เชื่อหรือไม่!! แบดมินตันเป็นกีฬาที่ลูกพุ่งเร็วที่สุดในโลก

                วัสดีค่ะน้องๆ... เวลานี้เรื่องที่ตื่นเต้นสำหรับคนไทยมากที่สุดก็คือ การลุ้นกีฬาโอลิมปิกที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ หรือ ลอนดอนเกมส์ ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะปิดฉากการแข่งขันแล้ว ปีนี้นักกีฬาไทยก็ส่งไปเยอะไม่แพ้ปีก่อนๆ แต่ที่ พี่มิ้นท์ ลุ้นตัวโก่งกว่าปีอื่นๆ ก็คือ ทัพนักกีฬาแบดมินตัน เล่นกันมันส์ทุกรายการ โดยเฉพาะน้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ นักกีฬาที่อายุแค่ 17 ปี แต่ฝีมือไกลเกินตัวจริงๆ เชื่อว่า ชาว Dek-D.com หลายคน ก็เฝ้าหน้าจอเชียร์กันสุดชีวิตเหมือนกัน^^

                แม้ว่าจะพ่ายให้กับนักกีฬาอันดับ 2 ของโลกจากจีน แต่น้องเมย์ก็เอาชนะใจคนไทยไปทั้งประเทศเลยทีเดียว ว่าแล้วคอลัมน์วิทย์สุดจี๊ดวันนี้ พี่มิ้นท์ เลยขอหยิบเอาเกร็ดวิทย์ๆ เกี่ยวกับกีฬาแบดมินตันมาฝากชาว
Dek-D กันหน่อย

                น้องๆ รู้มั้ยคะว่า ไม้แบดมินตัน 1 อัน กับลูกขนไก่ 1 ลุก สามารถทำให้เกิดความเร็วได้ถึง 342 กม./ชม. ซึ่งนับเป็นกีฬาที่มีความเร็วที่สุดในโลกในบรรดากีฬาที่ใช้ไม้เป็นอุปกรณ์การตีอีกด้วย

                พูดแบบนี้หลายคนอาจจะไม่เชื่อ เพราะลูกแบดก็ดูเบาหวิว น่าจะต้านลมมากกว่าลูกเทนนิสด้วยซ้ำไป แต่ในเรื่องนี้ได้มีการทดสอบและวัดความเร็วจากเครื่องมือวัดความเร็วมาแล้วด้วย เนื่องจากมีการถกเถียงกันพอสมควรว่าในกีฬาที่มีไม้ตีลูกชนิดใดที่ตีลูกแล้วลูกจะวิ่งได้เร็วที่สุดในโลก สหพันธ์แบดมินตันนานาชาติ ไอบีเอฟ จึงได้จ้างให้บริษัทที่ทำการวัดและบันทึกสถิติความเร็วกับความแรงในกีฬาเทนนิส มาวัดความเร็วและแรงลูกขนไก่บ้าง ซึ่งผลที่ออกมาก็ทำให้หลายคนอ้าปากหวอ เพราะผลที่ออกมาดันเร็วและแรงกว่าลูกเทนนิสซะอีก

                 โดยความเร็วของลูกเทนนิสจากสถิติที่เคยเก็บไว้ คือ 270 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่!!...ความเร็วจากลูกขนไก่ปลายพริ้วแบบนี้ นักกีฬาผู้ชายสามารถตบโดยมีความสูงสุดถึง 342 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนนักกีฬาหญิงมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 296 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ความเร็วนี้วัดจากลูกตบนะคะ

                
สาเหตุที่ลูกขนไก่มีความเร็วได้ขนาดนี้เกิดจากเส้นเอ็นที่หน้าไม้แบดนั้นมีความยืดหยุ่นมาก เมื่อตีโดนส่วนหัวของลูกขนไก่จึงเป็นแรงส่งที่ทำให้ลูกขนไก่พุ่งด้วยความแรงและความเร็วสูง ซึ่ง พี่มิ้นท์ ก็เคยเล่นแบดมินตันแล้วโดนตบอัดกลางหน้าผาก ถึงความเร็วจะไม่โหดขนาดนี้ แต่ก็สาบานได้ว่าแสบเหม่งไปหลายนาทีเลย แล้วถ้าเป็นความเร็วขนาดนี้ ก็หวิดเสียโฉมได้เหมือนกันนะเนี่ย หลายๆ โรงเรียนบรรจุแบดมินตันเป็นกีฬาที่ต้องเรียน ยังไงน้องๆ ก็เล่นด้วยความระมัดระวังกันด้วยนะคะ


                 พูดถึงเรื่องความเร็วของกีฬาที่มีลูกและไม้เป็นอุปกรณ์ทั้งที ก็ขอไล่ความเร็วสูงสุดของกีฬาชนิดอื่นๆ เสริมเป็นความรู้ให้น้องๆ ดีกว่า ค่ะ
                      ลูกกอล์ฟ 310 กม./ชม.
                      ลูกเทนนิส 270 กม./ชม.
                      ลูกปิงปอง 250 กม./ชม.

                      ลูกฮอกกี้น้ำแข็ง 200 กม./ชม.
                      ลูกเบสบอล (ตี) 180 กม./ชม.
                      ลูกเบสบอล (ขว้าง) 167 กม./ชม.
                      ลูกฟุตบอล 150 กม./ชม.
                      ลูกวอลเล่ย์บอล 115 กม./ชม.

                 สำหรับกีฬาแบดมินตัน ดูเป็นกีฬาที่เล่นกันง่ายและเล่นได้ทุกเพศ ทุกวัย เนื่องจากไม่หนักมาก เรียกเหงื่อได้ดีและค่อนข้างสนุก จึงเห็นสาวๆ หรือผู้ใหญ่หลายคนมาเล่นกีฬาชนิดนี้เยอะ


               แต่ถ้าหากจะเล่นให้ถูกหลักแบบจริงจัง ก็อาจไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะต้องอาศัยทั้งหลักการและเทคนิค เช่น การสะบัดข้อมือ การเหวี่ยงแขน ถ้าหากรู้หลักที่ถูกต้องก็จะช่วยให้ลูกตบของเรามีน้ำหนักและบังคับไปในทิศทางที่ต้องการได้ นอกจากนี้ยังต้องอาศัยความคล่องตัวหรือฟุตเวิร์คไปยังตำแหน่งต่างๆ ในสนามด้วย ถ้าคล่องแคล่วว่องไว เราก็สามารถกลับมารับลูกทัน โดยไม่ต้องวิ่งตามเก็บลูกให้เหนื่อย และที่สำคัญไม้แบดของเราก็ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญทีเดียวค่ะ ควรเลือกไม้แบดน้ำหนักเบาและเหมาะกับสไตล์การเล่นตัวเอง เพื่อไม่ให้กินแรงแขนและเล่นได้ถนัดที่สุดค่ะ

               เป็นอย่างไรกันบ้างกับเกร็ดความรู้เกี่ยวกับกีฬาแบดมินตันวันนี้ เชื่อว่าชาว Dek-D หลายคนน่าจะชอบเล่นกีฬาแบดมินตันกันอยู่แล้ว ลองหาเวลาฝึกซ้อมบ่อยๆนะคะ นอกจากทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้วยังช่วยให้เรามีความชำนาญในกีฬาด้านนั้นๆ ด้วย สำหรับใครที่ไม่ชอบแบดก็สามารถเลือกเล่นกีฬาชนิดอื่นได้ นึกๆ ดูแล้วกีฬามีเยอะจริงๆ ค่ะ หันมาออกกำลังกายกันดีกว่านะคะ
               สุดท้าย อย่าลืมเชียร์และให้กำลังใจนักกีฬาไทยในลอนดอนเกมส์ด้วยนะคะ เหลือเวลาอีกไม่กี่วันแล้ว สู้ๆๆๆๆ

  

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือวิทยาศาสตร์ฉลาดรู้ เรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬา
http://madbit.multiply.com

ขอขอบคุณรูปภาพจาก
www.reddit.com, www.borskinai.com
http://news.tlcthai.com, http://sporttopranking.blogspot.com

พี่มิ้นท์
พี่มิ้นท์ - Columnist พี่สาวใจเย็น ผู้เกิดมาในแอดมิชชั่นยุคแรก แต่เข้าใจ TCAS มากกว่า

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

ฮาสาด 6 ต.ค. 55 22:28 น. 15
FenikzShadow
อ่านบากิเยอะไปชัดเจน เอาเป็นว่า ปัญหามันอยู่ที่ว่าเขาวัดตอนไหน แน่นอนว่าวัดตอนอัตราเร่งสูงสุด แต่ที่คุณมองว่ามันช้าน่ะ คุณมองตอนมันปลิวมาถึงอีกฝั่งนึงแล้วหรือเปล่า ไม่ว่าจะตบแรงขนาดไหน เราไม่สามารถทำให้ลูกแบดมีความเร็วกว่าเสียงได้ตั้งแต่ไม้กระทบลูกจนถึงพื้นอีกฝั่งตรงข้ามแน่นอนครับ

การโถมพุ่งสุดตัวแบบความเห็น#1 ก็เป็นการเพียงแค่เอาน้ำหนักตัวลอยไปชนกับวัตถุเท่านั้นเอง การง้างแขนบิดลำตัวก็ไม่สามารถช่วยได้เช่นกัน กล้ามเนื้อที่แข็งแกร่ง ย่อมขาดความยืดหยุ่น แต่กล้ามเนื้อที่ยืดหยุ่นก็ไม่สามารถรับแรงบิดได้มากนัก

แล้วก็ถ้าคุณเอาหลัก Martial Art มารวมกับ Sport เนี่ย อย่าลืมเรื่องการใช้แรงจากพื้นด้วยนะครับ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
คนนอกที่เล่นทั้งเทนนิสและแบตมินตัน 15 เม.ย. 56 18:10 น. 19
เออนะ ...คนนึงก็คลั่งการ์ตูน อธิบายมาแต่ละอย่างเหมือนไม่เคยจับไม้เล่นจริงๆ เก่งจากคลิปจากทีวีมานั่งจินตนาการเป็นตุเป็นตะใส่ทั้งคงทั้งแขน วิ่งขึ้นเขาลงห้วยฝึกเป็นยอดมนุษย์บ้าง ...ทั้งๆ ที่นักกีฬาจริงๆ เค้าใช้เวทเทรนนิ่ง กีฬาเทคนิคข้อมือและการเคลื่อนที่ฟุตเวิร์คเร็วอย่างแบตมินตันจะให้โถมทั้งตัวทั้งแขนพิชิตชัย ...โอยย ...สงสัยไม่เคยลงไปตีจริงๆ ถึงไม่รู้ว่าทั้ง set โอกาสเล่นท่าพิสดารแบบนั้นมันน้อยแค่ไหน ประสิทธิผลต่ำแค่ไหน ...

อีกคนนึงอ่านแล้วเหมือนเล่นเป็น แต่หลงฟิสิกส์ไปนิด โมเมนต์ของคานมัน M = FxS ถ้ายิ่งใกล้จุดหมุนยังไงแรงก็ต่ำกว่าอยู่แล้ว เพียงแต่ที่เค้าใช้การสะบัดข้อมือเพราะมันเป็นกีฬาที่ไวมาก เพราะในทางกลับกัน M (มวล) ของลูกขนไก่มันต่ำมาก ถ้า S (ระยะทางจากจุดหมุน) มันมาก ย้ายข้างไปมันจะได้ F (แรงส่ง) ที่ต่ำ เพราะงั้นถ้าอยากให้ลูกเบาๆ ไปเร็วและแรงพอ ระยะจากจุดหมุนเลยจะน้อยตาม แล้วมันจะทำให้ร่างกายมีการตอบสนองที่ทันพอต่อความเร็วลูก ...คนแรกอยากให้ใช้ทั้งตัว ยิ่งข้อต่อที่ใช้ส่งเยอะ ยิ่งเกิดการเสียพลังงานสูงหรือต้องใช้พลังงานมากกว่าปกติบ่งบอกถึงไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับแบตฯ อีกคนถ้าไม่แตะฟิสิกส์เอามาอธิบายเลยจะเข้าท่ากว่ามาก แค่เทคนิคของแม่ก็พอถมเถที่จะอธิบายแล้ว...

ปวดกบาลจริงๆ
0
กำลังโหลด
kornnnnnn 18 พ.ค. 56 20:29 น. 21
เวลาแข่งเนี่ย เขาแข่งกัน2ใน3ครับผม จะเหวี่ยงทั้งแขนแล้วแรงไม่หมดก็แล้วไป
เค้าใช้ข้อเพราะมันประหยัดแรง และเอาจริงๆ ที่เขาแข่งกันน่ะ ตัวเองลองลงไปรับดู ที่เห็นช้าๆน่ะ ยังไงก็ตามลูกไม่ทันแน่นอน
0
กำลังโหลด

31 ความคิดเห็น

FenikzShadow Member 8 ส.ค. 55 09:25 น. 1
ส่วนตัวแล้ว ผมว่าลูกขนไก่ในกีฬาโอลิมปิก
มันไม่น่าจะมีความเร็วขนาดนั้นนะครับ

เพราะผมดูแล้ว ยังไงก็ " ช้า " อยู่ดี

นักกีฬาที่ผมเห็นส่วนใหญ่ ชอบตบแบบใช้หลักการสะบัดข้อมือฟาด
แบบที่โค้ชทั่วไปนิยมสอนกัน เลยทำให้ลูกพุ่งช้า
และสามารถเดาออกได้ง่ายมาก ว่าลูกจะพุ่งไปทางไหน และดักรับได้ทัน
หรือไม่ก็ถูกนักกีฬาที่มีประสาทสัมผัสไวมาก ๆ
( การตอบสนองอยู่ภายในช่วง 0.2 ~ 0.3 วินาที ) โต้กลับได้ทัน
เพราะยังอยู่ในขั้นที่มองเห็นการเคลื่อนไหวของลูกอยู่

ซึ่งการตบแบบนั้น
จะไม่แรงเท่ากับการโถมพุ่งเข้าใส่ลูกแบต ฯ
พร้อมกับง้างแขนและบิดลำตัวหมุนฟาดไปแบบสุดกำลัง

ทุ่มใส่ทั้งตัว เปรี้ยงเดียวนี้คือมองไม่เห็นลูกแบต ฯ เลย
เห็นอีกทีก็กระทบพื้นไปแล้ว

ถ้าตบแบบสะบัดข้อมือฟาด มีความเร็วได้ขนาดนั้น
การตบแบบที่ผมพูดถึง คงมีความเร็วเกินครึ่ง ของความเร็วเสียง

คิดว่านะครับ
0
กำลังโหลด
Sirisobhakya Member 8 ส.ค. 55 10:02 น. 2
#1 การตีแบดที่ถูก ต้องสะบัดข้อมือครับ ไม่ใช่ใช้ทั้งแขน หรืออย่างมากก็ใช้แขนบวกข้อมือ โดยข้อมือเป็นหลัก (เครดิตจากแม่ผม นักแบดของที่ทำงาน เล่นแบดเป็นประจำ และผมเองก็เล่นกับแม่มาหลายครั้ง)

ใช้ทั้งแขน บวกสะบัดข้อมือ บวกบิดตัว มันทำให้ความเร็วสูงขึ้นก็จริง แต่กว่าคุณจะออกแรงหมดทั้งตัวและต้องควบคุมให้สัมพันธ์กัน ป่านนั้นลูกตกพื้นไปแล้ว และยังเปลืองพลังงานด้วย คือมันเร็วจริงแหละ แต่ Efficiency มันต่ำ เอามาตบอัดแข่งกันคุณชนะ แต่ใช้เล่นจริงไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงการไปตีกับคนที่โยกซ้ายโยกขวาเลย วิ่งให้ทันรับและตบกลับนี่ก็ยากแล้ว

สะบัดข้อมือ ถ้าทำให้ถูกจะเร็วมากครับ คิดภาพคานดีดคานงัด ใช้ทั้งแขนก็คือมีมวลทั้งแขนไปกับเรา ในขณะที่การสะบัดข้อมือ จุดหมุนคุณอยู่แค่ข้อมือ ออกแรงที่ใกล้จุดหมุน มีมวลแค่ไม้แบด ฝึกให้เป็นจะเร็วและมีน้ำหนักมาก ที่สำคัญคือประหยัดแรงครับ และคุณสามารถหลอกได้ง่ายด้วย สะบัดมือเปลี่ยนทิศทางนิดเดียวลูกก็ไปอีกทางของคอร์ดได้แล้วนะครับ ไม่เหมือนการเหวี่ยงทั้งแขนที่เห็นๆกันอยู่ว่าเหวี่ยงไปทางไหน เปลี่ยนทิศทางก็ยาก

และการใช้ข้อมือ ก็สามารถบังคับลูกให้พุ่งตรงได้ดีกว่าใช้แขน ที่มักจะส่งลูกสูงโด่งขึ้นไป ทำให้ความเร็วปลายยิ่งตกลง

สังเกตได้จากเสียงตบ ถ้าใช้แขนเสียงมักจะเป็น "ผึง" แต่ถ้าใช้ข้อมือหรือข้อมือ+แขนโดข้อมือเป็นหลัก เสียงมันจะ "ตั้บ" ครับ ลองไปทำดูได้

ที่เห็นลูกมันช้า เพราะลูกแบดมีแรงต้านลมมาก ด้วยขนนกที่เรียงกันเป็นตับบานๆแบบนั้น ความเร็วต้นอาจจะสูงก็จริง แต่แป๊บเดียวก็ชะลอแล้วโดยเฉพาะถ้าตีลูกให้ลอย (มุมปะทะสูง แรงต้านสูงตาม) ถ้าจะตีให้เร็วจริง ต้องลูกตบให้พุ่งเฉียดเน็ต แบบนั้นจะเห็นได้ชัดว่าเร็ว แต่ก็ยังชะลอความเร็วลงมากอยู่ดี

อีกอย่าง คุณมองในจอทีวีน่ะมันดูช้าครับ แต่ลองลงไปเล่นในสนามจริงๆสิ ไม่ช้าเลยนะครับ



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 8 สิงหาคม 2555 / 10:01
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 8 สิงหาคม 2555 / 10:11
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
FenikzShadow Member 8 ส.ค. 55 14:09 น. 4
ถูกครับ ที่ว่าการพุ่งใส่พร้อมกับบิดตัวง้างตบนั้นใช้พลังงานมหาศาล
ไม่เหมาะกับการนำไปเล่นจริง
แต่ถ้าได้รับการฝึกฝนร่างกายมาอย่างดี โดยเฉพาะการฝึกในด้านของพลังขา
อย่างเช่นว่า ใส่ Ankle wrist ที่มีน้ำหนักมาก ๆ เข้าไปฝึกซ้อมในการวิ่ง
หรือจะเป็นการนำถังน้ำสีขาว ๆ ความจุประมาณ 20 ลิตร ใส่น้ำให้เต็ม
แล้วนำไปใส่กับเป้าสะพายหลังขนาดใหญ่ จากนั้นก็วิ่งขึ้นเขาลงเขา

ฝึกแบบนี้สัก 5-6 เดือน หรือหนึ่งปี
กล้ามเนื้อขาจะพัฒนาไปแบบชนิดที่ว่าเหนือกว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไป


ซึ่งถ้าเราออกแรงเพียงน้อยนิด ก็สามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงได้อย่างสบาย ๆ แล้ว
เพราะมีพละกำลังมหาศาล

นักกีฬาส่วนมาก จะฝึกซ้อมโดยคิดเพียงแค่ว่า
ต้องทำตามรูปแบบดั้งเดิม ที่คนนิยมทำ
หรือฝึกซ้อมในอัตราที่นักกีฬาทั่วไปเขานิยมทำกัน
ซึ่งก็จะทำให้เก่งได้มากที่สุด ก็อยู่แค่ในขีดจำกัดเดิม ๆ
มีการเคลื่อนไหวในรูปแบบเดิม ๆ ที่สามารถเดาออกได้ง่าย

สังเกตนะครับ มีหลายครั้ง
ก่อนที่นักกีฬาฝ่ายตรงข้ามจะตบแบบสะบัดข้อมือเคาะลูก
แถว ๆ ใกล้หน้าเน็ท นักกีฬาที่อ่านการเคลื่อนไหว [ แบบเดิม ๆ ] นี้ออก
จะพุ่งตัวไปดักรอสวนกลับในเวลาเดียวกัน
ซึ่งในอีกเสี้ยววินาทีต่อมา คู่ต่อสู้ก็จะตบแบบเคาะลูกออกไป
และแน่นอนว่า นักกีฬาคนนั้นก็เคาะลูกสวนกลับได้ในทันที

อีกอย่าง การใช้เคล็ดในการบิดข้อต่อช่วยเพิ่มแรงปะทะ นั้น
ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นการง้างตบเสมอไป

ถ้านักกีฬาฝึกฝนร่างกายมาอย่างดี ( ไม่ใช่แค่วิ่งไปมา หรือฝึกแบบที่คนทั่วไปฝึก )
และมีความสามารถเฉพาะตัวที่สูงพอ
เขาก็สามารถตีลูกที่แรงกว่าการใช้แค่ [ ข้อต่อเพียงข้อต่อเดียว ] ในการตบ
ได้หลายเท่าตัว โดยใช้เวลาในการตบลูกเท่ากัน
( หรืออาจเร็วกว่าด้วยซ้ำ ) ได้อย่างสบาย ๆ ครับ

การใช้แค่ข้อต่อเพียงข้อต่อเดียว ไม่มีทางที่จะเกิดประสิทธิภาพเท่ากับ
การใช้ข้อต่อหลายสิบข้อ ไล่ตั้งแต่ข้อเท้าทั้งสองข้าง
ขึ้นมายังกระดูกสันหลัง ไหล่ ข้อศอก และไปจบที่ข้อมือ ได้หรอกครับ

ที่ผมออกตัวมาพูดว่ามัน [ ช้า ] และ [ เบากว่า ] ก็เพราะว่ามันเบากว่าจริง ๆ
ผมเป็นพวกที่ชอบนำศิลปะการต่อสู้ เข้ามาผสมผสานกับการเล่นกีฬา
และได้ลองเปรียบเทียบการตบทั้ง 2 แบบมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
ทั้งในการฝึกซ้อมแบบฝึกตบคนเดียว และแบบฝึกซ้อมกับเพื่อนนักกีฬา

คนเรา จะพัฒนาได้ ก็ต้องรู้จักคิดค้น และพัฒนาหาสิ่งใหม่ ๆ ครับ
ไม่ใช่ว่ายึดติดแต่หลักการ และวิธีคิดเดิม ๆ

ถ้ายัง งง อยู่ล่ะก็
ผมแนะนำให้ลองไปหาความหมายของคำว่า Signature Move ดูนะครับ
0
กำลังโหลด
! ปลาไหลน้อย ! Member 8 ส.ค. 55 15:40 น. 5
คห. 4 
ที่บอกว่าใช้แขนแรงกว่ามันก็ถูกอยู่ แต่ก็ไม่ได้เสมอไป และการก้าวออกจากเรื่องจำเจเดิม บางทีก็ไม่ได้สมควรเสมอไปหรอกนะ 

ใช้ทั้งแขนเนี่ย เล่นแบดนะ ไม่ใช่เทนนิส เห็นเพื่อนที่เคยเล่นเทนนิสแล้วเปลี่ยนมาเล่นแบดจะติดปัญหาการตวัดลูกกันจัง ตีแรงจริง ตบแรงจริง แต่พลิกหน้าไม้ไม่ถนัด งัดไม่ถูก ใช้การวิ่งซะส่วนมาก
ถึงจะบอกว่าใช้แขนแรงกว่า มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะตีดีกว่า หรือว่าเดาทางลูกถูก ซึ่งจริงๆแล้ว ใช้ทั้งแขนเนี่ยเดาทางง่ายกว่าใช้ข้อมือเยอะเลยนะ ถ้าเดาทางถูกตั้งแต่ต้น การตีโต้กลับก็ไม่ใช่เรื่องยาก ในจณะที่การใช้ขอมือ ถึงความเร็ว ความแรง จะน้อยกว่า แต่การตัดหน้าไม้เปลี่ยนทิศทางทำได้ง่าย และเร็วกว่ามาก แต่พวกนี้ถ้าฝึกการพลิกหน้าไม้ให้ไม่ขัด และเปลี่ยนมุมตีได้ทันที จะถือว่าเล่นได้ดีเลยละ แต่ก็จะติดปัญหาการเดาทางลูกอยู่ดี ซึ่งเขาก็ชอบใช้วิธี ตบทีเดียวให้อยู่ไปเลย ไม่ต้องให้อีกฝ่ายงัดขึ้นมาซ้ำ เพื่อจะได้ไม่เสียจังหวะตัวเอง

มันไม่ใช่ว่ายึดติดหลักการ และวิธีคิดเดิมๆหรอก แต่คนเล่นเข้ารู้ และเข้าใจในตัวเองมากกกว่า ว่าเขาควรจะเล่นด้วยการตีแบบใด ใช้ลักษณะวิธีใดในการเล่น จะไปว่าเขาจำเจก็ไม่ได้หรอกนะ ต่างคนต่างมีความถนัดกันคนละแบบ

แล้วในเรื่องการวิ่ง ในบางคนที่การตบลูกไม่ได้เรื่อย แต่อาศัยการวิ่ง และการพลิกหน้าไม้ที่ดีก็ถือว่าสูสีกับพวกที่สักแต่ว่าจะตบที่เดียวอยู่หรือโยกอย่างเดียวเสียอีก
0
กำลังโหลด
FenikzShadow Member 8 ส.ค. 55 15:54 น. 6
ผมถึงบอกไงครับ ว่ามันขึ้นอยู่กับการฝึกฝนร่างกายของนักกีฬา
และความสามารถเฉพาะตัว

แบบสมมุติว่า ผมเคลื่อนที่ในการเล่นอย่างเต็มที่ตลอดเกมแล้วเหงื่อท่วมตัว
แต่คู่ต่อสู้กลับแทบไม่มีเหงื่อออก หรือแสดงอาการเหนื่อยเลย

นั่นแหละครับ ผลจากการฝึกฝนร่างกายที่ต่างกัน

เราฝึกว่าหนักแล้ว คู่ต่อสู้อาจฝึกมาเพื่อที่จะเป็นยอดมนุษย์

ที่ [ ออกแรงขยับตัวแค่นิดเดียว ก็เร็วเท่ากับสปีดเต็มที่ของคู่ต่อสู้แล้ว ]

ก็เป็นได้...
( แต่ไม่ใช่กับการฝึกแบบธรรมดาทั่วไปในปัจจุบันอย่างแน่นอน )


อีกจุด คือ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพอพูดถึงเรื่องความรุนแรงในการตบลูก
และขีดจำกัดความสามารถทางด้านร่างกายแล้ว

จึงมีแต่คนที่คิดว่าผู้เล่นที่สามารถตบลูกได้แรง ๆ นั้น
จะมีความถนัดเพียงแค่การตบในด้านเดียว

ในเมื่อหลักสูตรเดิม ๆ สอนนักแบดมินตันมาเหมือน ๆ และคล้ายกัน
ก็ไม่แปลก ที่นักกีฬาคนอื่นจะมีพื้นฐาน และใช้เทคนิคแบบนั้นได้เช่นเดียวกัน

ผมถึงได้พูดว่า คนเราจะพัฒนาได้ ก็ต่อเมื่อรู้จักคิดค้น และพัฒนาหาสิ่งใหม่ ๆ

ฝึกพื้นฐาน และใช้ความรู้เดิมจนคล่องแคล่ว
แล้วคิดว่ามันคือ Pattern ที่ดีที่สุด
ยามที่ใครคิดเช่นนั้น เขาก็ไม่มีทางที่จะเก่งขึ้นไปได้อีก


ผมจะไม่ต่อความยาวสาวความยืดนะครับ

เอาเป็นว่า ถ้าใครอยากลองทดสอบความรุนแรง
ระหว่างการใช้แค่ข้อมือสะบัดฟาดเพียงอย่างเดียว
กับการใช้ข้อต่ออื่น ๆ ในร่างกายช่วยเพิ่มพลังงานจลน์
และไปจบที่การตบแบบสะบัดข้อมือเหมือนกัน

ก็ลองทดสอบดูได้ด้วยตัวเองเลยครับ

ไม่ต้องถึงขั้นลงลึกแบบใช้เคล็ดการหมุนข้อต่อกระดูกขั้นสูงก็ได้
เอาแค่บิดเอวช่วยส่งแรงให้ถูกต้อง แล้วจบด้วยการตบแบบสะบัดข้อมือฟาดก็พอ


จะรู้ได้เองครับ ว่าตบแบบไหนแรงกว่า


คุณมีสิทธิ์ที่จะอ้างหลักการและเหตุผลของคุณ
ผมก็มีสิทธิ์ที่จะอ้างหลักการและเหตุผลของผม

ผมก็แค่เสนอการตบ ที่นำการตบแบบธรรมดามาพัฒนา
จนกลายเป็นการตบแบบเฉพาะตัวขึ้นมา ก็เท่านั้น


ส่วนใครจะมองว่าดี หรือไม่ดีอย่างไร ก็สิทธิ์ของเขา


ปล. รู้ ว่าลูกตบนั้น จะพุ่งมาจากทางไหน แต่ไม่สามารถรับได้
เพราะประสาทสัมผัสตอบสนองได้ไม่ทัน ก็มีค่าเท่ากันกับยืนนิ่งไม่รับนั่นแหละครับ


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 8 สิงหาคม 2555 / 15:55
แก้ไขครั้งที่ 2 เมื่อ 8 สิงหาคม 2555 / 15:53
แก้ไขครั้งที่ 3 เมื่อ 8 สิงหาคม 2555 / 17:19
แก้ไขครั้งที่ 4 เมื่อ 8 สิงหาคม 2555 / 17:20
0
กำลังโหลด
โนมาเนียนา Member 8 ส.ค. 55 18:48 น. 7
แต่ไม่ว่ายังไงมันก็เร็วใช่มั้ยล่า?

ท่าตบทั้งแขนน่ะ

แต่เวลาแข่งกับเวลาทดสอบมันคนละเรื่อง

เค้าอยากรู้ความเร็วสูงสุดเท่าที่คนจะทำได้

ก็ต้องใช้นักกีฬาที่แข็งแรงที่สุด

กับท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดสิ

ไม่งั้นจะหาผลลัพธ์ความเร็วที่สุดออกมาได้ยังไง

ตกลงมันเร็วที่สุดแล้วล่ะ

เห็นด้วยกะ #3 เวลาดูเล่นๆ กับเข้าไปเล่นจริงๆ ความเร็วมันแตกต่างกัน
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
เบื่อพวกอวดรู้ 10 ส.ค. 55 21:49 น. 10
FenikzShadow
นายหุบปากไปเถอะ หลักการเยอะจริงวะ อ่านแล้วจะอ้วก น่าลำคานจริงๆ เถียงข้างๆคูๆ ถ้าวีธีนายมันเวิค ป่านนี้เขาคิดออกกันเป็นร้อยปีแล้ว
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
-3- Konni Shiwa ^0^ Member 13 ส.ค. 55 16:22 น. 12
เราชอบกีฬานี้นะคะ แล้วลูกเร็วมากจริงๆ ถ้าโดนจังหวะที่ถนัดตบมาล่ะก็ ลืมเรื่องรับไปได้เลย
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
tose 29 ส.ค. 55 20:01 น. 14
ผม ว่า ยิงปืน ลูกปืนไวกว่าน่ะ อิ อิ
ล้วแต่ขนาด (caliber) ของกระสุน (Cartridge)
ยกตัวอย่งเช่น.....
ลูกกรด .22 LR (Long Rifle)....1050 FPS (Foot Per Second)
ขนาด 9mm. parabellum.....1250-1400 FPS
ขนาด .38 Special....1200-1600 FPS
ขนาด .44 Magnum เเม้กนั่ม...1100-1400 FPS
ขนาด .45 Colt ACP (11mm)...850-1200 FPS
ขนาด .223 Remington (5.56x45 NATO).....3200 FPS
ขนาด .308 Winchester (7.62x51 NATO).....2650 FPS
ขนาด .50 (12.5 mm) Browning......2300 FPS

นี่เป็นความเร็วมาตราฐานพานิชย์ที่กำหนดโดย SAAMI (Small Arms Ammunition Manufacturering Industry) เพื่อความปลอดภัยเเละจุดประสงค์การใช้งาน
0
กำลังโหลด
ฮาสาด 6 ต.ค. 55 22:28 น. 15
FenikzShadow
อ่านบากิเยอะไปชัดเจน เอาเป็นว่า ปัญหามันอยู่ที่ว่าเขาวัดตอนไหน แน่นอนว่าวัดตอนอัตราเร่งสูงสุด แต่ที่คุณมองว่ามันช้าน่ะ คุณมองตอนมันปลิวมาถึงอีกฝั่งนึงแล้วหรือเปล่า ไม่ว่าจะตบแรงขนาดไหน เราไม่สามารถทำให้ลูกแบดมีความเร็วกว่าเสียงได้ตั้งแต่ไม้กระทบลูกจนถึงพื้นอีกฝั่งตรงข้ามแน่นอนครับ

การโถมพุ่งสุดตัวแบบความเห็น#1 ก็เป็นการเพียงแค่เอาน้ำหนักตัวลอยไปชนกับวัตถุเท่านั้นเอง การง้างแขนบิดลำตัวก็ไม่สามารถช่วยได้เช่นกัน กล้ามเนื้อที่แข็งแกร่ง ย่อมขาดความยืดหยุ่น แต่กล้ามเนื้อที่ยืดหยุ่นก็ไม่สามารถรับแรงบิดได้มากนัก

แล้วก็ถ้าคุณเอาหลัก Martial Art มารวมกับ Sport เนี่ย อย่าลืมเรื่องการใช้แรงจากพื้นด้วยนะครับ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
cUte phantom Member 27 มี.ค. 56 16:05 น. 18
จะบอกว่าเขาก็บอกไปแล้วนะว่าในบรรดากีฬาที่ใช้ไม้ในการตี เพราะฉะนั้นยิงปืนไม่เกี่ยวนะ
0
กำลังโหลด
คนนอกที่เล่นทั้งเทนนิสและแบตมินตัน 15 เม.ย. 56 18:10 น. 19
เออนะ ...คนนึงก็คลั่งการ์ตูน อธิบายมาแต่ละอย่างเหมือนไม่เคยจับไม้เล่นจริงๆ เก่งจากคลิปจากทีวีมานั่งจินตนาการเป็นตุเป็นตะใส่ทั้งคงทั้งแขน วิ่งขึ้นเขาลงห้วยฝึกเป็นยอดมนุษย์บ้าง ...ทั้งๆ ที่นักกีฬาจริงๆ เค้าใช้เวทเทรนนิ่ง กีฬาเทคนิคข้อมือและการเคลื่อนที่ฟุตเวิร์คเร็วอย่างแบตมินตันจะให้โถมทั้งตัวทั้งแขนพิชิตชัย ...โอยย ...สงสัยไม่เคยลงไปตีจริงๆ ถึงไม่รู้ว่าทั้ง set โอกาสเล่นท่าพิสดารแบบนั้นมันน้อยแค่ไหน ประสิทธิผลต่ำแค่ไหน ...

อีกคนนึงอ่านแล้วเหมือนเล่นเป็น แต่หลงฟิสิกส์ไปนิด โมเมนต์ของคานมัน M = FxS ถ้ายิ่งใกล้จุดหมุนยังไงแรงก็ต่ำกว่าอยู่แล้ว เพียงแต่ที่เค้าใช้การสะบัดข้อมือเพราะมันเป็นกีฬาที่ไวมาก เพราะในทางกลับกัน M (มวล) ของลูกขนไก่มันต่ำมาก ถ้า S (ระยะทางจากจุดหมุน) มันมาก ย้ายข้างไปมันจะได้ F (แรงส่ง) ที่ต่ำ เพราะงั้นถ้าอยากให้ลูกเบาๆ ไปเร็วและแรงพอ ระยะจากจุดหมุนเลยจะน้อยตาม แล้วมันจะทำให้ร่างกายมีการตอบสนองที่ทันพอต่อความเร็วลูก ...คนแรกอยากให้ใช้ทั้งตัว ยิ่งข้อต่อที่ใช้ส่งเยอะ ยิ่งเกิดการเสียพลังงานสูงหรือต้องใช้พลังงานมากกว่าปกติบ่งบอกถึงไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับแบตฯ อีกคนถ้าไม่แตะฟิสิกส์เอามาอธิบายเลยจะเข้าท่ากว่ามาก แค่เทคนิคของแม่ก็พอถมเถที่จะอธิบายแล้ว...

ปวดกบาลจริงๆ
0
กำลังโหลด
1234 15 พ.ค. 56 16:05 น. 20
เลอะเทอะ แบดเวลาตบเขาใช้ข้อครับ ใช้แขนไม่แรงหรอกนะครับ เหวี่ยงผิดท่ามาบาดเจ็บเอาง่ายๆ แล้วฝึกวิ่งแบกถังน้ำ บ้าไปละ ทำไปเถอะ สงสัยอ่านการ์ตูนมากไป ทำไปมากๆ เข่าเสื่อมข้อเสื่อมมีร้อง อยากตบแรงวงสวิงถูกไหม ท่าตบถูกไหม ตำแหน่งลูกขณะขะตบอยู่ถูกไหม สะบัดข้อตบเอา ใช้แขนใช้ไหล่มองทางง่ายมาก แรงแค่ไหนก็คอยดักสวนสบายๆ นอกจากจะตบหน้าเน็ตอันนั้นก็ตัวใครตัวมันล่ะพ่น้อง
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด