ติดนิสัย! อ่านไป ฟังไป จะรู้เรื่องไหม?
อันที่จริงแล้วต่อให้ไม่สงบนัก มีเสียงโทรทัศน์ วิทยุ เสียงคนข้างบ้านทะเลาะกันเป็นประจำ เข้าหูเราเวลาอ่านหนังสือ ที่ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า background noise คือ เจ้าเสียงรอบตัวเราที่เรารับรู้(และอาจรบกวน)เวลาเราทำอะไรสักอย่าง แต่เราก็ยังมีสมาธิ และเสียงเหล่านั้นก็ไม่รบกวนเรา นั่นก็เพราะสมองของเราสามารถเลือกรับเฉพาะสิ่งที่มีความสำคัญต่อเราเท่านั้น แต่บางทีคนเราก็จัดการสภาพแวดล้อมเหล่านั้นไม่ได้ หรือจัดการสภาพสมาธิของตนเองไม่ได้ ดังนั้น ก็ควรป้องกันตนเองจากความไม่สงบเหล่านั้นให้เด็ดขาดไปเลยดีกว่า แต่ก็มีบ้าง...ในบางคน ที่เงียบไปก็อ่านอะไรไม่เข้าใจเลย ต้องหาอะไรมากระตุ้น ซึ่งก็คือประเด็นที่จะบอกเล่าน้องๆ ชาว Dek-D.com ในวันนี้แหละค่ะ
พี่เกียรติไปเจอหนังสือน่าสนใจเล่มหนึ่ง ชื่อเรื่องว่า ฟังเสียงหัวใจ เรียนอะไรที่ใช่เรา แล้วก็เลยตามไปที่เว็บของผู้เขียนคนเก่ง ชื่อ ครูม่อน เก่งขนาดเรียนแพทย์และไปจบจากฮาร์วาร์ดด้านสมองและการศึกษาเลยนะ ครูม่อนได้เขียนบทความเกี่ยวกับการอ่านหนังสือไว้ว่า เขาต้องอ่านหนังสือไปพร้อมกับเปิดเพลงเบาๆ คลอไปด้วย พร้อมกับข้อแนะนำสำคัญที่ยืนยันว่าเปิดเพลงฟังหรือหาสิ่งกระตุ้นขณะทำงานหรืออ่านหนังสือก็ช่วยให้เราจดจำได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ ครูม่อนยังเล่าถึงเรื่องงานวิจัยทางสมองและจิตวิทยาพบว่า การมีสมาธิดี จะอยู่ในช่วงที่สมองไม่ตื่นตัวและไม่เฉื่อยมากเกินไป หรืออยู่ในช่วง Focus zone ตามภาพ
แต่บางครั้งสมองเราก็อยู่ในช่วงเฉื่อยหรือช่วง underpowered คือ สมองไม่ตื่นตัว ก็ควรจะกระตุ้นสมองก่อนอ่านหนังสือหรือทำอะไรที่ต้องใช้ความตั้งใจ เช่น ฟังเพลงที่เราชอบคลอไปด้วย แต่ถ้าสมองอยู่ในช่วง overdrive เช่น กำลังตาลีตาเหลือก ตื่นตระหนก เพราะอ่านหนังสือไม่ทัน ถ้าอยู่ช่วงนี้ก็ต้องทำให้สมองสงบลงก่อนอ่านหนังสือ อาจฟังเพลงบรรเลงที่ผ่อนคลายก่อน ปิดสิ่งกระตุ้นอย่างโทรทัศน์ หนีสิ่งล่อตาล่อใจกันไปเลย
ดังนั้น จึงพอจะสรุปได้ว่า "ใครจะฟังเพลงไปอ่านหนังสือ ทำการบ้านไปพร้อมกัน" ก็ไม่ผิด ถ้านั่นเป็นรูปแบบการมีสมาธิของตนเอง แต่มีข้อควรระวังบ้าง คือ อย่าฟังเพลงที่เศร้าเกินไป เพราะจะทำให้การอ่านหนังสือดูมืดมน ดีไม่ดีจะไปกระตุ้นต่อมอกหักเสียอีก อย่าฟังเพลงสนุกเกินไป เดี๋ยวจะลุกขึ้นมาเต้น อย่าฟังเพลงใหม่ที่ไม่คุ้นเคย เดี๋ยวจะหันมาตั้งใจฟังเพลงแทน เพลงที่เปิดควรเป็นเพลงที่คุ้นเคย และเปิดเพลงเบาๆ คลอไปเท่านั้นค่ะ
ดังนั้น พี่เกียรติจึงชวนน้องๆ ชาว Dek-D.com ค้นหารูปแบบการมีสมาธิของตนเอง เพราะทุกคนมีลักษณะการเรียนรู้ที่แตกต่างกันค่ะ
ขอขอบคุณ ครูม่อน
แหล่งข้อมูล
http://www.kru-mon.com/?p=219
http://www.kru-mon.com/?p=57
www.yourfocuszone.com
www.flickr.com
|
แสดงความคิดเห็น
ถูกเลือกโดยทีมงาน
ยอดถูกใจสูงสุด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการที่จะลบความเห็นนี้ใช่หรือไม่ ?
74 ความคิดเห็น
ให้คิดนิดหนึ่งว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกนี้และคนอื่นอาจไม่อ่านหนังสือฟังเพลงเหมือนเรา
ทางที่ดีขอแนะนำให้ใส่หูฟังคนเดียวจะได้ไม่มีปัญหากับคนรอบข้าง
รูปแบบในการอ่านหนังสือของตัวเองอย่าให้คนอื่นเดือดร้อนเป็นดีที่สุด okนะ
เราก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องฟังเพลงคลอๆ แล้วอ่านหนังสือไปด้วย
แต่บางทีก็ต้องเงียบจริงๆ จริงอยู่ว่าจำ แต่สาธิมีแป๊บเดียว (สมาธิสั้น)
ง่วงนอนทุกทีสินะ.. ฮา
และต้องไม่ใช่เพลงภาษาไทยด้วย
เพราะจะร้องตามทุกที่
ฟังเพลงช้าๆแล้วไม่มันอ่ะ (แกจะอ่านหนังสือหรือจะเต้น)
ชอบแนวโหวกเหวกโวยวาย < แต่หนูก็อ่านรู้เรื่องนะ
เพลงเบาๆก็เพราะทำให้มีความสุข คลายเครียด ยิ่งเป็นจังหวะช้าๆ ได้อารมณ์ยิ่งดี
แบบถ้าจะทำอะไรก็ต้องเลือกสักอย่าง ไม่งั้นได้มึนกันแน่
แต่แบบถ้าเปิดเพลงไป ทำงานไป แบบนี้จะทำให้มีความสุขนะ
ถามว่าเข้าใจเนื้อเพลงมั้ย ไม่เลยค่ะ -0- เพราะว่าใจจดจ่ออยู่ที่งาน
อ่านะ เราเองก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน ฟังไปเพลินๆไม่ได้คิดอะไรมาก
บางครั้งอยู่ในห้องสอบยังนึกถึงเพลงที่ติดมากับข้อมูลที่เราจำมาด้วยเลยนะ(หัวเราะ)
แปลกดีเหมือนกันนะ เหมือนกับเป็นการผ่อนคลายเลย
แบบว่า ใจนี่จดจ่ออยู่แต่กับเพลง
โดยส่วนตัวฟังแนวป๊อบ-ร๊อกที่ไม่ฮาร์ดมากก็ทำให้อ่านรู้เรื่องแล้ว
เราก็นั่งฟังเพลงญี่ปุ่นอะ เพราะฟังไม่รู้เรื่อง สมาธิเลยอยู่กับหนังสือมากกว่า เวลาแรนด้อมไปเพลงไทยหรืออังกฤษมันจะร้องตามตลอด 55555
ถ้าไม่ฟังเลยมันจะมีสมาธิอยู่ช่วงนึง พอหลังจากนั้น ได้ยินความเงียบแล้ว...ลุกออกจากหนังสือทันที ฮ่าๆ
มันเพลินดี แล้วไม่เบื่อด้วย
ขอบคุณนะคะ ^^
แต่จะไม่ฟังเพลงที่คุ้นเคย เพลงไทย เพราะเราจะร้องตาม และจะไม่ได้อ่าน -*-
เลยต้องเปิดเพลงสากลที่ชอบ ซึ่งบางเพลงดันร้องตามได้อีก เจริญ 55555
มันช่วยให้อ่านได้ดีเลยนะ พอแบบเมื่อยๆ ก็หยุดฟังซักเพลงแล้วอ่านต่อ
พี่สาวเปิดเพลงแล้วเปิดดังมากๆ ฟังอยู่ไม่มีกี่เพลงวนไปกะวนมา
จนเราฟังแล้วชอบ แล้วกะจะร้องได้อยู่ล้ะ
แต่สังเกตพี่เค้ามีสมาธิในการอ่านมากๆ><~เราเองกะอ่านได้แต่
อ่านๆไปกะสมาธิแอบหลุด55555
ของเรา ถ้าอ่านหนังสือเรียน(เฉพาะหนังสือเรียนเท่านั้นนะ) ไปสักพักจะง่วง ต้องหาอะไรมาสลับทำด้วยเป็นระยะๆ ส่วนมากก็จะเป็น อ่านหนังสือเรียน สลับกับดูเอ็มวีของศิลปินที่ชื่นชอบ หรือไปเล่นกับสัตว์เลี้ยงแล้วก็หาอะไรกินเล่นค่ะ ก็แหม..ใครๆก็อยากพักมากกว่าทำงานอยู่แล้ว :P
ติดนิสัยนี้จริงๆ อ่านไปฟังไป (ตอนนี้ก็ทำอยู่)
รู้สึกว่ามันผ่อนคลายจริงๆนะคะ ฟังเพลงแล้วอารมณ์ดี ;')
จะได้ไม่หลับด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า
รู้สึกว่ามันเพลินนะ แล้วก็เหมือนกระตุ้นให้มีสมาธิมากขึ้นด้วย สำหรับเรานะ
คือเมื่อเรามีสมาธิก็จะไม่ได้ยินเสียงเพลง เนื้อหาในหนังสือที่อ่านก็จะเข้าไปในสมอง
เราไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือในที่ๆมันเงียบๆ ไม่รู้ทำไม มันง่วงมาก
แบบเวลาทำโจทย์คณิตยากๆไรงี้ เราก็จะรู้สึกเพลินและก็ผ่อนคลาย
จะร้องตามเพลงแล้วก็พยายามหาวิธีให้ได้คำตอบของข้อนั้นมาให้ได้ อย่างไม่เครียด :))
แต่เราจะฟังเพลงได้กับบางวิชาเท่านั้นน่ะค่ะ
เช่น คณิตกับฟิสิกส์ 2วิชาถ้าไม่ฟังจะคิดไม่ออกเลย แต่บางครั้งก็แอบร้องตามนะ อิอิ
ส่วนพวก ชีวะ เคมี หรือประวัติศาสตร์ ถ้าอ่านด้วย ฟังเพลงด้วย จะไม่มีสมาธิเลยค่ะ
แต่เราชอบฟังเพลงคลาสสิคแบบบรรเลงอ่ะ มันไม่มีเนื้อร้อง ร้องตามไม่ได้ 555
เพลงบรรเลงดีจริงๆนะช่วยคลายเครียดด้วย เราเคยอ่านหรือดูมาจากที่ไหนไม่รู้ จำไม่ได้อ่า 55
http://www.dumex.co.th/forums_and_friends/forums/pregnancy_forums/thread/Forum_121888?page= ลองเข้าไปดูนะ ^^
น้อง คห. 48
พี่มีแต่จังหวะ rock rap สกา สามช่า รำวง ฟังไปเต้นกันไปเลย
แต่ก็ยังมีเพลงที่พี่เกียรติฟังบ้าง เพื่อผ่อนคลายนะ ฟังแล้วนอนเลย
และอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก >>> ชวนฟังเพลง อัพ++พลังความคิด
น่าจะพอเป็นแนวทาง หรือหาเพลงเบาๆ สบายๆ ไปฟังกันระหว่างอ่านหนังสือก็ได้ค่ะ
เเต่ก็ใช่ว่าเราจะฟังเพลงทุกครั้งเวลาอ่านทุกวิชา ถ้าเป็นวิชาท่องจำ เช่น ชีวะ คอม เราก็ไม่ฟังนะ เพราะต้องอ่านออกเสียงให้ตัวเองจำ สำหรับเราเเล้วจะฟังเวลาอ่านพวกคณิตศาสตร์ ไทย ฟิสิกส์ อังกฤษ พวกนี้อ่ะค่ะ
เหมือนมีเืพื่อน อ่านได้ยาวเลย
เวลาง่วงๆจากอ่านหนังสือ ก็จะหยุดอ่านแล้วฟังเพลงแปปนึง แล้วอ่านต่อค่ะ
มันจะรู้สึกหายง่วงได้บ้าง หรือไม่ก็เวลาเครียดๆก็จะฟังเพลงคลอไปด้วย มันจะรู้สึกมีแรงจะอ่านหนังสือต่อน่ะค่ะ
เมื่อก่อนก็เคยคิดว่าที่จริงมันถูกหรือผิดกันแน่
แต่ก็ไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าอ่านแล้วรู้เรื่องก็โอเคแล้ว
ก็เลยอ่านไปทั้งที่ฟังเพลงไปนี่แหล่ะ สบายใจดี
รับรอง ZZZZzzzZZZZzzZZZzzZZ
รับรอง ZZZZzzzZZZZzzZZZzzZZ
นั่งอ่านได้ทั้งวันเลย (เพลิน) มีสมาธิมากกว่าตอนอ่านเงียบๆ อ่านไปครึ่งหน้าต้องกลับมาอ่านซ้ำใหม่
หลายรอบ เพราะจำไม่ได้ แต่พอฟังเพลงแล้วจำได้ไปเรื่อยๆเลย(แม่ชอบถามว่า อ่านแล้วจำได้ด้วยหรอ)
เพลงที่ได้ผล มักจะเป็นเพลงที่ไม่ใช่ภาษาไทย เพราะเราฟังไม่รู้เรื่อง เลยสนใจหนังสือมากกว่า
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 13 ตุลาคม 2554 / 17:06
ฟังเพลงไปด้วย
เพลินดีนะ
เพราะว่าประสาทเรา
แยกได้อ่ะ
ก็เป็นคนนึงนะที่ต้องอ่านเเล้วก็ฟังเพลงหรือไม่ก็ดูหนังไปด้วย ไม่งั้นจะวอกแวก ไม่มีสมาธิ
อาจจะเป็น creative insight inner geniusอะไรแบบนี้
หรืออาจจะฟัง mozart ก็ได้
แต่บีโะเฟ่น รินไม่แนะนำนะคะ เพราะดังเกินเหตุ แบบเบาๆอยู่ดีๆ อ้าวเฮ้ย ดังขึ้นมาซะงั้น อะไรอย่างนี้ ยังไงก็ขอให้โชคดีนะเจ้าคะ ^^
แบบที่ซีเอดเค้าเปิด เป็นเพลงสตริงก็ได้ที่เราคุ้นเคย ^^
ที่บางคนบอกว่า ฟังเพลงแล้วอ่านหนังสือได้นานขึ้น
ประกอบกับข้อมูลของกระทู้ที่ว่า ใช้ไม่ได้ผลหากเป็นเพลงใหม่หรือหนังใหม่ๆ
ผมสรุปให้ฟังให้ง่ายละกัน
ที่อ่านหนังสือพร้อมกับฟังเพลงไปด้วย แล้วมีสมาธิอ่านได้นาน เพราะทำนองของเพลงครับ ทำนองของเพลงที่คุ้นเคย หรือเคยได้ยินมาก่อน จะช่วยให้มีสมาธิมากขึ้น แต่ถ้าเป็นเพลงใหม่ เราก็จะสนใจเพลงแทน เพราะ เพลงเป็นสิ่งที่ช่วยผ่อนคลายอารมณ์ อารมณ์ดี สมองก็จะปลอดโปล่งครับ
เนื่องจะอาการแบบนี้จะเกิดขึ้นกับคนที่มีสมาธิสั้นครับ เพื่อนผมเป็นหลายคน ต้องหาอะไรมาทำไปด้วย ไม่จำเป็นต้องเป็นเพลงหรอกครับ เช่น ออกกำลังกายเบา ให้สมองผ่อนคลายก็ช่วยได้แล้ว นั่งสมาธิเป็นวิธีที่ดีที่สุดครับ หรือจะทานของหวาน(ของหลานจะใช้ให้แจ่มใสครับ แต่ต้องไม่มากเกินไป จะทำให้ง่วงนอนได้) เป็นต้น
ที่ออกมาพูดเพราะว่า ผมเป็นคนนึงที่ไม่เห็นด้วยกะการอ่านหนังสือแล้วฟังเพลงครับ ถ้าใส่หูฟังก็ดีครับไม่รบกวนคนอื่น แต่ถ้าไม่ใส่หูฟัง มันน่ารำคาญครับ เหอะๆ มันมีหลายวิธีที่จะทำให้ตนเองมีสมาธิ ไม่จำเป็นต้องเป็นเพลง
อย่างเราก็ต้องตอนกลางคืน เงียบ ๆ ทุกอย่างสงบอ่ะ ถึงจะอ่านได้ : )
,,,, ขอบคุนที่มาชี้แจงนะคะ
เวลาที่เราต้องการสมาธิเราจะใช้เพลงนี่แหละเป็นตัวช่วย
เหมือนมันช่วยรวมสมาธิให้เราอะ
เราได้ทั้งสองแบบอะ บางทีก็อยากอยู่เงียบๆ บางทีก็อยากร็อค 555