สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... เจอกับ พี่เป้ และเล่าประสบการณ์เด็กนอกสนุกๆ เช่นเคย^^ตอนนี้โครงการแลกเปลี่ยนต่างๆ ก็ทยอยสอบและประกาศผลกันไปเกือบหมดแล้ว ใครสอบผ่านก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ มีเวลาอีกนานมากกกให้เตรียมตัว ที่สำคัญเลยคืออย่าลืมฝึกภาษาเพิ่มเติมนะ
วันนี้มีประสบการณ์สนุกๆ จากรุ่นพี่มาฝากอีกแล้ว วันนี้ไปไกลกันถึง "เม็กซิโก" เลยค่ะ จะเป็นยังไง ต้องอ่านเลย~~
สวัสดีพี่ๆ น้องๆ และเพื่อนชาวเด็กดีนะคะ ชื่อพิชชาภรณ์ วงษ์ประเสริฐชาต ชื่อเล่นชื่อ "อีฟ" ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติค่ะ ติดตามเพจของ study abroad มานาน วันนี้เลยอยากจะมาแบ่งปันและขอเล่าถึงประสบการณ์ต่างๆ ในต่างแดนของอีฟให้เพื่อนๆ ชาวเด็กดีฟังบ้าง เรื่องราวอาจจะเก่าไปหน่อยนะคะเพราะไปแลกเปลี่ยนมาเกือบห้าปีแล้วค่ะ อีฟไปในโครงการ youth exchange program ของ Rotary D.3360 ตอนนั้นไปรุ่น 2009-2010 ( ปี 2552-2553 ) ไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศเม็กซิโก จะขอหยิบเรื่องราวต่างๆ ที่สนุกๆ และน่าประทับใจมาเล่าให้กับพี่ๆ น้องๆ ฟังค่ะ
เริ่มแรกเลยนะคะ ตอนนั้นที่จะเลือกไปออสเตรเลีย แต่ตอนนั้นโควตาเต็มค่ะ (ตอนนั้นคิดว่าไปดีหรือไม่ไปดีเพราะไม่ได้ไปประเทศที่อยากไปค่ะ แต่คิดว่าโอกาสมาแล้วก็เลยรีบคว้าไว้ ^^ ) ก็เลยต้องเลือกใหม่ มีให้เลือกใหม่ไม่กี่ประเทศ หนึ่งในนั้นมีเม็กซิโก ก็ตัดสินใจไปเม็กซิโกค่ะ เพราะรุ่นพี่ได้แนะนำว่าประเทศนี้ดี คนเฟรนด์ลี่ วัฒนธรรมต่างๆ ก็น่าสนใจ ก็เลยตัดสินใจไปค่ะ
บางคนพอได้ยินชื่อประเทศเม็กซิโก ถึงกับบอกเลยว่าเป็นประเทศที่ก่ออาญากรรมเยอะมาก และตอนนั้นไข้หวัดนก 2009 กำลังระบาดเลยค่ะ แต่ตอนไปถึงช่วงนั้นเขาคลีนประเทศหมดแล้วค่ะ สำหรับประเทศเม็กซิโกอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือค่ะ บางคนบอกว่าอยู่แถวแอฟริกา บ้างก็ว่าอยู่อเมริกาใต้ >__< อย่าเข้าใจผิดกันนะคะ คนที่นั่นจะใช้ภาษาทางราชการคือ ภาษาสเปน และภาษาของชนพื้นเมืองอีก 62 ภาษา ที่นั่นใช้สกุลเงินเปโซค่ะ
ตอนนั้นพอรู้ว่าได้เมืองและโฮสท์แฟมิลี่ก็ตื่นเต้นและดีใจมาก อีฟได้ไปอยู่เมือง Toluca(โตลูกา) ซึ่งเมืองนี้อยู่ใกล้ๆ กับเมืองหลวง(เม็กซิโกซิตี้)เลยค่ะ อากาศก็หนาวตลอดปี ถึงแม้ว่าแดดเปรี้ยงแค่ไหนก็ไม่ค่อยร้อนอยู่ดี เมืองอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2663 เมตร อุณหภูมิโดยเฉลี่ยทั้งปีช่วงตอนกลางวันจะอยู่ที่ 20-22 องศาเซลเซียส สำหรับการเดินทางมาที่นี่ อีฟนั่งเครื่องตรงไปที่ลอสแองเจลิสก่อน แล้วต่อไปที่เม็กซิโกซิตี้ ใช้เวลาในการเดินทางราวๆ 30 ชั่วโมงค่ะ เป็นการนั่งเครื่องที่นานมากเลยค่ะ จากนั้นโฮสท์ก็มารับที่สนามบิน
ไปถึงได้สองสองวันแรกก็มีปาร์ตี้เลยค่ะ เรียกได้ว่าเป็นความประทับใจแรกของอีฟเลยค่ะ ซึ่งโฮสท์บ้านแรกกับโฮสท์บ้านสอง (สองโฮสท์นี้สนิทกันมากค่ะ) จัดงานเลี้ยงต้อนรับเราอะ ดีใจมาก เราก็ไม่รู้มาก่อนเลย ตอนนั้นเค้าแค่บอกว่าจะพาไปบ้านโฮสท์ที่สองเพื่อไปกินข้าวด้วยกัน ตอนนั้นจำได้ว่านั่งกินข้าวอยู่ๆ ก็มีวงดนตรีเข้ามาร้องเพลงให้ ซึ่งทำเอาเรางงไปเลยค่ะ ส่วนนักดนตรีที่มาเล่นให้ฟัง คือนักดนตรีพื้นเมืองเม็กซิกัน เรียกกันว่า Mariachi
โฮสท์แฟมิลี่ของอีฟจะมีด้วยกัน 3 โฮสท์เลยค่ะ ซึ่งเป็นความโชคดีที่ได้ไปเจอโฮสท์แฟมิลี่ที่ดีและน่ารักทั้งสามครอบครัวเลย สำหรับโฮสท์แรกแม่เป็นคุณครูค่ะ เขาจะสอนเราพูดภาษาสเปนและให้เราท่องคำศัพท์ให้เขาฟังทุกวันเลยค่ะ ถือว่าเป็นความโชคดีของอีฟที่ยังมีคนสอนพูดค่ะ ส่วนโฮสท์พ่อทำธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ โฮสท์พ่อจะชอบไว้หนวดเยอะๆ (สไตล์ชาวเม็กซิเลยกันค่ะ) แล้วก็มีพี่ชาย 1 คน (ทำงานอยู่ต่างเมืองค่ะ) และพี่สาว อายุแก่กว่าเรานิดหน่อยค่ะ (โฮสท์พี่สาวตอนนั้นไปแลกเปลี่ยนที่เยอรมันค่ะ เราก็เลยได้ไปอยู่บ้านเค้า) สำหรับบ้านหลังนี้อยู่ในเมืองเลย ชอบตรงที่ไปไหนมาไหนง่ายสะดวกค่ะ สามารถเดินไปเที่ยวที่ใจกลางเมืองได้สบายๆ และอยู่ใกล้กับสนามฟุตบอลด้วย
มาถึงโฮสท์ที่สอง บ้านโฮสท์จะอยู่ไกลจากในเมืองมากค่ะแต่ดีที่แถวนั้นมีห้างสรรพสินค้า (ประมาณเซ็นทรัลบ้านเราค่ะ) ซึ่งบ้านนี้ก็มีลูกชายสองคน และลูกสาว 1 คน โฮสท์พ่อก็เป็นนักกฎหมาย พี่ชายเป็นหมอกับนักกฎหมาย ส่วนลูกสาวเรียนจิตแพทย์ค่ะ โฮสท์แม่เป็นแม่บ้านค่ะ จัดได้ว่ามีฐานะพอสมควรค่ะ สำหรับครอบครัวนี้เราไม่ค่อยได้ไปไหนกับครอบครัวเท่าไหร่ค่ะ เพราะโฮสท์ไม่ค่อยมีเวลาให้ค่ะ โฮสท์พ่อก็ทำงานอย่างเดียว แต่เราสนิทกับโฮสท์แม่มากเพราะชอบไปซื้อของไปตลาดกับโฮสท์แม่อยู่บ่อยๆ เขาจะดูแลเราดีมากๆ เหมือนเราเป็นลูกเค้าเลยค่ะ ให้คำปรึกษาและสอนทำอาหารให้ด้วยค่ะ อีฟก็ได้สูตรอาหารเม็กซิกันมาบ้างเล็กน้อย ครอบครัวนี้เวลามาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเป็นจะเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากเลยค่ะ
มาถึงโฮสท์สุดท้ายค่ะ เราได้กลับเข้าไปอยู่ในเมืองเหมือนเดิมค่ะ ใกล้กับโรงเรียนที่เรียนเลยค่ะ ตอนเช้าโฮสท์พ่อจะไปส่ง ส่วนตอนเย็นเดินกลับเองค่ะ สำหรับครอบครัวนี้โฮสท์แม่เป็นคุณครูและพ่อเป็นวิศวะค่ะ โฮสท์พ่อเป็นคนน่ารักและตลกค่ะ ชอบพาเที่ยวตลอด มีลูกสาว 1 คนและลูกชายอีก 2 คน สองหนุ่มนั้นไม่ต้องพูดถึง แซบสุดๆ เลยค่ะ มีเรื่องกันไม่เว้นแต่ละวัน ทำเอาเราปวดหัวไปเลยค่ะ แต่สองหนุ่มน้อยก็สามารถสร้างรอยยิ้มให้อีฟได้ตลอดเวลาเลย โฮสท์นี้ก็จะเป็นครอบครัวที่ชอบเที่ยวค่ะ ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องไปเที่ยว เราก็เลยได้ไปด้วยกับเขาด้วยค่ะ จัดได้ว่าได้เจอครอบครัวหลากหลายสไตล์เลย
มาถึงเรื่องเรียน อีฟได้ไปเรียนที่โรงเรียน IPEFH โรงเรียนนี้จะเป็นโรงเรียนสำหรับลูกคนมีตังค์ ประมาณรร.เอกชนบ้านเรา และค่อนข้างจะเข้มงวดค่ะ ที่นี่ส่วนใหญ่เข้าเรียน 7 โมงเช้า ว่าที่ไทยเข้าเช้าแล้วนะคะ ที่นี่เช้ายิ่งกว่าค่ะ เคยมาสายครั้งนึง แต่ถ้าประตูโรงเรียนปิดก่อน เขาก็ไม่ให้เข้า ชี้แจงให้ครูให้ฟังแล้วก็ไม่เป็นผลค่ะ วันนั้นเลยอดไปเรียนเลยค่ะ แต่จะเลิกเรียนเวลาบ่ายสอง ที่นี่จะมีชุดนักเรียนด้วยโดยใส่จันทร์ถึงพฤหัสค่ะ ส่วนวันศุกร์จะฟรีสไตล์ ใส่อะไรก็ได้ค่ะ ^^ อีฟได้ไปเข้าเรียนที่นั่นโดยได้อยู่เกรด 11 (ม.5) มาวันแรกเพื่อนๆ ก็ต้อนรับเป็นอย่างดี เข้ามาทักทายเราและแนะนำโรงเรียนค่ะ แสดงให้เห็นว่าเพื่อนๆ ที่นี่ friendly มากเลยทีเดียว บอกได้เลยค่ะว่าโชคดีมากที่ได้เจอเพื่อนที่ดีตั้งวันแรกยันวันสุดท้ายของการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเลยค่ะ
มาวันแรกก็ได้งานเลยค่ะ เพราะทางโรงเรียนจะจัดให้นักเรียนต่างชาติที่มาแลกเปลี่ยนได้แนะนำตัวเองและประเทศให้กับนักเรียนที่นั่นได้รู้จักค่ะ แต่ที่แน่ๆ คือต้องอธิบายเป็นภาษาสเปนค่ะ โดยให้เวลาเตรียมตัวสองอาทิตย์ คิดในใจ จะทำยังไงดี เพราะภาษาอังกฤษก็งูๆ ปลาๆ ส่วนสเปนไม่ต้องพูดถึงค่ะ อยากจะเอาหัวโหม่งพื้นโลก!! ตายละทำไงดี เราต้องเตรียมพรีเซนต์แนะนำตัวเองว่าเป็นใครมาจากไหน บลาๆๆ แต่โชคดีที่โฮสท์แม่และเพื่อนๆ ช่วยเตรียมตัวให้ พอถึงวันพรีเซนตฺ์ก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ ถึงจะตะกุกตะกักบ้างมากถึงมากที่สุด 555
และถือว่าเป็นโอกาสดีค่ะที่โรงเรียนที่อีฟเรียนมีชมรมต่างๆ มากมาย อย่างเช่น ชมรมดนตรี เต้น กีฬา อีฟเลือกเข้าชมรมเต้นค่ะ มันคือสิ่งที่อีฟใฝ่ฝันไว้เลยค่ะ มีโอกาสได้เต้นโชว์ที่โรงละครด้วย ตื่นเต้นมากๆ เพราะไม่เคยขึ้นเต้นให้คนดูเยอะขนาดนี้
สำหรับเมืองที่อีฟอยู่ สโมสรโรตารีบังคับให้เด็กแลกเปลี่ยนที่มาเมืองนี้ต้องเรียนภาษาสเปนเพิ่มค่ะ สำหรับอีฟถือว่าโชคดีเป็นอย่างมากเลยค่ะที่ได้เรียนภาษาเพิ่มเติม แต่ก็ต้องไปเรียนในคลาสที่เรียกได้ว่าเบสิคสุดๆ ค่ะ เพราะส่วนใหญ่คนเอเชียจะต้องเริ่มตั้งแต่พื้นฐานเลย แต่สำหรับพวกยุโรปกับอเมริกาใต้ที่มีพื้นฐานกันแล้วก็โชคดีกันไปค่ะ เพราะสำเนียงและตัวอักษรค่อนข้างใกล้เคียงกัน อีฟก็จะเรียนเหมือนเด็กอนุบาลเลย ตั้งแต่ท่องตัวอักษรไปจนถึงคำศัพท์ต่างๆ ค่ะ แต่ก็ทำให้เป็นภาษาสเปนเร็วขึ้นมานิดนึ่ง เรียนทุกวันจันทร์ – ศุกร์ โดยหลังเลิกเรียนจากโรงเรียนแล้ว ก็ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเลยค่ะ เรียนตั้งแต่ห้าโมงเย็นยันหนึ่งทุ่มเลย จัดเต็มทีเดียว สำหรับอีฟเรียนอยู่ประมาณสามเดือนเต็มเลยๆ ค่ะ จึงพอพูดได้บ้างเล็กน้อย
แต่ที่ประทับใจเลยคือ ทางโครงการได้จัดให้นักเรียนแลกเปลี่ยนเมืองที่อีฟอยู่ ได้ไปสอนเด็กๆ 2 วันค่ะ ประมาณไปให้ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมไทย ซึ่งจะสอนในวัฒนธรรมไทยและภาษาไทยให้กับเด็กๆ ค่ะ ตอนนั้นจำได้ว่าเด็กๆ ชอบภาษาไทยมากเพราะว่าตัวอักษรสวย และอีฟยังได้เขียนชื่อของน้องๆ เป็นภาษาไทยให้ พวกเขาเป็นที่ระลึกด้วยค่ะ
มาถึงเรื่องเที่ยว ต้องขอบอกเลยค่ะว่าเม็กซิโกเป็นประเทศที่มีเสน่ห์และยังมีสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอีกมากมายเลยค่ะ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้ไปก็ไปหลายที่อยู่ค่ะ แต่สำหรับโครงการจะมีทริปไปเที่ยวประมาณสองอาทิตย์ ซึ่งในส่วนของอีฟและเพื่อนๆ ได้ไปเที่ยวทางภาคใต้ของเม็กซิโก จะเป็นเมืองที่มีเป็นที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ค่ะ และที่ประทับใจเลยก็คือได้ไป ดู 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ที่เลื่องชื่อของเม็กซิโกนั่นก็คือ พีระมิด Chichen Itza อีกทั้งยังไป Tulum , แคนคูน ( Cancun) และ ปลายา เดล คาร์เมน ( Playa del Carmen) จัดได้ว่าเป็นทะเลที่สวยมากๆ
จะขอวนกลับมาทางตอนกลางของประเทศบ้าง กับสถานที่ที่สวยๆ นั่นก็คือเมืองโบราณ Teotihuacan ในภาษาพื้นเมืองแปลว่าเมืองของพระเจ้า ปัจจุบัน Teotihuacan เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเม็กซิโก มีโบราณสถานสำคัญคือ พีระมิดสุริยัน (พระอาทิตย์) พีระมิดจันทรา (พระจันทร์) และวิหารงู ตั้งเรียงกันอยู่ในแนวถนนที่เรียกว่า ถนนมรณะ.....อีกที่ที่เลืองชื่อเลยก็คือโรงละครแห่งชาติ Palacio de Bellas Artes เป็นสถาปัตยกรรมที่ถือว่าสวยงามเลยที่เดียวค่ะ ซึ่งอยู่ในละแวกเดียวกับจัตุรัสบอร์ดา (PLAZA BORDA) จัตุรัสใหญ่ใจกลางกรุงเม็กซิโกซิตี้
มาถึงเรื่องอาหารการกิน ที่นี่จะกินแป้งตอร์ตีย่า ( tortillas ) เป็นแป้งแผ่นรูปวงกลมทำมาจากแป้งข้าวโพดหรือข้าวสาลี นำไปห่อกับอาหารต่างๆ สำหรับอาหารที่โด่งดังไปทั่วทุกมุมโลกเลยก็คือ Taco ค่ะ จะเป็นแป้งตอร์ติญ่าห่อด้วยเนื้อสัตว์แล้วราดซอสพริก ที่สำคัญเลยคือมะนาวค่ะ คนที่นี่ชอบกินมะนาวมากถึงมากที่สุดขาดไม่ได้เลยค่ะ
สุดท้ายก็อยากจะฝากถึงพี่ๆ น้องๆ ชาวเด็กดีนะคะ ว่า ถ้าโอกาสมาถึงแล้ว แต่ถ้าไม่รีบคว้าไว้ก่อน บางทีมันอาจจะไม่มีมาอีกเลยก็ได้นะคะ ถึงแม้ว่าชีวิตการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจะสิ้นสุดลง แต่ความรู้และประสบการณ์ต่างๆ มันจะติดตัวเราไปตลอดเลยค่ะ เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าที่หาจากไหนไม่ได้เลยนอกจากตัวเราจะสร้างมันขึ้นมาและออกไปหามันเองค่ะ^^
เป็นอีกประเทศที่รวมอยู่กับในหลายๆ โครงการ นอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมากๆๆ แล้ว ยังได้มีโอกาสเรียนภาษาสเปนซึ่งเป็นภาษาที่มีคนใช้เยอะมากเหมือนกัน ไม่ควรมองข้ามเลยนะประเทศนี้^^ ส่วนใครมีประสบการณ์เด็กนอกสนุกๆ อยากแบ่งปันเพื่อนๆ บ้าง ก็เขียนและส่งมาได้ที่ pay@dek-d.com แล้วเจอกันจ้า
8 ความคิดเห็น
น่าไปมากครับ
เมด ดิฉันเองค่ะ เสียดายที่เขาไม่ได้เรียนตรงสาย แต่ตอนนี้เขาก็ไปได้ดี กับ การเรียนนักกายภาพบำบัด ปี 4 อิอิ ดีใจมีเพื่อนเป็นคนดัง
สวัสดีค่ะ พี่อีฟนะค่ะขอโทษที่ตอบช้านะพี่ไม่ค่อยได้เข้ามาดูเท่าไหร่ คือตัวน้องเองไม่ได้เป็น โรตารี ใช่ป่าว น้องสามารถสมัครได้นะค่ะ แต่พี่ไม่แน่ใจในพื้นที่ของการรับสมัครของน้องว่ารับรึป่าวนะค่ะ ส่วนค่าใช้จ่ายแล้วแต่ประเทศที่น้องไปนะค่ะ ตอนนี้พี่ไม่แน่จัยเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายค่ะ ถ้ามีอะไร ปรึกาาพี่ได้นะค่ะ ถ้าพี่ช่วยได้พี่ก็จะช่วยน๊า :)