5 ข้อดี.... ของคนเรียนไม่เก่ง ที่เด็กเทพๆ ยังต้องอิจฉา

 

            วัสดีค่า...น้องๆ เคยสงสัยกันมั้ยคะ ว่าทำไมพ่อแม่ถึงอยากให้เราเรียนเก่งนักหนา แถมยังชอบเอาเรื่องลูกข้างบ้าน ลูกเพื่อนแม่(เมื่อตอนสาวๆ) มาเปรียบเทียบอยู่เรื่อย ทั้งๆ ที่เราก็พยายามแล้ว แต่มันก็ทำได้แค่นี้แหละ 

              ต้องยอมรับนะคะว่า ความคาดหวังที่พ่อแม่มีต่อลูก คือ อยากให้ลูกเรียนเก่ง ดังนั้นไม่แปลกใจเลย ถ้าพ่อแม่ของน้องๆ พยายามส่งให้เราไปเรียนพิเศษ เพื่อให้เข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ได้ หลายคนอาจเบื่อกับความคาดหวัง แล้วก็รู้สึกท้อที่สมองเราไม่ได้ดีเหมือนใครๆ แหม... ถ้าปลงกันขนาดนี้ พี่มิ้นท์ ขอปลอบใจน้องๆ แล้วกันว่า จริงๆ แล้วการที่เราไม่ได้เป็นจุดเด่นในห้องเรียนก็มีข้อดีเหมือนกัน


ข้อดีที่ 1 : เรียนแบบสบายๆ
              ไม่มีใครรู้หรอกว่า ความสุขของคนเกรดธรรมดาๆ มีมากแค่ไหน อยู่ในห้องก็เรียนแบบสบายๆ ได้  ไม่ต้องเครียดว่าเรียนบทนี้ไม่รู้เรื่องแล้วอนาคตจะดับสูญ ไม่ต้องกังวลว่าเรียนไม่รู้เรื่องแล้วจะทำการบ้านให้เพื่อนลอกไม่ได้ ดังนั้นในแต่ละวันก็ทำตัวสบายๆ ไม่มีความกังวล ไว้รอมาเครียดอีกทีกันตอนสอบ


ข้อดีที่ 2 : เกรดขึ้นดีใจ เกรดเท่าเดิมเท่าทุน แย่กว่าเดิมไม่เจ็บ
              ว่ากันว่าเรื่องเกรดนี่เป็นตรารับประกันคุณภาพการเรียนกันเลยทีเดียว สำหรับเด็กเทพๆ แล้ว เกรดคือเป้าหมายสูงสุด ดังนั้นเด็กที่เรียนเก่งๆ จะค่อนข้างมีความเครียดสูง และสิ่งที่จะต้องทำให้ได้ คือ ต้องทำเกรดให้มากกว่าเดิม คิดดูว่าถ้าของเดิม 3.9 อยู่แล้ว ดีกว่าเดิม นี่คือกะจะเอา 4.00 ให้ได้เลยใช่มั้ย?? เกรดหล่นไปเพียงประจุเดียว นอนร้องไห้สามวันสองคืน
              แต่สำหรับคนธรรมดาอย่างเราๆ ถ้าเกรดขึ้นซัก 0.5 จาก 2.5 เป็น 3.0 แม่อาจจะเห่อกว่าใครเพื่อน เอาไปโม้ได้ว่าลูกตัวเองเรียนเก่งขึ้นตั้งเยอะ!! ซึ่งเราจะได้รับคำชมด้วย แต่ถ้าเกรดเราเท่าเดิมก็ถือว่าเท่าทุน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าแย่กว่าเดิมก็จะไม่เจ็บมาก เพราะมีภูมิต้านทานมากพออยู่แล้ว


ข้อดีที่ 3 :  ไม่ต้องกดดันจากความคาดหวังของแม่
              ต้องยอมรับว่าคนที่เรียนเก่งอยู่แล้ว ก็จะเป็นที่คาดหวังของพ่อแม่ อยากให้ได้เรียนที่ดีๆ ได้เกรดดีๆ แต่สำหรับคนที่เกรดกลางๆ พ่อแม่จะไม่ค่อยเคี่ยวเข็ญมาก เอาแค่เรียนจบ ไม่สอบตกก็พอ ดังนั้นก็ลดความกดดันตรงนี้ลงไปได้เยอะ เราก็สามารถเดินตามความฝันของเราได้เต็มที่แบบไม่ต้องเครียด


ข้อดีที่ 4:  อาจารย์ไม่ค่อยเล็ง
              ถ้าเราไมได้ดื้อจนอาจารย์เล็งเป็นพิเศษล่ะก็ เด็กกลางๆ อย่างเราก็แทบเป็นอากาศธาตุในห้องเรียนไปเลย เพราะเวลาอาจารย์ถามก็มักจะได้คำตอบจากเด็กเรียนแถวหน้า หรือไม่ก็เล็งไปที่เด็กไม่ตั้งใจเรียน
              ซึ่งการเป็นเป้าหมายให้อาจารย์เล็งทำให้คนคนนั้นกดดันได้เหมือนกันนะ เช่น เวลาอาจารย์มีคำถาม ถามโพร่งขึ้นกลางห้อง ทุกคนก็จะไปตั้งความหวัง ว่าเออน่ะ เดี๋ยวคนเก่งๆ ก็ตอบกัน เราอยู่เฉยๆ ไปเถอะ แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ มันเหมือนเป็นหน้าที่ของชีวิตเด็ก 3.8+ ไปแล้วล่ะ เห็นแบบนี้เริ่มสงสารเด็กเรียนเก่งบ้างรึยังล่ะ ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นอีกเหตุผลนึงที่ทำให้เราเรียนสบายขึ้น ไม่ต้องตกเป็นเป้าสายตาของอาจารย์ ขอแค่ตั้งใจเรียนตามปกติ และเอาความรู้ไปสอบก็พอ


ข้อดีที่ 5: เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องแคร์ใคร
               เมื่อเราไม่ได้เรียนเก่ง ก็ไม่ต้องเป็นจุดเด่นของห้อง ซึ่งจะทำให้เราเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ อย่างเวลาสอบก็ไม่ต้องไปนั่งลุ้นว่าจะต้องแข่งกับใครบ้าง เทอมนี้จะติด Top5 มั้ย เพราะถ้าเลยคนที่ 10 มา ก็เริ่มไม่มีใครนั่งไล่แล้วว่าใครสอบได้ที่เท่าไหร่ อีกมีคนนั่งไล่ก็ไม่มีคนอยากรู้เท่าไหร่ ฮ่าๆ
               อีกอย่างนึง คือ การเป็นจุดเด่น ทุกคนในห้องจะโฟกัสไปที่คนนั้น เช่น เวลามีแข่งประกวดตอบคำถาม ประกวดสุนทรพจน์ ประกวดเขียนเรียงความ ฯลฯ เด็กเรียนนั่นแหละ คือ ความหวัง (จริงๆ ก็ไม่ได้หวังอะไรขนาดนั้น แค่ขี้เกียจประกวดกัน ก็ให้เด็กเรียนนี่แหละไปเป็นหน้าเป็นตา) ส่วนเราก็นั่งเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆต่อไป :)



              เอาล่ะค่ะ ถึงแม้ว่าคนเรียนไม่เก่งจะมีข้อด้อยมากมาย แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีมุมข้อดีอยู่บ้าง ที่รู้สึกว่าชีวิตนี้ไม่ต้องไปแบกรับภาระการแข่งขันกับใคร ส่วนหนึ่งบทความนี้มุ่งให้น้องๆ ภูมิใจกับความธรรมดาของตัวเอง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าให้น้องๆ เห็นดีเห็นงามจนไม่พัฒนาตัวเองนะ จุดประสงค์หลัก คือ อยากให้กำลังใจน้องๆ ที่กำลังถูกกดดันจากคนรอบข้างมากกว่า แล้วก็เอาแรงผลักดันเหล่านั้นมาสร้างเป็นพลังให้ตัวเอง...

             พี่มิ้นท์ เชื่อว่าธรรมชาติให้สมองมนุษย์มาทุกคน แต่มันจะต่างกันแค่ว่าเราจะพัฒนาสิ่งนี้อย่างไร จะภูมิใจในสิ่งที่ตนเองมีแล้วขวนขวายหาความรู้เพิ่ม หรือภูมิใจกับสิ่งที่ตนเองมีแล้วนิ่งเฉย หรือหยิ่งทะนงว่าตัวเองเก่งแล้วก็ไม่หาความรู้เพิ่ม?? สิ่งเหล่านี้เป็นตัวแปรความสำเร็จของน้องๆ ทั้งนั้นค่ะ
              ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ที่ ณ วันนี้อยู่ส่วนไหนไม่รู้ แต่เชื่อว่าถ้ามีความพยายามซักวันนึงจะก้าวมาสู่อันดับต้นๆ แบบไม่กดดันได้แน่นอน

 

พี่มิ้นท์
พี่มิ้นท์ - Columnist พี่สาวใจเย็น ผู้เกิดมาในแอดมิชชั่นยุคแรก แต่เข้าใจ TCAS มากกว่า

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

zeouswastely 20 มี.ค. 55 07:44 น. 5
ทำไมถึงมี ความคิด แบบแปลก ๆ แบบนี้

ข้อ1.ยอมรับว่าดี แต่ มาเครียดตอนสอบ(เหมือนกับเป็นคนไม่รับผิดชอบอะ แล้วมันจะเก่งได้ไง)

ข้อ2.มันก็โอเคนะ แต่ควรตั้งใจทำให้เต็มที่ก่อน ซิ จะได้ไม่ต้องมีเหตุผลที่แปลก ๆ มาปลอบโยนตัวเอง

ข้อ3.บ้าไปใหญ่แล้ว พ่อแม่ดี ๆ เขาจะไม่กดดันลูกตัวเองหรอก นอกจาก (พ่อแม่ที่มีประสบการณ์ในการใช้ชีวิตมาน้อย)

ข้อ4.จะบอกว่า ข้อนี้ดีที่สุดเลย และการที่อาจารย์ถามเราก็จะทำให้เราต้องใส่ใจในวิชานี้มากขึ้นมันจะทำให้เก่งขึ้นจริง ๆ (เราโดนถามบ่อยจนได้TOPแถมอาจารย์ยังบอกให้เราไปสอบหมอด้วยอะ และบอกว่าเธอมีศักยภาพพอ โครตดีใจ แต่เราไม่ได้อยากเป็นหมอเลยไม่ไป) แต่ถ้าเธอคิดว่าการถามมันกดดัน '' ควรเปลี่ยนวิธีคิด ''

ข้อ5.ก็ไม่เกี่ยวอะ เก่งหรือไม่เก่ง สามารถเป็นตัวเองได้หมด ดูคนเก่งส่วนใหญ่ ซิ
จะมีอะไรแปลก ๆ ตลอด แบบว่ามีแนวเป็นของตัวเองอะ ติสต์ ๆ เทห์ ๆ เซอร์ ๆ

NIECHAR FEECHZLOGCUE สวัสดี
0
กำลังโหลด
Pretty_misa <Magane besuto!!> Member 20 มี.ค. 55 03:10 น. 1

บางทีก็คิดว่าการที่เราเรียนเก่งที่สุดแล้วมันดีนะ แต่เชื่อเถอะว่า ไอคนที่ได้เกรดสูงๆเนี่ย
กดดันมากเลยล่ะ(แต่ข้อดีในม.ปลายคือ มันเลือกคณะ เลือกโควต้าได้มาก) แต่เกรดกลางๆ
มันไม่กดดันนะ สบายๆดี แบบพ่อแม่ไม่หวังมาก (แต่เวลาเลือกคณะ โควต้าก็ลดหลั่นกันไป)

นอกจากไว้ใช้สอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว บางทีเกรดสูงก็ใช่ว่าจะดีเสมอไปสักหน่อย 

0
กำลังโหลด
N0N9SUN Member 20 มี.ค. 55 09:05 น. 8
เป็นคนเรียนไม่เก่งค่ะ แต่ก็ไม่รู้สึกว่า ด้ อ ย กว่าคนอื่นเลย
                                                                      บางคนเรียนเก่งก็จริง แต่ล้างจานยังไม่เป็นเลย


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 20 มีนาคม 2555 / 09:08
1
กำลังโหลด
lll-MiNt-lll Columnist 20 มี.ค. 55 09:17 น. 9
 อย่าเพิ่งคิดมากกันสิคะ ท้ายบทความพี่มิ้นท์ก็บอกอยู่แล้วว่า ไม่ได้อยากให้น้องๆ ภูมิใจในความไม่เก่งจนหยุดพัฒนาซักหน่อย ยังอยากให้พัฒนาตัวเองอยู่นะ ซึ่งพี่มิ้นท์แค่แสดงความคึิดเห็นในอีกมุมหนึ่งว่าบางทีคนเรียนไม่เก่งก็มีข้อดีเหมือนกัน จะได้ไม่รู้สึกว่าตัวเองแย่เหมือนทีคนอื่นๆ มอง

ทุกอย่างมันมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัวค่ะ อยู่ที่เราจะมอง :) และเอาสิ่งนั้นมาพัฒนาตัวเองยังไงมากกว่าค่ะ 


0
กำลังโหลด
jade Member 20 มี.ค. 55 14:40 น. 30
พูดในฐานะเด็กเรียนดีคนหนึ่ง เราค่อนข้างซีเรียสกับเกรดแล้วก็คะแนนมาก พ่อแม่ก็คาดหวังแล้วสอนให้เราวางแผนอนาคตไว้ไกลๆ ตลอด พ่อเตือนตลอดให้เราเตรียมตัวรับอนาคตไว้ให้ดี ว่ามันมืดมนแล้วก็ยากลำบาก 

แต่ถามว่าการเป็นเด็กเก่ง ทำให้เครียดจนกระทบกับความสุขในชีวิตไหม เราก็มีความเครียดเล็กๆ น้อยๆ เหมือนคนธรรมดาทั่วไป เรารู้สึกเฉยๆ เพราะเป็นนิสัยปกติของเราอยู่แล้ว

คนเรารับความเครียดได้ไม่เท่ากัน เพื่อนบางคนเรียนเก่งกว่าเรามาก แต่เข้ากับเพื่อน ทำกิจกรรมได้เก่งมาก แล้วก็ร่าเริง เพื่อนๆ รัก มันแล้วแต่คน ^^ เด็กเก่งไม่จำเป็นต้องเครียด หรือเป็นอัจฉริยะติงต๊องทุกคน

เราก็อิจฉาเพื่อนๆ บ้าง ที่เขาเรียนสบายๆ ทำอะไรตามใจ ปล่อยเกรดกันได้ แต่ทุกครั้งเราก็มาคิดได้ในอีกนาทีต่อมาว่า มันเพราะที่บ้านเขามีธุรกิจ หรือมีเงินทุนอยู่แล้ว โตขึ้นไปเขาไม่ต้องหางานทำเองเหมือนเรา พ่อแม่เราบอกเลยว่าที่บ้านมีพอส่งให้เราไปหาความรู้ แล้วเราไปหางาน สร้างตัวเอง เราก็เลยมีความจำเป็นต้องตั้งใจเรียน

เป็นเด็กเรียนมันก็ดีนะ รักษาเกรดดีๆ ไว้ มันก็ทำให้เราไม่ต้องเครียดช่วงใกล้ยื่นคะแนน ว่าเราไม่มีที่เรียน จะเข้าที่ไหนก็เข้าได้ มันก็มีข้อดีของมัน มันก็คือเรื่องหว่านพืชหวังผล ถ้าเราพยายาม ตั้งใจเสียตอนนี้ ปลายทางเราก็สบายยาว

พ่อแม่ก็สบายใจ ภูมิใจ เอาเราไปอวดกับใครๆ ได้ ไม่ต้องกลัวโดนคนอื่นเอาลูกมาข่ม มันก็คือการตอบแทนพ่อแม่ในช่วงที่เรายังต้องพึ่งท่านอยู่

ข้อ 1 ถามว่าเราเป็นเด็กเก่งเครียดไหม เครียดบ้างแต่ไม่เยอะหรอก หลักๆ นั่นเพราะนิสัยเรา เราอยากได้คะแนนดีๆ เอง ไม่ใช่เพราะพ่อแม่กดดันหรือเพราะต้องรักษาภาพพจน์

ข้อ 2 เรามีนิสัยต้องทำให้ดีขึ้นอยู่แล้ว แน่นอนว่าถ้าเกรดเราตกหรือเท่าเดิม เราเจ็บกว่าคนอื่น เพราะเราคาดหวังมากกว่า
 
เราคิดว่าเด็กทุกคนจะเก่งหรือไม่เก่ง ยังไงต้องพัฒนาตัวเองตลอดอยู่แล้ว ไม่ย่ำอยู่กับที่

ข้อ 3 พ่อแม่กดดันมาก แต่เพราะเขารักเรามาก ห่วงอนาคตเรามาก ไม่ใช่เพราะเราหัวดี ถึงเราเรียนไม่เก่ง เขาก็หาทางเข็นเราไปเรียนอาชีวะอยู่ดี ^^

ข้อ 4 อาจารย์ไม่เล็งเราเลยเพราะเรานั่งหลังสุดและหลับในห้องตลอด 55555+ แล้วเด็กโตๆ อาจารย์ไม่ค่อยใกล้ชิดนักเรียนด้วย ถ้าเรานั่งเรียนเงียบๆ ไม่คุยกับเพื่อนจนโดนดุ ก็ไม่มีอาจารย์คนไหนรู้หรอกว่าเรานั่งอยู่ในห้อง ว่าเราเป็นเด็กเก่ง หรือไม่เก่ง

การเรียนเก่งไม่ได้ทำให้เราเด่น แต่พฤติกรรมเราเองที่จะทำให้เด่น เป็นเด็กเก่งถ้าไม่ยกมือตอบทุกอย่างจนน่าหมั่นไส้เหมือนเฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่มีอะไร อย่าทำตัวเด่นเกินไปจะดีกว่า แทนที่ทุกคนจะมาหาเราให้เราช่วย กลับกลายเป็นให้เพื่อนๆ จงใจเล็งจับผิดเราโดยเฉพาะ

ข้อ 5 เราก็เป็นตัวของตัวเองนะ ทำในสิ่งที่ชอบ ที่เราต้องพยายามรักษาเกรด รักษาอันดับก็คือนิสัยส่วนตัว เราไม่กลัวเสียภาพพจน์ แต่แน่นอนว่าเวลามีรายการแข่งหรืองานโรงเรียน อาจารย์หรือเพื่อนจะมอบงานให้เรา และเราก็ดีใจ เพราะเราอยากมีประสบการณ์ และดีใจที่ทุกคนวางใจเรา



เรามองว่าคนเรียนดี บางครั้งเพราะมีความจำเป็นที่ต้องสร้างอนาคตที่ดีให้ตัวเอง และเป็นความทะเยอทะยาน ความสุขส่วนตัว  บางครั้งคนอื่นดูแล้วอาจจะว่าบ้า แกได้เยอะขนาดนี้แล้ว ยังจะมาบ่น มาร้องไห้ อนาถจิต ฯลฯ

เราคิดว่าจะเป็นเด็กเก่งหรือกลางๆ หรือไม่เก่ง ไม่มีอันไหนดีหรือไม่ดีกว่ากัน ความตั้งใจของแต่ละคนควรขึ้นอยู่กับความพอใจของตัวเองว่าอยากเก่งอะไร อยากเก่งแค่ไหน และฐานะทางบ้านเป็นอย่างไร เด็กเก่งหลายคนยินดีที่จะกดดันตัวเองเพื่อให้ได้คะแนนดีๆ และหลายคนก็ไม่ชอบถูกกดดัน ไม่จำเป็นว่าทุกคนต้องไม่พอใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็น

ถ้าบ้านเราพร้อมอยู่แล้ว เราจะสบายๆ ก็ได้ แต่ถ้าบ้านไม่มีอะไรนี่ ก็คงต้องดิ้นรนกันหน่อย มันก็คือเรื่องธรรมดา เราทุกคนควรเลือกทางที่ดีที่สุดให้ตัวเอง
 
0
กำลังโหลด

161 ความคิดเห็น

Pretty_misa <Magane besuto!!> Member 20 มี.ค. 55 03:10 น. 1

บางทีก็คิดว่าการที่เราเรียนเก่งที่สุดแล้วมันดีนะ แต่เชื่อเถอะว่า ไอคนที่ได้เกรดสูงๆเนี่ย
กดดันมากเลยล่ะ(แต่ข้อดีในม.ปลายคือ มันเลือกคณะ เลือกโควต้าได้มาก) แต่เกรดกลางๆ
มันไม่กดดันนะ สบายๆดี แบบพ่อแม่ไม่หวังมาก (แต่เวลาเลือกคณะ โควต้าก็ลดหลั่นกันไป)

นอกจากไว้ใช้สอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว บางทีเกรดสูงก็ใช่ว่าจะดีเสมอไปสักหน่อย 

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
zeouswastely 20 มี.ค. 55 07:44 น. 5
ทำไมถึงมี ความคิด แบบแปลก ๆ แบบนี้

ข้อ1.ยอมรับว่าดี แต่ มาเครียดตอนสอบ(เหมือนกับเป็นคนไม่รับผิดชอบอะ แล้วมันจะเก่งได้ไง)

ข้อ2.มันก็โอเคนะ แต่ควรตั้งใจทำให้เต็มที่ก่อน ซิ จะได้ไม่ต้องมีเหตุผลที่แปลก ๆ มาปลอบโยนตัวเอง

ข้อ3.บ้าไปใหญ่แล้ว พ่อแม่ดี ๆ เขาจะไม่กดดันลูกตัวเองหรอก นอกจาก (พ่อแม่ที่มีประสบการณ์ในการใช้ชีวิตมาน้อย)

ข้อ4.จะบอกว่า ข้อนี้ดีที่สุดเลย และการที่อาจารย์ถามเราก็จะทำให้เราต้องใส่ใจในวิชานี้มากขึ้นมันจะทำให้เก่งขึ้นจริง ๆ (เราโดนถามบ่อยจนได้TOPแถมอาจารย์ยังบอกให้เราไปสอบหมอด้วยอะ และบอกว่าเธอมีศักยภาพพอ โครตดีใจ แต่เราไม่ได้อยากเป็นหมอเลยไม่ไป) แต่ถ้าเธอคิดว่าการถามมันกดดัน '' ควรเปลี่ยนวิธีคิด ''

ข้อ5.ก็ไม่เกี่ยวอะ เก่งหรือไม่เก่ง สามารถเป็นตัวเองได้หมด ดูคนเก่งส่วนใหญ่ ซิ
จะมีอะไรแปลก ๆ ตลอด แบบว่ามีแนวเป็นของตัวเองอะ ติสต์ ๆ เทห์ ๆ เซอร์ ๆ

NIECHAR FEECHZLOGCUE สวัสดี
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
N0N9SUN Member 20 มี.ค. 55 09:05 น. 8
เป็นคนเรียนไม่เก่งค่ะ แต่ก็ไม่รู้สึกว่า ด้ อ ย กว่าคนอื่นเลย
                                                                      บางคนเรียนเก่งก็จริง แต่ล้างจานยังไม่เป็นเลย


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 20 มีนาคม 2555 / 09:08
1
กำลังโหลด
lll-MiNt-lll Columnist 20 มี.ค. 55 09:17 น. 9
 อย่าเพิ่งคิดมากกันสิคะ ท้ายบทความพี่มิ้นท์ก็บอกอยู่แล้วว่า ไม่ได้อยากให้น้องๆ ภูมิใจในความไม่เก่งจนหยุดพัฒนาซักหน่อย ยังอยากให้พัฒนาตัวเองอยู่นะ ซึ่งพี่มิ้นท์แค่แสดงความคึิดเห็นในอีกมุมหนึ่งว่าบางทีคนเรียนไม่เก่งก็มีข้อดีเหมือนกัน จะได้ไม่รู้สึกว่าตัวเองแย่เหมือนทีคนอื่นๆ มอง

ทุกอย่างมันมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัวค่ะ อยู่ที่เราจะมอง :) และเอาสิ่งนั้นมาพัฒนาตัวเองยังไงมากกว่าค่ะ 


0
กำลังโหลด
memine-baiyoke Member 20 มี.ค. 55 09:25 น. 10
ไม่จริงเสมอไปหรอกค่ะ
อย่างบางคนพยายามอ่านหนังสือแทบตายแต่กลับไม่เข้าใจเนื้อหา
สุดท้ายก็ท้อ เหนื่อย และยอมเลิกไปเอง
พอเกรดออกมาไม่ดีกลับกลายเป็นว่า กดดันตัวเอง มากขึ้นกว่าเดิม
อยากเก่งบ้างอะไรบ้างอ่า
0
กำลังโหลด
Rolla Member 20 มี.ค. 55 09:31 น. 11
เราเรียนไม่เก่งแต่ก็ไม่กดดันตัวเอง แต่คนที่กดดันเราคือพ่อแม่ตะหากล่ะ
อาจารย์เค้าก็กดดันบ้างแต่ไม่มาก คือ กดดันแต่เรื่องไม่ส่งงานระวังเกรดไม่ออกนะ
เค้าชอบพูดอย่างนี้ประจำ แต่เรียนไม่เก่งเค้าก็มีว่าบ้าง (เฉพาะครูบางคน)

ความสุขเกิดขึ้นได้ก็อยู่ที่จะมองเนอะ อย่างที่พี่มิ้นว่า 55 เห็นด้วยค่ะ ^ ^
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Vidia Simeron Member 20 มี.ค. 55 11:10 น. 13
มันก็จริงอ่ะ... เห็นด้วยอย่างแรงค่ะ จะว่าไป... ตอนนี้เกรดตกลงมาเหลือ3.5ในวิชาภาษาไทย... เครียดของแท้...
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
123 20 มี.ค. 55 11:30 น. 15
เรียน ชิวๆๆไม่หวังโควต้าอยู่แล้ว อย่างน้ยเรา ก็สอบตรงติดหลายที่และ เกรด 2กว่าๆ มันแค่ตัวเลข :D
0
กำลังโหลด
เจ้าแห่งสายทอง Member 20 มี.ค. 55 11:39 น. 16
เหอๆ ไม่รู้สิ แต่เราอิจฉาคนเรียนเก่งอ่ะ เพราะเหมือนเขาจะมีเพื่อนเยอะแถมยังเป็นที่รักของอาจารย์อีกอ่ะ
0
กำลังโหลด
koler Member 20 มี.ค. 55 11:48 น. 17
เราเรียนดีมากเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ตกต่ำมาก

ตอนนี้กำลังอยู่ในระยะทำใจอยู่

เเต่ว่าพอมาคิดดูอีกทีแล้ว  แค่อยู่ในเกรด3ก็ถือว่าดีแล้ว

เราทำเต็มที่แล้ว  แค่ส่งงานให้หมดไม่ให้มีค้าง ไม่โดดเรียน นั่งหน้าห้อง ร่วมกิจกรรมรร.ตั้งใจเรียน

ทำไม่ได้ถามครูหรือลอกเพื่อนสักนิดๆ แค่นี้ก็เป๊ะแล้ว (สำหรับเราแล้วนะ) 
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
่Airino Member 20 มี.ค. 55 12:52 น. 20
 เราว่าเป็นเด็กกลางห้องมันก็ดีนะคะ เรียนสบายๆ
แต่ถ้าอย่างประกาศผลสอบแล้วเราออกมาคะแนนพอๆกับพวกเรียนเก่งก็อาจโดนมองหน้าได้ 555+
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด