เด็กชายชักอยากหล่อ แต่พ่อชักคิดว่าลูกเป็นแต๋ว
เดี๋ยวนี้กระแสนิยมเกาหลี ขาวอินเตอร์กำลังมาแรง ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่วัยรุ่นผู้หญิง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เป็นอาหมวยหรือไม่ ก็อยากจะขาวสวยเก๋ไก๋ไฉไล หาวิธีการให้ขาวขึ้นไม่ว่าจะโฟมล้างหน้า สมุนไพร วิตามิน โลชัน ครีมกันแดด ไวท์เทนนิงให้ขาวขึ้น ตาโตด้วยบิ๊กอาย ฯลฯ สำหรับลูกผู้หญิงวัยรุ่นพ่อแม่คงไม่แปลกใจเท่าไหร่ แต่หากเป็นลูกชาย สงสัยพ่อแม่จะคิดมาก
ผู้ชายที่โตมาในยุคก่อนๆ คงจะคุ้นเคยกับการที่เรียนๆ เล่นๆ ทำกิจกรรมต่างๆ ผ่านมา โดยไม่ต้องประทินผิวอะไรมากมาย ก็ยังหล่อเฟี้ยวมาได้ แต่สมัยนี้ไม่ว่าหญิงชายก็หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น สำหรับวัยรุ่นชายก็เช่นกัน หนีไม่พ้นกระแสนิยม หนุ่มขาวตี๋ ลูกวัยรุ่นผู้ชายก็อยากประทินผิวเหมือนกัน ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าลูกทุกคนจะต้องเป็นตุ๊ด แต๋ว กะเทย เก้ง กวาง ไปเสียทุกคน ผู้เขียนเองมีน้องชาย เขาก็ว่าเขาดูแลหน้าตาผิวพรรณมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อขึ้นมัธยมปลาย และมาเข้ามหาวิทยาลัยในปัจจุบันมา ทั้งนี้ก็กลัวว่าจะดูน่าเกลียด หากต้องโชว์เนื้อหนังมังสาต่อหน้าเพื่อนไม่ว่าจะหญิงหรือชาย
จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเบย์เลอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีการสำรวจเด็กวัยรุ่นชายอายุช่วง 14 ปี พบว่าวัยรุ่นชายส่วนมากเริ่มใช้พวกเครื่องสำอางสำหรับดูแลตัวเองมากขึ้น บางคนถึงขั้นเข้าร้านเสริมสวย เพื่อเช็คผิว ตัดผมให้เข้าทรง กินยาลดความอ้วน ทำผิวเข้มมากขึ้นให้สมชาย (กลับกันกับเด็กไทยที่ทำผิวเข้มตัวเองให้ขาวขึ้น) ซึ่งจากงานวิจัยนี้ พบว่าวัยรุ่นชายรู้สึกกดดันจากเพื่อนๆ จนต้องดูแลตัวเองมากขึ้น แม้ว่าโดยส่วนใหญ่จะเข้าใจว่า การกินยาลดความอ้วน หรือไปทำผิวเข้ม อาจจะเกิดผลไม่ดีต่อร่างกายก็ตาม แต่ส่วนมากก็ยังเลือกที่จะเดินหน้าดูแลตนเองต่อไป ในรายงานเองก็บอกว่า การที่วัยรุ่นมีสิวเล็กน้อยขึ้น ก็ส่งผลต่อความมั่นใจในตนเองแล้ว
บทความในวันนี้เขียนขึ้นเพื่อให้ผู้ใหญ่ทราบว่า หากลูกชายเริ่มใช้เครื่องประทินผิว ก็อย่าเพิ่งคิดว่าเขากำลังจะเปลี่ยนเพศ หรือลูกผู้หญิงเองจะรีบโตเกินวัย (แก่แดด) แต่จริงๆ เพราะยุคสมัยเปลี่ยนแปลงต่างหาก
- ต้องยอมรับและเข้าใจว่าสื่อเทคโนโลยีต่างๆ ล้วนนำเสนอภาพความสวยงาม หล่อ ขาว ดูดี จะได้รับการยอมรับจากเพื่อนฝูง
- เด็กผู้ชายหล่อ จะได้รับความสนใจจากเด็กผู้หญิง
- เด็กผู้หญิงสวยก็ดูเป็นที่รักของเพื่อนๆ ญาติผู้ใหญ่ และครูอาจารย์
กลุ่มนักร้องดังๆ ในตอนนี้ก็เน้นภาพลักษณ์หล่อ ดูดี ผมเข้าทรง ผมไม่สั้นเกรียน ภาพลักษณ์คุณชายแบบนิชคุณ หรือหากจะมาจากฟากฝรั่ง อย่างจัสติน บีเบอร์ ที่สาวๆ ส่วนใหญ่ชอบ ก็ดูน่ารัก สดใส ดาราชายไทยที่เป็นที่นิยมในปัจจับันก็ล้วนขาว คม รูปร่างดีอย่างณเดชน์ หรือหากจะเข้ม ก็ต้องเข้ม คม มีเอกลักษณ์ หรือภาษาวัยรุ่นก็ต้องบอกว่า "แนว" แตกต่างไม่เหมือนใคร
ยิ่งอธิบายก็จะเห็นว่านักร้อง ดาราเหล่านี้ล้วนเป็นภาพแบบอย่างของภาพลักษณ์ ที่วัยรุ่นชายล้วนถือเอาเป็นแนวในการดูแลหน้าตา ทรงผม รวมถึงแต่งกายต่างๆ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ดูแลตนเองมากมาย ที่ห้อยสร้อยไว้ว่า For Men มากขึ้น มีโฆษณาที่แสดงโดยดาราดังๆ ใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็จูงใจด้วยเหตุผลไม่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ของผู้หญิง แต่เหมาะกับรูปแบบการดำเนินชีวิตของผู้ชายที่ออกแดดมากกว่านั่นเอง สำหรับยุคสมัยนี้เด็กผู้ชายดูแลตนเอง หันมาประทินผิวพรรณ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยค่ะ (แต่ไม่ดูแลเลย ยังคงรูปแบบเดิม อาบน้ำไม่ถูสบู่ ฯลฯ ก็ไม่แปลกเช่นกันนะคะ)
การที่ลูกๆ ไม่ว่าชายหรือหญิง เริ่มหาเครื่องประทินผิวต่างๆ มาทา ใช้เครื่องสำอาง หาซื้อเครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย เริ่มดูแลตัวเองมากขึ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่วัยรุ่นทำ เพื่อให้ได้รับการยอมรับในกลุ่ม ถือเป็นอีกพัฒนาการในการดูแลตนเองให้เหมาะสมกับกาลเทศะ
ผู้ใหญ่ควรใช้โอกาสนี้ในการให้คำแนะนำเพิ่มเติมถึงการแต่งกายให้เหมาะกับโอกาสและสถานที่ รวมถึงการแนะนำวิธีการดูแลตัวเองด้วยวิธีการที่ถูกต้อง อย่าง ดูแลเรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกาย และการพักผ่อนอย่างเพียงพอค่ะ ส่วนในเรื่องเครื่องสำอาง เครื่องดูแลผิวพรรณ ก็แนะนำให้ใช้แต่พอเพียง พอเหมาะแก่ฐานะ และรูปแบบการใช้ชีวิตดีกว่าค่ะ เช่น ออกแดดจัดให้ทาครีมกันแดด ทาครีมบำรุ่งเช้าเย็นก็พอเพียง ไม่ต้องถึงขั้นมีครีมทาใต้ตาเฉพาะ ทางรอยตีนกาเฉพาะจุด เป็นต้น
ถ้าคุณพ่อ คุณแม่ และผู้ใหญ่ในบ้าน ไม่เข้าใจว่า ลูกๆ จะแต่งตัวอะไรไปไหน ใช้เงินมากๆ ไปซื้อของต่างๆ แล้วบ่นหรือว่ากล่าวว่า จะแต่งไปล่อผู้หญิง หรือติดผู้ชาย เป็นกระเทย แก่แดด จะรีบโตไปไหน ฯลฯ แทนที่ลูกจะรู้สึกภมิใจที่ตนเองสวยหล่อขึ้น ลูกกลับจะสูญเสียความมั่นใจในตนเอง เพราะคนที่เขารักยังไม่ชมเขาเลย แล้วลูกจะยิ่งต่อต้าน หาว่าพ่อแม่แก่เกินยุคสมัย ทะเลาะเบาะแว้งหาว่าไม่เชื่อใจกันไป ดังนั้น ก็ใช้โอกาสนี้ ในการเรียนรู้เรื่องของลูกดีกว่าค่ะ แรกๆ ลูกอาจรำคาญบ้าง ที่ผู้ใหญ่มาตามดูอะไรเรา แต่เขาจะอุ่นใจกว่าที่พ่อแม่รับรู้และเข้าใจ ไม่หาว่าเขาทำตัวเกินวัย และที่สำคัญจะได้หันมาดูแลผิวพรรณ และสุขภาพร่วมกันไปเลยค่ะ
แหล่งข้อมูล:
http://www.byparents-forparents.com/blog/ |
26 ความคิดเห็น
สู้คุณผู้ชายไม่ได้...
เรื่องดูแลตนเองค่ะ 555+
พ่อแม่เป็นห่วงเราน่ะค่ะ
ขนาดแบมพูด "ครับ" นึกว่าแบมเป็นทอม...
แต่ผู้ชายที่แต่งหน้าทาปากอันนั้นอ่ะใช่แน่ๆ..
แม่พูดซะเสียความมั่นใจ จนต้องไปล้างหน้าออกซะหมด
+ ถ้าไม่ดูเเลตัวเองเวลาจีบสาว ใครเค้าจะมาเอา?
ไม่ว่าจะผิว หรือสุขภาพ เพราะส่วนมากจะค่อยๆ อ้วนแบบไม่รู้ตัว