สวัสดีค่ะ กระแสการรับน้องของชาว Dek-D.com ตอนนี้เดือดสุดๆ โดยเฉพาะในบอร์ดแอดมิชชั่น ที่มาโพสกระทู้แชร์ประสบการณ์รับน้องอันทรหดจนแทบแตก (ไม่เชื่อคลิกที่นี่) บางกระทู้เป็นกระทู้ที่พูดถึงระบบว๊าก หรือ SOTUS ว่ามีความเหมาะสมแค่ไหน รับได้กันหรือไม่ ซึ่งความคิดเห็นก็มีหลากหลายนะค่ะ ทั้งการยกข้อดีข้อเสีย หรือประสบการณ์ตรงจากหลายๆ คน จนคนอ่านมันส์ และระทึกไปตามๆ กัน - -" 

         อย่างตัวพี่แนนเอง เคยเป็นทั้งน้องใหม่ใสกิ๊งที่เข้าไปเป็นเด็กปี 1 ให้ว๊ากใส่ แล้วพอขึ้นปี 2 ดันกลายมาเป็นว๊ากเกอร์ที่น้องๆ ยี้ใส่ ไม่มีใครรัก แต่ยังพอเคารพอยู่บ้าง เหอๆ วันนี้จึงอยากจะขอแชร์เรื่องราวประสบการณ์รับน้องซะหน่อย เป็นยังไงลองอ่านดูนะคะ

          ระบบ SOTUS เท่าที่พี่แนนไปหาข้อมูลมา หลักๆ คือ ระบบการให้ความเคารพรุ่นพี่ ปฏิบัติตามกฎ รักษาธรรมเนียมประเพณี สามัคคี และมีจิตใจเข้มแข็ง แต่มาช่วงหลังที่มีปัญหาร้องเรียนต่างๆ ก็ไม่ได้เกิดจากระบบ SOTUS หรอกค่ะ มันอยู่ที่วิธีการมากกว่า การตีความระบบนี้ของแต่ละสถาบันก็ต่างตีความแตกกันออกไป และยิ่งนำมาใช้ก็ต่างกัน ยิ่งไปกันใหญ่ 

>>> เข้ากิจกรรมปี 1 เกลียดระบบว๊ากเข้าไส้

           อย่างตอนปี 1 พี่แนนเพิ่งเป็นเฟรชชี่น้องใหม่เข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัย ก็ได้ไปเจอกับการว๊าก ตอนนั้นก็คิดเลยว่า รุ่นพี่ที่เป็นว๊าก แก่กว่าเราแค่ปีเดียว มีสิทธิอะไรมาสั่งเราได้ ซึ่งกิจกรรมรับน้องของพี่แนน รุ่นพี่จะมีแบ่งเป็นฝ่ายสันทนาการ ฝ่ายเสบียง ฝ่ายพยาบาล และฝ่ายว๊าก ซึ่งฝ่ายว๊ากนี่ นึกจะมาก็มา

           ตอนพี่สันทนาการสอนร้องเพลงกัน อยู่ๆ ก็ลงมาโวยวาย บอกว่ามีคนกินแรง ร้องใหม่ๆ ร้องดังๆ แล้วก็สั่งให้เลิก เพราะร้องไม่ได้เรื่อง - -" แล้วก็ให้ปี 1 ก้มหน้า หลับตา แล้วก็ต่อว่า ทำไมทำได้แค่นี้ ใครไม่อยากทำก็ออกไป สารพัดจะกดดันด้วยคำพูด ตอนนั้นพี่แนนของขึ้นเลย อะไรของพวกเค้าเนี่ย !!

             เวลาทำกิจกรรมซ้อมเชียร์ของคณะ พี่ว๊ากก็มากดดันว่า คณะเราชนะมาตลอด พวกพี่เค้าทำกันไว้ดีขนาดนี้ จะมาเสียที่รุ่นพี่นี้แหละ โอ้ย ดูถูกมาก แล้วก็จะกำหนดว่าวันนี้ จะต้องมีเด็กปี 1 มากี่คน (รุ่นพี่แนนมีทั้งหมด 200 คน แต่มาร่วมกิจกรรมจริง 40 กว่าคนเอง) ถามว่า อีก 100 กว่าคนหายไปไหน ไม่ใช่ว่าเค้าไม่อยากร่วมกิจกรรม แต่บางคนก็มีภาระ หรือไม่สะดวก บ้านไกล บางคนก็ไม่ชอบที่รุ่นพี่มาสั่งๆ แบบนี้หล่ะ  แต่ดีที่ว่าเพื่อนที่ไม่เข้ากิจกรรม ก็ไม่เคยมาดึงคนที่ร่วมกิจกรรมออก มีแต่คนทำกิจกรรมนี่และพยายามโน้มน้าวให้คนไม่ร่วมมาร่วม เพราะการซ้อมเชียร์ จะต้องใช้คนจำนวนมาก ถ้าเอาคนมาตามเกณฑ์ไม่ได้ ประธานปี 1 จะโดนลงโทษ หรือเรียกกันว่า "โดนซ่อม" ค่ะ

>>> ต้องมาเสียน้ำตา เพราะพี่ว๊าก !!

              การโดนซ่อม ก็จะได้แก่ การวิ่งไปกลับสนามบอล ตามจำนวนคนที่ขาดจากจำนวนที่ตกลงไว้,ปั่นจิ้งหรีด,สะพานโค้ง ฯลฯ ดีว่าไม่มีการให้กินของประหลาดๆ แล้วคนที่โดนซ่อมมากที่สุด ก็ต้องประธานปี 1 ค่ะ เพราะต้องเป็นคนจัดการตามคำสั่ง ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องโดนรับโทษ ยิ่งคนขาดมาก ก็โดนหนัก !! 

             ตอนนั้นสงสารเพื่อนมาก เพราะไม่ใช่ความผิดของประธานเลย บางครั้งที่ประธานโดนโทษหนัก เพื่อนผู้ชายพี่แนนบางคน วิ่งลงจากสแตนด์เลย วิ่งไปช่วยประธานซ่อม ตอนนั้น พี่แนนกับเพื่อนอีกหลายคน ต่างเสียน้ำตากัน เพราะทั้งกดดัน สงสารเพื่อน และคิดว่าไม่ถูกต้อง แต่ว่าพวกเราก็ทำอะไรไม่ได้

            ใจพี่แนนตอนนั้นก็ไม่อยากทนเหมือนกันนะคะ อยากจะเลิกทำตั้งหลายครั้ง เพื่อนๆก็จะมาให้กำลังใจ และบอกว่า "ต้องช่วยกัน ต้องทำให้พวกพี่ๆเห็นว่า ปี 1 ทำได้" และถ้าพี่แนนเลิก เพื่อนๆก็ต้องเดือดร้อน ประธานโดนซ่อมอีก เลยต้องอดทน ไปทำให้รุ่นพี่เห็นให้ได้

             จนวันแข่งเชียร์ระหว่างคณะ รุ่นพี่แนนก็ได้รางวัลชนะเลิศมา วันนั้นพวกพี่แนนมีความสุขมาก 40 คนที่มีกันอยู่ พวกเราดีใจกันที่สุด และภูมิใจว่า พวกเราทำได้ และพี่แนนก็ได้เข้าใจวันนี้เองค่ะว่า สิ่งที่พวกพี่ทำมาทั้งหมด มันก็ได้กับตัวเองทั้งนั้น จึงได้เข้าใจรุ่นพี่มากขึ้น และก็ได้รู้จักตัวตนพี่ว๊ากจริงๆก็คราวนี้

>>> วินาทีต้องมาสวมวิญญาณพี่ว๊าก ที่น้องๆ เกลียดทั้งคณะ

             พอปี 2 คนที่เกลียดการว๊ากเข้าไส้อย่างพี่แนน ดันได้มาเป็นว๊ากซะอย่างนั้น จึงได้รู้ว่า เป็นว๊าก ก็ไม่ได้สบายเลยค่ะ เพราะพี่ว๊ากเอง ก็โดนกดดันจากพี่ปี 3 ปี 4 มาอีกทีว่า ต้องดูแลน้อง ให้น้องทำให้ได้ น้องแต่งตัวผิดกฎมหาวิทยาลัย ต้องเตือนน้อง เตือนไม่ได้ โดนซ่อม น้องไม่เข้าซ้อมเชียร์ โดนซ่อม น้องเหนื่อยแค่ไหน พี่ต้องเหนื่อยกว่า น้องกลับดึก พี่กลับดึกกว่า

             คนที่บ้าๆ บอๆ อย่างพี่แนน ต้องมานั่งเก๊กขรึม ปั้นหน้าดุ และโหด คิดดูว่าอึดอัดแค่ไหน จะหลุดก็ไม่ได้ ห้ามยิ้ม ห้ามหัวเราะ เจอเพื่อนเล่นมุกตลกให้น้องดู ยังต้องวิ่งไปแอบหัวเราะ ทรมานสุดๆ

             และสิ่งสำคัญของการเป็นว๊ากของคณะพี่แนนคือ ไม่แตะเนื้อต้องตัวน้องเด็ดขาด!! เพราะฉะนั้นการลงโทษ จะไม่มีการลงไม้ลงมือแน่นอนค่ะ การลงโทษก็จะออกแนวเหนื่อยๆ กีฬาๆ ทรมานร่างกาย ซึ่งการลงโทษทุกอย่าง พี่ว๊าก จะโดนเป็นสองเท่าของรุ่นน้องตลอดค่ะ ตอนนั้นทั้งกดดัน ทั้งเหนื่อย ท้อด้วย เพราะน้องก็ไม่ค่อยมาร่วมกิจกรรม อยากจะเลิกอีกเหมือนกัน แต่ก็เลิกไม่ได้ ดีว่าหน้าที่นี้ มีแค่ 1 เทอมเท่านั้น คือหลังกิจกรรมเชียร์เสร็จค่ะ

               จากพี่แนนเจอมากับตัว ทำให้พี่แนนได้แง่คิดจากทั้ง 2 สถานะเลยค่ะ เป็นทั้งรุ่นน้องที่โดนว๊าก และเป็นทั้งพี่ว๊ากจนโดนน้องเกลียด โชคดีว่าวิธีการรับน้องของรุ่นพี่ก็ไม่ได้มีการใช้กำลังรุนแรง พี่แนนเลยผ่านมาได้ วันนี้เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์กับน้องๆ กันค่ะ

               สุดท้ายนี้ พี่แนน สนับสนุนกิจกรรมรับน้องที่ถูกหลักทุกกิจกรรมนะคะ แต่ที่ "แอนตี้" สุดๆ ก็คือการที่รุ่นน้องไม่เคารพรุ่นพี่ และรุ่นพี่ไม่เคารพรุ่นน้องค่ะ ฉะนั้น พี่แนนว่า การใช้ระบบ SOTUS มันไม่ใช่เรื่องผิดค่ะ แต่ต้องใช้ให้ถูกวิธี และเหมาะสมเท่านั้นเอง ^_^

               ชาว Dek-D.com หล่ะคะ มีประสบการณ์รับน้องแบบไหนกันบ้าง แล้วคิดว่าการว๊ากนี่เหมาะหรือเปล่า มาแชร์กันนะคะ หรือจะเข้าไปแชร์กับเพื่อนๆ กลุ่มใหญ่ คลิกที่นี่ ได้เลย

พี่แนน
พี่แนน - Columnist พี่ใหญ่ฝ่ายกิจกรรมด้านการศึกษา และฝ่ายดูแลสุขภาพจิตของน้องๆ ในทีมให้เป็นปกติ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

BUNPINK Member 24 มิ.ย. 53 21:05 น. 11
เป็นพี่ว้ากค่ะ เป็นมาสามห้องเชียร์แล้วด้วย
แต่มหาลัยเราไม่มีการลงโทษอ่ะ
ไม่มีการด่า ไม่มีคำหยาบคาย
คุยกันด้วยเหตุผลมากๆ แต่ทำไมไม่มีน้องคนไหนกล้าขัดแย้งเลย

อยากจะบอกน้องๆคนที่กำลังไม่ชอบใจและเหนื่อยกับห้องเชียร์นะ
ว่าการที่พวกพี่มาว้าก มาว่าเนี่ย มันไม่สนุกหรอก
เหนื่อยทั้งกาย เหนื่อยทั้งใจ เรียนยังไม่ทันเสร็จก็ต้องออกมาเตรียมตัวรอรับน้อง
น้องทำไม่ได้ พวกพี่ก็อยากจะร้องไห้กันอยู่ตรงนั้น ว่าทำไม ฉันสอนไม่ดีเหรอ
น้องกลับบ้าน พวกพี่ก็ต้องประชุมกันต่อ กว่าจะเสร็จก็เกือบเที่ยงคืน
แล้วยังเรียนแปดโมงทุกวัน มีแลบด้วย แต่หน้าที่มันก็คือหน้าที่
หน้าที่ของพี่คือมาสอนน้องจนกว่าห้องเชียร์จะจบ
หน้าที่น้องคือ ทำตามกฎของห้องเชียร์จนกว่าจะจบ
หน้าที่ใครหน้าที่มัน
แล้วห้องเชียร์เนี่ย พี่ว่ามันให้อะไรน้องๆแน่นอน
อย่างหนึ่งหล่ะ มันสอนให้น้องรู้ว่า ไม่มีทางที่น้องจะสามารถทำอะไรตามใจตัวเองก็ได้
ยิ่งสังคมที่น้องอยู่ใหญ่ขึ้น สิทธิในตนเองยิ่งลดลง อย่าหวังเลยกับคำว่า สิทธิส่วนบุคคล
เวลาน้องต้องออกไปทำงาน น้องเป็นลูกน้องเค้า ยังไงก็ต้องทำตามคำสั่ง ถ้าไม่อยากถูกไล่ออก ไม่มีงานทำ
ไม่อย่างนั้น คงต้องหางานที่เป็นนายตัวเอง ซึ่งพี่ว่ามันก็ยากอยู่นะ
ส่วนเรื่องความอดทน สัมมาคารวะ หรืออะไรที่เหลือ มันก็เป็นเรื่องส่วนบุคคลว่าจะเก็บเกี่ยวอะไรออกมาจากห้องเชียร์

ยังไงก็สู้ๆหล่ะกันกับห้องเชียร์ ถือว่ามันเป็นเกมๆนึงที่เราต้องเล่นให้เคลียร์
ยาวมาก สำหรับเม้นท์นี้ หุหุ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
The_WhiHK Member 24 มิ.ย. 53 16:46 น. 1
เห็นด้วยสุดๆ ครับ ตรง
"แอนตี้" สุดๆ ก็คือการที่รุ่นน้องไม่เคารพรุ่นพี่ และรุ่นพี่ไม่เคารพรุ่นน้องค่ะ

0
กำลังโหลด
Tsukiyo Member 24 มิ.ย. 53 16:50 น. 2
ส่วนตัวยังไงก็เกลียดเรื่องพวกนี้อยู่ดี

ปัจจุบันอยู่ปี 4 แล้วยังไงก็ไม่ชอบพวกว๊าก ตัวเองเจอมาแล้วเลยไม่อยากให้ไปลงที่รุ่นน้องอีก

"รุ่นน้องไม่เคารพรุ่นพี่มันเพราะอะไร ทำไมไม่ลองคิดดูก่อนจะไปว่าเขา"

ตอนนั้นที่อยู่ปี 1 พวกรุ่นพี่ม่างก็ว๊ากจังเว้ย ตูก็เบื่อ รำคาญ อาจารย์แต่ละวิชาก็ปล่อยไม่เหมือนกัน บางคนเรียนวิชาไหน วิชานั้นจะปล่อยช้าหน่อย พอไปถึงเราก็รีบไปนั่งรวมกลุ่มที่นัดไว้ แม่มก็หาว่าตูขี้เกียจ มาสายต้องโดนลงโทษ แล้วมันก็ให้นั่งก้มหน้า เอามือไพล่หลังกับพื้นอิฐบล็อคตากแดดหน้าร้อน (เวลาบ่ายโมงกว่าๆ) ร้อนอิ๊บอ๋าย พอเพื่อนมันบอกว่าจะเป็นลมมันก็ไม่เชื่อ สุดท้ายมีเด็กเป็นลมต้องหามส่งโรงพยาบาล ถามหน่อยใครจะรับผิดชอบ ??

แถมตอนหามเพื่อนฉันไม่รู้มันทำยังไง ทำเด็กร่วงลงไปนอนกับพื้นเสียงดังลั่น !

ยังมีหน้ามาบอกว่ารุ่นตัวเองไม่เคยเจอ ร่างกายคนเรามีอะไรเหมือนกันมั้ย ?

ตอนรับน้องใหญ่ มันก็ประสาทนัก ให้คลานใต้ท้องรถ 4W ที่อาจารย์จอดไว้  แถมสถานที่ก็ดีมากค่ะ เศษกระเบื้องเศษกระจกเต็มเลย โคลนไม่หวั่น แต่เรื่องของมีคมน่าน่ากลัวนัก เพื่อนเราโดนบาดที่แขนเป็นแผลยาวตั้งแต่ข้อมือจนถึงข้อศอก

ส่วนตัวเราไม่โดนพวกนี้นะ คงเพราะมีรุ่นพี่ปี 3 ปี 4 ตอนนั้นคุ้มหัวให้อยู่ (ตีซี้กับพี่เขาไว้ พวกปี 2 เลยไม่กล้ายุ่งมั้ง)

ยังไงจะซ่อมน้องหรือว๊ากน้องก็ทำพอดีเถอะค่ะ ไม่อย่างนั้นผลเสียจะลงที่พวกรุ่นพี่เองแน่ๆ

คณะเราที่อยู่คือบัญชี แต่รับน้องเหมาะกับบัญชีมากค่ะ -*-

PS. ไม่ใช่คนมองโลกในแง่ร้าย แต่เพราะตัวเองเจอเรื่องแบบนี้มา ยังไงก็ทำใจเรื่องรับน้องไม่ลงค่ะ
ถึงจะรู้ว่ามหาลัยอื่นไม่เป็นแบบนี้ก็เถอะ

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 24 มิถุนายน 2553 / 16:49
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

58 ความคิดเห็น

The_WhiHK Member 24 มิ.ย. 53 16:46 น. 1
เห็นด้วยสุดๆ ครับ ตรง
"แอนตี้" สุดๆ ก็คือการที่รุ่นน้องไม่เคารพรุ่นพี่ และรุ่นพี่ไม่เคารพรุ่นน้องค่ะ

0
กำลังโหลด
Tsukiyo Member 24 มิ.ย. 53 16:50 น. 2
ส่วนตัวยังไงก็เกลียดเรื่องพวกนี้อยู่ดี

ปัจจุบันอยู่ปี 4 แล้วยังไงก็ไม่ชอบพวกว๊าก ตัวเองเจอมาแล้วเลยไม่อยากให้ไปลงที่รุ่นน้องอีก

"รุ่นน้องไม่เคารพรุ่นพี่มันเพราะอะไร ทำไมไม่ลองคิดดูก่อนจะไปว่าเขา"

ตอนนั้นที่อยู่ปี 1 พวกรุ่นพี่ม่างก็ว๊ากจังเว้ย ตูก็เบื่อ รำคาญ อาจารย์แต่ละวิชาก็ปล่อยไม่เหมือนกัน บางคนเรียนวิชาไหน วิชานั้นจะปล่อยช้าหน่อย พอไปถึงเราก็รีบไปนั่งรวมกลุ่มที่นัดไว้ แม่มก็หาว่าตูขี้เกียจ มาสายต้องโดนลงโทษ แล้วมันก็ให้นั่งก้มหน้า เอามือไพล่หลังกับพื้นอิฐบล็อคตากแดดหน้าร้อน (เวลาบ่ายโมงกว่าๆ) ร้อนอิ๊บอ๋าย พอเพื่อนมันบอกว่าจะเป็นลมมันก็ไม่เชื่อ สุดท้ายมีเด็กเป็นลมต้องหามส่งโรงพยาบาล ถามหน่อยใครจะรับผิดชอบ ??

แถมตอนหามเพื่อนฉันไม่รู้มันทำยังไง ทำเด็กร่วงลงไปนอนกับพื้นเสียงดังลั่น !

ยังมีหน้ามาบอกว่ารุ่นตัวเองไม่เคยเจอ ร่างกายคนเรามีอะไรเหมือนกันมั้ย ?

ตอนรับน้องใหญ่ มันก็ประสาทนัก ให้คลานใต้ท้องรถ 4W ที่อาจารย์จอดไว้  แถมสถานที่ก็ดีมากค่ะ เศษกระเบื้องเศษกระจกเต็มเลย โคลนไม่หวั่น แต่เรื่องของมีคมน่าน่ากลัวนัก เพื่อนเราโดนบาดที่แขนเป็นแผลยาวตั้งแต่ข้อมือจนถึงข้อศอก

ส่วนตัวเราไม่โดนพวกนี้นะ คงเพราะมีรุ่นพี่ปี 3 ปี 4 ตอนนั้นคุ้มหัวให้อยู่ (ตีซี้กับพี่เขาไว้ พวกปี 2 เลยไม่กล้ายุ่งมั้ง)

ยังไงจะซ่อมน้องหรือว๊ากน้องก็ทำพอดีเถอะค่ะ ไม่อย่างนั้นผลเสียจะลงที่พวกรุ่นพี่เองแน่ๆ

คณะเราที่อยู่คือบัญชี แต่รับน้องเหมาะกับบัญชีมากค่ะ -*-

PS. ไม่ใช่คนมองโลกในแง่ร้าย แต่เพราะตัวเองเจอเรื่องแบบนี้มา ยังไงก็ทำใจเรื่องรับน้องไม่ลงค่ะ
ถึงจะรู้ว่ามหาลัยอื่นไม่เป็นแบบนี้ก็เถอะ

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 24 มิถุนายน 2553 / 16:49
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Aireena Member 24 มิ.ย. 53 18:52 น. 8
อ.พาร์ททามคนก่อนที่รร.เคยเป็นว๊ากเกอร์ อ.เค้าก็สอนดีนะ
แต่เวลาห้องเสียงดังแล้วพออ.ตะโกนคำเดียวเงียบกันทั้งห้องเลย 555+
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
อยากรับน้องง 24 มิ.ย. 53 20:30 น. 10
เราคิดว่าถ้าเป็นรุ่นพี่ที่ว๊าก แต่แบบ พอดีๆ
ไม่ถึงกับโหดมากมาย ก็อยากจะเข้าร่วมกิจกรรมนะ TT^TT
เราคิดว่าการรับน้องเป็นสิ่งที่ดีมากๆอ้ะ
มันทำให้คนในห้องรักกัน แถมรุ่นน้องเคารพรุ่นพี่อีก มันดีนะเราว่าอ่ะ
แต่ถ้าอะไรที่มันมากเกินไปก็ไม่ดีล่ะเนอะ
เพราะรุ่นน้องบางคนมันอ่อนแอบอบบาง.. อาจจะชอกช้ำกันได้
เห้อะ ๆ



อยู่มอสี่ อยากให้พี่มอห้ารับน้องมากกกกกก
สายเราสายเดียวล่ะมั้งที่ไม่ได้รับน้อง
มีพี่รหัสนะ แต่ไม่ยักกะจะเคยเห็นหน้า
เวลาเห็นรุ่นพี่ที่อยู่สายเดียวกันไอ่เราก็อยากจะทักทายจิงๆ 'หนูเปนรุ่นน้องพี่นะ"
แต่เซงโคตรร แบบไม่เคยเห็นรุ่นพี่เลย เศร้าๆๆๆ TT^TT
0
กำลังโหลด
BUNPINK Member 24 มิ.ย. 53 21:05 น. 11
เป็นพี่ว้ากค่ะ เป็นมาสามห้องเชียร์แล้วด้วย
แต่มหาลัยเราไม่มีการลงโทษอ่ะ
ไม่มีการด่า ไม่มีคำหยาบคาย
คุยกันด้วยเหตุผลมากๆ แต่ทำไมไม่มีน้องคนไหนกล้าขัดแย้งเลย

อยากจะบอกน้องๆคนที่กำลังไม่ชอบใจและเหนื่อยกับห้องเชียร์นะ
ว่าการที่พวกพี่มาว้าก มาว่าเนี่ย มันไม่สนุกหรอก
เหนื่อยทั้งกาย เหนื่อยทั้งใจ เรียนยังไม่ทันเสร็จก็ต้องออกมาเตรียมตัวรอรับน้อง
น้องทำไม่ได้ พวกพี่ก็อยากจะร้องไห้กันอยู่ตรงนั้น ว่าทำไม ฉันสอนไม่ดีเหรอ
น้องกลับบ้าน พวกพี่ก็ต้องประชุมกันต่อ กว่าจะเสร็จก็เกือบเที่ยงคืน
แล้วยังเรียนแปดโมงทุกวัน มีแลบด้วย แต่หน้าที่มันก็คือหน้าที่
หน้าที่ของพี่คือมาสอนน้องจนกว่าห้องเชียร์จะจบ
หน้าที่น้องคือ ทำตามกฎของห้องเชียร์จนกว่าจะจบ
หน้าที่ใครหน้าที่มัน
แล้วห้องเชียร์เนี่ย พี่ว่ามันให้อะไรน้องๆแน่นอน
อย่างหนึ่งหล่ะ มันสอนให้น้องรู้ว่า ไม่มีทางที่น้องจะสามารถทำอะไรตามใจตัวเองก็ได้
ยิ่งสังคมที่น้องอยู่ใหญ่ขึ้น สิทธิในตนเองยิ่งลดลง อย่าหวังเลยกับคำว่า สิทธิส่วนบุคคล
เวลาน้องต้องออกไปทำงาน น้องเป็นลูกน้องเค้า ยังไงก็ต้องทำตามคำสั่ง ถ้าไม่อยากถูกไล่ออก ไม่มีงานทำ
ไม่อย่างนั้น คงต้องหางานที่เป็นนายตัวเอง ซึ่งพี่ว่ามันก็ยากอยู่นะ
ส่วนเรื่องความอดทน สัมมาคารวะ หรืออะไรที่เหลือ มันก็เป็นเรื่องส่วนบุคคลว่าจะเก็บเกี่ยวอะไรออกมาจากห้องเชียร์

ยังไงก็สู้ๆหล่ะกันกับห้องเชียร์ ถือว่ามันเป็นเกมๆนึงที่เราต้องเล่นให้เคลียร์
ยาวมาก สำหรับเม้นท์นี้ หุหุ
0
กำลังโหลด
Ocimum Member 24 มิ.ย. 53 21:37 น. 12
หนุกออกรับน้องอ่ะมานั่งคิดตอนนี้(จบมาแล้ว 2 ปี) แระ ยังคิดถึงมหา'ลัยอยู่เลยสนิทกันมากเลยทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องอ่ะ 
0
กำลังโหลด
{RFC} RitZ-Tle Prince❤ Member 24 มิ.ย. 53 21:58 น. 13
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
โต๊ดเด็กโดดกิจกรรม 25 มิ.ย. 53 00:02 น. 16
ขอบคุณและอยากบอกพี่แนนว่าเข้าใจพี่แนนมากครับ เหมือนกับว่าได้อยู่ร่วมเหตุกาณร์กับพี่แนนมาเลยครับ
...ไม่นึกว่าถ้าน้องโดนแล้วพี่ต้องโดน2เท่า...รู้งี้ไม่โดดกิจกรรมดีฝ่าครับ...
555
0
กำลังโหลด
Ha€KeR๛ha€ Member 25 มิ.ย. 53 10:30 น. 18
เหอะๆอย่าให้เราพูด ของเราพี่ว๊าก เป็นรุ่นพี่ปี 4 พี่เขาจะมาว๊ากก็มา แถมทำโทษหนัก ให้นั่งเก้าอี้ลมตลอด

ขอบอกว่า  ทรมานมาก  พี่ว๊ากนี่ก็ไม่ได้มีคนเดียวนี่สิ มาล้อมๆ แล้วก็จะ บอกว่า ใครไม่ไหว ก็ออกไป!!! อย่ามาสำออย !!!

พอจัดแถว ก็บอกว่า คุณจัดแถวไม่เป็นหหรอไง  พอจัดแถวเสรจ เอามือลง ก็บอกว่า ใครให้เอามือลง

เอ้า พอเอาขึ้น พี่อีกคนบอกว่า ทำไมไม่เอามือลง เอาไงกันแน่ !!   = =

เพื่อนเราเป็นลม สามสี่คน อ่ะ พี่มาเมื่อไรทำโทษอีกที ก็มีคนเป็นลม พอคนไม่ไหวจริงๆ ก็บอกว่าอย่ามาสำออย

ก็รู้นะว่าพี่เขาแกล้งแต่เกินไป พูดจริงตอนนี้เราโดดรับน้องแล้ว  = = เพื่อนก็โดด เหตุผลคือไม่อยากเจอรุ่นพี่ว๊ากเกอร์

จะบอกไรให้นะ ถึงพี่ไม่ว๊าก เราก็บูชาเขาอยู่แล้ว เรารุ้น่าว่าใครเป็นพี่  

เราไม่ชอบพวกพี่ว๊ากเกอร์เพราะ  พอเราไหว้เขา พวกผู้หญิงอ่ะ เขาแบบว่าเมินเรา แล้วมองด้วยหางตา เพื่อนเราก็โดน

มันถือเหยียดหยามมากๆเลยนะ เราอุตสาห์เคารพเกรงใจแล้ว แต่ช่วยเหน่อยเหอะ เป็นรุ่นพี่ยังงี้ก็ไม่ไหว

แต่เราอ่ะรักพี่ปีสองเขาทุ่มเทมาก  = = เวลาพี่โดนลงโทษ ปี 1 ก็ร้องไห้ เราอะเฉยๆไม่ใช่ไร้หัวใจไรหน่ะ แต่เราก็สงสารพี่เขา แต่เพื่อนคนมันไม่มาอ่ะ

ให้ทำไง = =  บางคนต้องกลับตจว. จริงๆ

ตอนนี้ใกล้จะหมดรับน้องแหล่ะ วัน Freshy Day ใกล้เข้ามาแหล่ะ คงใกล้เฉลยพี่วินัย พี่วินัย=พี่วากเกอรื

แต่เพื่อนเราเขาเกลีดยพวกพี่เข้าไส้แล้วอ่ะ =  = ไอเราชอบพี่วินัยบางคนนะ บางคนหน้าโคตรดุ

มาเป็นพี่วินัย อึ๊ย!! ยังกะยักษ์

ปล.มาระบายฮ่าๆ ไม่ได้เครียดนะ แต่มันฮา
0
กำลังโหลด
ThE_KeY Member 25 มิ.ย. 53 16:17 น. 19

เห็นด้วยกับพี่แนนอย่างยิ่งเลยค่ะ ระบบ SOTUS ถ้ารุ่นพี่นำไปใช้ได้อย่างถูกต้องก็จะมีประโยชน์มาก แต่ถ้าใช้แบบผิดๆล่ะก็ ไม่อยากจะพูดค่ะโดยส่วนตัวแล้วเห็นด้วยกับระบบนี้อย่างยิ่งค่ะ ลองคิดดูนะคะ
S = การสอนให้เรารู้จักเคารพรุ่นพี่หรือคนที่มีศักดิ์สูงกว่า
O = การทำตามสิ่งที่บอก ที่สอน
T = การทำตามประเพณีที่ดีงาม
U = ความเป็นหนึ่งเดียว ความสามัคคีในหมู่คณะ
S = การมีน้ำใจ
     ในแต่ละตัวอักษรมันบอกความหมายของมันในตัวอยู่แล้วล่ะค่ะ พวกพี่ไม่ได้จะให้น้องท่องจำได้อย่างเดียว แต่อยากให้น้องๆนำเอาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตของน้องๆด้วยค่ะ รุ่นพี่ที่จบไปเค้าได้ดีเพราะคำเหล่านี้มากมาย อยากให้น้องๆลองเปิดใจให้กว้าง มองโลกในอีกแง่มุมหนึ่งบ้าง ชีวิตนอกรั้วมหาวิทยาลัยที่น้องๆจบออกไป ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบนะคะ พวกพี่ๆรู้ดีว่าน้องๆเวลาจบออกไปจะต้องเจอกับอะไรบ้าง การรับน้องจึงเป็นการเตรียมตัวให้น้องๆออกไปเผชิญกับโลกภายนอกรั้วมหาวิทยาลัยได้อย่างมีความสุข

     บางคนบอกว่า เจ้านายไม่ดุด่า หรือลงโทษแบบว๊ากเกอร์ทำ ==> อันนี้เราก็เข้าใจค่ะว่า บางคณะ บางมหาวิทยาลัย รับน้องแบบโหดๆอยู่ แต่บางแห่งการรับน้องแบบนี้ไม่โหด แต่อยากให้น้องๆเข้าใจว๊ากเกอร์เหมือนกันนะคะ บางคนอยากปาร์ตี้ เฮฮาบ้าง แต่ต้องทำหน้าเครียดขรึมตลอดเวลา ตะโกนเยอะๆพี่เค้าก็เจ็บคอเหมือนกันนะคะ พี่เค้าทำแบบนี้มีแต่บันทอนสุภาพตัวเองเปล่าๆค่ะ แล้วพี่เค้าทำอย่างนี้ทำไมคะ? น้องๆเคยรู้ถึงเบื้องหลังของพวกพี่ๆพวกนี้บ้างรึเปล่า? เค้าต้องซ้อมวิ่ง วางแผน เตรียมการรับพวกน้องๆเป็นเดือนๆ บ้านก็ไม่ได้กลับ ประชุมวางแผนกันดึกดื่น ต้องเรียนซัมเมอร์ ช่วงรับน้องพวกพี่เค้าก็ต้องไปเรียนเหมือนกันนะคะ น้องตื่นเช้า พี่เค้าก็ต้องตื่นมาด้วย บางคนต้องทำรายงาน ทำการบ้านนอนตีหนึ่งตีสอง ต้องตื่นมาซ้อมกีฬาให้น้องๆตอนตีห้าครึ่ง เข้าไปเรียนก็หลับ พอวันหนึ่งที่เราได้มายืนจุดเดียวกับพี่ว๊ากในตอนนั้น รู้สึกว่ารักรุ่นพี่ขึ้นมาอีกหลายเท่าเลยค่ะ เราเหนื่อย แต่เค้าเหนื่อยกว่ามากๆ
     พอวันที่พี่ต้องไปฝึกงานค่ะ รู้สึกของคุณพี่ว๊ากที่ทำใจแข็ง ดุเรา สั่งสอนเรามาก เวลาโดนด่า โดนว่า เราก็ทนได้ แต่ที่เจ้านายด่าว่าเรานั้น เจ็บแสบถึงทรวงยิ่งกว่าพี่ว๊ากรุ่นเก๋าๆอีกค่ะ มันทำให้เราได้คิดว่า การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยชีวิตมันไม่ง่ายเลย

     มีญาติ มีพี่ คนรู้จัก ฯ ที่ไม่เข้าเชียร์ แต่ก็ประสบความสำเร็จในการงาน มีเพื่อนฝูง ==> อันนี้จากประสบการณ์ ขอถามกลับค่ะ เพื่อนที่ว่าใช่เพื่อนตายรึเปล่าคะ เค้าคบกับคุณเพราะคุณยังมีประโยชน์กับเค้ารึเปล่า? ลองคิดให้ดีๆ เพื่อนๆในรุ่นเรา ผ่านการร่วมทุกข์ร่วมสุข เสียน้ำตาแห่งความเสียใจ ความดีใจด้วยกันมา ทำให้เพื่อนๆทั้งรุ่นพี่ๆ รุ่นเรา และรุ่นน้อง มีความรักความสามัคคีกันในรุ่นมากๆ อีกทั้งรุ่นพี่ๆที่จบไปแล้วก็ยังติดต่อ ไปมาหาสู่กัน คอยช่วยเหลือรุ่นน้อง คือถ้ามีปัญหา แค่ติดต่อไปค่ะ พี่เค้ารีบมาช่วยทันที

     มันเป็นละคร ==> อันนี้เป็นคำที่จี๊ดมากค่ะ เห็นพวกพี่เป็นดาราฮอลลีวู้ดหรือผู้เข้าชิงรางวัลสุพรรณหงส์กันรึไงคะ? สั่งปุ๊บน้ำตาไหล สั่งปุ๊บร้องไห้ สั่งปุ๊บเป็นลม สั่งปุ๊บเป็นไฮเปอร์ สิ่งที่พี่ๆทำให้ด้วยใจจริงกลับกลายเป็นแค่ละครฉากหนึ่งในความคิดของน้องๆแค่นั้นเองหรอคะ มันน่าน้อยใจค่ะ พี่ๆทุกคนเสียค่ากิจกรรมรับน้องให้พวกน้องได้อยู่ได้กิน แต่ละคนนี่ก็แทบกินแกลบแล้วนะคะ แล้วยังมีขนม มีของเทคให้น้องๆอีก รู้จักกันก็ไม่เคยรู้จัก เป็นพี่น้องคลานตามกันมาก็ไม่ใช่ ทำอาหารเลี้ยง น้องกินเสร็จพวกพี่มานั่งล้างจานต่อ ถ้าไม่ใช่มาจากใจของพี่ๆที่อยากให้น้องๆได้ดี อยากให้น้องมีความสุข เค้าทำไปเพื่ออะไร? ขอให้น้องๆลองคิดในข้อนี้ด้วยค่ะ

     วันๆนั่งร้องเพลงเชียร์ จะให้ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา ==> ที่อื่นเป็นไงไม่รู้นะคะ แต่เพลงคณะเรา รุ่นพี่ที่จบไปแล้วแต่งให้ค่ะ ทุกคนออกมาจากใจ ใครที่ได้ฟังเป็นซึ้ง บางเพลงน้ำตาไหล รุ่นพี่ที่จบออกไปร้องเพลงกันได้ทุกคน เพราะเค้าใช้ใจร้อง ใช้ใจจำค่ะ เป็นเพลงที่มีคุณค่า ถ้าน้องไม่ชอบก็อย่าเหยียบย่ำค่ะ เห็นใจคนที่กลั่นกรองมันออกมาด้วยใจบ้าง

     ที่ร่ายมาซะยาวเหยียดขนาดนี้ก็ไม่ใช่อะไรค่ะ เห็นกระทู้ต่อต้านระบบ SOTUS ระบบการว๊ากผุดขึ้นมามากมายเหมือนดอกเห็ด พวกคนที่ทำเค้าก็มีหัวใจนะคะ น้อยใจด้วย มหาวิทยาลัยหรือคณะที่ใช้ระบบ SOTUS ในทางที่สร้างสรรค์ก็ยังมีอีกเยอะค่ะ ถ้าจะยกเลิกก็ขอให้พิจารณาเป็นที่ๆไปค่ะ อย่าเหมารวมค่ะ ถ้าน้องๆได้มายืนอยู่จุดๆเดียวกับรุ่นพี่ในตอนนั้น น้องจะเข้าใจเองค่ะ

ปล. ความเห็นส่วนตัวจาก PH28_KKU44



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 25 มิถุนายน 2553 / 16:17
0
กำลังโหลด
~[N]-[E]-[W]~ Member 25 มิ.ย. 53 17:03 น. 20
เคยโดนตอนเข้าม.ปลายนะคะ ตอนแรกก็ไม่เข้าใจ ทำไมถึงต้องว๊าก ตอนนั้นกดดันมาก ๆ สุดท้ายก็มาเข้าใจตอนที่จบการรับน้องแล้ว มันทำให้เราเคารพรุ่นพี่มากขึ้น แต่ก็ไม่อยากให้น้อง ๆ โดน พอมาถึงคราวที่เราต้องรับน้องเข้าใจเลย เพราะเราไม่อยากให้รุ่นน้องโดนอย่างที่เราโดน เราเลยไม่ทำอย่างรุ่นพี่ สุดท้ายก็โดนจัง ๆ รุ่นน้องข้ามหัว ไม่เคารพรุ่นพี่กันเลย ตอนแรกก็คิดว่าเดี๋ยวน้อง ๆ จะปรับตัวได้ ที่ไหนได้ ไม่ไหว รุ่นน้องไม่เห็นหัวรุ่นพี่แล้ว ทั้ง ๆ ที่เราก็รัก และเอ็นดูรุ่นน้องมากกว่าที่รุ่นพี่ทำกับเราไว้อีก น้อง ๆ ไม่เคารพเรา รู้สึกแย่มาก ๆ เพื่อน ๆ ก็พากันไม่ชอบใจ มีเพื่อนคนนึงเหลือ อด เลยบอกให้น้องๆ ไปว่า "ตีสนิทได้ แต่อย่าตีเสมอ" ก็ดีขึ้นได้ซักพัก เเล้วก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ก็ไม่รู้จะทำไงกันแล้ว เลยปล่อยเลยตามเลย
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด