มีกระทู้หนึ่งในบอร์ดเด็กดี ตั้งชื่อกระทู้ได้น่าติดตามไม่น้อยว่า "เกลียดคำไหนที่ผู้ใหญ่พูดกับเราตอนเด็กๆ??" ผู้เขียนจึงได้รวบรวมคำพูดเด่นๆ ประโยคที่วัยรุ่นไทยพร้อมใจกันเล่าว่าพวกเขาเจ็บปวดเสมอเมื่อได้ยินคำเหล่านี้ค่ะ
คำพูดเหล่านี้สะท้อนช่วงวัยของวัยรุ่น ซึ่งเป็นวัยที่ต้องการการยอมรับจากครอบครัวและกลุ่มเพื่อน บางคำพูดจึงกลายเป็นคำที่บ่งบอกว่าผู้ใหญ่ "ไม่เชื่อในตัวเขา" เป็นคำที่สะท้อนหัวใจของวัยรุ่นทุกคนค่ะ และหากได้ยินแต่คำพูดนี้แต่เด็กๆ ก็ยิ่งจะทำให้คำพูดที่ "ดูธรรมดาๆ" เหล่านี้เป็นคำพูดที่ฝังใจ จนกลายเป็นปมด้อยในหัวใจติดตัวไปจนโตขึ้นเลยค่ะ แต่ประเด็นที่สำคัญของคำพูดเหล่านี้ คือ เจ้าคำและประโยคเหล่านี้มักทำให้ความอดทนของวัยรุ่นหมดทันที ถ้าไม่ปึงปังเดินหนีไป ก็จะเข้าสู่การทะเลาะกับผู้ใหญ่ทันทีเลยค่ะ กลายเป็นวงจรไม่รู้จบ!
คำพูดเหล่านี้สะท้อนช่วงวัยของวัยรุ่น ซึ่งเป็นวัยที่ต้องการการยอมรับจากครอบครัวและกลุ่มเพื่อน บางคำพูดจึงกลายเป็นคำที่บ่งบอกว่าผู้ใหญ่ "ไม่เชื่อในตัวเขา" เป็นคำที่สะท้อนหัวใจของวัยรุ่นทุกคนค่ะ และหากได้ยินแต่คำพูดนี้แต่เด็กๆ ก็ยิ่งจะทำให้คำพูดที่ "ดูธรรมดาๆ" เหล่านี้เป็นคำพูดที่ฝังใจ จนกลายเป็นปมด้อยในหัวใจติดตัวไปจนโตขึ้นเลยค่ะ แต่ประเด็นที่สำคัญของคำพูดเหล่านี้ คือ เจ้าคำและประโยคเหล่านี้มักทำให้ความอดทนของวัยรุ่นหมดทันที ถ้าไม่ปึงปังเดินหนีไป ก็จะเข้าสู่การทะเลาะกับผู้ใหญ่ทันทีเลยค่ะ กลายเป็นวงจรไม่รู้จบ!
จริงๆ แล้วผู้ใหญ่ไม่ได้ตั้งใจพูดคำเหล่านี้เพื่อทำร้ายจิตใจลูกหลาน หรือบางทีต้องการพูดเพื่อหวังกระตุ้นวัยรุ่น เช่น กรณีเปรียบเทียบกับคนอื่น ก็หวังให้ลูกดูคนเก่งเป็นเยี่ยงอย่างเท่านั้น แต่สถานการณ์ที่คนเราพูดคำเหล่านี้ มักไม่ใช่สถานการณ์ธรรมดาหรือการพูดคุยเล่นๆ แต่มักเป็นช่วงเวลาสำคัญของเรื่องที่มีอารมณ์ด้านลบเข้ามาเกี่ยวข้องมากกว่า เช่น กำลังตกใจ กำลังโมโห ดังนั้นคำพูดเหล่านี้จึงทำให้เรื่องลุกลามมากกว่าช่วยกระตุ้นหรือช่วยให้เข้าใจกันได้ค่ะ
เช่นเดียวกันวัยรุ่นเองก็รู้ว่าผู้ใหญ่อาจจะพลั้งเผลอพูดคำที่ทำร้ายจิตใจตัวเองได้ โดยที่จริงๆ แล้วก็รู้ว่าผู้ใหญ่พูดเพราะเป็นห่วง ไม่ใช่การว่ากล่าวในทางร้ายแรง ดังจะเห็นได้ว่าเมื่อวัยรุ่นโตขึ้นมาอีกช่วงวัย เขาก็จะเข้าใจและคิดว่าบางคำพูดของผู้ใหญ่ที่เขาเจอในอดีตเป็นเรื่องขำๆ เท่านั้นค่ะ (แต่กว่าจะโตจนเข้าใจ ก็เจ็บใจไปหลายครั้งแล้วนี่สิ)
เพียงแค่ผู้ใหญ่มีเทคนิคในการพูด พร้อมรับฟังมากขึ้น ส่วนวัยรุ่นเองก็พร้อมที่จะพยายามอธิบายมากกว่าเงียบ หลบซ่อนทำ หรือขึ้นเสียงสู้ และทั้งสองฝ่ายต่างพยายามอดกลั้นความไม่พอใจในเบื้องต้น หลีกเลี่ยงคำพูดธรรมดาที่แสนทำร้ายจิตใจเหล่านี้ได้ เชื่อว่าทั้งผู้ใหญ่และวัยรุ่นจะเข้าใจกันได้มากขึ้นแน่นอนค่ะ
อย่าให้เรื่องราวระหว่างผู้ใหญ่และวัยรุ่นมีแต่วงจรคำพูดที่แสนเจ็บปวดเลยค่ะ
ในฐานะวัยรุ่นชาว Dek-D เราจะหยุดวงจรคำพูดแบบนี้อย่างไรดีคะ?
บทความมุมผู้ใหญ่ ว่าด้วยเรื่องการฟัง - พูด
บทความมุมผู้ใหญ่ ว่าด้วยเรื่องการฟัง - พูด
233 ความคิดเห็น
แม่ชอบเอาลูกเพื่อนแม่มาเปรียบกับเราอ่ะเค้าดียังนุ้นยังงี้
พออธิบายเหตุผลก็หาว่า '' เถียง''
เราโดนแม่ด่ากระทบแล้วเอาลูกหลานของชาวบ้านมาเปรียบเทียบยกย่องออกหน้าออกตา
เราเลยตอบโต้แม่กลับไปว่าถ้าแม่รักลูกหลานของคนอื่นมากกว่าลูกตัวเอง
แม่ก็ไปขอลูกของเขามาเลี้ยงเป็นลูกเลยสิ เห็นลูกของคนอื่นดีกว่าลูกของตัวเอง
สุดท้ายแม่ก็เลยเลิกเอาเราไปเปรียบเทียบกับลูกหลานของชาวบ้านทันที
อย่าว่าแต่ "พ่อแม่" "ครู" ก็เป็นคะ
#เราเชื่อว่าเด็กไทยต้องเจอแบบนี้
ไม่เคยเจอคำพวกนี้ค่ะ เจอแต่ "หนูควรทำได้ดีกว่านี้ ระวังจะแพ้เด็กเตรียมฯ เด็กสาธิตฯ ที่เค้าเก่งๆ" เจอตอนบอกคะแนน 7 วิชาให้พ่อรู้น่ะค่ะ ไทย 90 สังคม 56 อังกฤษ 61.25 ร้องไห้เป็นชั่วโมงเลยค่ะ พลางน้อยใจว่า แล้วทำไมสามปีที่แล้วไม่ส่งหนูไปเรียนเตรียมซะเลยล่ะ จริงๆพ่อบ่นยาวกว่านี้ เสียใจมาก แต่ก็นะ ทำอะไรได้ล่ะ *แบะมือ* เข้าใจว่าเค้าเป็นห่วงกลัวไม่ติดมหาลัย แต่คำพูดที่ใช้หนูเจ็บนะ 555555
แปลกมั้ย เด็กอาจไม่เข้าใจผู้ใหญ่ เพราะเด็กยัง"ไม่เคย"เติบโตเป็นผู้ใหญ่
แต่ ผู้ใหญ่ไม่เข้าใจเด็ก ทั้งๆที่ ผู้ใหญ่ "เคย" เป็นเด็ก
"โง่" "ไม่น่าให้เกิดเลย"ไ
คำนี้ค่ะ โดนประจำเจ็บประจำ
พ่อแม่เราไม่ค่อยเป็นแบบนี้ค่ะ (ก็รู้สึกดีไปที่พ่อกับแม่เข้าใจ)
แต่ส่วนใหญ่จะเป็นคุณครูซะส่วนมากที่พูด
คือไม่เข้าใจอ่ะ...ทำไมชอบเอาห้องนู้นมาเทียบกับห้องนี้ทั้งๆ ที่รู้ว่าแต่ละห้องก็มีดีต่างกันไป
พอจะอธิบายให้เข้าใจว่าเราไม่ผิดก็หาว่าเถียง พอไม่ตอบก็หาว่าไม่พูด
ไม่ก็ยืนรับฟังเฉยๆ แล้วด้วยความที่มีมารยาทก็มองหน้าครูไปด้วยแล้วดันโดนหาว่าจ้องหน้าครูทำไม ไม่พอใจอะไรก็พูดมาสิ
คือแบบ...ถ้าครูอาบน้ำร้อนมาก่อนจริงทำไมไม่เข้าใจล่ะค่ะว่าเด็กกำลังอยู่ในช่วงไหน
ไหนบอกว่าอาบน้ำร้อนมาก่อน เป็นเด็กมาก่อน โธ่!
คหสต.ค่ะ ไม่พอใจเชิญข้ามไปเลย
คือเเบบชอบเอาเราไปเปรียบเทียบกะคนอื่นอ่ะ เราไม่ชอบเลย เเล้วก็ชอบหาว่าเราตะคอกเราเถียงทั้งๆที่เราแค่อธิบายให้ฟังอ่ะ แล้วบางทีคะเเนนเราตกลงก็หาว่าเราโง่เเละ -*-
ครอบครัวเราไม่ใช่พี่ต้องเสียสละให้น้องค่ะ น้องต้องเสียสละให้พี่ พี่สำคัญกว่าน้องเสมอ พี่ทำอะไรไม่ผิด น้องไม่ได้ทำอะไรผิดโดนด่าก่อน โดนเอาไปเทียบกับพี่ตลอด
ตามนั้นค่ะ
มีอยู่คำนึงโดนพ่อด่าตั้งแต่ม.1จนตอนนี้ยังจำได้เลย "หัวมีไว้ทำไม มีไว้แค่คั่นหูรึไง" กับเมื่อเทอมที่แล้วเกรดออกมาห่วย คือเราได้3.24อ่ะแต่ที่โดนด่าหนักคงเพราะเมื่อเทอมที่แล้วได้3.95ไง แต่เทอมนี้มันเรียนยากจิงๆเจอแต่ครูโหดๆพอเกรดน้อยแม่พูดเลยว่า "ไม่ต้องให้มันกินดีมากหรอก กินไปสมองก็ไม่ได้พัฒนาขึ้นมีแต่แย่ลง" เป็นอะไรที่ฝังใจมากอ่ะ ถึงจะไม่เจ็บเท่าตอนเด็กๆก็เถอะ เพราะแบบโดนด่าจนชินแล้วอ่ะ แต่ยังไงมันก็ยังฝังใจนะ
แต่ละคำนี่เจ็บสุดๆ
เคยโดนเปรียบเทียบกับลูกหลานคนอื่นว่า"ทำไมไม่เรียนให้ดีแบบเขา"(พื้นฐานของคนถนัดไม่ถนัดแต่ละวิชานี่เหมือนกันมะ???) "ทำไมไม่ฉลาดแบบลูกคนอื่นนะ"(ก่อนจะมาว่าดูก่อนมะว่า'ให้'ได้เท่าพ่อแม่ของเด็กที่เป็นอัจฉริยะรึเปล่า) "ทำไมไม่ช่วยงานบ้าน"(แค่เรียนพิเศษกับทำงานร.ร.ให้ได้คะแนนดีๆก็จะตายละ) "นั่งว่างๆไม่คิดจะทำตัวให้มีประโยชน์เลยเหรอ?"(คืออยากจะบอกว่าตรูเพิ่งพัก-_-) "ทำไมไม่เรียนให้ได้เกรด4" (คือแบบถ้าเรียนได้เกรด4ง่ายขนาดนั้นนะ ร.ร.คงจนเพราะหาซื้อรางวัลมอบให้เด็กเรียนดีล่ะนะ) และอีกบลาๆๆๆ ไม่รู้จักจบสิ้น......
พูดแล้วขึ้นว๊อยยยยยยยยยยยยย
อยากจะบอกว่าจะพูดอะไร ช่วย คิด ถึง ความ เป็น จริง และ ความ แตก ต่าง หน่อย!!!!!
ได้แต่ทำใจ