สวัสดีค่ะน้องชาว Dek – D ปิดเทอมแบบนี้น้องหลายคนก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนพิเศษไม่แพ้ช่วงเปิดเทอมเลย แต่เอ๊ะ!!,,, การจะเรียนพิเศษต้องเสียค่าคอร์สหลายพันบาท แล้วจะทำยังไงให้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปดีล่ะ? วันนี้พี่เมษ์เอา 5 เทคนิค "เรียนพิเศษสุดคุ้ม" มาฝากกัน
เรียนพิเศษทั้งทีค่าเรียนแต่ละคอร์สไม่น้อยเลย ทั้งค่าใช้จ่ายระหว่างเรียน ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าขนม ค่าอุปกรณ์เครื่องเขียน ฯลฯ นี่ยังไม่รวมเวลาที่เสียไปแต่ละวันด้วยนะคะ นับๆ ดูแล้วเยอะมากเลยนะเนี่ย,,, เมื่อเราลงทุนไปเยอะ เราก็ควรได้รับกับมาคุ้มทุนจริงมั้ยละ? วันนี้พี่เมษ์เลยเอาข้อเทคนิคสำหรับการเรียนพิเศษมาฝากกัน มาดูกันดีกว่าค่ะว่ามีวิธีไหนที่ทำให้น้องๆ เรียนพิเศษได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุดกันบ้าง
- ไม่สาย & ไม่โดด : “ค่าเรียนแพงกว่าที่คิด”
การเข้าเรียนสาย การโดดเรียน เป็นสิ่งที่รู้กันอยู่แล้วว่าไม่ควรทำ แต่พี่เมษ์จะมาคำนวณให้ดูว่า เราเสียเงินไปแค่ไหนถ้าโดดเรียน หรือเข้าเรียนสาย
พี่เมษ์สมมติว่า คอร์สเรียนคอร์สนึงราคา 5,000 บาท ซึ่งน้องๆ เรียนเฉพาะวันเสาร์กับอาทิตย์ วันละ 4 ชั่วโมง มีระยะเวลาเรียน 36 ครั้ง คำนวณดูแล้วน้องๆ จะเรียนทั้งหมด 288 ชั่วโมง ราคาคอร์สนี้ ชั่วโมงละ 17.36 บาท
ถ้าน้องๆ ขาดเรียน 1ครั้ง น้องๆ จะเสียเงินไป 69.44 บาทเลยทีเดียว
แต่ถ้าน้องๆ มาสาย วันละ 30 นาที คอร์สนี้ ราคาต่อนาที ตกอยู่ที่ 0.29 บาท ต่อนาที คิดออกมาแล้ว ถ้าสายทุกครั้ง ครั้งละ 30 นาที น้องๆ จะเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 313.2 บาท และเสียเวลาไป 18 ชั่วโมงเลยนะคะ!! O_o
ไม่น้อยเลยใช่มั้ย เห็นมั้ยละว่าไม่ควรมองข้ามนะคะ เพราะนอกจากจะเสียเงินไปเปล่าๆ แล้ว น้องๆยังได้เนื้อหาที่ไม่ต่อเนื่องด้วย ใครจะรู้ว่าใน 30 นาทีทีหายไปในแต่ละครั้ง หรือขาดเรียนไปแต่ละครั้งเนี่ย มันอาจจะมีเนื้อหาที่สามารถเปลี่ยนเกรด เพิ่มคะแนนเราได้เยอะแยะก็ได้นะ
- ตั้งสติ ตั้งใจ
อย่างที่พี่เมษ์บอกไปในข้อปฏิบัติแรกแหละค่ะ ว่าเรียนครั้งนึง ไม่ได้เสียแค่ค่าใช้จ่ายที่เป็นตัวเงินเท่านั้น แต่อีกอย่างที่เราเสียไปโดยไม่รู้ตัวคือ “เวลา” ที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ ดังนั้นทุกครั้งที่เข้าเรียน พี่เมษ์อยากแนะนำให้น้องๆ ตั้งสติ พักผ่อนให้เต็มที่ แล้วทำตัวเองให้พร้อมกับการเรียน เพราะการเข้าไปเรียนโดยที่ตัวเองไม่พร้อม ไม่ต่างจากเข้าไปหายใจทิ้งแล้วยังเสียเวลาไปเปล่าๆเลยนะ
อีกอย่างที่พี่เมษ์อยากเตือนน้องๆ คือ เรียนเท่าที่ตัวเองไหว เพราะหากน้องๆ ลงเรียนไปหลายคอร์ส วิ่งรอกกันหลายคลาสเรียน ไม่ได้แปลว่าน้องๆ จะเก่งขึ้นนะคะ แถมอาจจะทำให้น้องๆ เบลอ และไม่ได้อะไรเลย ดังนั้นเรียนอย่างพอเหมาะ ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป จะทำให้เรียนอย่างคุ้มค่า ไม่เสียเวลา และค่าเรียนไปโดยเปล่าประโยชน์ค่ะ
- ทำการบ้าน อ่านทบทวน
อีกหนึ่งหัวข้อที่พี่เมษ์เชื่อว่าน้องๆ ทราบดีว่าต้องทำการบ้าน อ่านทบทวน แต่ไม่ใช่แค่นั้นค่ะเพราะนอกจากควรทำการบ้านที่ได้รับมอบหมาย และอ่านทบทวนเรื่องที่ได้เรียนมาในแต่ละวันแล้ว น้องๆ ควรทำการบ้านล่วงหน้าด้วย
การทำการบ้านล่วงหน้าคือ ศึกษาเรื่องต่อไปที่จะเรียนเพื่อให้เนื้อหาผ่านตา เมื่อเข้าไปเรียนกับติวเตอร์ น้องๆ จะเข้าใจเร็วขึ้น พี่เมษ์เชื่อว่าบางทีติวเตอร์สอนเร็ว ถ้าน้องๆ ไม่มีพื้นฐานมาเลย อาจจะกลายเป็นการเข้าไปนั่งฟัง พยายามชอตโน๊ตให้ทันแต่ก็ยังไม่ทันเข้าใจเลยใช่มั้ยละ - -" ถ้าน้องๆ อ่านไปก่อน พยายามด้วยตัวเอง แล้วเข้าไปเสริมความเข้าใจในห้อง แล้วยังกลับมาย้ำอีกครั้งด้วยการบ้านและอ่านทบทวน ถ้าทำตามนี้ได้ ไม่เข้าใจตอนนี้จะไปเข้าใจตอนไหนล่ะ
- เรียนชดเชย / เรียนทบทวน
ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องขาดเรียน เกิดเหตุให้ไม่สามารถมาเรียนได้ หรือเรียนแล้วอาจจะไม่เข้าใจในบางจุด น้องๆ สามารถขอเรียนชดเชยหรือเรียนทบทวนได้ เพราะในปัจจุบันคอร์สเรียนส่วนใหญ่มักจะมีการอัดวิดีโอไว้และเปิดโอกาสให้น้องๆได้เรียนชดเชย หรือเข้ามาเรียนเพื่อทบทวนความรู้ได้หากไม่เข้าใจ
น้องๆ ควรหาเวลามาเรียนชดเชยหากขาดเรียน มาสาย หรือเรียนซ้ำเพื่อเคลียร์เรื่องที่ยังไม่เข้าใจเพื่อให้สามารถเรียนในบทต่อไปได้ต่อเนื่องและได้เนื้อหาครบถ้วน แถมยังเป็นการทบทวนบทเรียนที่ไม่เข้าใจ เพราะอ่านคนเดียวอาจจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่ก็ได้นะ
- ซักถามข้อสงสัย
น้องหลายคนเรียนแล้วเกิดข้อสงสัย พี่เมษ์แนะนำให้สอบถามคุณครูหรือติวเตอร์ค่ะ แต่ถ้าไม่ได้เรียนตัวต่อตัว หรือเจอหน้ากันละ เรียนผ่านวิดีโอจะทำยังไง?
พี่เมษ์ขอให้น้องๆ สอบถามเจ้าหน้าที่ที่ดูแลที่เรียนพิเศษ หรือพี่ๆ เจ้าหน้าที่ประจำสาขาที่น้องเรียน ขออีเมลล์หรือช่องทางติดต่อสอบถามติวเตอร์หรือคุณครูเลยค่ะ เพราะการเรียนผ่านวิดีโอ บางทีอาจจะมีคำถาม ข้อสงสัย ที่น้องอยากได้คำตอบ แล้วในโลกที่ใช้สื่อโซเชียลมีเดีย ก็มีหลายช่องทางให้น้องๆ ได้สอบถามคุณครูหรือติวเตอร์ได้ง่ายขึ้นทั้ง Fanpage, Line, Whatsapp, Chat หรือ E-mail เป็นต้น เพียงแค่นี้น้องๆก็สามารถสอบถามปัญหาหรือบทรียนที่น้องๆสงสัยได้แล้วหละค่ะ
ทั้ง 5 เทคนิคนี้ เป็นข้อปฏิบัติง่ายๆที่จะทำให้น้องๆ สามารถเรียนพิเศษได้อย่างคุ้มค่ากับเงินและเวลาที่เสียไป แถมยังได้ประโยชน์ ได้ความรู้แบบเต็มที่เลยนะ ถ้าน้องๆ ทำได้ครบทุกข้อ พี่เมษ์เชื่อว่าน้องๆต้องได้คะแนนดีกว่าเดิม เพิ่มเกรด และเรียนเก่งขึ้นแน่ๆ แต่ก็อย่าลืมตั้งใจเรียนในห้องเรียนด้วยนะคะ เพราะการเรียนในห้องเรียนก็สำคัญมากเหมือนกัน ยิ่งถ้าน้องๆ ตั้งใจเรียนทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนด้วยเนี่ย ก็ไม่ยากเลยที่จะประสบความสำเร็จในการเรียนค่ะ
น้องๆ ละคะ คิดว่าเทคนิคไหนที่ทำให้เรียนได้คุ้มค่ามากที่สุด หรือมีเทคนิคอย่างอื่นที่ทำให้เรียนได้คุ้มค่ามากกว่านี้ รีบมาคอมเม้นท์บอกพี่เมษ์และเพื่อนๆ ด้วยนะคะ เราจะได้ FIT GRADE ไปพร้อมๆ กันค่ะ
16 ความคิดเห็น
เทคนิคของเราคือ อย่าหลับ! อาจารย์ถามในคอร์สวิดีโอก็ช่าง พยายามตอบ(ในใจก็ได้)
กินให้อิ่มมาก่อน หิวในห้องไม่มีสมาธิ ช่วงนั้นอ้วนช่างมัน ลดได้ๆ
หาน้ำไว้กินแก้ง่วงด้วย เรียนจบคอร์สเอามาออ่านทวน เรียนไม่ต้องเยอะ เอาแต่ที่ต้องใช้
แล้วนั่งทวนทุกวัน สู้ๆนะ เด็กแอดทั้งหลาย
ช่วงนี้ก็เรียนพิเศษอยู่เหมือนกัน พออ่านแล้วก็ขอตัวไปทำการบ้านก่อนนะ 5555555 >0<
ขอบคุณค่ะ
ข้อแรกพอมาคิดๆดูเเล้วเราจ่ายค่าเรียนพิเศษแพงจริงๆนั่นแหละ ถ้าขาดหรือสายทำให้ขาดทุนเยอะเหมือนกันนะนี่
OK ค่า
ช่วงปิดเทอมเนี่ยยก็จะเรียนพิเศษแบบเน้นๆ วิาหลัก สำหรับสอบเข้าเรียนต่อม.4 ง่าา ตอนนี้เก๊ายุม.3 อิอิ กลับบ้านมาหลังจากเรียนพิเศษก็คงเข้าใจกันนะว่า เหนื่อยโฮกเพลียยไปหมด แต่ละที่ก็ยู่่ห่างกันเกิ้นนน ร้อนนมากกแต่ละวัน ก็มีเทคนิคนี่ละคะ อาศัยการอาบน้ำให้สดชื่นน กินข้าวว ( แต่ไม่เยอะเกินไปนะ เดี๋ยวง่วงงเอา แหะๆ หลับบยาวกันเลยทีเดียว ) หลังจากนั้นก็มาทบทวนเนื้อหาที่เรียนไปค่ะ พอเข้าใจแล้วก็มาทำ assignment ที่มี ถ้าข้อไหนไม่ได้ ก็อย่าเพิ่งเปิดดูเฉลยนะ !!! เด็ดขาดเลยล่ะ ถึงโจทย์จะยากเกินไป ก็อาจจะต้องใช้เวลาซักนิด ของหนูเคยทำโจทย์ฟิสิกส์ยุข้อนึงง กว่าจะได้คำตอบบมที่ถูกกจิงๆมา ปาไป 2 คืนเลยทเดียวว เป็นข้อสอบ เอ็นทราน ที่อาจารย์แอบเหน็บมาให้ลองทำบ้างงง่าา >0<
kสุดยอดค่ะ
จะนำไปใช่้ค่ะ ขอบคุณมากน่ะค่ะ ต่อไปนี่ต้องพยายามขึ้นอีก หึดดๆ สู้ๆ ต้องทำให้ได้
ลงเรียนพิเศษ ม.4 ทบทวนเลย
ไม่ค่อยตั้งใจเรียน ที่ รร อ่ะ