|
แสดงความคิดเห็น
ถูกเลือกโดยทีมงาน
ยอดถูกใจสูงสุด
ทำไมถึงมี ความคิด แบบแปลก ๆ แบบนี้
ข้อ1.ยอมรับว่าดี แต่ มาเครียดตอนสอบ(เหมือนกับเป็นคนไม่รับผิดชอบอะ แล้วมันจะเก่งได้ไง)
ข้อ2.มันก็โอเคนะ แต่ควรตั้งใจทำให้เต็มที่ก่อน ซิ จะได้ไม่ต้องมีเหตุผลที่แปลก ๆ มาปลอบโยนตัวเอง
ข้อ3.บ้าไปใหญ่แล้ว พ่อแม่ดี ๆ เขาจะไม่กดดันลูกตัวเองหรอก นอกจาก (พ่อแม่ที่มีประสบการณ์ในการใช้ชีวิตมาน้อย)
ข้อ4.จะบอกว่า ข้อนี้ดีที่สุดเลย และการที่อาจารย์ถามเราก็จะทำให้เราต้องใส่ใจในวิชานี้มากขึ้นมันจะทำให้เก่งขึ้นจริง ๆ (เราโดนถามบ่อยจนได้TOPแถมอาจารย์ยังบอกให้เราไปสอบหมอด้วยอะ และบอกว่าเธอมีศักยภาพพอ โครตดีใจ แต่เราไม่ได้อยากเป็นหมอเลยไม่ไป) แต่ถ้าเธอคิดว่าการถามมันกดดัน '' ควรเปลี่ยนวิธีคิด ''
ข้อ5.ก็ไม่เกี่ยวอะ เก่งหรือไม่เก่ง สามารถเป็นตัวเองได้หมด ดูคนเก่งส่วนใหญ่ ซิ
จะมีอะไรแปลก ๆ ตลอด แบบว่ามีแนวเป็นของตัวเองอะ ติสต์ ๆ เทห์ ๆ เซอร์ ๆ
NIECHAR FEECHZLOGCUE สวัสดี
ข้อ1.ยอมรับว่าดี แต่ มาเครียดตอนสอบ(เหมือนกับเป็นคนไม่รับผิดชอบอะ แล้วมันจะเก่งได้ไง)
ข้อ2.มันก็โอเคนะ แต่ควรตั้งใจทำให้เต็มที่ก่อน ซิ จะได้ไม่ต้องมีเหตุผลที่แปลก ๆ มาปลอบโยนตัวเอง
ข้อ3.บ้าไปใหญ่แล้ว พ่อแม่ดี ๆ เขาจะไม่กดดันลูกตัวเองหรอก นอกจาก (พ่อแม่ที่มีประสบการณ์ในการใช้ชีวิตมาน้อย)
ข้อ4.จะบอกว่า ข้อนี้ดีที่สุดเลย และการที่อาจารย์ถามเราก็จะทำให้เราต้องใส่ใจในวิชานี้มากขึ้นมันจะทำให้เก่งขึ้นจริง ๆ (เราโดนถามบ่อยจนได้TOPแถมอาจารย์ยังบอกให้เราไปสอบหมอด้วยอะ และบอกว่าเธอมีศักยภาพพอ โครตดีใจ แต่เราไม่ได้อยากเป็นหมอเลยไม่ไป) แต่ถ้าเธอคิดว่าการถามมันกดดัน '' ควรเปลี่ยนวิธีคิด ''
ข้อ5.ก็ไม่เกี่ยวอะ เก่งหรือไม่เก่ง สามารถเป็นตัวเองได้หมด ดูคนเก่งส่วนใหญ่ ซิ
จะมีอะไรแปลก ๆ ตลอด แบบว่ามีแนวเป็นของตัวเองอะ ติสต์ ๆ เทห์ ๆ เซอร์ ๆ
NIECHAR FEECHZLOGCUE สวัสดี
กำลังโหลด
บางทีก็คิดว่าการที่เราเรียนเก่งที่สุดแล้วมันดีนะ แต่เชื่อเถอะว่า ไอคนที่ได้เกรดสูงๆเนี่ย
กดดันมากเลยล่ะ(แต่ข้อดีในม.ปลายคือ มันเลือกคณะ เลือกโควต้าได้มาก) แต่เกรดกลางๆ
มันไม่กดดันนะ สบายๆดี แบบพ่อแม่ไม่หวังมาก (แต่เวลาเลือกคณะ โควต้าก็ลดหลั่นกันไป)
นอกจากไว้ใช้สอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว บางทีเกรดสูงก็ใช่ว่าจะดีเสมอไปสักหน่อย
กำลังโหลด
เป็นคนเรียนไม่เก่งค่ะ แต่ก็ไม่รู้สึกว่า ด้ อ ย กว่าคนอื่นเลย
บางคนเรียนเก่งก็จริง แต่ล้างจานยังไม่เป็นเลย
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 20 มีนาคม 2555 / 09:08
เราล้างจานเป็นนะ อิอิ
กำลังโหลด
อย่าเพิ่งคิดมากกันสิคะ ท้ายบทความพี่มิ้นท์ก็บอกอยู่แล้วว่า ไม่ได้อยากให้น้องๆ ภูมิใจในความไม่เก่งจนหยุดพัฒนาซักหน่อย ยังอยากให้พัฒนาตัวเองอยู่นะ ซึ่งพี่มิ้นท์แค่แสดงความคึิดเห็นในอีกมุมหนึ่งว่าบางทีคนเรียนไม่เก่งก็มีข้อดีเหมือนกัน จะได้ไม่รู้สึกว่าตัวเองแย่เหมือนทีคนอื่นๆ มอง
ทุกอย่างมันมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัวค่ะ อยู่ที่เราจะมอง :) และเอาสิ่งนั้นมาพัฒนาตัวเองยังไงมากกว่าค่ะ
ทุกอย่างมันมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัวค่ะ อยู่ที่เราจะมอง :) และเอาสิ่งนั้นมาพัฒนาตัวเองยังไงมากกว่าค่ะ
กำลังโหลด
พูดในฐานะเด็กเรียนดีคนหนึ่ง เราค่อนข้างซีเรียสกับเกรดแล้วก็คะแนนมาก พ่อแม่ก็คาดหวังแล้วสอนให้เราวางแผนอนาคตไว้ไกลๆ ตลอด พ่อเตือนตลอดให้เราเตรียมตัวรับอนาคตไว้ให้ดี ว่ามันมืดมนแล้วก็ยากลำบาก
แต่ถามว่าการเป็นเด็กเก่ง ทำให้เครียดจนกระทบกับความสุขในชีวิตไหม เราก็มีความเครียดเล็กๆ น้อยๆ เหมือนคนธรรมดาทั่วไป เรารู้สึกเฉยๆ เพราะเป็นนิสัยปกติของเราอยู่แล้ว
คนเรารับความเครียดได้ไม่เท่ากัน เพื่อนบางคนเรียนเก่งกว่าเรามาก แต่เข้ากับเพื่อน ทำกิจกรรมได้เก่งมาก แล้วก็ร่าเริง เพื่อนๆ รัก มันแล้วแต่คน ^^ เด็กเก่งไม่จำเป็นต้องเครียด หรือเป็นอัจฉริยะติงต๊องทุกคน
เราก็อิจฉาเพื่อนๆ บ้าง ที่เขาเรียนสบายๆ ทำอะไรตามใจ ปล่อยเกรดกันได้ แต่ทุกครั้งเราก็มาคิดได้ในอีกนาทีต่อมาว่า มันเพราะที่บ้านเขามีธุรกิจ หรือมีเงินทุนอยู่แล้ว โตขึ้นไปเขาไม่ต้องหางานทำเองเหมือนเรา พ่อแม่เราบอกเลยว่าที่บ้านมีพอส่งให้เราไปหาความรู้ แล้วเราไปหางาน สร้างตัวเอง เราก็เลยมีความจำเป็นต้องตั้งใจเรียน
เป็นเด็กเรียนมันก็ดีนะ รักษาเกรดดีๆ ไว้ มันก็ทำให้เราไม่ต้องเครียดช่วงใกล้ยื่นคะแนน ว่าเราไม่มีที่เรียน จะเข้าที่ไหนก็เข้าได้ มันก็มีข้อดีของมัน มันก็คือเรื่องหว่านพืชหวังผล ถ้าเราพยายาม ตั้งใจเสียตอนนี้ ปลายทางเราก็สบายยาว
พ่อแม่ก็สบายใจ ภูมิใจ เอาเราไปอวดกับใครๆ ได้ ไม่ต้องกลัวโดนคนอื่นเอาลูกมาข่ม มันก็คือการตอบแทนพ่อแม่ในช่วงที่เรายังต้องพึ่งท่านอยู่
ข้อ 1 ถามว่าเราเป็นเด็กเก่งเครียดไหม เครียดบ้างแต่ไม่เยอะหรอก หลักๆ นั่นเพราะนิสัยเรา เราอยากได้คะแนนดีๆ เอง ไม่ใช่เพราะพ่อแม่กดดันหรือเพราะต้องรักษาภาพพจน์
ข้อ 2 เรามีนิสัยต้องทำให้ดีขึ้นอยู่แล้ว แน่นอนว่าถ้าเกรดเราตกหรือเท่าเดิม เราเจ็บกว่าคนอื่น เพราะเราคาดหวังมากกว่า
เราคิดว่าเด็กทุกคนจะเก่งหรือไม่เก่ง ยังไงต้องพัฒนาตัวเองตลอดอยู่แล้ว ไม่ย่ำอยู่กับที่
ข้อ 3 พ่อแม่กดดันมาก แต่เพราะเขารักเรามาก ห่วงอนาคตเรามาก ไม่ใช่เพราะเราหัวดี ถึงเราเรียนไม่เก่ง เขาก็หาทางเข็นเราไปเรียนอาชีวะอยู่ดี ^^
ข้อ 4 อาจารย์ไม่เล็งเราเลยเพราะเรานั่งหลังสุดและหลับในห้องตลอด 55555+ แล้วเด็กโตๆ อาจารย์ไม่ค่อยใกล้ชิดนักเรียนด้วย ถ้าเรานั่งเรียนเงียบๆ ไม่คุยกับเพื่อนจนโดนดุ ก็ไม่มีอาจารย์คนไหนรู้หรอกว่าเรานั่งอยู่ในห้อง ว่าเราเป็นเด็กเก่ง หรือไม่เก่ง
การเรียนเก่งไม่ได้ทำให้เราเด่น แต่พฤติกรรมเราเองที่จะทำให้เด่น เป็นเด็กเก่งถ้าไม่ยกมือตอบทุกอย่างจนน่าหมั่นไส้เหมือนเฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่มีอะไร อย่าทำตัวเด่นเกินไปจะดีกว่า แทนที่ทุกคนจะมาหาเราให้เราช่วย กลับกลายเป็นให้เพื่อนๆ จงใจเล็งจับผิดเราโดยเฉพาะ
ข้อ 5 เราก็เป็นตัวของตัวเองนะ ทำในสิ่งที่ชอบ ที่เราต้องพยายามรักษาเกรด รักษาอันดับก็คือนิสัยส่วนตัว เราไม่กลัวเสียภาพพจน์ แต่แน่นอนว่าเวลามีรายการแข่งหรืองานโรงเรียน อาจารย์หรือเพื่อนจะมอบงานให้เรา และเราก็ดีใจ เพราะเราอยากมีประสบการณ์ และดีใจที่ทุกคนวางใจเรา
เรามองว่าคนเรียนดี บางครั้งเพราะมีความจำเป็นที่ต้องสร้างอนาคตที่ดีให้ตัวเอง และเป็นความทะเยอทะยาน ความสุขส่วนตัว บางครั้งคนอื่นดูแล้วอาจจะว่าบ้า แกได้เยอะขนาดนี้แล้ว ยังจะมาบ่น มาร้องไห้ อนาถจิต ฯลฯ
เราคิดว่าจะเป็นเด็กเก่งหรือกลางๆ หรือไม่เก่ง ไม่มีอันไหนดีหรือไม่ดีกว่ากัน ความตั้งใจของแต่ละคนควรขึ้นอยู่กับความพอใจของตัวเองว่าอยากเก่งอะไร อยากเก่งแค่ไหน และฐานะทางบ้านเป็นอย่างไร เด็กเก่งหลายคนยินดีที่จะกดดันตัวเองเพื่อให้ได้คะแนนดีๆ และหลายคนก็ไม่ชอบถูกกดดัน ไม่จำเป็นว่าทุกคนต้องไม่พอใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็น
ถ้าบ้านเราพร้อมอยู่แล้ว เราจะสบายๆ ก็ได้ แต่ถ้าบ้านไม่มีอะไรนี่ ก็คงต้องดิ้นรนกันหน่อย มันก็คือเรื่องธรรมดา เราทุกคนควรเลือกทางที่ดีที่สุดให้ตัวเอง
แต่ถามว่าการเป็นเด็กเก่ง ทำให้เครียดจนกระทบกับความสุขในชีวิตไหม เราก็มีความเครียดเล็กๆ น้อยๆ เหมือนคนธรรมดาทั่วไป เรารู้สึกเฉยๆ เพราะเป็นนิสัยปกติของเราอยู่แล้ว
คนเรารับความเครียดได้ไม่เท่ากัน เพื่อนบางคนเรียนเก่งกว่าเรามาก แต่เข้ากับเพื่อน ทำกิจกรรมได้เก่งมาก แล้วก็ร่าเริง เพื่อนๆ รัก มันแล้วแต่คน ^^ เด็กเก่งไม่จำเป็นต้องเครียด หรือเป็นอัจฉริยะติงต๊องทุกคน
เราก็อิจฉาเพื่อนๆ บ้าง ที่เขาเรียนสบายๆ ทำอะไรตามใจ ปล่อยเกรดกันได้ แต่ทุกครั้งเราก็มาคิดได้ในอีกนาทีต่อมาว่า มันเพราะที่บ้านเขามีธุรกิจ หรือมีเงินทุนอยู่แล้ว โตขึ้นไปเขาไม่ต้องหางานทำเองเหมือนเรา พ่อแม่เราบอกเลยว่าที่บ้านมีพอส่งให้เราไปหาความรู้ แล้วเราไปหางาน สร้างตัวเอง เราก็เลยมีความจำเป็นต้องตั้งใจเรียน
เป็นเด็กเรียนมันก็ดีนะ รักษาเกรดดีๆ ไว้ มันก็ทำให้เราไม่ต้องเครียดช่วงใกล้ยื่นคะแนน ว่าเราไม่มีที่เรียน จะเข้าที่ไหนก็เข้าได้ มันก็มีข้อดีของมัน มันก็คือเรื่องหว่านพืชหวังผล ถ้าเราพยายาม ตั้งใจเสียตอนนี้ ปลายทางเราก็สบายยาว
พ่อแม่ก็สบายใจ ภูมิใจ เอาเราไปอวดกับใครๆ ได้ ไม่ต้องกลัวโดนคนอื่นเอาลูกมาข่ม มันก็คือการตอบแทนพ่อแม่ในช่วงที่เรายังต้องพึ่งท่านอยู่
ข้อ 1 ถามว่าเราเป็นเด็กเก่งเครียดไหม เครียดบ้างแต่ไม่เยอะหรอก หลักๆ นั่นเพราะนิสัยเรา เราอยากได้คะแนนดีๆ เอง ไม่ใช่เพราะพ่อแม่กดดันหรือเพราะต้องรักษาภาพพจน์
ข้อ 2 เรามีนิสัยต้องทำให้ดีขึ้นอยู่แล้ว แน่นอนว่าถ้าเกรดเราตกหรือเท่าเดิม เราเจ็บกว่าคนอื่น เพราะเราคาดหวังมากกว่า
เราคิดว่าเด็กทุกคนจะเก่งหรือไม่เก่ง ยังไงต้องพัฒนาตัวเองตลอดอยู่แล้ว ไม่ย่ำอยู่กับที่
ข้อ 3 พ่อแม่กดดันมาก แต่เพราะเขารักเรามาก ห่วงอนาคตเรามาก ไม่ใช่เพราะเราหัวดี ถึงเราเรียนไม่เก่ง เขาก็หาทางเข็นเราไปเรียนอาชีวะอยู่ดี ^^
ข้อ 4 อาจารย์ไม่เล็งเราเลยเพราะเรานั่งหลังสุดและหลับในห้องตลอด 55555+ แล้วเด็กโตๆ อาจารย์ไม่ค่อยใกล้ชิดนักเรียนด้วย ถ้าเรานั่งเรียนเงียบๆ ไม่คุยกับเพื่อนจนโดนดุ ก็ไม่มีอาจารย์คนไหนรู้หรอกว่าเรานั่งอยู่ในห้อง ว่าเราเป็นเด็กเก่ง หรือไม่เก่ง
การเรียนเก่งไม่ได้ทำให้เราเด่น แต่พฤติกรรมเราเองที่จะทำให้เด่น เป็นเด็กเก่งถ้าไม่ยกมือตอบทุกอย่างจนน่าหมั่นไส้เหมือนเฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่มีอะไร อย่าทำตัวเด่นเกินไปจะดีกว่า แทนที่ทุกคนจะมาหาเราให้เราช่วย กลับกลายเป็นให้เพื่อนๆ จงใจเล็งจับผิดเราโดยเฉพาะ
ข้อ 5 เราก็เป็นตัวของตัวเองนะ ทำในสิ่งที่ชอบ ที่เราต้องพยายามรักษาเกรด รักษาอันดับก็คือนิสัยส่วนตัว เราไม่กลัวเสียภาพพจน์ แต่แน่นอนว่าเวลามีรายการแข่งหรืองานโรงเรียน อาจารย์หรือเพื่อนจะมอบงานให้เรา และเราก็ดีใจ เพราะเราอยากมีประสบการณ์ และดีใจที่ทุกคนวางใจเรา
เรามองว่าคนเรียนดี บางครั้งเพราะมีความจำเป็นที่ต้องสร้างอนาคตที่ดีให้ตัวเอง และเป็นความทะเยอทะยาน ความสุขส่วนตัว บางครั้งคนอื่นดูแล้วอาจจะว่าบ้า แกได้เยอะขนาดนี้แล้ว ยังจะมาบ่น มาร้องไห้ อนาถจิต ฯลฯ
เราคิดว่าจะเป็นเด็กเก่งหรือกลางๆ หรือไม่เก่ง ไม่มีอันไหนดีหรือไม่ดีกว่ากัน ความตั้งใจของแต่ละคนควรขึ้นอยู่กับความพอใจของตัวเองว่าอยากเก่งอะไร อยากเก่งแค่ไหน และฐานะทางบ้านเป็นอย่างไร เด็กเก่งหลายคนยินดีที่จะกดดันตัวเองเพื่อให้ได้คะแนนดีๆ และหลายคนก็ไม่ชอบถูกกดดัน ไม่จำเป็นว่าทุกคนต้องไม่พอใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็น
ถ้าบ้านเราพร้อมอยู่แล้ว เราจะสบายๆ ก็ได้ แต่ถ้าบ้านไม่มีอะไรนี่ ก็คงต้องดิ้นรนกันหน่อย มันก็คือเรื่องธรรมดา เราทุกคนควรเลือกทางที่ดีที่สุดให้ตัวเอง
กำลังโหลด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการที่จะลบความเห็นนี้ใช่หรือไม่ ?
161 ความคิดเห็น
บางทีก็คิดว่าการที่เราเรียนเก่งที่สุดแล้วมันดีนะ แต่เชื่อเถอะว่า ไอคนที่ได้เกรดสูงๆเนี่ย
กดดันมากเลยล่ะ(แต่ข้อดีในม.ปลายคือ มันเลือกคณะ เลือกโควต้าได้มาก) แต่เกรดกลางๆ
มันไม่กดดันนะ สบายๆดี แบบพ่อแม่ไม่หวังมาก (แต่เวลาเลือกคณะ โควต้าก็ลดหลั่นกันไป)
นอกจากไว้ใช้สอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว บางทีเกรดสูงก็ใช่ว่าจะดีเสมอไปสักหน่อย
ข้อ1.ยอมรับว่าดี แต่ มาเครียดตอนสอบ(เหมือนกับเป็นคนไม่รับผิดชอบอะ แล้วมันจะเก่งได้ไง)
ข้อ2.มันก็โอเคนะ แต่ควรตั้งใจทำให้เต็มที่ก่อน ซิ จะได้ไม่ต้องมีเหตุผลที่แปลก ๆ มาปลอบโยนตัวเอง
ข้อ3.บ้าไปใหญ่แล้ว พ่อแม่ดี ๆ เขาจะไม่กดดันลูกตัวเองหรอก นอกจาก (พ่อแม่ที่มีประสบการณ์ในการใช้ชีวิตมาน้อย)
ข้อ4.จะบอกว่า ข้อนี้ดีที่สุดเลย และการที่อาจารย์ถามเราก็จะทำให้เราต้องใส่ใจในวิชานี้มากขึ้นมันจะทำให้เก่งขึ้นจริง ๆ (เราโดนถามบ่อยจนได้TOPแถมอาจารย์ยังบอกให้เราไปสอบหมอด้วยอะ และบอกว่าเธอมีศักยภาพพอ โครตดีใจ แต่เราไม่ได้อยากเป็นหมอเลยไม่ไป) แต่ถ้าเธอคิดว่าการถามมันกดดัน '' ควรเปลี่ยนวิธีคิด ''
ข้อ5.ก็ไม่เกี่ยวอะ เก่งหรือไม่เก่ง สามารถเป็นตัวเองได้หมด ดูคนเก่งส่วนใหญ่ ซิ
จะมีอะไรแปลก ๆ ตลอด แบบว่ามีแนวเป็นของตัวเองอะ ติสต์ ๆ เทห์ ๆ เซอร์ ๆ
NIECHAR FEECHZLOGCUE สวัสดี
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 20 มีนาคม 2555 / 09:08
ทุกอย่างมันมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัวค่ะ อยู่ที่เราจะมอง :) และเอาสิ่งนั้นมาพัฒนาตัวเองยังไงมากกว่าค่ะ
อย่างบางคนพยายามอ่านหนังสือแทบตายแต่กลับไม่เข้าใจเนื้อหา
สุดท้ายก็ท้อ เหนื่อย และยอมเลิกไปเอง
พอเกรดออกมาไม่ดีกลับกลายเป็นว่า กดดันตัวเอง มากขึ้นกว่าเดิม
อยากเก่งบ้างอะไรบ้างอ่า
อาจารย์เค้าก็กดดันบ้างแต่ไม่มาก คือ กดดันแต่เรื่องไม่ส่งงานระวังเกรดไม่ออกนะ
เค้าชอบพูดอย่างนี้ประจำ แต่เรียนไม่เก่งเค้าก็มีว่าบ้าง (เฉพาะครูบางคน)
ความสุขเกิดขึ้นได้ก็อยู่ที่จะมองเนอะ อย่างที่พี่มิ้นว่า 55 เห็นด้วยค่ะ ^ ^
ตอนนี้กำลังอยู่ในระยะทำใจอยู่
เเต่ว่าพอมาคิดดูอีกทีแล้ว แค่อยู่ในเกรด3ก็ถือว่าดีแล้ว
เราทำเต็มที่แล้ว แค่ส่งงานให้หมดไม่ให้มีค้าง ไม่โดดเรียน นั่งหน้าห้อง ร่วมกิจกรรมรร.ตั้งใจเรียน
ทำไม่ได้ถามครูหรือลอกเพื่อนสักนิดๆ แค่นี้ก็เป๊ะแล้ว (สำหรับเราแล้วนะ)
แต่ถ้าอย่างประกาศผลสอบแล้วเราออกมาคะแนนพอๆกับพวกเรียนเก่งก็อาจโดนมองหน้าได้ 555+