7 เกร็ดความรู้ "เรืออับปาง" ที่อยากให้อ่าน (ทั้งอึ้ง ทึ่ง หลอน)

    สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com นาทีนี้ชาวโลกกำลังตกอยู่ในสภาวะโศกเศร้าจากเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นรายวัน โดยเฉพาะชาวเกาหลีใต้ที่กลางเดือนเมษายนที่ผ่านมาเพิ่งเกิดเหตุเรือ SEWOL ล่มขณะเดินทางไปยังเกาะเชจู ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายเป็นจำนวนมาก (จนถึงวันนี้ก็ยังตามหาผู้สูญหายได้ไม่ครบ) ส่วนใหญ่ยังพบว่าเป็นนักเรียนมัธยมปลายอีกด้วย นับเป็นโศกนาฏกรรมสุดสะเทือนใจอีกหนึ่งเหตุการณ์ของโลกเลยทีเดียว
 
         เมื่อพูดถึงเหตุการณ์เรืออับปาง เราอาจจะเห็นว่าเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่รู้มั้ยว่าการเกิดขึ้นในแต่ละครั้งทำให้เกิดความสูญเสียตามมามากมาย พิสูจน์ได้จากเหตุการณ์เรือล่มตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีผู้เสียชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมากก็เสียหายไม่ว่าจะเป็นเรือ ทรัพย์สินที่ติดมากับผู้โดยสาร หรือสินค้าที่บรรทุกมาในเรือ ก็ต้องจมลงที่ก้นบึ้งมหาสมุทรแทบทั้งสิ้น และเหตุการณ์เรือล่มที่น่าจะเป็นที่รู้จักมากที่สุดและโด่งดังที่สุด ก็คือ เรือไททานิค เกิดจากเรือชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็ง จากจุดเล็กๆ ทำให้น้ำทะลักเข้าท้องเรืออย่างรวดเร็ว เพียงแค่ 3 ชั่วโมงเรือไททานิคที่ได้ขึ้นชื่อว่า "เรือที่ไม่มีวันจม" ก็หายวับจากผิวน้ำ (ใครอยากดูาพหายากจากเหตุการณ์ไททานิคล่ม ตามอ่านได้ที่นี่เลย)
 

         เกริ่นเรื่องเรืออับปางมาขนาดนี้ พี่มิ้นท์ยังมีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเรืออับปางอีกหลายประเด็นมาฝากน้องๆ ชาว Dek-D.com ด้วย ไปเพิ่มรอยหยักในสมองพร้อมๆ กันเลยค่ะ (พี่มิ้นท์ขอขอบคุณหนังสือ 100 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเรืออับปาง มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ^^)
 
  × ซากเรืออับปางที่เก่าแก่ที่สุด
       ซากเรืออับปางที่เก่าแก่ที่สุดที่เคยค้นพบมีอายุกว่า 3,000 ปีแล้วค่ะ โดยเป็นเรือขนส่งสินค้าสองลำที่แล่นอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเมื่อประมาณปี 1,200-1,350 ปีก่อนคริสตศักราช โดยพบอยู่ใกล้ๆ ชายฝั่งตุรกีที่อูลูบูรุนและเกลิโดเนีย พายุพัดเรือทั้งสองลำไปขนกับหิน ก่อนจะจมลง ตัวเรือของเรือทั้งสองลำแทบจะสูญสลายไปหมดแล้ว เหลือเพียงเศษไม้นิดๆ หน่อยๆ นักโบราณคดีต้องกะขนาดรูปร่างเรือจากสินค้าของเรือที่กระจัดกระจายในทะเล
       นอกจากนี้เรืออับปางในยุคแรกๆ ส่วนใหญ่ก็พบว่ามักจะเป็นเรือที่บรรทุกสินค้า มีการบรรทุกสินค้าสารพัดชนิด เช่น ไวน์ น้ำมันมะกอก ไปจนถึงงานศิลปะและทาส!

 
   x เรือที่ออกแบบมาดีก็ต้องแพ้อากาศที่เลวร้าย
         การค้นพบเรืออับปางยังมีประโยชน์ในแง่ของประวัติศาสตร์และเทคโนโลยีในแต่ละสมัยด้วย เพราะอย่างในเคสที่ค้นพบซากเรือของจีนในปี ค.ศ.1973 ใกล้กับเมืองฉวานโจว ทำให้เรารู้ว่าเรือสำเภาจีนเป็นเรือใบเดินสมุทรที่ใหญ่ที่สุดในโลก
         ซากเรือสำเภาที่ค้นพบมายาวถึง 34 เมตร กว้าง 11 เมตร และน่าจะบรรทุกน้ำหนักได้ถึง 350 ตัน เรือมีกระโดง 3 เสา แต่ละเสาใหญ่กว่าเรือฝั่งยุโรปในยุคเดียวกันถึง 5 เท่าเลยทีเดียว ส่วนสาเหตุที่ทำให้เรือสำเภาลำนี้จมลง อาจเป็นเพราะพายุไต้ฝุ่น พัดเรือไปชนกับหินจนเรือเป็นรูขนาดใหญ่ น้ำจึงเข้าไปอยู่ในช่องข้างในเรือเต็มทุกช่อง เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าแม้แต่เรือที่ออกแบบมาดีที่สุดก็ไม่อาจรอดพ้นจากสภาพอากาศอันเลวร้ายได้ค่ะ

 
   x เรือรบก็อับปางได้!
 

         เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1545 แมรีโรสเป็นเรือธงของพระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ ออกแบบมาเพื่อการรบ สามารถยิงปืนและลูกธนูได้ หรือจะแล่นเข้าเทียบเรือศัตรูเพื่อให้ลูกเรือกระโดดข้ามไปบนดาดฟ้าเรือศัตรูก็ได้เช่นกัน บนเรือนั้นมีการติดตั้งปืนใหญ่รุ่นใหม่ โดยเจาะช่องยิงปืนใหญ่เรียงรายอยู่ข้างลำเรือเหนือระดับน้ำ ปากกระบอกปืนเล็งตรงออกไปพร้อมยิงใส่ศัตรู
         แต่เรื่องของเรื่องคือ น้ำหนักของคนกับปืนบนดาดฟ้าทำให้เรือแมรีโรสไม่สมดุล จนทำให้เรือเอียงและวูบไปด้านหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเรือเอียงแล้วทำให้น้ำไหลเข้าเรือทางช่องยิงปืนใหญ่ ผลก็คือเรือไม่สามารถกลับมาตั้งลำได้ใหม่ เรือจึงจมลงอย่างรวดเร็ว ทหารกับลูกเรืออีกหลายคนติดอยู่กับตาข่ายที่เอาไว้กั้นศัตรู เหตุการณ์นี้ทำให้มีคนจมน้ำตายไปราว 500 คนเลยทีเดียว และจากเหตุการณ์นี้ แมรีโรส ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในซากเรืออับปางที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุโรปเลยค่ะ

 
   x ทะเลบ้าคลั่ง ที่จมเรือร่วมหลายร้อยลำ

         ทะเลรอบๆ แหลมฮอร์นซึ่งอยู่ใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้เป็นทะเลที่บ้าคลั่งที่สุดในโลก เพราะกระแสน้ำไหลเร็ว ชายหาดเป็นหิน มีหมอกหนาทึบไม่เหมาะกับการเดินเรือ มีภูเขาน้ำแข็ง ลมพัดแรงและคลื่นลูกโตที่อาจสูงได้ถึง 30 เมตร ทำให้เรือแล่นผ่านไปได้ยากมาก ยิ่งกว่าความยากคือ ช่างเป็นทะเลที่อันตรายรอบทิศทาง ความโหดร้ายของสภาพแวดล้อมเช่นนี้ทำให้มีเรืออับปางที่แหลมฮอร์นถึง 78 ลำ และมีเรือที่อับปางในทะเลใกล้เคียงอีกอย่างน้อย 800 ลำ แหลมฮอร์นแห่งนี้กลายเป็นที่รู้จักกันในนาม "สุสานเรือ"
         ยกตัวอย่างเรือที่อับปางบริเวณนี้ได้แก่ คริกเคธแคเซิล เรือใบอังกฤษ แล่นจากเปรูมุ่งหน้ายุโรป ในปี ค.ศ.1912 ในขณะที่แล่นอ้อมแหลมฮอร์นอยู่นั้น หางเสือก็เสียเพราะเจอพายุ จากนั้นน้ำก็รั่วเข้ามาในท้องเรือ ไปผสมกับมูลสัตว์ที่บรรทุกมาา ทำให้ไปอุดเครื่องปั๊มน้ำเรือจนตัน ผลที่เกิดเป็นทอดๆ ทำให้น้ำท่วมท้องเรือจนกระทั่งจมลง แต่ก็ยังเคราะห์ดีที่มีลูกเรือรอดชีวิตมาถึง 7 คน
 
   x เรือเดินสมุทรที่น่าสงสารที่สุด
         บางครั้งเรือที่จมลงอาจไม่ใช่อุบัติเหตุ อย่างเช่น เรือลูซิเทเนีย เรือเดินสมุทรสุดหรูของบริษัทเดินเรือคูนาร์ด เรือลำนี้ออกแบบมาเพื่อบรรทุกผู้โดยสารระหว่างอังกฤษกับนิวยอร์ก มีรางวัลการันตีว่าเป็นเรือที่แล่นข้ามแอตแลนติกได้เร็วที่สุดด้วย แต่เมื่อประมาณปี ค.ศ.1914 เกิดสงครามระหว่างอังกฤษกับเยอรมนี สถานทูตเยอรมนีในอเมริกาได้เตือนนักเดินทางว่า ชาวเยอรมันจะปฏิบัติกับเรืออังกฤษทุกลำในฐานะเรือของศัตรู ทั้งๆ ที่เรือบางลำอาจไม่เกี่ยวข้องกับกองทัพของอังกฤษเลยก็ตาม
 


         แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ กัปตันเรือกลับมั่นใจมากว่า เรือลูซิเทเนียจะต้องรอดแน่ๆ เพราะเรือแล่นได้เร็วกว่าเรืออื่นๆ แม้แต่เรือดำน้ำของเยอรมนีเอง ฉะนั้นไมมีใครไล่ตามทันแน่นอน แต่นั่นหารู้ไม่ว่ากัปตันคิดผิดอย่างแรง เพราะเดือนพฤษภาคม ค.ศ.1915 เรือลูซิเทเนีย บังเอิญแล่นเข้าไปใกล้เรือดำน้ำของเยอรมนีที่นอกชายฝั่งด้านใต้ของไอร์แลนด์ เรือดำน้ำยิงตอร์ปิโดเข้าใส่หนึ่งลูก จนเรือเสียการควบคุมและเกิดระเบิดขึ้น ก่อนที่น้ำจะทะลักเข้าไปด้านในจนเรือเอียง และจมลงภายใน 18 นาที ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1,198 คน จากผู้โดยสารทั้งหมด 1,959 คน เหตุการณ์นี้ถูกประณามและถูกพาดหัวข่าวไปทั่วโลก
 
   x เรืออับปางเพราะความผิดพลาดของมนุษย์
       ในยุคหลังๆ ทั้งคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และการออกแบบตามหลักวิทยาศาสตร์ช่วยให้เรือยุคปัจจุบันมีความปลอดภัยมากขึ้น แม้ว่าเหตุการณ์เรือล่มจะยังมีอยู่ แต่มักจะเกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์เอง เช่น
          - ในปี ค.ศ.2002 เรือโดยสารจูลา จมลงนอกชายฝั่งเซเนกัลเพราะจุคนมากเกินไป มีคนเสียชีวิตกว่า 1,900 คน
          - ในปี ค.ศ. 1994 เรือโดยสารเอสโตเนีย จมลงในทะเลบอลติก เกิดจากความผิดพลาดทางเทคนิค ประตูส่วนหัวเรือเกิดล็อคไม่อยู่ ทำให้น้ำเข้าสู่ภายใน มีผู้เสียชีวิต 852 คน

 

 
   x ยานดำน้ำลำแรกของโลก
        เรือส่วนใหญ่จะจมลงไปลึกมาก ถ้าไม่มีการป้องกันตัว มนุษย์เราๆ ไม่มีทางดำน้ำลึกกว่า 200 เมตรได้อย่างปลอดภัย เพราะแรงดันน้ำจะบีบอัดร่างจนแหลกละเอียด 
       
ดังนั้นการสำรวจซากเรืออับปางในทะเลลึกเราจึงใช้หุ่นยนต์สำรวจ ยานลากจูง ยานอาร์โอวี(ยานควบคุมระยะไกล) หรือยานดำน้ำแทน และแอลวิน คือยานดำน้ำลึกลำแรกของโลก สร้างขึ้นเมื่อปี  ค.ศ.1964 ทำภารกิจถล่มทลายกว่า 4,200 ภารกิจ ด้วยคุณสมบัติของยานดำน้ำที่แข็งแรง  ดำน้ำได้ลึกถึง 4,500 เมตรจากผิวน้ำ ตัวยานติดตั้งไฟส่องสว่าง อากาศสำรอง หน้าต่างแขนกล และขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์แรงดันน้ำหกเครื่อง
 
         ไม่ว่าเรือจะอับปางลงแบบไหน ด้วยสาเหตุอะไร ต่างก็น่ากลัวและนำมาซึ่งความสูญเสียทั้งนั้น แต่จากเกร็ดความรู้ที่ได้มา แม้จะรู้สึกว่าธรรมชาติน่ากลัว เราควบคุมธรรมชาติไม่ได้ แต่น่ากลัวน้อยกว่าอันตรายจากมนุษย์ด้วยกันเอง ที่สามารถโจมตี ฆ่ากันตายเพียงเพราะอยู่คนละข้าง หากน้องๆ ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมก็จะรู้ว่ามีเหตุการณ์เรืออับปางอีกหลายเหตุการณ์ที่เกิดจากการการยิงปืนใหญ่และระเบิดตอร์ปิโดเพื่อทำลายล้างฝั่งตรงข้ามแบบกะไม่ให้เหลือชิ้นดีเลย T^T
 
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพประกอบจาก
หนังสือ 100 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเรืออับปาง จากอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง,
http://en.wikipedia.org/wiki/MS_Estonia, 
www.teachpeace.com/teachpeacemoment9.htm,
http://en.wikipedia.org/wiki/Sinking_of_the_RMS_Lusitania,
http://en.wikipedia.org/wiki/Mary_Rose,
www.naval-history.net/F12-History_of_Argentina.htm,
http://en.wikipedia.org/wiki/DSV_Alvin,
www.fotocommunity.com/pc/pc/display/26448706,
www.worldaffairsboard.com/naval-warfare/39277-sinking-ships-ww2-especially.htm
l
พี่มิ้นท์
พี่มิ้นท์ - Columnist พี่สาวใจเย็น ผู้เกิดมาในแอดมิชชั่นยุคแรก แต่เข้าใจ TCAS มากกว่า

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

Meen Dx Xiamyimm Member 23 เม.ย. 57 15:56 น. 2

ชอบคำพูดที่ว่า แม้จะรู้สึกว่าธรรมชาติน่ากลัว เราควบคุมธรรมชาติไม่ได้ แต่น่ากลัวน้อยกว่าอันตรายจากมนุษย์ด้วยกันเอง " 

ปล. ขอบคุณสำหรับบทความดีๆค่ะ   เยี่ยม

0
กำลังโหลด
เทพอสูรปลาผัด Member 24 เม.ย. 57 13:17 น. 11

ขึ้นชื่อว่าน้ำยังไงก็ไม่อุ่นใจเท่ากับเหยียบอยู่บนพื้นดินนุ่มๆ มีคนเคยบอกผมว่าหากคิดที่จะลงน้ำต้องรู้จักที่จะเอาตัวรอดจากน้ำ เพราะน้ำมันไม่แน่นอน 

จำได้แม่น ว่าทริคเอาการตัวรอดเวลาเรือจม คืออะไรก็ตามที่ถ่วงตัวอยู่ ให้ถอดทิ้งไปให้หมดอย่าเสียดาย โดยเฉพาะกางเกงยีนส์(ตัวอมน้ำชั้นดีเลยละ) กระเป๋าเป้ และรีบว่ายออกห่างจากจุดที่เรือจมให้ไวที่สุด เพราะตรงจุดที่เรือจมมันจะเกิดคลื่นน้ำที่จะดูดเราลงไปใต้ท้องน้ำ (อารมณ์ประมาณ์ เปิดจุกระบายน้ำในแท้งก์น้ำ) ซึ่งมันเกิดจากการที่น้ำไปแทนที่อากาศ แล้วของหนักอย่างเรือจมลงน้ำด้วย

เพราะฉะนั้น เคล็ดสำคัญเวลาเอาตัวรอดตอนเรือล่มหรืออะไรก็ตามที่อยู่บนน้ำคือ ตั้งสติ  ถอดของที่ถ่วงตัว กระโดดไปให้ไกล ถ้าฝีมือไม่ถึงอย่าช่วยคนอื่นเพราะการช่วยแบบงูๆปลาๆจะกลายเป็นการพากันจมน้ำตายทั้งคู่ 

วิธีการช่วยเหลือ หากคิดช่วยเหลือคนอื่นนี่หลักๆคือ เข้าทางข้างหลัง แล้วใช้วิธีลากคอเข้าฝั่ง อย่าให้อีกฝ่ายจับตัวเราจนขยับไม่ได้ (เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้ คนที่ไม่รู้จะพยามเกาะเหมือนเกาะท่อนซุง และทำให้เราเคลื่อนไหวในน้ำไม่ได้ ) พยามบอกให้อีกฝ่ายตั้งสติ (ถ้ามี) แต่ถ้าไม่มีเวลาก็ลากคอไปเลย เจ็บหน่อยแต่เขาจะไม่ตายแน่นอน 

2
น้ำชากะกาแฟ Member 24 เม.ย. 57 16:07 น. 11-1
แล้วถ้ากางเกงยีนส์เรามันฟิตมากแบบขาเดฟถอดลำบากอะทำไง แล้วถ้าว่ายน้ำไม่ไวอะกลัวห่างจากเรือไม่ทัน T^T หน้าซีด
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
nattiya_hp Member 24 เม.ย. 57 09:27 น. 4

ขอบคุณกับสาระดีๆน่ะค่ะ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเลยค่ะ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า"ความผิดพลาดในอดีต เป็นบทเรียนที่ดีในอนาคต"

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

27 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
Meen Dx Xiamyimm Member 23 เม.ย. 57 15:56 น. 2

ชอบคำพูดที่ว่า แม้จะรู้สึกว่าธรรมชาติน่ากลัว เราควบคุมธรรมชาติไม่ได้ แต่น่ากลัวน้อยกว่าอันตรายจากมนุษย์ด้วยกันเอง " 

ปล. ขอบคุณสำหรับบทความดีๆค่ะ   เยี่ยม

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
nattiya_hp Member 24 เม.ย. 57 09:27 น. 4

ขอบคุณกับสาระดีๆน่ะค่ะ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเลยค่ะ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า"ความผิดพลาดในอดีต เป็นบทเรียนที่ดีในอนาคต"

0
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
เทพอสูรปลาผัด Member 24 เม.ย. 57 13:17 น. 11

ขึ้นชื่อว่าน้ำยังไงก็ไม่อุ่นใจเท่ากับเหยียบอยู่บนพื้นดินนุ่มๆ มีคนเคยบอกผมว่าหากคิดที่จะลงน้ำต้องรู้จักที่จะเอาตัวรอดจากน้ำ เพราะน้ำมันไม่แน่นอน 

จำได้แม่น ว่าทริคเอาการตัวรอดเวลาเรือจม คืออะไรก็ตามที่ถ่วงตัวอยู่ ให้ถอดทิ้งไปให้หมดอย่าเสียดาย โดยเฉพาะกางเกงยีนส์(ตัวอมน้ำชั้นดีเลยละ) กระเป๋าเป้ และรีบว่ายออกห่างจากจุดที่เรือจมให้ไวที่สุด เพราะตรงจุดที่เรือจมมันจะเกิดคลื่นน้ำที่จะดูดเราลงไปใต้ท้องน้ำ (อารมณ์ประมาณ์ เปิดจุกระบายน้ำในแท้งก์น้ำ) ซึ่งมันเกิดจากการที่น้ำไปแทนที่อากาศ แล้วของหนักอย่างเรือจมลงน้ำด้วย

เพราะฉะนั้น เคล็ดสำคัญเวลาเอาตัวรอดตอนเรือล่มหรืออะไรก็ตามที่อยู่บนน้ำคือ ตั้งสติ  ถอดของที่ถ่วงตัว กระโดดไปให้ไกล ถ้าฝีมือไม่ถึงอย่าช่วยคนอื่นเพราะการช่วยแบบงูๆปลาๆจะกลายเป็นการพากันจมน้ำตายทั้งคู่ 

วิธีการช่วยเหลือ หากคิดช่วยเหลือคนอื่นนี่หลักๆคือ เข้าทางข้างหลัง แล้วใช้วิธีลากคอเข้าฝั่ง อย่าให้อีกฝ่ายจับตัวเราจนขยับไม่ได้ (เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้ คนที่ไม่รู้จะพยามเกาะเหมือนเกาะท่อนซุง และทำให้เราเคลื่อนไหวในน้ำไม่ได้ ) พยามบอกให้อีกฝ่ายตั้งสติ (ถ้ามี) แต่ถ้าไม่มีเวลาก็ลากคอไปเลย เจ็บหน่อยแต่เขาจะไม่ตายแน่นอน 

2
น้ำชากะกาแฟ Member 24 เม.ย. 57 16:07 น. 11-1
แล้วถ้ากางเกงยีนส์เรามันฟิตมากแบบขาเดฟถอดลำบากอะทำไง แล้วถ้าว่ายน้ำไม่ไวอะกลัวห่างจากเรือไม่ทัน T^T หน้าซีด
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
#Mami Flower Member 25 เม.ย. 57 19:35 น. 18

บางทีที่เรือไทนานิคจมอย่างอนาถ อาจเป็นเพราะสาเหตุอื่นก็ได้ค่ะ ดูรายการพากย์ไทยเมื่อเช้านี้มา ' ';

เขาบอกว่าก่อนที่ไทนานิคจะถึงภูเขาน้ำแข็ง มีเวลามากมายที่จะหันหัวเรือหลบ และการที่กัปตันไม่อพยพผู้คนตั้งแต่ที่ทราบถึงหายนะ บางทีอาจเป็นความผิดของกัปตัน หรือไม่เขาก็อาจมีเหตุผลของเขาอยู่

พูดไปนั่น หลอนเลยค่ะ T^T

เหอะเหอะ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด