วิธีขอจดหมายแนะนำขั้นเทพ! (สำหรับศิษย์เก่าที่จบมานานแล้ว)

     สวัสดีค่ะน้องๆ และพี่ๆ ชาว Dek-D.com วันนี้ต้องขอสวัสดีผู้อ่านรุ่นพี่ด้วยค่ะ เพราะ พี่พิซซ่า จะพูดถึงการขอจดหมายแนะนำจากอาจารย์ สำหรับนักศึกษาที่เรียนจบไปนานหลายปี และรู้สึกเคอะเขินว่าจะกลับคณะเพื่อขอจดหมายแนะนำยังไงดี จะไม่ขอก็ไม่ได้ เพราะเป็นหนึ่งในสิ่งเอกสารสำคัญที่ใช้สมัครเรียนต่อปริญญาโท ฉะนั้นมาลดความเขินอายที่จะเข้าไปหาอาจารย์เก่าๆ กันเถอะค่ะ




เริ่มต้นยังไงดี


     คงจะรู้สึกแปลกๆ น่าดู ถ้าต้องกลับไปคณะอีก 5 ปีให้หลัง ซึ่งเรากลายเป็นผู้ใหญ่แถมทำงานแล้วด้วย พอเห็นน้องๆ นักศึกษารุ่นปัจจุบันแล้วก็น้ำตาตกในว่าทำไมเด็กๆ ถึงสดใสน่ารักกันขนาดนี้ แต่อย่ากังวลไปค่ะ ให้ท่องเอาไว้ว่าเราไม่ใช่คนเดียวในมหาวิทยาลัยที่ไปทำงานเพื่อเก็บเงินไปต่อโท และเมื่อเราพร้อมแล้ว เราก็ต้องกลับมาอย่างภาคภูมิค่ะ 






     จริงๆ ถ้าจบตรีแล้วไปทำงานเลย และคณะที่จะสมัครเรียนปริญญาโทไม่ได้กำหนดว่าผู้เขียน Recommendation Letter ต้องเป็นอาจารย์เท่านั้น ก็น่าจะให้หัวหน้าหรือเจ้านายเขียนให้ซักฉบับนึงนะคะ และเน้นชัดๆ เลยว่าที่ผ่านมาเราทำงานได้ดีขนาดไหน งานนั้นเกี่ยวข้องกับสาขาที่เรียนจบและจะไปเรียนต่อยังไง รวมถึงข้อดีต่างๆ ของเราในเวอร์ชั่นผู้ใหญ่ ยิ่งถ้าสมัยเรียนปริญญาตรีเกรดไม่ค่อยงามมากนัก จดหมายแนะนำจากนายจ้างจะช่วยดึงเกรดเราขึ้นมาเยอะเลยทีเดียวค่ะ



     ส่วนอาจารย์ที่เคยสอนสมัยปริญญาตรีนั้น อย่ามัวแต่คิดว่า "จะจำเราได้หรอ" แล้วไม่กล้าไปหานะคะ เพราะอาจารย์อาจจะจำเราได้ก็ได้ ถึงลืมชื่อ แต่พอเห็นหน้าปุ๊บท่านก็นึกออกเลยว่าคนนี้เคยนั่งเรียนแถวหน้าๆ ขยันจดยิกๆ และไม่เคยหลับด้วย แค่นี้ก็มีโอกาสได้จดหมายแนะนำเลิศๆ ฉบับหนึ่งแล้วค่ะ ส่วนการติดต่ออาจารย์นั้น ลองหาจากข้อมูลมหาวิทยาลัยว่ามีเบอร์โทรหรืออีเมลอาจารย์หรือไม่ และติดต่อขอนัดพบเมื่อท่านสะดวกค่ะ อย่าลืมนะคะว่าเราเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะแล้ว ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ 






ถ้าอาจารย์ไปเรียนต่อต่างประเทศหรือเกษียณไปแล้ว


     ถ้าอาจารย์ท่านนี้เป็นท่านที่เราสนิทมาก และอยากให้เขียนจดหมายแนะนำให้จริงๆ ไม่สามารถให้อาจารย์ท่านอื่นเขียนแทนได้แล้ว ก็ลองติดต่อภาควิชาหรือคณะที่อาจารย์สังกัดอยู่ค่ะ เพราะอาจมีข้อมูลว่าจะติดต่ออาจารย์ได้ที่ไหนบ้าง ถ้าโทรติดต่อแล้วพบว่าอาจารย์พักอยู่ที่ๆ เราไปหาได้ ก็ขอพบได้เลยค่ะ (ตามความเหมาะสมและความสะดวกของอาจารย์นะคะ ไม่ใช่ของเรา) และเมื่อไปพบก็เตรียมเอกสารประกอบทั้งหมดไปให้ครบ จะได้ไม่ต้องเดินทางหลายรอบ จากนั้นอาจจะเตรียมซองติดสแตมป์จ่าหน้าถึงตัวเองไว้ให้อาจารย์ด้วย เพื่อที่อาจารย์จะได้ส่งจดหมายกลับมาให้เราได้ค่ะ


     แต่ถ้าอาจารย์ไปเรียนต่อเมืองนอก หรือเราไม่สามารถเดินทางไปหาได้ ก็ขออีเมลอาจารย์ และส่งเมลไปแจ้งท่านก่อนว่าเราเป็นใคร อยู่รุ่นไหน เคยเรียนวิชาอะไรกับท่าน และควรแนบรูปไปด้วย (รูปที่คิดว่าอาจารย์ต้องนึกออกแน่ๆ ไม่ต้องเป็นรูปติดบัตรหน้าเครียดๆ ก็ได้ค่ะ) ฉบับแรกคือการทำให้อาจารย์จำเราได้ก่อน และจบด้วยการบอกว่าอยากขอจดหมายแนะนำ เมื่ออาจารย์ตอบตกลงกลับมาเราค่อยส่งเมลฉบับที่ 2 ที่สแกนเอกสารทุกอย่างแนบไปด้วย ทั้ง CV, Transcript, เรียงความ และข้อมูลของคณะที่เราจะไปเรียนปริญญาโท นอกจากนี้ก็ควรเล่าเรื่องที่เกิดกับเราหลังจากวันรับปริญญา จนถึงวันที่ติดต่อไป 






     จริงๆ ขั้นตอนการขอก็ไม่ต่างจากนักศึกษาปริญญาตรีปีสุดท้ายขอจดหมายแนะนำจากอาจารย์มากหรอกค่ะ เพียงแต่เราอายุมากขึ้น และห่างไกลจากคณะและมหาวิทยาลัยมานานหลายปีแล้ว ความสนิทสนมก็ค่อยๆ จางลง ทำให้เรารู้สึกว่า "ยากจัง ไม่รู้จะเริ่มยังไง" คนส่วนมากก็คิดแบบนี้เช่นกันค่ะ และเลือกที่จะติดต่ออาจารย์ครั้งแรกด้วยโทรศัพท์หรือส่งอีเมล แทนที่จะโผล่ไปเซอร์ไพรซ์เลย เพราะไม่กล้าพูดกับอาจารย์ตรงๆ ฉะนั้นครั้งแรกอนุโลมให้ติดต่อแบบนั้นได้ แต่ถ้าเราสามารถเดินทางไปพบอาจารย์ได้ ครั้งต่อๆ มาก็ควรไปพบด้วยตัวเองค่ะ นอกจากอาจารย์จะได้สะดวกสบายแล้ว ท่านก็จะมองว่าแม้เราโตเป็นวัยทำงานเหมือนกับท่าน แต่เราก็ยังเป็นลูกศิษย์ที่เคารพรักท่านเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด แบบนี้ท่านจะยิ่งจดจำเราในสมัยเรียนปริญญาตรีได้ชัดเจนแน่นอนค่ะ 



     บางคนคงเกิดคำถามขึ้นมาว่า "คณะจะยังเก็บข้อมูลอาจารย์ไว้อีกหรอ" ขอยืนยันเลยนะคะว่าสถานศึกษาทุกที่จะเก็บข้อมูลอาจารย์เก่าๆ ไว้ก็เพื่อสถานการณ์นี้แหละค่ะ และถ้าอาจารย์เปลี่ยนเบอร์ เปลี่ยนเมล แถมย้ายบ้านหลังจากที่ให้ข้อมูลคณะไว้ ก็อย่าลืมว่าอาจารย์ท่านก็ต้องมีเพื่อนอาจารย์ด้วยกันที่เราน่าจะไปถามข้อมูลได้

     อย่าคิดอะไรร้ายๆ ก่อนเริ่มลงมือทำอะไรนะคะ และแม้จะดูเหมือนเจอทางตัน เราก็สามารถเดินย้อนกลับทางเดิมแล้วหาทางใหม่ได้เสมอ ฉะนั้นรีบลงมือขอเลยค่ะ ขอเนิ่นๆ จะได้ได้เร็วๆ และสมัครเรียนต่อเมืองนอกได้ทันเวลา สู้ๆ นะคะ 





ข้อมูล
http://talk.collegeconfidential.com/parents-forum/679506-recommendation-if-teacher-has-left-
school.html
http://gradschool.about.com/od/askingforletters/f/How-To-Request-A-Recommendation-Letter-Two-Years-Later-And-While-Abroad.htm
พี่พิซซ่า
พี่พิซซ่า - Columnist คอลัมนิสต์ฝ่ายเรียนต่อนอก

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

โนมาเนียนา Member 7 ต.ค. 56 15:52 น. 1

อ่านแล้วคิดถึงอาจารย์ทุกคน

ลูกศิษย์ท่านเป็นล้าน แต่ท่านก็ไม่เคยลืมเรา ยิ่งทิ้งอะไรแสบๆ คันๆ ไว้เยอะ

เย้

0
กำลังโหลด
PiZZaPeaCH Member 30 พ.ค. 57 10:01 น. 2-1
ถ้าจะสมัครเรียนต่อเลยก็ขอได้เลยค่ะ แต่ไม่ควรขอนานเกินปีนะคะ มันจะดูหมดความน่าเชื่อถือ
0
กำลังโหลด

2 ความคิดเห็น

โนมาเนียนา Member 7 ต.ค. 56 15:52 น. 1

อ่านแล้วคิดถึงอาจารย์ทุกคน

ลูกศิษย์ท่านเป็นล้าน แต่ท่านก็ไม่เคยลืมเรา ยิ่งทิ้งอะไรแสบๆ คันๆ ไว้เยอะ

เย้

0
กำลังโหลด
PiZZaPeaCH Member 30 พ.ค. 57 10:01 น. 2-1
ถ้าจะสมัครเรียนต่อเลยก็ขอได้เลยค่ะ แต่ไม่ควรขอนานเกินปีนะคะ มันจะดูหมดความน่าเชื่อถือ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด