัวใจแข็งแรงได้แล้ว

              
• 21.00 - 23.00 น. เป็นช่วงเวลาของระบบความร้อนของร่างกาย ช่วงเริ่มมืดค่ำแบบนี้อากาศจะลดต่ำลง จึงเป็นช่วงที่น้องๆ ต้องทำร่างกายให้อบอุ่น อย่างแรก คือ อย่าตากลมเด็ดขาด เหมือนที่เขาบอกกันว่าอย่าออกไปตากน้ำค้างตอนกลางคืน เพราะจะทำให้ไม่สบาย รวมถึงถ้าได้อาบน้ำอุ่น กินน้ำขิงในช่วงนี้ก็จะดีมาก อ้อ...การเข้านอนในช่วงนี้ ยังช่วยให้สมองพักผ่อนเต็มที่ด้วยนะ


               • 23.00 - 01.00 น. เป็นช่วงเวลาของถุงน้ำดี ถุงน้ำดี เป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่เก็บสะสมน้ำดีหรือน้ำย่อยที่ออกมาจากตับ ไว้ใช้ในการย่อยอาหาร ถ้าร่างกายของเราขาดน้ำ ก็จะดึงน้ำจากถุงน้ำดีมาใช้ ทำให้ถุงน้ำดีข้น ผลที่ออกมาก็อาจจะทำให้เราตื่นกลางดึก นอนไม่หลับได้ค่ะ ดังนั้นการดูแลถุงน้ำดีควรดื่มน้ำก่อนเข้านอน แต่ก็อย่ามากเกินไปนะ ไม่งั้นคงต้องตื่นกลางดึกมาปัสสาวะแน่ๆ นอกจากนี้ชุดนอนที่ใส่ควรเป็นผ้าฝ้ายถึงจะดีที่สุด เพราะเสื้อผ้าที่เป็นไนล่อนหรือผ้าใบสังเคราะห์ จะไปดูดน้ำในร่างกาย ((ลึกซึ้งมาก))

             
  • 01.00 - 03.00 น. เข้าสู่ช่วงเวลาของวันใหม่ เวลานี้เป็นช่วงเวลาของตับ หน้าที่หลักของตับ ช่วยขจัดสารพิษในร่างกาย ซึ่งทำหน้าที่กันมาทั้งวัน ดังนั้นควรให้ตับได้พักผ่อนบ้าง เพราะถ้ากินเยอะและปล่อยให้ตับทำงานหนักเกินไป ตับจะปล่อยน้ำย่อยอกมามากกว่าปกติ และจะไม่ได้ทำหน้าที่หลักของตัวเอง สารพิษอาจจะตกค้างในตับได้ วิธีที่ดีที่สุด คือ ไม่ควรหาอะไรกินในช่วงนี้แล้ว เพื่อให้ตับได้พัก ป้องกันตับเสื่อม ดังนั้นน้องๆ ควรรีบเข้านอนดีที่สุดค่ะ จะได้ไม่หิวกลางดึกนะ^^

             
  • 03.00 - 05.00 น. เป็นช่วงเวลาของปอด มีหลายคนเคยบอกไว้ว่า ให้เราตื่นแต่เช้าแล้วมาออกกำลังกายในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก นั่นก็เป็นเพราะว่า ช่วงเช้าเป็นช่วงที่อากาศบริสุทธิ์และปอดทำงานได้ดี ใครที่ตื่นนอนในช่วงเวลานี้ปอดจะแข็งแรง ร่างกายจะสดชื่น ที่สำคัญหากร่างกายได้รับอากาศบริสุทธิ์เข้าไปมากๆ ผิวพรรณก็จะสวย เปล่งปลั่งด้วยล่ะค่ะ เอ้า..ใครอยากสวย อยากหล่อ ตื่นเช้าๆ ออกมาสูดรับออกซิเจนหน้าบ้านกันเร้วว


               • 05.00 - 07.00 น. เป็นช่วงเวลาของลำไส้ใหญ่ น้องๆ จึงควรขับถ่ายในช่วงเวลานี้ และควรฝึกขับถ่ายให้เป็นนิสัยทุกเช้า ถ้าน้องๆ มีพฤติกรรมที่ขับถ่ายไม่เป็นเวลา ก็จะเสี่ยงกับโรคลำไส้อักเสบด้วย เอาเป็นว่าใครที่ไม่เคยขับถ่ายช่วงเวลานี้ ลองค่อยๆ ปรับพฤติกรรมตัวเองดูนะคะ นอกจากนี้ควรทานอาหารที่มีกากใยสูง จำพวกผัก ผลไม้ มากๆ  ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยดูแลลำไส้ใหญ่ของเราได้จ้า

                 เครื่องจักรยังมีสวิตซ์เปิดปิด เพื่อเป็นการดูแลรักษาไม่ให้เครื่องเสื่อมสภาพ แล้วนับอะไรกับร่างกายของเราที่บอบบางกว่าตั้งเยอะ จะไปทำงานตลอด 24 ชั่วโมงได้ยังไง ซึ่งนาฬิกาชีวิตที่ พี่มิ้นท์ นำมาฝากวันนี้ ก็แจกแจงไว้ละเอียดยิบเลยว่าเวลาไหน สัมพันธ์กับอวัยวะส่วนไหนของร่างกายบ้าง
              
   รู้แบบนี้แล้ว ก็หันมาดูแลตัวเองกันเยอะๆ น้า ถ้าไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง ก็ขอแค่เข้านอนแต่หัวค่ำ พักผ่อนให้เต็มที่ ก็ช่วยฟื้นฟูร่างกายได้เยอะแล้วล่ะ

      ขอขอบคุณ

          อ้างอิงข้อมูลจาก
วารสาร อพวช. ฉบับที่ 102
รูปภาพประกอบจาก
www.spar.co.uk, www.athingbook.com

พี่มิ้นท์
พี่มิ้นท์ - Columnist พี่สาวใจเย็น ผู้เกิดมาในแอดมิชชั่นยุคแรก แต่เข้าใจ TCAS มากกว่า

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

31 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
' ลุงหนวด=) Member 3 ส.ค. 55 21:50 น. 3
เป็นความรู้ที่ไม่เคยได้รับมาก่อน\\*0*//
และไม่เคยได้เจอได้อ่าน
ขอบคุณมากๆเลยนะคะพี่มิ้นท์^^

มันมีสาระประโยชน์มากกกกกกกกกกกกก
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
lll-MiNt-lll Columnist 6 ส.ค. 55 17:04 น. 16
ตอบน้อง คห.4 ช่วงเวลาของสมองที่ควรพักก็ช่วงกลางคืนประมาณ สี่ห้าทุ่มเป็นต้นไปค่ะ ช่วงนี้สมองจะจัดระเบียบภายใน ถ้านอนหลับสนิท สมองจะเป็นระเบียบมากๆ และให้ตื่นขึ้นมาอ่านตอนเช้าๆ ประมาณตี 5 จะจำได้ดีเลยล่ะค่ะ :D
0
กำลังโหลด
embrace Member 6 ส.ค. 55 20:11 น. 17
ว้าว ขอบคุณความรู้ใหม่ค่ะ ไม่คิดว่าช่วงเวลาตี 5 หรือช่วงเวลา 9-11 โมงจะสำคัญขนาดนี้ มีเรื่องของสมองด้วย =[]=!!! โอ้ว ต้องหยุดอ่านดึกแล้ว ต้องฝึกนอนหลับสนิท >_<
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด