ผู้ใหญ่ขี้บ่น วัยรุ่นขี้มึน ไม้เบื่อไม้เมาประจำบ้าน


 
       คุณพ่อคุณแม่ และผู้ใหญ่หลายๆ คน ที่เห็นลูกหลานในบ้านทำผิด หรือไม่ผิดแต่อยากพูดแนะนำให้ทำได้ดีขึ้น ก็อยากพูดบอกลูกหลาน แต่พอพูดเข้าแล้ว ลูกหลานเราก็ทำเมิน เหมือนไม่รับฟังอะไรเสียที ก็ต้องพูดเสียดังขึ้น พูดย้ำๆ หรือพูดรายละเอียดมากขึ้น เผื่อจะใช้เหตุผลให้ลูกวัยรุ่นยอมรับฟัง แต่ไฉน เจ้าวัยรุ่นตัวดีดันหันมาปั้นปึ้งใส่ แล้วเดินหนีหายไป ขึ้นเถียงก็มี แล้วบอกในทำนองเดียวกันนี้ว่า "จะบ่นทำไมนี่"  "ขี้บ่นจัง" หรือ "เดี๋ยวทำให้นั่นแหละ เลิกบ่นได้ปะ จะพูดมากทำไม"
     
 
เพราะพูดกันไม่รู้ฟัง ต่างฝ่ายต่างก็รำคาญใส่กัน ผู้ใหญ่ก็รำคาญเด็ก ที่เด็กไม่ฟัง หรือไม่ลงมือทำเสียที ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องง่ายๆ อย่างลุกนำขยะหน้าคอมพิวเตอร์ไปทิ้งค่อยกลับมาเล่นต่อ ลูกวัยรุ่นก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า เรื่องเล็กน้อยๆ แค่นี้จะบ่นทำไม พูดทำไมหลายๆ รอบ (ฟังภาษาไทยไทยรู้เรื่องเฟ้ย!) นิดๆ หน่อยๆ ก็ทำมาขึ้นเสียงพูดยืดยาว รำคาญผู้ใหญ่เหมือนกัน แล้วปัญหามันก็คาราคาซัง เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ต้องบ่น ดีไม่ดีก็เก็บมาเป็นเรื่องทะเลาะเบาะแว้งให้ใหญ่โตเสียด้วย 

  วันนี้ผู้เขียนจึงขอนำเสนอเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ที่จะทำให้ผู้ใหญ่ได้เข้าใจว่า ทำไมลูกวัยรุ่นไม่ฟังตนเอง และยังให้ทำให้ตนกลายเป็น พ่อแม่ขึ้นบ่น ผู้ใหญ่ขี้บ่นอีกด้วย



ลักษณะของการ "ขี้บ่น" ในสายตาลูกๆ มีหลายลักษณะค่ะ ผู้เขียนขอแบ่งออกมาดังนี้

1. บ่นอย่างมีเหตุผล คือ พูดเรื่องเล็กน้อยให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ด้วยหลักการต่างๆ มากมาย เช่น บางทีแค่จะเตือนว่าให้ล้างมือก่อนกินข้าว ก็ยกกรณีศึกษางานวิชาการใหญ่โตมาประกอบ อาทิ 

          "ลูกไปล้างมือก่อนมาหยิบขนมกินนะ  เอ้า ทำไมไม่ไปรีบล้างมือ มากินของว่าง (ลูกมองมาที่อาหาร มีช้อนส้อมว่างพร้อม) ลูกรู้ไหม เราต้องล้างมือก่อนรับประทานอาหาร ถ้าเราไม่ล้างเชื้อโรคต่างๆ ทั้งพยาธิ ปรสิต โปรโตซัว และอีกเยอะแยะ ก็จะเข้าร่างกาย ดูซิ มือเราไปหยิบจับอะไรมาตั้งมากมาย กว่าจะมากินอาหารอีกที ลูกรู้ไหมมีคนที่เป็นโรคท้องร่วง ท้องเสียเพราะไม่ยอมล้างมือ ต้องทำให้เป็นนิสัยนะ ลูกก็รีบไปล้างมือและมากินเลยนะ อย่าช้าสิ!..." 

(ลูกร้องโอยๆ อะไรหนักหนา ช้อนก็มีให้ จะบ่นอะไรมากเนี้ย ต่อให้ไม่ล้างมือ เชื้อโรคมันก็ไม่วิ่งตามช้อนเข้าปากหรอกน่า)

       ถ้าลูกอายุสามขวบ อาจสนใจมากที่คุณแม่อธิบายเรื่องเป็นฉากๆ ขนาดนี้ เหมือนแม่นิทานให้ฟังเลย แต่บังเอิญว่าลูกวัยรุ่นไม่ชอบอะไรๆ ซ้ำๆ ย้ำๆ ทำเหมือนวัยรุ่นไม่รู้เรื่องอะไร คือ ลูกทราบอยู่แล้วค่ะว่า ล้างมือให้สะอาดก่อนกินข้าวป้องกันเชื้อโรคได้ ซึ่งผู้ใหญ่ที่ชอบบ่นแบบใส่เหตุผลประกอบไปด้วย จริงๆ ก็แค่กลัวว่าลูกจะไม่รู้เหตุที่ต้องการให้ไปทำ กลัวลูกหาว่าไร้เหตุผล แต่ลืมไปว่าทุกเรื่องไม่ได้ต้องการเหตุผลหรือกรณีศึกษา ตัวอย่างใดๆ ดังนั้นก็ต้องดูว่า เรื่องไหนที่ไม่จำเป็๋นต้องพูดยาว ก็พูดให้สั้น สั่งให้กระชับไปเลย "ลูกอย่าลืมล้างมือก่อนมากินขนมนะ ทำให้เป็นนิสัยป้องกันเชื้อโรคได้" ขออภัยที่ผู้เขียนต้องบอกว่า "ลูกจะเซ็งมหาศาล" เมื่อพ่อแม่เริ่มชักเหตุผลทั้งสิบสายน้ำมาพูดเรื่องเล็กน้อยนิดเดียวนี้ค่ะ



2. บ่นย้ำๆ คำเดิมๆ กรณีนี้มักเกิดจากการที่บุตรหลายของท่านไม่ทันใจเสียเลย เช่น 

          "ลูกลดเสียงโทรทัศน์หน่อย แม่จะคุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ" (ลูกยังไม่ทำ) "แม่คุยกับคุณพ่อไม่รู้เรื่อง ลดเสียงหน่อย" (ลูกกำลังจะไปลดเสียงให้) "เอ๊ะ ลูกนี่ยังไง แม่บอกให้ลดเสียง มันยากตรงไหน แค่ลดเสียงนี่..."

ลูกงงและโกรธ (ไรวะ ก็ตูกำลังลุกอยู่นี่)

กรณีแบบนี้เกิดขึ้นได้บ่อย บ่อยจนน่าแปลกใจ และกลายเป็นเรื่องทะเลาะใหญ่โตได้ง่ายๆ เสียด้วย เหตุเพราะการย้ำ ซ้ำ และแถมด้วยการติติงนิดหน่อย ทำให้ลูกรู้สึกสงสัยว่า ในเมื่อมันเป็นเรื่องเล็กน้อย ทำไมต้องโมโหหรือบ่นด้วย แต่เพราะโดนตำหนิมาแทนที่ลูกจะแค่สงสัย ก็กลายเป็นโมโห หรือเมิน ไม่ทำมันเสียเลยก็มี

  
         ดังนั้น ผู้ใหญ่ก็ต้องพูดย้ำครั้งเดียว และใส่เหตุที่ต้องทำให้ลูก "รีบ" ลุกขึ้นมาทำก็พอ "ลูก ลดเสียงโทรทัศน์ให้แม่หน่อย" และ "แม่คุยกับคุณพ่ออยู่ รีบมาลดให้หน่อยนะ แม่ฟังไม่ได้ยิน เดี๋ยวไม่คุยกับคุณพ่อไม่รู้เรื่อง" และหากพูดแล้วลูกไม่ทำจริงๆ หลังจากนี้ค่อยไป บ่น กันได้ค่ะ (ฮา)  แต่พึงระวังอย่าให้เรื่องเล็กน้อย ที่จริงๆ ลูกจะทำให้อยู่แล้ว แต่อาจติดพันอะไรอยู่เลยช้าไปบ้าง มาทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่เลยค่ะ บางทีคุณพ่อคุณแม่ก็คิดว่าเรื่องเล็กน้อยไม่เป็นเรื่องแค่นี้ยังชักช้าได้ มันก็น่าโมโหบ่นใส่ แต่คิดในมุมกลับกันค่ะ "ก็เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เหมือนกัน แล้วทำไมต้องบ่นลูกให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ด้วยล่ะ"



3. บ่นเรื่อยเปื่อย โยงเรื่องไม่เป็นเรื่องของคนอื่นมาสู่ลูกโดยไม่รู้ตัว ผู้ใหญ่แทบทุกคนเป็นกันมาก ไม่เกี่ยวว่าเป็นคุณพ่อหรือคุณแม่ โดยเฉพาะการโยงเอาเรื่องที่ทำงานหรือป้าข้างบ้านที่ไม่พอใจมาบ่่นลูกโดยไม่รู้ คือ จริงๆ แล้ว ไม่ได้ต้องการบ่นให้ลูกฟัง เพียงแต่ว่าอยากสอนลูกไม่ให้เอาเยี่ยงอย่างเท่านั้น หรือจริงๆ แค่ต้องการพูดเพื่อนระบายความเครียดเท่านั้น เช่น 
 
          "วันนี้ลูกน้องพ่อทำงานไม่ได้เรื่อง เหมือนไม่ได้เรียนจบมา แบบนี้เรียกเด็กป.3 มาทำก็ได้ อะไรกันบัญชีแค่ไม่กี่หลักยังทำพลาดได้ แล้วถ้าเป็นบัญชีหลักของบริษัทจะทำไง ยังมีหน้ามาบอกว่า ยังไม่คุ้นกับโปรแกรมใหม่ ลูกดูไว้นะ การจะเรียนรู้อะไร เราต้องเรียนรู้ไว้ให้กว้างโดยเฉพาะในสายงาน รู้ลึกก็ดี แต่รู้ให้กว้างไว้ด้วยก็จำเป็น จะได้ไปทำงานได้ เจ้านายไม่ว่า เด็กจบใหม่สมัยนี้มันไม่เอางานเอาการ ลูกต้องอย่าเอาอย่าง ดูการบ้านก็ทำให้เสร็จก่อน ค่อยเล่นเกม อ่านการ์ตูน พ่อไม่ว่าหรอกนะ ถ้าจะทำอะไรเพลินใจ แต่ต้องรู้เวลา นี่ดูสิลูกน้องพ่อบางทีออกไปกินข้าว กลับมาบ่ายสอง ไม่รู้เวลาเลย ..." 

ลูกงง ??

     เรื่องราวที่คุณพ่อเล่า กลายเป็นเรื่อง บ่น ของลูก ที่ลูกไม่โกรธอะไร แต่ทำไมพ่อขี้บ่นจัง บ่นเวลานี้แม้จะมีเรื่องสอนสั่ง ก็ไม่ได้เข้าหูลูกเลย ลูกแค่ฟังผ่านๆ ยิ่งกรณีเรื่องแม่บ่นเรื่องคนข้างบ้าน ลูกยิ่งรำคาญ เพราะพาลคิดไปว่า เรื่องข้างบ้านก็ต้องไปยุ่ง น่าเบื่อจริงๆ




   
  
    ลักษณะการขี้บ่นนี้ ผู้เขียนเชื่อว่าผู้ใหญ่ทุกคนไม่อยากเป็น แต่บางทีก็อาจไม่รู้ตัวว่ากำลังบ่น เพราะตัวเองคิดว่าพูดเฉยๆ เท่านั้น แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงถูกหาว่า "บ่น" ไปได้ 
         จริงแท้แล้วนั้น เพราะการบ่น มีลักษณะหนึ่งที่ต่างกับการพูดเฉยๆ หรือแม้แต่การตักเตือนค่ะค่ะ นั่นทุกคำพูด(ของการบ่น)นั้น "กำลังสื่อถึงความไม่พอใจ และหงุดหงิดกับสิ่งที่คนอื่นทำ เพราะมันช่างไม่ได้มาตรฐานของเราเลย" อย่างการกินเสร็จต้องทิ้งเปลือก ห่อ หรือถุงทันที แต่ลูกดันปล่อยทิ้งไว้จนมดมาขึ้นก่อน แล้วเพิ่งจะนำไปทิ้ง แม่ก็บ่นลูกว่า "ทำไมต้องรอจนมดมากัดแล้วถึงเพิ่งทิ้ง" เป็นต้น


       เรื่องครั้งนี้ ยิ่งเขียนยิ่งยาวค่ะ ผู้เขียนขอยกวิธีการจัดการ และปรับเปลี่ยนตนเองสำหรับผู้ใหญ่ ที่กำลังถูกวัยรุ่นหาว่าขี้บ่นไว้นำเสนอในตอนหน้าค่ะ โปรดอย่าลืมติดตาม

        และสำหรับน้องๆ วัยรุ่นชาว Dek-D.com เรา ก็ยิ่งต้องติดตาม จะได้รู้ว่าการที่ผู้ใหญ่บ่น ไม่ใช่เพราะอยากตำหนิติติงอะไร แต่เพราะหวังดีไม่อยากให้เราไปถูกใครคนอื่นดูถูกได้ และที่สำคัญตัวเรานั่นเองแหละ ที่ทำตัวให้น่าถูกบ่นหรือเปล่า?

         เรื่องนี้เหมือนกระทู้ต้นเรื่องข้างต้นไหมล่ะคะ ยิ่งผู้ใหญ่ขี้บ่น ลูกก็ขี้เมิน เอ้ย ทำมึนใส่ แล้วแบบนี้จะให้ไม่เรียก "ไม้เบื่อไม้เมาประจำบ้าน" ได้อย่างไรล่ะ?


ภาพประกอบ:
flickr.com
marianlim.files.wordpress.com/2010/05/mother-yelling.jpg
พี่เกียรติ
พี่เกียรติ - Community Master ถนัดแฝงตัวตามกระทู้เด็กดี มีความสนใจเป็นล้านเรื่องขึ้นอยู่กับดราม่าขณะนั้น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

24 ความคิดเห็น

TimeStop Member 18 ต.ค. 54 04:36 น. 1
 ชอบกระทู้หัวข้อนี้มุมผู้ใหญ่
แต่ส่วนมากวัยรุ่นอ่านอะป่าวหว่า

ผมอ่านแล้วก็เข้าใจเหตุผลด้านผู้ใหญ่ึขึ้นมาทีละนิดๆ

กะจะให้พ่อแม่อ่านด้วย   แต่พอเขาอ่านทีไรเขาเอาไปพูดล้อเล่นกะคนอื่นตลอด
ผมก็อายสิ
0
กำลังโหลด
undernetwork Member 18 ต.ค. 54 06:42 น. 2
อืม ก็ไม่มีใครขี้บ่นหรอกนะ พอแก่ตัวไปแล้วนิสัยขี้บ่นก็มาเองตามธรรมชาติ
ก็ขึ้นกับสังคมสภาพแวดล้อมของคนๆนั้นด้วยล่ะนะ ว่าแก่ตัวมาด้วยสภาพแบบไหน
ถ้าคนรอบข้างเคารพซึ้งกันและกัน พูดกันคำเดียวจบก็ไม่มีทางมีนิสัยขี้บ่นหรอก
แต่ถ้าคนรอบข้างขาดความเคารพซึ่งกันและกัน เชื่อมั่นในความคิดของตัวเองฝ่ายเดียว
คนที่แก่ตัวมาด้วยการต้องย้ำๆๆๆๆๆๆ คำพูดของตัวเองให้อีกฝ่ายฟังก็จะกลายเป็นคนขี้บ่นไปโดยปริยาย

สรุปก็คือ ถ้าทั้งผู้ใหญ่กับเด็กต่างฝ่ายต่างเคารพในการใช้ชีวิตของกันและกัน ก็ไม่ต้องบ่นให้เหนื่อย หรือโดนบ่นจนหูชาหรอกนะ
0
กำลังโหลด
'(SunYeon.,* Member 18 ต.ค. 54 09:42 น. 3
 อยากจะให้พ่อแม่ได้รับรู้ถึงความจริงข้อนี้ แต่จะทำยังไง ถ้าเอาไปให้อ่านก็อาย ไม่กล้า เผลอๆโดนแซวกลับมาอีก T T
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
clouddy = [BB] Member 18 ต.ค. 54 11:01 น. 5

ในเมื่อเจอรูปแบบการบ่นมาทุกรูปแบบ ทางเดียวคือต้องเข้าใจเขาสินะ ยังไงเขาก็หวังดี
'ไม้เบื่อไม้เมา' พี่เกียรติเปรียบได้ตรงเผง
แต่ถึงบางครั้งจะเบื่อ แต่พอผ่านไประยะหนึ่งก็หาย กลับมาพูดคุยกันเหมือนเดิม
สายสัมพันธ์กับคนในบ้าน ยังไงก็ตัดไม่ขาด

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
xiu-jing Member 19 ต.ค. 54 22:42 น. 15
 มันก็เป็นเรื่องปกติไปแล้ว 
คนที่มีอายุมากกว่า ชอบบ่นคนที่เด็กกว่า
อย่างเช่น แม่บ่นเรา เราก็ไปบ่นน้องต่อ ฮะๆ
0
กำลังโหลด
กุลสตรี Member 21 ต.ค. 54 11:39 น. 16
เหมือนกันแฮะ ตอนนอน เราคิดว่าพรุ่งนี้ซักผ้าดีกว่า พอตื่นเช้ามา แม่ก็สั่ง ไปซักผ้าไป! 
ทั้งๆที่เรากำลังจะทำอยู่แล้วอ่ะ แล้วมาสั่งย้ำอีก มันเลยทำให้แม่คิดไปว่า ถ้าแม่ไม่สั่ง เราก็ไม่ทำ
แล้วก็จะตามมาด้วยปัญหาอื่น ๆ อีกเยอะแยะ เรานี่ช่วงนี้โดนทุกวัน ทะเลาะกันจนบ้านจะพังอยู่แล้ว แถมไม่คุยกันอีกต่ะหาก เบื่อ ;(
0
กำลังโหลด
Chim,แปน,P !! Member 22 ต.ค. 54 18:00 น. 17
เป็นเหมือน คห.บน ๆ เลย

ยิ่งบ่นซ้ำื ๆ เรื่องเดิม ๆ เนี่ยเบื่อจริงง TT
ก็กำลังจะลุกไปทำเนี่ย  รีบร้อนอะไรนักหนาา 
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด