สัมภาษณ์ติวเตอร์ : พี่ติงลี่ แห่ง Enconcept

            
         มาแล้วค่ะ มาแล้ว กับคอลัมน์สัมภาษณ์ติวเตอร์ดังที่ชาวเด็กดีรอคอย (หรือเปล่า) กับติวเตอร์สุด HOT ที่พี่แนนตั้งตารอจะได้สัมภาษณ์มาลงในเด็กดี ครั้งนี้พี่แนนได้โอกาสกระโดด (- -)? คว้าตัวติวเตอร์คนดังจาก Enconcept นั่นก็คือ พี่ติงลี่ มานั่งคุยกันแบบสบายๆ กันค่ะ ซึ่งพี่ติงลี่ก็เล่าเรื่องราวต่างๆ ที่น่าสนใจมากมายให้พี่แนนฟัง ชาวเด็กดีสนใจกันแล้วใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้น เราไปทำความรู้จักกับพี่ติงลี่ กันแบบเจาะลึก (อิอิ) กันดีกว่าค่ะ

พี่ติงลี่ : สวัสดีครับชาวเด็กดี
พี่ชื่อพี่ติงลี่ ชื่อจริง รชต กิตติโกสินท์ เรียนจบที่คณะอักษรศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เอกภาษาอังกฤษ โทภาษาฝรั่งเศส และศิลปะการละคร ครับ

พี่ติงลี่ :จริงๆ แล้วชอบภาษาไทยมากกว่า แต่พอมาเรียนมหาวิทยาลัยแล้วไม่ได้เลือกเอกภาษาไทย เพราะตอนเรียนภาษาไทยตอนปี 1 จะมีวิชาวรรณคดีไทย ภาษาไทยเบื้องต้น ซึ่งเป็นวิชาที่ยากมาก เลยรู้สึกว่าต้องทำไม่ได้ดีแน่ๆ ก็เลยเบนเข็มไปทางภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นวิชาที่ชอบเป็นอันดับ2 และทำคะแนนได้ดี และน่าจะไปได้กว้างมากที่สุด

พี่ติงลี่ : ต้องท้าวความไปว่าตอนเรียนก็สอนหนังสือด้วย และมีความสุขมากกับการสอน และสอนมาเรื่อยๆ จนสุดท้าย เรียนจบออกมา ไปทำงานอยู่ฝ่ายบรรณาธิการหนังสือแห่งหนึ่ง แต่ก็ออก เพราะมองว่าไม่ใช่งานที่เหมาะกับเรา พอเห็นประกาศรับสมัครงานของเอนคอนเสปต์ว่ารับสมัคร Edutainerก็สนใจว่าคืออะไร เพราะไม่เคยได้ยินศัพท์คำนี้ ก็พบว่า คำนี้มาจากคำว่า Educator กับ Entertainerคือ เป็นผู้ให้การศึกษาด้วย และให้ความบันเทิงด้วย ก็เลยพบว่า นี่แหละตัวเรา เพระว่าเราก็เคยสอนแบบสนุกสนาน เป็นพี่ เป็นน้อง เวลาติวก็ไม่จี้ให้ท่อง แต่ย้ำบ่อยๆและคุยไป บ่อยๆ ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ ก็เหมาะสมจึงสมัคร และผ่าน การคัดเลือกต่างๆ แล้วก็ได้มาทำงานที่นี่

พี่ติงลี่ : คอร์สที่สอนคือ Ultimate Grammar คือแกรมม่าล้วนๆ แต่ก็มีการสอดแทรกศัพท์ไปด้วย แต่เนื้อหาหลักก็คือแกรมม่า ที่เน้นตั้งแต่เบื้องต้น จนไปถึงระดับสูงคือมหาวิทยาลัย ก็จะยากนิดหนึ่งเพราะเราไล่มาตั้งแต่ต้นจนสูงสุด

พี่ติงลี่ : ต้องสนุกมาก่อนเลย เรียนแล้วไม่เครียด พี่มองว่าการที่เราเรียนโดยที่ไม่ต้องมีอะไรมาบังคับ และให้ผู้เรียนเลือกในสิ่งที่เค้าชอบจะไม่เหมือนโดนบังคับ ก็จะสนุก แต่การสนุกของเราก็จะไม่หนีห่างจากเนื้อหา เพราะจะมีคอร์สว่าวันนี้จะเรียนอะไร ก็จะให้อยู่ในกรอบตรงนี้ เวลาสอนไปแล้วสังเกตุเห็นว่า น้องเหนื่อย น้องเบื่อ ก็จะเริ่มหาเกมส์ หรืออะไรที่ดึงดูดใน มาปลุก แล้วค่อยโยงเข้าเรื่องที่ต้องเรียนวันนี้ คือเวลาเรามี ช่วงเวลาดีๆ หรือสนุก มันเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราจำ และ เข้าใจมากขึ้น

พี่ติงลี่ : พี่จะบอกทุกคอร์สเลยว่าที่เรียนแกรมม่าอยู่ทุกวันนี้ อย่าคิดว่าจะเอาไปสอบเพื่อจบ ม.6 หรือสอบเข้ามหาวิทยาลัย เพราะต่อให้ไม่ได้เรียนคณะที่เกี่ยวกับศิลปศาสตร์ อักษรศาสตร์ หรือเกี่ยวกับภาษา ก็ต้องเกี่ยวกับภาษาอังกฤษอยู่ดี ไปเรียนแพทย์ ตำราก็ภาษาอังกฤษ เรียนวิทยาศาสาตร์ตำราก็ภาษาอังกฤษ และไม่ใช่แค่นั้น จบไปก็ต้องเจอภาษาอังกฤษในชีวิตการทำงานอีก คนส่วนใหญ่ที่ไม่ชอบภาษาอังกฤษ ส่วนใหญ่เพราะว่าเรียนมาจากโรงเรียนแล้วมันคือการสอบ มันคือการที่ต้องท่องจำ พี่ก็จะปรับทัศนคติใหม่ว่า มันไม่จำเป็น เราไปดูหนังดูละครที่เป็นหนังฝรั่ง ดูไปเพลิดเพลินไป แต่เราก็ดูศัพท์ภาษาเค้าด้วย อาจจะอ่านซับไตเติ้ล หรือฟังเสียงเค้า นั่นก็คือการเรียนแล้ว หรือเริ่มจากสิ่งที่เราชอบก่อน เช่น ชอบฟังเพลง ชอบอ่านการ์ตูน ก็ลองมาดูในแบบภาษาอังกฤษบ้าง แล้วพี่เชื่อว่าภาษาอังกฤษมันจะอยู่ในทุกอย่าง

พี่ติงลี่ : แนวข้อสอบมองว่าเป็นแนวข้อสอบที่ เหมือนเดิม แต่ว่ามันอาจจะเปลี่ยนวิธีถาม แต่คำศัพท์จะยากขึ้น เพราะฉะนั้นการเตรียมตัว ตรงนี้ก็คือการท่องศัพท์ และเตรียมคำศัพท์ยาก วิธีการเดาศัพท์ เราจะดู Prefix หรือ Subfixตรงนั้น เป็นตัวประกอบ ส่วนเนื้อหาแกรมม่าจะไม่ค่อยยากเท่าไหร่ เตรียมพวกเรื่อง If Clause ,Relative Clause , A An Theซึ่งพี่ว่าเตรียมได้แน่นอน

พี่ติงลี่ : เรื่องการเรียนภาษาอังกฤษอย่างที่พี่บอกไว้ว่า มันไม่ใช่แค่จบ ม.ปลาย ในอนาคตพี่เชื่อว่าภาษาอังกฤษและ คอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่น้องๆ จะต้องใช้ในชีวิตประจำวัน พี่ไม่ได้มองว่ามันจะเป็นเรื่องของการทำงาน ที่ทำให้เราได้ตำแหน่งสูง ได้เงินเดือนสูง แต่มองว่าการใช้ชีวิตประจำวัน การที่เราไม่โดนหลอก เราจะสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างสะดวก เรียบร้อยได้ จะต้องพึ่งภาษาอังกฤษอย่างมาก เพราะฉะนั้นก็อยากให้ทุกคนตั้งใจเรียน ไม่จำเป็นต้องเชี่ยวชาญ หรือถูกทุกคำ แต่ต้องรู้ไว้ เพราะกันเอาไว้ในอนาคตจะได้ไม่โดนหลอก