สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com .... ในปัจจุบัน ความต้องการในการส่งลูกหลานของคุณพ่อคุณแม่เพื่อไปเรียนซัมเมอร์ในช่วงปิดเทอมนั้นมีมากขึ้นในแต่ละปี เพราะการไปเรียนภาษานั้น ถือป็นการพัฒนาทักษะความรู้ทางด้านภาษา เก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆ เปิดมุมมองใหม่ๆ ฝึกฝนการใช้ชีวิตและพัฒนาระเบียบวินัยของเด็กๆ นั่นเอง และปัจจุบันได้มีบริษัทแนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศได้สนอโปรแกรมซัมเมอร์คอร์สตามประเทศที่บริษัทนั้นๆ ถนัด ซึ่งแต่ละโปรแกรมนั้นมีความหลากหลายและน่าสนใจแตกต่างกันไป แต่ถ้าสังเกตดีๆ น้องๆ จะเห็นว่า บางโปรแกรมก็เน้นราคาถูก แต่ถ้าดูรายละเอียดแล้วจะพบว่า คุณภาพของโปรแกรมหรือความสะดวกสบายนั้นน้อยมากๆ เพราะฉะนั้นวันนี้ พี่เป้ จึงมีคำแนะนำดีๆ น่าสนใจจาก คุณเศรษฐพล หรูตระกูล กรรมการผู้จัดการบริษัท เจ้นท์ โกลบอล เอ็ดดูเทนเมนท์ เน็ตเวิร์ค (Gent Edutainment) ซึ่งมีประสบการณ์ทั้งการเป็นผู้จัดโปรแกรมซัมเมอร์คอร์สและเป็น Group Leader ด้วยตัวเอง มาพูดถึงปัจจัยต่างๆ เพื่อป็นข้อมูลแก่ผู้ปกครองก่อนการตัดสินใจเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมให้แก่น้องๆ ค่ะ ^^
1. ประเทศและเมือง คำถามแรกที่ผู้ปกครองจะนึกถึงเมื่อมีความต้องการจะส่งลูกไปเรียนซัมเมอร์คอร์สต่างประเทศก็คือ "จะส่งลูกไปประเทศไหนดี" ซึ่งจริงๆ แล้วแต่ละประเทศต่างมีความน่าสนใจ และมีความเหมาะสมสำหรับอายุและวิถีชีวิตในการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น - ประเทศอังกฤษ เป็นประเทศเจ้าของภาษาอย่างแท้จริง เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญๆ และน่าสนใจทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และกีฬา โดยในแต่ละเมืองนั้น ก็จะมีความแตกต่างกัน เช่น ลอนดอน เป็นเมืองใหญ่และมีผู้คนที่หลากหลาย วิถีชีวิตของคนที่นี่จะค่อนข้างรีบเร่ง รวมทั้งการเดินทางไปไหนมาไหนก็จะใช้รถบัสและรถไฟใต้ดินเป็นหลัก แต่ก็เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจต่างๆ มากมาย ดังนั้นลอนดอนจึงเหมาะสมกับน้องๆ ที่โตขึ้นมาหน่อยเช่น ประมาณ 15 16 ปีขึ้นไป ส่วนเมืองอื่นๆ เช่น เมืองบอร์นมัธ ก็จะเป็นเมืองชายทะเลและเป็นเมืองมหาวิทยาลัย College Town ซึ่งผู้คนส่วนมากใจดีและเป็นมิตร และมีวิถีชีวิตที่ค่อนข้างสบายๆ ไม่รีบเร่ง จึงเป็นเมืองที่เหมาะสมกับเด็กเล็กหรือเพิ่งเคยเดินทางไปครั้งแรก - ประเทศสหรัฐอเมริกา โปรแกรมส่วนใหญ่ที่จัดไปประเทศอเมริกานั้นจะจัดไปตามเมืองใหญ่ เช่น บอสตัน ซานฟรานซิสโก ซานดิเอโก้ เหมาะสำหรับน้องๆ ที่ชอบความทันสมัยและต้องการอยู่ในเมืองใหญ่ที่มีบรรยากาศแบบสบายๆ นอกจากนั้นยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมายที่น้องๆ มักจะพบเห็นจากภาพยนตร์ Hollywood และยังมี Outlet เหมาะสำหรับน้องๆ ที่เป็นขาช้อปอีกด้วย - ประเทศนิวซีแลนด์ จะค่อนข้างเหมาะกับเด็กที่มีความชื่นชอบในธรรมชาติ บรรยากาศสบายๆ และชอบกิจกรรม Adventure ต่างๆ - ประเทศสิงคโปร์ อยู่ไม่ไกลจากประเทศไทยและมีวัฒนธรรมที่ไม่แตกต่างจนเกินไป จึงเหมาะสำหรับน้องๆที่เดินทางไปต่างประเทศครั้งแรก เพื่อให้เด็กรู้จักการใช้ชีวิตด้วยตัวเองก่อนที่จะส่งไปเรียนต่อในประเทศอื่นๆ เมื่ออายุมากขึ้น
สำหรับการค้นหาข้อมูลในแต่ละโรงเรียนนั้น สามารถทำได้ไม่ยาก เช่น การเข้าเวบไซต์ของโรงเรียน 3. ประเภทที่พัก หากผู้ปกครองต้องการให้นักเรียนมีการพัฒนาการทางภาษาและการเรียนรู้ 4. โปรแกรมการเรียน โปรแกรมซัมเมอร์คอร์สจะเป็นในลักษณะการเรียนภาษาอังกฤษในช่วงเช้า โดยเด็กเล็กจะเรียนร่วมกันเป็น Closed Group และเด็กโต (อายุ 16 ปี ขึ้นไป) จะเรียนร่วมกับนักเรียนต่างชาติ แต่ก็อาจจะมีบางโปรแกรมที่อนุญาตให้เด็กเล็กเข้าเรียนร่วมกับนักเรียนต่างชาติด้วยเช่นกัน แต่ปัจจุบันนั้นก็ยังมีโปรแกรมที่มีการอนุญาตให้เด็กเข้าเรียนร่วมกับชั้นเรียนจริงกับนักเรียนท้องถิ่นในโรงเรียน ซึ่งก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ข้อดีคือจะทำให้เด็กได้รู้เห็นประสบการณ์ใหม่ๆ ของการเป็นนักเรียนในต่างประเทศ ข้อเสียก็อาจจะทำให้เด็กไม่ได้ความรู้และไม่ได้รับการพัฒนาทักษะมากนัก เพราะการเข้าเรียนกับชั้นเรียนจริงนั้น นักเรียนเหล่านั้นจะเรียนในชั้นเรียนปกติ ในขณะที่เด็กไทยซึ่งอาจจะมีภาษาอังกฤษที่ยังไม่ดีนักอาจจะรู้สึกกดดัน ทั้งจากการฟังภาษาไม่ออก และไม่ได้มีความกล้าในการแสดงออก แสดงความคิดเห็นในห้องเรียน จึงอาจเป็นสาเหตุให้น้องๆ รู้สึกเบื่อก็ได้
นอกจากนี้ หลายๆ บริษัทได้พยายามจัดโปรแกรมให้น่าสนใจมากขึ้นโดยมีการเที่ยวในช่วงบ่ายมากขึ้น รวมถึงการจัดโปรแกรมเที่ยวในวันอาทิตย์เพิ่มเติมหรือแม้แต่โปรแกรมการท่องเที่ยวไปประเทศอื่นๆ แบบค้างคืน เช่น ไปเที่ยวประเทศฝรั่งเศส สก๊อตแลนด์ หรือเนเธอร์แลนด์ ซึ่งก็จะทำให้ราคาของโปรแกรมสูงขึ้นพอสมควร ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ไม่ควรดูแต่ปริมาณ ควรดูคุณภาพประกอบด้วยว่าเป็นโปรแกรมการท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจจริงๆ หรือไม่
บางบริษัทแม้ว่าจะเป็นตัวแทนแนะนำทางด้านการศึกษาหรือเป็นบริษัททัวร์ แต่อาจจะไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำซัมเมอร์คอร์ส ซึ่งมีลักษณะและรายละเอียดที่มีความแตกต่างกับโปรแกรมทัวร์ทั่วไป โดยผู้ปกครองสามารถขอดูรูปถ่าย หรือแม้แต่การอ่านคอมเมนท์จากน้องๆ ที่เคยเข้าร่วมผ่านโครงการของบริษัทฯ และหากเป็นไปได้ ผู้ปกครองควรขอพูดคุยกับหัวหน้ากลุ่ม เจ้าหน้าที่ที่จะดูแลน้องๆ ตลอดการเดินทาง เพื่อดูลักษณะท่าทาง บุคลิกลักษณะ ประกอบกับความน่าเชื่อถือของบริษัท หลายๆ บริษัทจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์ไปดูแลน้องๆ โดยการใช้พนักงานบริษัทเองหรือการจ้างเจ้าหน้าที่เฉพาะกิจ โดยเฉพาะบางบริษัทที่เน้นการจัดซัมเมอร์คอร์สเป็นหลักนั้น เจ้าของบริษัทหรือผู้บริหารก็จะเดินทางไปดูแลน้องๆ หรือเป็นหัวหน้ากลุ่มด้วยตัวเอง นอกจากนี้อัตราส่วนสำหรับนักเรียนต่อเจ้าหน้าที่ดูแลคนไทยนั้นไม่ควรมากกว่า 18: 1 ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะอยู่ที่ 15:1 แต่สำหรับบางโปรแกรมนั้นอาจจะมีอัตราส่วนที่สูงขึ้นเนื่องจากจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลท้องถิ่นเป็นผู้ช่วยในการดูแลนักเรียนด้วย
ราคาโปรแกรมที่ค่อนข้างถูกนั้น อาจมีด้วยกันหลายสาเหตุ เช่น บางบริษัทนั้นไม่มีประสบการณ์ในการจัดโปรแกรมมาก่อน จึงทำการตัดราคาตลาดเพื่อเป็นการดึงดูด หรือแม้แต่การตัดบริการบางส่วนหรือประหยัดค่าใช้จ่ายบางส่วนออกไปโดยผลักภาระให้เป็นค่าใช้จ่ายแอบแฝงที่ทางน้องๆ ต้องเป็นผู้จ่ายด้วยตัวเอง เช่น อาหารกลางวัน อาหารช่วงวันหยุด ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปและกลับโรงเรียน และอื่นๆ หรืออาจมีบางบริษัทนำเสนอโปรแกรมมาตรฐานที่ไม่ได้มีความหวือหวามากมาย หรือการลดระยะเวลาของโครงการให้สั้นลง เพื่อมารองรับความต้องการของผู้ปกครองบางท่านซึ่งมีความต้องการและข้อจำกัดที่แตกต่างกันออกไป
โดยสรุปแล้ว ลำดับแรกของการตัดสินใจเลือกโปรแกรมซัมเมอร์ให้น้องๆ นั้น ก็คือการเช็คข้อมูลโดยการพิจารณาใช้ปัจจัยต่างๆ ตามที่ได้อธิบายไปแล้วข้างต้น จากนั้นให้นำข้อมูลต่างๆ มาพิจารณาประกอบกับราคาก่อนการตัดสินใจเลือกโปรแกรมที่เหมาะกับความต้องการของทั้งตัวคุณพ่อคุณแม่และน้องๆ ค่ะ |
แสดงความคิดเห็น
ถูกเลือกโดยทีมงาน
ยอดถูกใจสูงสุด
อยากไปนะ
ประเทศไหนก็ได้
แค่สักครั้งในชีวิตก็ดีใจมากๆแล้ว
ประเทศไหนก็ได้
แค่สักครั้งในชีวิตก็ดีใจมากๆแล้ว
อยากไปแอฟริกาใต้ไม่ก็ยุโรปหรือเอเชียก็ได้ซักปีนึง
กำลังโหลด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการที่จะลบความเห็นนี้ใช่หรือไม่ ?
36 ความคิดเห็น
ประเทศไหนก็ได้
แค่สักครั้งในชีวิตก็ดีใจมากๆแล้ว
มีรูปผมด้วยแหะ แหะๆ
อยากไป Los Angeles
อยากไปเนเธอร์แลนด์