พอไปถึงปุ๊บก็เจอปัญหาเลย คือสรุปว่าเจินหาโฮสท์ไม่เจอ แอบตกใจเพราะกลัวโดนทิ้ง เจินก็ทำใจมั่นๆ เดินตามคนอื่นๆ ไปเอากระเป๋า ระหว่างรอกระเป๋าก็มีเด็กคนนึงเค้าเดินมาชูป้ายชื่อแล้วก็ถามว่าใช่เจินมั้ย เจินก็ใช่ๆ เค้าเลยพาโฮสท์มา เจินก็เลยดีใจมากเพราะคิดว่าเรารอดแล้ว! พอเจอหน้าโฮสท์ครั้งแรกก็ตกใจนิดนึงเพราะเค้าตัวสูงใหญ่กว่าเจินมาก เน้นว่ามากกกกๆ หรือว่าเจินเตี้ยก็ไม่รู้ ฮ่าๆ ครอบครัวเจินมี mom dad แล้วก็น้องสาวอีกคนชื่อ Kaytlyn โฮสท์พ่อเจินยังเรียนอยู่เลยค่ะ ส่วนแม่ทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก บ้านเจินเป็นบ้านชั้นเดียว เค้าก็ดูแลเราดีมากทุกอย่าง จนถึงวันเปิดเรียนก็คือวันรุ่งขึ้นนั่นเอง โรงเรียนเจินชื่อ Maricopa High school แอบช็อกนิดนึงคือโรงเรียนใหญ่มากพอสมควร เกินครึ่งเป็นคนเมกซิโก และอีกครึ่งเป็นคนเอเชีย!! ส่วนใหญ่แล้วเป็นคนฟิลิปปินส์กับเวียดนาม ความหวังที่อยากจะเป็นที่รู้จักมีเพื่อนเยอะๆ จะได้อยู่อย่างสนุกๆ เฮฮาเนื่องจากเราเป็นคนเอเชียก็หายไปทันที เพราะว่าคนเอเชียเยอะมากกกกก แต่น่าเสียดายที่ส่วนน้อยมากจะรู้จักเมืองไทย
อีกอย่างโฮสท์เจินเค้าก็ช่วยให้เจินมีรายได้พิเศษเพิ่ม คือให้เจินช่วยรับเลี้ยงเด็กตามบ้านแทนเค้า ปกติพ่อแม่เด็กจะเอาเด็กมาส่งไว้ที่บ้านแล้วก็มารับกลับตอนเย็น แต่บางทีก็เกิดความจำเป็น อยากให้เราไปเลี้ยงที่บ้านเค้าเลย เค้าก็จะมาจ้างเจินช่วงเสาร์อาทิตย์หรือตอนเย็นๆ ของวันต่างๆ เจินก็จะได้เงินครั้งละประมาณ 20-50 ดอลเลยล่ะค่ะ ตอนนั้นเจินเริ่มรู้สึกว่าชีวิตเราโชคดีจั งแม้ว่าเราจะต้องอยู่คนเดียวแต่เวลาอยู่กับโฮสท์แล้วเราก็มีความสุขมาก รู้สึกชีวิตชักมันส์ การอยู่เมกาครั้งนี้เริ่มรู้สึกว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมากแล้ว จนในที่สุด...เค้าว่ากันว่าความสุขมักอยู่กับเราได้ไม่นาน หลังจากที่เจินมาอยู่แล้วได้ 3 เดือน โฮสท์แม่เริ่มตั้งท้องอ่อนๆ บ๊ะ!! มาท้องซะแล้ว ช่วงนี้อารมณ์เค้าหงุดหงิดมาก เค้าใส่อารมณ์เราบ่อย เราก็ไม่สนใจทำลืมๆไปเพราะเค้า ท้อง ท้อง ท้อง เจินก็ย้ำคำนี้ งานบ้าน การทำกับข้าว ที่เจินเคยออกปากว่าจะ ช่วยทำ กลับกลายเป็นงานที่เจิน ต้องทำ ถ้าวันไหนเจินไม่ทำก็จะโดนว่า และเนื่องจากว่าโฮสท์แม่ทำอาชีพรับเลี้ยงเด็ก นอกจากว่าเค้าจะชอบเอาเด็กมานอนร่วมห้องนอนกับเจิน แล้วเด็กเนี่ยก็จะร้องไห้ปลุกเจินตลอดเวลา เสาร์อาทิตย์เจินก็ต้องตื่นเช้าตลอดเวลาเพราะว่าที่บ้านเป็นบ้านชั้นเดียว เด็กเล่น ร้องไห้เสียงจะดังมาก ใครที่เคยไปเมกามาแล้วจะรู้ว่า บ้านที่นี่มีกำแพงห้องบางสุดๆ คือห้องข้างๆ พูดอะไร คุยอะไร ได้ยินหมด - -* แล้วก็ยังเรื่องห้องครัวเป็นอะไรที่งานหนักสุดๆ เนื่องจาก จาน+แก้วน้ำแล้วก็เศษขนมต่างๆ จะหกหล่นเยอะมากๆ เจินก็จะต้องทำหน้าที่เก็บกวาดทุกวันหลังเลิกเรียน แล้วก็ยังต้องทำมื้อเย็นให้เค้าทานรวมถึงเก็บกวาดด้วย แต่คือถ้าวันไหนเจินทำอาหาร เค้าก็จะเป็นคนเก็บกวาดแทนเรา และแล้วเรื่องนี้ก็เกิดขึ้น เพราะว่าเจินไม่ได้ทำความสะอาดหลังจากที่เค้าทำมื้อเย็นให้เจินทาน เพราะว่าวันรุ่งขึ้นเจินมีสอบ แล้วเจินก็เหนื่อยมากเพราะต้องตื่นตี 5 ครึ่งทุกวัน เลิกเรียนแล้วก็ยังต้องกลับมาทำความสะอาดให้ทุกวันอีก เช้าวันรุ่งขึ้นเค้าก็ส่งข้อความมาว่าเราว่า ทำไมเมื่อคืนไม่ทำความสะอาด ทิ้งไว้แบบนี้เค้ารับไม่ได้ กลับมามาล้างห้องน้ำด้วย! เจินก็ช๊อก ขอครูแอบไปร้องไห้ที่ห้องน้ำ ตอนนั้นเรารู้สึกว่าเราเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนนะไม่ได้มาเป็น maid ให้คุณ เจินเกิดอาการท้อมาก เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่ใช่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่เจินโดน เลยตัดสินใจโทรหาแม่ เล่าไปร้องไห้ไป อยากจะกลับแล้วทนไม่ไหวแล้ว แต่สุดท้ายเจินก็ตัดสินใจสู้ต่อโดยการกลับไปทำให้เค้า แล้วก็ทำเหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ เค้าก็ทำลืมๆไปเนียนๆ เลยอ่ะ หลังจากวันนั้นเจินก็ยังคงโดนอีกเรื่อยๆ หลายคนบอกว่าทำไมเจินไม่เปลี่ยนโฮสท์ เพราะด้วยปณิธานว่า หากเจินเจออะไรที่ไม่เฉียดเข้าใกล้ 1.โฮสท์ลวนลาม 2. บ้านสกปรก 3.สิ่งแวดล้อมขโมยเยอะ เจินก็จะไม่เปลี่ยนเด็ดขาดจะอดทนสู้จนถึงที่สุด และแล้วเจินก็ได้สู้สมใจเลยค่ะ =[]= ตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา แม้ว่าชีวิตเจินจะไม่ได้สวยหรูเหมือนของเพื่อนๆ คนอื่นๆ แม้ว่าความเหงาโดดเดี่ยวจะมีมาก เพราะว่าเจินต้องใช้ชีวิตเหมือนอยู่คนเดียวจริงๆ ตอนเป็นไข้ก็ต้องลุกขึ้นมาทำข้าวต้ม หายากินเองทุกอย่าง นานๆ จะได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนที เพราะว่าเมืองเจินไกลจากตัวเมืองมาก ต้องทำงานบ้านให้โฮสท์ตลอด แต่เจินก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่ามากนะคะ ที่เราได้เจอทั้งทุกข์ทั้งสุขไปพร้อมๆ กัน เจินก็อยากจะฝากเพื่อนๆ หรือน้องๆ คนไหนที่อยากไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนนะคะ ว่าชีวิตนักเรียนแลกเปลี่ยนมันไม่ได้แจ๊กพ๊อตแบบเจินทุกคน หากแต่เจินก็อยากให้ทุกคนเข้าใจว่า เมื่อเกิดอะไรขึ้นเราก็ควรจะต้องปรับตัวแล้วก็สู้กับมัน ผ่านมันไปให้ได้ เพราะมันก็เหมือนบททดสอบชีวิตอันหนึ่งที่อยากจะรู้ว่าความมุ่งมั่น ความเข้มแข็ง อดทนของคุณจะมีมากแค่ไหน หากเราต้องอยู่โดยปราศจากพ่อแม่ เพื่อนๆ และถิ่นกำเนิดของเรา แต่ใครที่กำลังตัดสินใ จเจินแนะนำนะคะว่า ถ้ามีโอกาสแล้วก็เลือกที่จะไปเถอะค่ะ แล้วคุณจะรู้ว่ามิตรภาพอีกฝั่งโลก ประสบการณ์ดีๆ จากดินแดนอันไกลโพ้นกำลังรอคุณอยู่.. :] จริงๆ แล้ว พี่เป้ ว่า ถ้าโฮสท์แม่ของน้องเจินไม่ท้อง เค้าอาจจะไม่อารมณ์แปรปรวนขนาดนี้ก็ได้นะคะเนี่ย :( ถ้าเป็นเราก็คงจะทำอะไรไม่ถูกเหมือนกันเนาะ จากดีกันมาตลอด วันนึงกลับมาว่ามาด่าแบบนี้ น่าน้อยใจจริงๆ เฮ้อ แต่อีกไม่นานก็จะได้กลับไทยแล้ว ยังไงน้องเจินและน้องๆ คนอื่นก็อดทนไว้นะคะ ไม่มีที่ไหนดีเท่าบ้านเราอีกแล้วล่ะ ^^ ส่วนใครมีประสบการณ์เด็กนอกสนุกๆ ก็ส่งมาได้เหมือนเดิมที่ pay@dek-d.com อดใจรอ แล้วเจอกันแน่นอน !! อ้อ แล้วถ้าใครยังจำประสบการณ์เด็กนอกเรื่องที่ผ่านๆ มาได้ ก็คงจะไม่มีทางลืมเรื่องของ "แพร" เด็กไทยที่มีโอกาสเข้าไปทำงานในวงการบันเทิงเกาหลี ตอนนี้เรื่องของแพรไม่ได้อยู่แค่ในเว็บ แต่ถูกตีพิมพ์เป็นพ็อคเกตบุคในเรื่อง Wonder Prae เมื่อฉันไปดังที่เกาหลี !? วางแผงแล้วที่ร้านหนังสือซีเอ็ดและร้านชั้นนำทั่วประเทศ หรือใครสนใจสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ก็ คลิก ได้เลยค่ะ
|
|||
แสดงความคิดเห็น
ถูกเลือกโดยทีมงาน
ยอดถูกใจสูงสุด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการที่จะลบความเห็นนี้ใช่หรือไม่ ?
54 ความคิดเห็น
เราก้อทำใจ
ตอนนี้อดทน ถือว่าเป็นประสบการณ์
พอใจแล้วที่ได้อยู่แบบนี้ เปลี่ยนไปก็ไม่รู้จะได้เจอแบบไหน
อ่านเรื่องของพี่เจินแล้วรู้จักเหมือนตัวเองยังอดทนไม่พอ พี่เจินเข้มแข็งมาก ๆ
ขอบคุณนะคะ อีกไม่กี่เดือนก็ได้กลับแล้ว =)
แต่ไปปีหน้านู่น ภาวนาให้เจอโฮสต์เยี่ยมๆ :)
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2553 / 17:45
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2553 / 17:46
อยากไปๆๆๆๆ
55555555555555555555555555555555555.
เก่งอ่ะ สุดยอดเลย
ข้างบนไม่เกี่ยว แต่ สู้ๆนะจ๊ะ ^^ จะส่งกำลังใจไปให้เยอะๆ ^^
อยากไป Arizona's mall คริๆๆ
แต่เราทำเองเพราะทนไม่ได้ (นี่ขนาดไม่ได้เข้าไปทุกวันนะเนี่ย)
อยากลองใช้ชีวิตต่างแดนมั่งจัง
Now i'm in Québec,Canada I have no friend. I try everything and it isn't getting better
but my host family is really nice. I hope everyday that it will be better TT