สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com .... ประสบการณ์เด็กนอกกลับมาเจอกับน้องๆ อีกแล้วล่ะ ^^ สำหรับวันนี้ พี่เป้ ขอพาน้องๆ ไปรู้จักเพื่อนใหม่ที่พกพาประสบการณ์เด็กนอกมาจากประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆ ไทย แต่มีขนาดเล็กกว่าไทยหลายเท่า นั่นก็คือ "สิงคโปร์" นั่นเองค่ะ แต่ถึงจะมีขนาดเล็ก แต่ก็ว่ากันว่าประเทศสิงคโปร์เค้าเจริญสุดๆ เลยล่ะ อยากรู้ว่าสิงคโปร์จะมีอะไรแล้วน่าสนใจแค่ไหน ต้องลองอ่านดูนะคะ
{pic-desc}
สวัสดีครับ เพื่อนๆ ชาวเว็บเด็กดีทุกคน ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวก่อนเลยนะครับ ผมชื่อ "นัท" ครับ ตอนนี้ก็กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนเบญจมราชูทิศจังหวัดจันทบุรี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (จะจบแล้ว) นัทเคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนในโครงการ Immersion Programe ซึ่งเป็นโครงการแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรมที่จัดขึ้นโดยรัฐบาลไทยกับสิงคโปร์ เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์อันดีของสองประเทศนี้ คือแบบว่าจะมีนักเรียนของเขามาที่โรงเรียนของนัท ส่วนนัทก็ไปที่โรงเรียนของเขาสลับกัน ^^
{pic-desc}
ในโครงการ Immersion Programe รุ่นที่นัทไปมีนักเรียนเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 23 คน ในตอนแรกที่นัทรู้ว่านัทได้ไปสิงคโปร์ ทัศนคติตอนนั้นก็คือ ประเทศเล็กๆ จะมีอะไรให้ดูสักเท่าไหร่กัน แต่พอได้ไปจริงๆ ยังไม่ทันลงจากเครื่องก็เห็นความแตกต่างกันอย่างมาก บ้านเมืองเขาดูวางตัวเป็นระเบียบสวยงาม(เพื่อนๆ คงเคยเห็นตามหนังสือไกด์บุ๊ค) ตอนที่เครื่องลงที่สนามบินชางงี (Changi) นัทยังพูดกับเพื่อนที่บินมาด้วยกันเลยว่านี่สนามบินเหรอ แบบว่าสนามบินเขามีแต่ต้นไม้ ดูไม่เหมือนกันสุวรรณภูมิเลย รัฐบาลที่นี่ใส่ใจเรื่องพื้นที่สีเขียวเป็นอย่างมาก ถ้าได้ไปสัมผัสจริงๆ ทุกที่ที่ไปเราจะเห็นสีเขียวของต้นไม้เต็มไปหมด ไม่เห็นขยะแม้แต่ชิ้นเดียว บ้านเมืองเขาสะอาดมากๆ และที่นัทสงสัยมากที่สุดเลยตอนไปคือ ตำรวจไปไหนกันหมด (แล้วผมอยากจะเจอเขาทำไมเนี่ย555+) ปกติอยู่เมืองไทยเดินไปนิดนั่งรถไปหน่อยก็เจอตำรวจแล้ว อาจารย์บอกว่าสิงคโปร์ดูแลความปลอดภัยของประชาชนด้วยกล้องวงจรปิดทั้งระบบ (มีกล้องอยู่ทุกที่ทั่วประเทศอ่ะ) ตำรวจจะออกมาเมื่อมีเหตุฉุกเฉินเท่านั้น
มาพูดถึงโรงเรียนที่นัทมาเรียนบ้างดีกว่า โรงเรียนนี้มีชื่อว่าโรงเรียนมัธยมนิวทาวน์ (New Town Secondary School) เป็นโรงเรียนที่เปิดสอนตั้งแต่ Grade7-12 พอนัทได้ก้าวเข้าไปในโรงเรียนก็จะเห็นรูปปั้น ภาพวาด จิตรกรรมฝาผนังที่นักเรียนเป็นคนทำวางและแขวนอยู่เต็มไปหมด มันก็ดูดีไปอีกแบบ นักเรียนที่นี่ส่วนใหญ่เป็นลูกครึ่งจีน หน้าก็เลยแบบนักเรียนไทยแหละ หมวยๆ ตี๋ๆ 555+ ถ่ายรูปมาดูไม่ค่อยออกเลยว่านักเรียนไทยหรือสิงคโปร์ 555+
{pic-desc}
แต่เพื่อนๆ ที่สิงคโปร์น่ารักกันทุกคนเลยนะครับ นักเรียนที่ไปจะมีบัดดี้ทุกคน คอยดูแลเราตลอดเวลาที่อยู่ที่นู่น พวกเขาน่ารักมากเลยดูแลเราทุกอย่าง แบบว่าไปเข้าห้องน้ำยังมาส่งอ่ะ 555+ นักเรียนที่ไปกับโครงการนี้จะอยู่ในโรงเรียนครึ่งวันเพื่อเรียนภาษา ส่วนอีกครึ่งวันทางรัฐบาลก็จะพาชมสถานที่ต่างๆ ตรงนี้แหละที่นัทชอบ 555+
เนื่องจากเรามาในนามรัฐบาลไทย ทางเขาเลยดูแลเราดีมากๆ ทั้งเรื่องอาหาร เรื่องที่พักและเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว ส่วนที่พักที่ได้ไปอยู่ ทางรัฐบาลจัดไว้ให้อยู่บนเกาะเซนโตซ่า (Sentosa) เพื่อนๆ คงเคยได้ยินมาบ้างนะครับ (ตอนนี้ที่ออกโฆษณาบ่อยๆ อ่ะครับ รีสอร์ทเวิล์ด เซนโตซ่า) แหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่ของสิงคโปร์ก็อยู่บนเกาะนี้แหละครับ เกาะนี้เลยเป็นเหมือนจุดขายของสิงคโปร์ไปเลย
{pic-desc}
ต่อไปเป็นเรื่องเที่ยวนะครับ ไปเที่ยวกันบ้างดีกว่า นัทไม่คิดเลยว่าประเทศเล็กๆ แบบนี้จะเนรมิตสิ่งต่างๆ ออกมาได้สวยมากๆ ที่แรกที่นัทจะพาไปคือ " เมอร์ไรออน" (สิงโตพ่นน้ำ) ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของสิงคโปร์เลย ใครไม่ได้ไปถ่ายรูปด้วย ถือว่ามาไม่ถึงสิงคโปร์จริงๆ ครับ เมอร์ไรออนจะมีลักษณะหัวเป็นสิงโต ส่วนหางเป็นปลา(คล้ายๆ นางเงือกบ้านเรา--*) หันหน้าออกสู้ท้องทะเล
{pic-desc}
ที่ต่อไปคือ สวนนกจูหลง ที่นี่เป็นสวนนกที่มีนกหลากหลายสายพันธ์มากๆ มีแต่นกสวยๆ ทั้งนั้นและที่นี่ยังมีการแสดงของนกอีกด้วย แต่นัทเสียดายมากๆ ที่ไม่ได้ดูเพราะตอนที่นัทนั่งรอดูการแสดงอยู่ ก็มีพายุเข้าแบบว่าแรงมากๆ เขาก็เลยของดการแสดง
ที่ต่อไปเลยก็คือ สวนสัตว์กลางคืนไนท์ซาฟารี เป็นสวนสัตว์กลางคืนที่มีขนาดใหญ่มาก ในการชมสัตว์เขาจะมีรถให้เรานั่งชม (เป็นคล้ายรถกอล์ฟบ้านเราอ่ะ 55+) ต่อกันหลายๆ คัน ระหว่างทางก็จะมีไกด์คอยบอกเราว่าเราต้องทำตัวอย่างไรเวลาชม สัตว์นั่นคืออะไร นิสัยยังไง แล้วก็ห้ามพูดคุยเสียงดังและห้ามเปิดแฟลชกล้องถ่ายรูปเด็ดขาด เพราะเป็นเวลากลางคืนสัตว์นอนอยู่อาจจะตกใจตื่นได้ สวนสัตว์ที่นี่เป็นแบบสวนสัตว์เปิดคือไม่มีลูกกรง จะมีเพียงรั้วไฟฟ้าเล็กๆ รอบๆ ที่มันอยู่เท่านั้น หากมันจะกระโดดข้ามมาคงไม่ยาก เพราะฉะนั้นทำตามที่ไกด์บอกทุกอย่างปลอดภัยที่สุด555+ และมีช่วงนึงที่นัทกลัวที่สุดเลยคือตรงบ่อจระเข้ จะมีช่วงนึงของบ่อที่น้ำตื้นๆ เขาก็ขับรถข้ามไปเลย นัทกลัวมากเพราะจระเข้มันอยู่ใกล้ๆ เอง กลัวมันจะเข้ามากัดอ่ะ 55+
SONG OF THE SEA
ส่วนที่ต่อไปนัทจะพาไปบริเวณริมหาดของเกาะเซนโตซ่า ที่นี่มีชื่อว่า "ซอง ออฟ เดอะ ซี (Song of the sea)" เป็นการแสดงม่านน้ำ(แสดงตอนกลางคืนนะครับ ^^) ที่นัทไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน สวยงามจนอธิบายไม่ถูกเลยครับ การแสดงม่านน้ำที่เราเคยดูส่วนใหญ่ก็มีม่านน้ำแค่ 1 ม่าน แล้วก็ฉายนู้นนี่ให้ดู แต่ที่นี่ ม่านน้ำจะปิดๆ เปิดๆ อยู่ตลอดเวลาแล้วก็มีหลายม่านด้วย จะแสดงในลักษณะการเล่านิทานที่เกี่ยวกับสายน้ำและท้องทะเล มีตัวการ์ตูนปลาแหวกว่ายอยู่บนอากาศ เอฟเฟ็กซ์ระเบิดต่างๆ ระเบิดเป็นจังหวะดนตรี
CHINA TOWN
มาคุยเรื่องการซื้อของฝากกันบ้าง สำหรับใครที่ชอบของฝากราคาสบายกระเป๋าก็มีแนะนำสองที่ครับก็คือ "ไชน่าทาวน์" เป็นชุมชนของชาวจีนมีขนาดใหญ่พอสมควร จะมีร้านค้าขายของฝากตั้งเรียงรายเต็มสองข้างทาง มีสินค้าให้เลือกมากมาย และยังมีวิวทิวทัศน์แนวจีนสมัยโบราณให้ดูด้วย ที่สำคัญใครพูดภาษาจีนได้ที่นี่เขาลดให้เป็นพิเศษเลยครับ อีกที่นึงคือ ห้างมุตตาฟาร์ ข้างในก็เป็นห้างคล้าย JJ mall เลย 525+ รกๆ นิดนึง ก่อนเข้าเขาจะมีพนักงานเอาสายพลาสติกมารัดปิดกระเป๋าเรา ป้องกันเราหยิบของใส่โดยไม่จ่ายเงิน(ก็ป้องกันเราขโมยแหละ55+)
เพราะสถานที่เขาของเยอะมากๆ กล้องวงจรปิดดูแลไม่ทั่วถึง พอเราซื้อของเสร็จเดินออกมาเขาถึงจะตัดสายออกให้ ของฝากในมุตตาฟาร์ก็จะมีทุกอย่างตั้งแต่ของกินจนถึงเครื่องมืออิเล็คทรอนิกส์ และที่สำคัญใครที่ชอบช็อกโกแลต ช็อกโกแลตที่นี่ถูกมากๆ ครับ เปรียบเทียบง่ายๆ เฟอร์เรโรบ้านเราลูกละ 13 บาท ที่สิงคโปร์คิดเป็นเงินไทยแค่ลูกละ 9 บาทเองครับ อีกที่นึงสำหรับคนที่ชอบเดินห้างหรูๆใหญ่ๆอยู่ใจกลางเมือง ก็คือ ห้างวิโว (ViVo) เป็นห้างขนาดใหญ่มากๆ แบบว่ามีแผนที่อยู่ทุกชั้นอ่ะครับ ป้องกันนักช๊อปหลงห้าง555+
ห้างสรรพสินค้า VIVO
เรื่องราวของประเทศสิงคโปร์ยังมีให้เราได้เรียนรู้ได้ค้นหาอีกมากมายครับ สิ่งที่นัทประทับใจมากกับการมาที่นี่กับโครงการ Immersion Programe นี้ คือการได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เราจะไม่มีทางได้เลยหากอยู่ที่เมืองไทย การที่นัทได้มาที่นี่เจอผู้คนมากมาย หลากหลายชาติและภาษา ทำให้นัทต้องเรียนรู้ที่จะพูดที่จะสื่อสารเพื่อให้นัทมีชีวิตรอดได้เมื่ออยู่ที่นี่ และสิ่งที่นัทจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ เพื่อนๆ ชาวสิงคโปร์ที่คอยดูแลเราทุกอย่างระหว่างอยู่สิงคโปร์ แม้จะเป็นเวลาเพียงไม่นานแต่เขาก็ทำให้นัทรู้สึกถึงความมีน้ำใจ ความโอบอ้อมอารีที่เขามีให้อยู่เสมอและมีให้อย่างเต็มใจ และที่นัทรู้สึกปลื้มมากๆเลยคือ วันเดินทางกลับ พวกเขาไม่ได้บอกนัทหรือคนอื่นๆ เลยว่าจะมาส่งที่สนามบิน แต่พอได้เวลาเช็คอินขึ้นเครื่องเขาก็มากันแบบยกห้องเลย มันตื้นตันและประทับใจมาก นัทจะไม่ลืมพวกเขาและจะจำไปตลอดเลยครับ
ส่วนเพื่อนๆ ที่อ่านแล้วอยากไปบ้าง นัทก็อยากให้เพื่อนๆ ตั้งใจสอบชิงทุนหรือค้นหาทริปต่างๆ ไปเที่ยว อย่าปิดกั้นตัวเอง อย่าคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ อย่าคิดว่าเมืองไทยยังไปไม่ทั่วเลยแล้วจะไปเมืองนอก นัทบอกได้เลยว่าประสบการณ์มันคนละอย่างกัน ง่ายๆ เลยลองคิดว่าถ้าคุณอยู่เมืองไทยคุณจะได้เห็นเมอร์ไรออนของจริงไหม นั่นแหละคือคำตอบว่าทำไมคุณต้องไปต่างประเทศ ไม่จำเป็นต้องไปสิงคโปร์ที่เดียวก็ได้ นัทขอให้เพื่อนๆ ที่อ่านได้มีประสบการณ์เด็กนอกกันเร็วๆ นี้ แล้วเอามาแบ่งปันกันนะครับ^^
โอ้โห อ่านแล้วอยากไปสิงคโปร์มากๆ เลยล่ะ ท่าทางจะต้องสนุกไม่น้อย (มีใครจะไปด้วยกันมั้ย? อิอิ) แต่ พี่เป้ ชอบประโยคที่น้องนัทบอกว่า "อย่าคิดว่าเมืองไทยยังไปไม่ทั่วเลยแล้วจะไปเมืองนอก" เป็นอะไรที่โดนใจมากเลย การที่เราจะอ่านหนังสือต่างประเทศสักเล่ม ก็ไม่เห็นจะต้องอ่านหนังสือภาษาไทยให้ครบทุกเล่มก่อนเลยจริงมั้ย ? เพราะฉะนั้นถ้าใครมีโอกาสสอบชิงทุนหรือโอกาสไปเที่ยวเมืองนอก ก็อย่าพลาดโอกาสนะคะ เพราะนอกจากความสนุกแล้ว ยังได้ประสบการณ์ใหม่ๆ อีกเพียบเลยล่ะค่ะ
photo credit : www.altumviditur.com
10 กฎแปลก (แต่จริง)
ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง
ณ โรงเรียนประจำแห่งหนึ่งของอินเดีย
มีกฎสุดเข้มหลายอย่าง เช่น
- ห้ามนักเรียนชายหญิงคุยกัน
- ห้ามใส่กางเกงขายาวเกินไป
และอีกมากมายที่ไม่น่าเชื่อ...
@ DEK-D.com , Study Abroad
On Sunday 21 MAR 2010
|
|
|
58 ความคิดเห็น
สิงคโปร์เป็นประเทศเล็กๆ ระบบการจัดการเขาดีมาก
สะอาดสุดๆ =A= ไม่เห็นขยะเลยล่ะค่ะ
หมากฝรั่งก็ไม่มีเลย
เคยไปนานแล้ว ติดใจสวนนกจูหลง ฮ่าๆ
ไม่ใช้เพราะสัตว์ แต่เพราะเด็กฝรั่งนั่งข้างๆ ว๊ากกก หน้าตาดีด้วย =,,,=
แต่สิงโตน้ำไม่ได้ไป TOT เพราะพ่อไปดูงาน เค้ามีเวลาจำกัด เลยตัดออกจากโปรแกรมเที่ยวซะ
แต่ประเทศเค้าสวยจริงๆ สะอาดมากอ่ะ
เราจะทิ้งกระดาษเช็ดชู่ (แอบทิ้ง) พ่อตีมือ ฮ่าๆ
เคยไปนานแล้ว ติดใจสวนนกจูหลง ฮ่าๆ
ไม่ใช้เพราะสัตว์ แต่เพราะเด็กฝรั่งนั่งข้างๆ ว๊ากกก หน้าตาดีด้วย =,,,=
แต่สิงโตน้ำไม่ได้ไป TOT เพราะพ่อไปดูงาน เค้ามีเวลาจำกัด เลยตัดออกจากโปรแกรมเที่ยวซะ
แต่ประเทศเค้าสวยจริงๆ สะอาดมากอ่ะ
เราจะทิ้งกระดาษเช็ดชู่ (แอบทิ้ง) พ่อตีมือ ฮ่าๆ เดี๋ยวโดนปรับ
เท่ห์มากเลย
เพื่อนผม ๕๕
อะไรบี บี นี่แหละ (นึกออกแล้วจะแว๊บกลับมาบอก55)
ชอบมากของถูกถูกใจขาช๊อปอย่างชาวเรา :)
แบบว่า 10 เหรียญสิงคโปร์เท่านั้นเอง
สิงคโปร์เป็นเมืองที่สะอาดมากถึงมากที่สุด
แถม Public Transport ก็ดีมากๆ
ทำไมเมืองไทยไม่เป็นแบบสิงคโปร์บ้างเล่านี่
ประเทศเค้าเล็กแต่พัฒนาได้สุดยอดมากเลยขอนับถือ น่าอิจฉาเทอนะอยากได้ทุนบ้างสมัครไงอะอยากไปอีก
อยากดูซองออฟเดอะซีมาก เมื่อกี้ลองหาในกูเกิ้ลสวยสุดๆเลยอะอยากดูของจิงบ้าง
สิงคโปร์ถ้ามีโอกาสได้ไปอีกก็จะไปค่ะ
บ้านเมืองสะอาดมากก สงสัยเหมือนกันว่าทำไมไม่มีตำรวจฮ่าๆ
ได้ยินว่าค่าตั๋วถูกมาก 4-5 พันเองอะ การศึกษาบ้านเค้าก็ดีมากด้วย มหาวิทยาลัยติดอันดับเอเชีย
แอบไปหารูปจากกูเกิ้ลมาฝากล่ะ สวยมากๆ เลย
เดี๋ยวพีเป้ก็แว้บไปเที่ยวตอนเกือนกรกฎากับท่านแม่
จองตั๋วเครื่องบินมาได้ ไปกลับคนละพันหกร้อยบาท
โฮกกก ถูก อยากไปไวๆ
สวย น่าไป....เคยชิงทุนนะครับแต่ไม่ได้ 55
song of the sea อลังการโคดดด แต่ว่ามันก้เฉยๆนะ 55555
ไปมาหมดเลยยย
เพื่อนสิงคโปร์ของเทอดูใจดีมากๆเรยนะ
(ห้างวีโว่สวยจัง มีน้ำพุด้วย นึกถึงพารากอนเลย 5555+)