น้องๆ รู้หรือไม่ว่าการที่อินเทอร์เน็ตเข้าถึงวัยรุ่นวัยเรียนอย่างชาว Dek-D ได้ทุคนแบบนี้ ประกอบกับการที่ครูในโรงเรียนของเราเน้นให้มีการทำงานทำกิจกรรมด้วยอุปกรณ์เทคโนโลยีเหล่านี้มากขึ้น ทำให้วัยรุ่นเกิดปรากฏการณ์ลอกอุตลุดเพื่อทำรายงานกันมากขึ้น แถมลอกกันง่ายเสียด้วย! แค่ Ctrl + C และ Ctrl + V ก็เรียบร้อย


 
 
          เพื่อนพี่เกียรติที่ก็เป็นครู ก็บอกว่า "ไม่ใช่ว่าครูไม่รู้นะว่านักเรียนส่งรายงานก๊อปเน็ตกันมา แรกๆ ก็ตลกดีนะ แต่นานวันเข้า หลายรุ่นเข้า นักเรียนก็ยังคงลอกมาจากอินเทอร์เน็ต มาจากเว็บเดียวกัน แถมไม่รู้จักการอ้างอิงเสียด้วย จากตลกก็เลยกลายเป็นเศร้าใจแทน"
             ในต่างประเทศการ "Plagiarism" หรือการคัดลอกงานเป็นเรื่องใหญ่มาก  ถึงขั้นเป็นคดีความใหญ่โตถึงโรงถึงศาล การ "Plagiarism" นี้ ไม่ใช่แค่ลอกและเป๊ะให้เหมือนเท่านั้น ยังรวมถึงการนำข้อมูลจากที่ต่างๆ มารวมๆ กันใหม่โดยไม่มีอ้างอิงคำ การลอกไอเดียแล้วเอาไปดัดแปลงใหม่ แบบแค่เปลี่ยนสี เปลี่ยนฟอนต์ แปะรูปอื่นเพิ่ม ตัดลายน้ำออก หรืออื่นๆ ก็ยังถือว่าเป็นการ "Plagiarism" ค่ะ 

 
       มีวัยรุ่นชาวอเมริกาคนหนึ่ง ปลอมวุฒิการศึกษาและ ประวัติส่วนตัวต่างๆ ของตัวเอง จนสามารถเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังได้หลายแห่ง เรียนเกือบจบแล้ว แต่ความแตกเสียก่อน สุดท้ายไม่ใช่แค่ให้ออกจากมหาวิทยาลัยอย่างเดียว ยัง โดนเขียนหนังสือแฉพฤติกรรมและมหาวิทยาลัยก็ฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายกลับเป็นจำนวนมหาศาลอีกด้วย 

      แล้วจะทำอย่างไรดี ให้เราทำรายงานที่ได้ประโยชน์จริงๆ และไม่ต้องเสี่ยงว่าจะถูกหักคะแนนด้วย ! ตามนี้เลยจ้า 

 
 
1.
หาข้อมูลเบื้องต้น
การทำรายงาน คือการค้นคว้าหาความรู้หรือคำตอบของโจทย์จากหลายๆ แหล่งข้อมูล ทั้งหนังสือ บทความในอินเทอร์เน็ต และสื่ออื่นๆ อย่างรายการโทรทัศน์ย้อนหลัง เป็นต้น ดังนั้นจะทำรายงาน หรือสร้างผลงานใดๆ ก็ตามให้ดี ต้องลงทุนเวลาเสียหน่อย เข้าห้องสมุด เปิดเน็ตหาข้อมูลจากหลายๆ เว็บ แล้วก็อ่าน จด/พิมพ์สาระสำคัญไว้ พร้อมแหล่งอ้างอิงจ้า ถ้ากลัวอ่านช้า ลองใช้เทคนิคอ่านให้เร็วจากบทความ 4 ขั้นตอนง่ายๆ อ่านหนังสือไว ไปปรับใช้ก็ได้จ้า

 
 
2.
อ่านแล้วสรุปในภาษาของตัวเอง
การอ่านข้อมูลก่อน แล้วค่อยมาเขียนหรือคัดสาระสำคัญของบทความต่างๆ ทีหลัง อาจจะเสียเวลากว่าการ copy ไปบ้าง แต่น้องๆ จะได้อ่านข้อมูลต่างๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อตัวน้องๆ เอง ไหนๆ จะต้องใช้เวลาทำรายงานอยู่แล้ว ก็อย่าให้เวลาเสียไปกับการ copy อย่างเดียว มาอ่านและเขียนหรือพิมพ์ในภาษาที่เราเข้าใจได้เองดีกว่าค่ะ 

             
            พี่เกียรติเข้าใจว่าน้องๆ หลายคนผ่านวิชาเรียงความขั้นสูง หรือ IS มาแล้ว เพราะฉะนั้นการเขียนรายงานไม่ครณามือแน่นอน สำหรับน้องๆ บางคน การเขียนในภาษาของตัวเอง อาจดูไม่สละสลวยกว่าภาษา(ที่คัดลอก)จากอินเทอร์เน็ต อาจารย์อาจจะแก้รายงานเรากลับมาจนแดงเถือก แต่เราอ่านเข้าใจได้ความรู้ก็นับว่าบรรลุวัตถุประสงค์ของการทำรายงานแล้วจ้ะ 

 
3.
ใส่อ้างอิงอย่างถูกต้อง
ในอินเทอร์เน็ตทั่วไปของบ้านเรา การหาข่าวมาแปะกระทู้แบบใน บอร์ดเด็กดี อาจไม่มีหลักอ้างอิงที่เป็นรูปแบบนัก โดยมากเพียงขอบคุณและใส่ลิงก์ที่สามารถเปิดได้จริงเพื่ออ้างอิงที่มาเท่านั้น แต่หากเป็น รายงานฉบับเต็มของน้องๆ งานวิจัย งานวิชาการ ไม่ว่าจะเป็นรูปเล่มหรือเผยแพร่เป็นสื่อดิจิทัลก็ต้องใส่อ้างอิงอย่างถูกต้องนะคะ ซึ่งไม่ว่าจำนำข้อมูลมาจากแหล่งใดก็ตาม 
อินเทอร์เน็ต หนังสือ หรือสื่ออื่นใดก็ตามจะมีหลักการอ้างอิงอย่างเป็นทางการค่ะ 
 
ภาพจาก utcc2.utcc.ac.th/utccjournal/

         วิธีการอ้างอิงฉบับเต็มสามารถค้นหาในอินเทอร์เน็ตได้เลยค่ะ ใช้คำค้นหา "การเขียนบรรณานุกรม" ก็ได้ค่ะ มีหลายเว็บเลยล่ะ ส่วนกรณีที่เป็นคำนิยาม หรือต้องใช้ข้อความอ้างอิงจากผู้อื่นให้ใส่เครื่องใหม่ "..." เหมือนพวกคำคมที่พวกเราชอบกันนั้นแหละจ้ะ และควรระบุว่าใครกล่าว ใครเขียนไว้ ใส่เชิงอรรถว่านำมาจากหนังสือเล่มไหน เว็บไหนไว้เลยเพื่อความปลอดภัยที่สุดค่ะ  
 
4.
ภาพประกอบต้องบอกที่มา
เรื่องภาพประกอบมีความสำคัญมากนะคะ เราก็ไม่ควรใช้หรือแก้ไขภาพของคนอื่นโดยพลการค่ะ โดยทั่วไปมีหลักการใช้สัญญาอนุญาตสากล ที่ยอมรับกันโดยมาก คือ การใช้ตามสัญญาอนุญาต Creative Commons ซึ่งประเทศไทยเข้าร่วมใช้สัญาญานี้ร่วมกับอีกกว่า 70 ชาติทั่วโลก หรือหลัก GNU Free Documentation License ที่เว็บ wikipedia 
 
     
      และเพื่อหลีกเลี่ยงการไม่แน่ใจว่าเจ้าของภาพอนุญาตให้ใช้หรือไม่ แทนที่เราจะค้นหาจาก google โดยตรง (การให้เครดิตภาพว่า ภาพประกอบจาก google มันผิดนะจ๊ะ) ก็ใช้การค้นหาจากเว็บภาพต่างๆ แทน และตั้งค่าการค้นหาเรื่องลิขสิทธิ์ได้ด้วยดีกว่าค่ะ นอกจาก google image แล้ว ยังมีเว็บภาพต่างๆ ที่สามารถค้นหาภาพแบบนำไปใช้ได้ตามอนุสัญอนุญาตสากลนี้ เช่น เว็บ commons.wikimedia.org เว็บ flickr.com เป็นต้น จะค้นหาจากเว็บนั้นๆ โดยตรง หรือหาจากที่นี่จ้า search.creativecommons ก็ได้ค่ะ 
แต่ถ้าถ่ายภาพหรือวาดเองได้ก็จะปลอดภัยต่อการละเมิดสิทธิ์ที่สุดจ้า
http://search.creativecommons.org/

            แน่นอนว่าไม่ได้เฉพาะภาพถ่ายอย่างเดียว คลิปวิดีโอ เพลง รวมถึงเนื้อหาบทความต่างๆ ก็ใช้สัญญาอนุญาตนี้ได้ค่ะ อย่างเว็บสสค. qlf.or.th ของไทยก็ติดป้ายสัญญานี้ด้วยค่ะ

ตัวอย่างการติดป้ายสัญญาในบทความจาก qlf.or.th/Home/Contents/768
 
และแม้เว็บเด็กดี แม้จะไม่ได้ติดป้ายนี้ แต่ถ้านำภาพหรือเนื้อหาไป อ้างอิงเสียหน่อยก็จักเป็นพระคุณยิ่งจ้า แต่อย่างไรพี่เว็บก็สร้างสรรค์ผลงานเพื่อน้องๆ ชาว Dek-D และผู้อ่านทุกคนอยู่แล้ว อิอิ

             ฝึกทำรายงานให้เป็นเสียแต่วันนี้ โตไปจะได้ไม่ต้องลอกงานใครให้อับอาย ไม่ต้องเสียทำผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ และไม่จำเป็นต้องให้ใครมาฟ้องร้องเราก่อน ถึงจะได้รับบทเรียนนี้นะจ๊ะ
 




 

แหล่งข้อมูล, ภาพประกอบ:
    - stanglibrary.wordpress.com/tag/plagiarism/
    - plagiarism.org/plagiarism-101/types-of-plagiarism
    - grad.chula.ac.th/download/files/Plagiarism.pdf
    - wiki.creativecommons.org/CC_Affiliate_Network
    - utcc2.utcc.ac.th/utccjournal/document/journal1.pdf
พี่เกียรติ
พี่เกียรติ - Community Master ถนัดแฝงตัวตามกระทู้เด็กดี มีความสนใจเป็นล้านเรื่องขึ้นอยู่กับดราม่าขณะนั้น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

ล่องหน~ Member 2 ก.ค. 57 12:42 น. 2

ยากที่จะทำเพราะอย่างครูสั่งวันนี้ส่งพรุ่งนี้ จะหาไปค้นคว้าเขียนเองหมดเป็นไปไม่ได้ หรือมีงานอื่นเราก็ต้องแบ่งเวลาไปทำอีก ที่ดีที่สุดที่เราคิดคือใส่อ้างอิงเพื่อเป็นการขอบคุณเขาดีกว่าหรือบอกเป็นนัยๆว่าเราเอาไปทำงานไม่ได้ทำอะไรไม่ดีอย่างอื่น

(คหสต.นะจ๊ะ)

ของขวัญ

0
กำลังโหลด
sakiri Member 2 ก.ค. 57 15:13 น. 4

ทำให้เป็นนิสัยแต่เด็กจะดีกว่าค่ะ

เข้ามหาวิทยาลัยแล้วจะรู้ถึงความสำคัญ

โดยเฉพาะเวลาเขียนปริญญานิพนธ์ หรือวิทยานิพนธ์

เพราะการที่เราจะจบการศึกษาจากรั้วมหาวิทยาลัยได้ งานจะต้องเป็นของเราอย่างแท้จริงค่ะ

นอกจากนั้นเวลาเจอนักเรียนแลกเปลี่ยนต่างชาติ เขาจะดูถูกเราไม่ได้ด้วย (ด่ากลับไปหลายรายแล้ว)

ปล.กำลังปวดกะโหลกกับการเขียนวิทยานิพนธ์อยู่นี่แหละ

0
กำลังโหลด
Cowy Puppymaywhite Member 2 ก.ค. 57 18:14 น. 7

หนูใส่ที่มาตามแบบเอาอะคะ จำไม่ได้ก็หาในหนังสือเรียนตรงบรรณานุกรมด้านหลังแล้วเอามาปรับแต่ให้เข้ากับที่มาตลอดอะค่ะ จะผิดไหม เขิลจุง

แต่เรื่องรูปนี่สิคะ อ้างอิงกูเกิลตลอดเลย อ้ากกกกก ผิดใช่ไหมเนี่ย

เอาใหม่ค่ะ มันปรับปรุงกันได้ เยี่ยม

แล้วก็หนูหารูปมาจากเว็บหนึ่งมาเยอะมากๆเลยอะค่ะ มาใส่อ้างอิงทีละเว็บคงไม่ไหว ใส่เว็บหน้าหลักของมันไว้ได้ไหมคะ ขอบคุณค่ะที่ตอบ รักเลย

ทิ้งท้าย เห็นของเพื่อนแล้วเพลีย+ขำ

"อ้างอิง

เนื้อหา : www.google.com

รูปภาพ : www.google.com "   หวาา

0
กำลังโหลด
Capocino Kenway Member 5 ก.ค. 57 15:36 น. 10

เด็กไทยแม่งต้องเจอเว็บ Turnitin ครับ ขนาดพิมพ์เองใช้ไอเดียตัวเอง หรือแอบลอกนิดๆเว็บนี้มันยังบอกว่าเราไปลอกมาเลยครับ น่ากลัวระดับไหนคิดดูเอานะครัย

0
กำลังโหลด

12 ความคิดเห็น

เฮโด๋ลา Member 1 ก.ค. 57 20:58 น. 1

ละเอียดจัง T..T แต่ก็ต้องพยายามเพื่อชีวิตที่ดีกว่า โดนเรียกค่าเสียหายขึ้นมาคงจะไม่คุ้ม 5555555555555555555555555

0
กำลังโหลด
ล่องหน~ Member 2 ก.ค. 57 12:42 น. 2

ยากที่จะทำเพราะอย่างครูสั่งวันนี้ส่งพรุ่งนี้ จะหาไปค้นคว้าเขียนเองหมดเป็นไปไม่ได้ หรือมีงานอื่นเราก็ต้องแบ่งเวลาไปทำอีก ที่ดีที่สุดที่เราคิดคือใส่อ้างอิงเพื่อเป็นการขอบคุณเขาดีกว่าหรือบอกเป็นนัยๆว่าเราเอาไปทำงานไม่ได้ทำอะไรไม่ดีอย่างอื่น

(คหสต.นะจ๊ะ)

ของขวัญ

0
กำลังโหลด
Nikki Frost Member 2 ก.ค. 57 14:04 น. 3

ถ้าอยู่ปี 4 ในรั้วมหาลัยแล้วจะรู้ค่ะ ว่ามันสำคัญมากๆ (เพราะต้องเอาไปใช้ในการทำภาคนิพนธ์นั่นเอง TwT)

0
กำลังโหลด
sakiri Member 2 ก.ค. 57 15:13 น. 4

ทำให้เป็นนิสัยแต่เด็กจะดีกว่าค่ะ

เข้ามหาวิทยาลัยแล้วจะรู้ถึงความสำคัญ

โดยเฉพาะเวลาเขียนปริญญานิพนธ์ หรือวิทยานิพนธ์

เพราะการที่เราจะจบการศึกษาจากรั้วมหาวิทยาลัยได้ งานจะต้องเป็นของเราอย่างแท้จริงค่ะ

นอกจากนั้นเวลาเจอนักเรียนแลกเปลี่ยนต่างชาติ เขาจะดูถูกเราไม่ได้ด้วย (ด่ากลับไปหลายรายแล้ว)

ปล.กำลังปวดกะโหลกกับการเขียนวิทยานิพนธ์อยู่นี่แหละ

0
กำลังโหลด
คนแก่เดินผ่านมา 2 ก.ค. 57 15:23 น. 5
เป็นบทความที่ดีมากค่ะ ขอชื่นชม :) สมัยเรียน ทำวิทยานิพนธ์ปีสุดท้าย ก่อนที่จะเริ่มลงมือเขียนตัวเล่ม อาจารย์ได้อธิบายหลักการเขียนให้สำเร็จออกมาเป็นงานที่สมบูรณ์ มีการอ้างอิงการนำข้อมูลมาใช้ การวิเคราะห์ การสังเคราะห์และแสดงงานในฐานะที่เราเป็นผู้เขียน อยากช่วยชี้แจงให้น้องๆรุ่นใหม่เข้าใจผิด-ถูกก่อนว่าการถือวิสาสะขโมยข้อมูลมาแปะลงงานตัวเองมันไม่ถูกต้องมากๆ แต่ใครๆก็ทำกันจนเคยชิน และที่น้องคห.2ว่า การบ้านเยอะไม่ทันเวลา เข้าใจเลยค่ะเห็นเด็กเดี๋ยวนี้ไม่รู้การบ้านจะเยอะไปไหน ก็ไม่รู้ทางออกไหนจะดีไปกว่าการใส่บรรณานุกรมเพื่อเคารพเจ้าของงานเขียน แต่การคัดลอกมาวางเลยก็ไม่ถูกต้องอยู่ดี...แต่น้องๆก็ไม่มีเวลาทำ...เอ้อ 555 อยากให้เรื่องนี้ขยายวงกว้างกว่านี้ค่ะ จะจัดอบรมเด็กนักเรียนไปเลยก็ได้นะคะ ค่อยหาทางออกกันต่อ อยากให้อาจารย์ช่วยประชุมกันเองบ้างว่างานเยอะแต่คุณภาพน้อย หรือจะให้งานน้อยลงแล้วเข้มงวดให้คุณภาพงานสูงขึ้น จะดีกว่ามั้ย คนแก่เดินผ่านมา บ่นๆ...ไปแล้วค่ะ 555 (ชอบบทความดี เห็นด้วยเลยแวะมา)
0
กำลังโหลด
แมงมุมลายตัวนั้น 2 ก.ค. 57 15:58 น. 6
บอกตรงๆว่าตอนอยู่ม.ปลายก็ชอบทำรายงานแบบ copy & วางเหมือนกัน แต่พอเรียนมหาวิทยาลัยปุ้บ แม่เจ้า น้ำตาจะไหลค่าาาาา (ขอวิบัติเพื่อให้ได้อารมณ์) เราเองก็ย้ำนักย้ำหนากับเพื่อนในกลุ่มแล้วว่า ห้ามก๊อปมาส่ง (เพราะเราเป็นคนรวบรวมงาน ตรวจเช็คค.เรียบร้อย) แต่ใช่ปูแม่งก็ได้ปลาจริงๆ นั่นแหละ พี่แกเล่นเอามาทั้งแถบ เราก็ต้องมาอ่านใหม่หมด พร้อมสรุปเป็นภาษาของตัวเอง ก่อนจะเอามา re-write อีกรอบ ไม่ใช่แค่ส่วนเนื้อหาที่มีปัญหา แต่พาร์ท reference ก็มีปัญหาด้วย ตอนเราทำ เราก็ดูหนังสือควบคู่ไปด้วย alphabet ก็เรียนตามลำดับแล้ว แต่พอเอาไปส่ง อ.เงิยหน้ามอง แล้วถามว่า ทำไมไม่เอาชื่อฉันขึ้นก่อน งงเลยค่าทีนี้ สรุปรายงานเล่มนั้นแก้ไปประมาณสี่รอบได้ ทำเอาท้อไปตามๆ กัน
0
กำลังโหลด
Cowy Puppymaywhite Member 2 ก.ค. 57 18:14 น. 7

หนูใส่ที่มาตามแบบเอาอะคะ จำไม่ได้ก็หาในหนังสือเรียนตรงบรรณานุกรมด้านหลังแล้วเอามาปรับแต่ให้เข้ากับที่มาตลอดอะค่ะ จะผิดไหม เขิลจุง

แต่เรื่องรูปนี่สิคะ อ้างอิงกูเกิลตลอดเลย อ้ากกกกก ผิดใช่ไหมเนี่ย

เอาใหม่ค่ะ มันปรับปรุงกันได้ เยี่ยม

แล้วก็หนูหารูปมาจากเว็บหนึ่งมาเยอะมากๆเลยอะค่ะ มาใส่อ้างอิงทีละเว็บคงไม่ไหว ใส่เว็บหน้าหลักของมันไว้ได้ไหมคะ ขอบคุณค่ะที่ตอบ รักเลย

ทิ้งท้าย เห็นของเพื่อนแล้วเพลีย+ขำ

"อ้างอิง

เนื้อหา : www.google.com

รูปภาพ : www.google.com "   หวาา

0
กำลังโหลด
LegendLEVEL Member 3 ก.ค. 57 01:36 น. 8

โกรธอาจารย์ให้รายงานทีอาทิตย์นึง 4 เรื่อง บางวิชายังมีการบ้านอีกใครจะไปทำทัน(บางอาทิตย์)

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Capocino Kenway Member 5 ก.ค. 57 15:36 น. 10

เด็กไทยแม่งต้องเจอเว็บ Turnitin ครับ ขนาดพิมพ์เองใช้ไอเดียตัวเอง หรือแอบลอกนิดๆเว็บนี้มันยังบอกว่าเราไปลอกมาเลยครับ น่ากลัวระดับไหนคิดดูเอานะครัย

0
กำลังโหลด
"miho" Member 18 ก.ค. 57 19:19 น. 11

ส่วนตัว 

ของเราจะอ่านก่อนให้เข้าใจ พอจะก๊อบก็มาดูว่าอันนี้ดีนะอันนี้ควรดัดแปลงนะ อะไรแบบนี้ ส่วนเรื่องอ้างอิง อ้างอิงบ้างบางครั้งปิ้งปิ้ง

0
กำลังโหลด
น้องชวน Member 24 ส.ค. 57 19:33 น. 12

ขออนุญาต screenshot ไปให้เพื่อนดูนะครับ ดีมากๆ ทำงานกันอยู่ ปรากดว่า เพื่อนลอกมาจากอินเตอร์เน็ตหมดเลยเยี่ยม

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด