อย่ามองแค่ว่า "เรียนอะไรดี" แต่ต้องมองเลยว่า "อยากทำหรือควรทำอาชีพอะไรดี" ด้วยเลยค่ะ
ซึ่งประเด็นว่าจะทำอาชีพอะไร ไปเรียนสายไหนนี่แหละที่เป็นปัญหาโลกแตก! เราต้องการทำอาชีพอะไร และสายไหนเรียนไปทำอะไรได้บ้าง ในยุคนี้ควรเลือกเรียนอะไรดี พี่เกียรติมีประเด็นเล่าสู่กันฟังค่ะ ก้าวสู่ยุคประชาคมอาเซียน สายสามัญหรือสายอาชีพ สายไหนจะไปรุ่ง!
___________________________________________________
ใน 8 อาชีพนี้มีเพียง 3 อาชีพคือ พยาบาล ทันตแพทย์ และแพทย์ ที่ต้องเรียน สายสามัญเท่านั้น ในขณะที่สาขางานอื่นๆ สามารถเรียนสายอาชีพได้ และสามารถเลือกออกไปทำงาน หรือเรียนแบบทำงานไปเรียนไปได้ก็ได้ทันทีตั้งแต่ยังเรียน ปวช. ด้วยค่ะ แต่ ณ ตอนนี้ พ.ศ. 2557 ค่านิยมในการต่อสายอาชีพยังถูกมองไปด้านลบ และยังมีข้อจำกัดในการต่อปริญญาตรีอยู่บ้างค่ะ
แต่เราต้องพิจารณาว่า ลักษณะการเรียนรู้แต่ละคนต่างกัน บางคนเก่งคำนวณแต่ไม่ชอบงานปฏิบัติเลย บางคนเป็นกลุ่มชอบวางแผน แต่ไม่ชอบลงมือเอง บางคนเก่งคำนวณดุจผู้วางแผน แต่จริงๆ ไม่ชอบอยู่กับที่ ดังนั้นต้องเลือกเรียนให้เข้ากับตัวเองจะมีความสุข และไปได้ดีกว่าค่ะ อย่างงานบัญชีเป็นงานคำนวณก็จริง แต่ในความเป็นจริงนักบัญชีไม่ได้คิดเลขในใจ หรือใช้ตรีโกณในการคำนวณงบดุลนะ เขาก็ใช้สูตรทางบัญชี โปรแกรมคอมพิวเตอร์ และเครื่องคิดเลขในการคำนวณค่ะ ดังนั้นไม่ได้หมายความว่า ตกเลขแล้วจะไม่เข้าใจบัญชีนะคะ (แต่มันเป็นศาสตร์ใกล้เคียงกัน ต้องพิจารณาดีๆ ไม่งั้นจะทนทำงานกับตัวเลขได้อย่างไรเนอะ) อย่างพี่เกียรติก็ไม่ชอบเลข แต่พี่ชอบสถิติและเลขาคณิตนะ ซึ่งมันก็คือบทย่อยในวิชาคณิตศาสตร์ใช่ไหมล่ะ
ในเมื่อคนเรามีลักษณะการเรียนรู้ต่างกัน ความชอบต่างกัน
อย่างวิศวกรก็ มี 2 แบบ (1)วิศวกรภาคสนาม อยู่กับไซต์งาน ดูแลช่างทำงาน ต้องทำงานเป็น มีทักษะทำแบบช่างได้ กลุ่มนี้ถ้าจบมาทางสายอาชีพ จะทำงานได้คล่องมากกว่า และเริ่มต้นงานได้ดี (2)วิศวกรหลังฉาก แบบที่ค่อยดูแลกระบวนการงานควบคุม คอยคำนวณ ดูโครงสร้าง งานวางแผนแต่ไม่ถนัดลงสนามคุมช่าง หรือลงมือทำเอง จบจากสายสามัญมากกว่า สองกลุ่มนี้ มีทักษะและรูปแบบการทำงานที่ต่างกัน แต่ก็เป็นวิศวกรเหมือนกัน (ความต่างนี้พิจารณาโดยรวมนะคะ จริงๆ เนื้องานหรือความชอบ และทักษะแต่ละคนอาจต่างกัน เพียงสรุปภาพให้ชัดเจนค่ะ)
แต่ไม่ได้หมายความว่า ถ้าไม่ได้เรียน 8 อาชีพนี้ อนาคตจะดับวูบ!
แม้จะเข้าสู่ยุค AEC แล้ว แต่อาชีพในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่ได้มีแค่ 8 อาชีพเท่านั้น น้องๆ ต้องเข้าใจด้วยว่าทุกอาชีพมีความสำคัญในสังคม อีกทั้งไทยยังเป็นประเทศที่ส่งออกอาหารและงานสวยงานสู่โลกอยู่นะคะ ดังนั้น ชาวไร่ ชาวนา แม่บ้านแปรรูปผลผลิต งานศิลปะหัตถกรรม ออกแบบอัญมณี เครื่องแต่งกาย อะไรเหล่านี้ก็ยังมีความสำคัญอยู่ทั้งนั้น ชอบด้านไหน ทำให้ตัวเองเป็นผู้เชี่ยญชาญในด้านนั้นค่ะ
เช่น อยากเป็นดีไซเนอร์ระดับโลก ส่งนางแบบใส่ชุดเราเดินในงานแฟชันวีค เขาไม่มานั่งถามหรอกค่ะว่าจบปริญญาตรีมาหรือยัง ฝีมือต่างหากที่ช่วยการันตีจริง เรื่องออกแบบและเย็บปักถักร้อย ไม่ได้เป็นวิชาหลักที่โรงเรียนทั่วไปค่ะ ถ้าชอบจริงๆ กล้าจริงๆ มั่นใจจริงๆ สายอาชีพมีให้เรียนค่ะ พอจบบ ม.3 ก็เลือกเรียน ปวช. คหกรรม กลุ่มงานผ้าและเครื่องแต่งกายได้เลยค่ะ ไม่ต้องเรียนฟิสิกส์ เคมี หรือนั่งท่อง นั่งสอบ นั่งเรียนพิเศษวิชาที่เรา(อาจ)ไม่ชอบนะคะ เราจะมีเวลาและได้ฝึกด้านนั้นเลยจริงๆ
ในยุค AEC นี้ สิ่งที่ต้องการคือ วิชาชีพและความสามารถเฉพาะทางค่ะ ไม่ต้องฉลาดที่สุด ไม่ต้องรู้ทุกเรื่องเป็นพหูสูต (ศัพท์เก่าไปไหม ฮ่าๆ) แต่ให้เก่งในด้านใดด้านหนึ่งไปเลยค่ะ ในประเทศที่พัฒนาแล้ว การเรียนสายอาชีพเป็นที่นิยมกว่ามากค่ะ เพราะไม่ต้องเสียเวลาเรียนนาน เยาวชนทำงานได้เลย เงินเดือนก็ดี เท่าเทียมกันทุกอาชีพ เพราะเขาถือว่าจบวิชาเทคนิคเชี่ยวชาญค่ะ |
ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ
1. ทำความรู้จักอาชีพต่างๆ ในด้านที่เราสนใจให้มากที่สุด ถ้าอาชีพที่อยากเป็นคือสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ เชิญช่องสายสามัญโลดค่ะ แต่ถ้าเป็นอาชีพอื่นๆ ขอให้เปิดตาเปิดใจให้กว้างๆ มองสายอาชีพที่มีสาขาหลากหลายบ้าง
2. หาข้อมูลต่อไปว่า อาชีพนั้นๆ เรียนสายอะไรจะเหมาะกับตัวเรามากกว่า จะเรียนต่ออย่างไร อย่างวิศวะ เป็นสาขาที่เรียนได้ทั้งสายอาชีพ (จบ ปวช. ต่อปริญญาตรีคณะวิศวกรรมศาสตร์) และสายสามัญ แต่โดยเนื้อหาวิชาที่เรียน วิธีการเรียน การเรียนต่อ ตัวงาน และสังคมที่เรียนแตกต่างกัน แบบไหนที่เข้ากับตัวเรามากกว่า
3. โรงเรียนสายอาชีพมีหลากหลายมากกว่าที่เราคิด ไม่ได้มีแค่ช่างไฟ บัญชี การขาย คอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่ยังมี...งานโรงแรม พาณิชย์นาวี เตรียมวิศวะ เตรียมสถาปัตย์ ปิโตรเลียม ดีไซน์เนอร์ ศิลปะ งานเชฟ นาฏศิลป์ ทำเครื่องทอง ฯลฯ ปีหน้าจะมีสาขาระบบรางและรถไฟฟ้าความเร็วสูงอีกด้วย มีทั้งสายอาชีพแบบเรียนฟรี มีทุนการศึกษา มีทั้งสายอาชีพแบบที่ทำงานไปด้วยได้ตามข้อตกลง (ทวิภาคี) มีทั้งสายอาชีพแบบฐานวิทยาศาสตร์ที่เรียนกึ่งสายสามัญ มีทั้งสายอาชีพอินเตอร์ เรียน English Program อีกด้วย
4. กล้าต่อสู้กับสิ่งที่คิดว่าเหมาะสมกับเราอย่างตั้งใจจริงๆ ค่ะ เพราะบางคนรู้สึกว่าตัวเองอยากเรียนสายอาชีพมากกว่า แต่เพื่อนๆ ไม่เรียนด้วย ไม่อยากจากเพื่อน บางคนก็กลัวใจตัวเอง กลัวสังคมสายอาชีพพาตัวเองเสียคน ข้อนี้ต้องใช้จิตใจตัวเราในการตัดสินใจล้วนๆ เลยค่ะ และเมื่อตัดสินใจแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เลือก และทำให้ดีค่ะ
|
พี่เกียรติอาจจะอวยสายอาชีพมากหน่อย ก็เพราะนี่เป็นคอลัมน์สายอาชีพ ฮ่าๆๆ แต่จริงๆ แล้วพี่เกียรติก็ไม่ได้มองว่าสายสามัญไม่ดีนะคะ เพียงแต่เราต้องรู้จักสายอาชีพให้มากขึ้นด้วยค่ะ ส่วนหนึ่งที่เราไม่สนใจสายอาชีพกัน ไม่ใช่เพราะภาพลักษณ์ด้านลบอย่างเดียวหรอกค่ะ แต่เพราะเราแทบไม่รู้จักว่า จริงๆ แล้ว "สายอาชีพ/อาชีวะ" มีอะไรบ้าง จบไปทำอะไรบ้าง มีรุ่นพี่อนาคตสดใดแค่ไหนต่างหากค่ะ
เราต้องคิดดีๆ นะ เพราะถ้าคิดแค่ว่า "เรียนสายวิทย์ไปก่อน สอบอะไรก็ได้" แต่ระหว่างที่เรียนสามปีในสายวิทย์นี้ เราอาจเรียนตกระนาว อึดอัด จนเกรดมีปัญหา สอบอะไรลำบากก็ได้นะคะ ไม่เรียนต่อก็ไม่ได้ (พี่ไม่ได้แช่งใครนะเออ แต่เรื่องความถนัดมันเป็นเรื่องแต่ละคนจริงๆ) ถ้าแบบนั้นสู้มาเรียนอะไรที่เป็นทักษะเฉพาะทาง เอาดีด้านที่ชอบไปเลยดีกว่าไหม? แนวโน้มอาชีพในอนาคต คือ อาชีพเชี่ยวชาญเฉพาะทางค่ะ ซึ่งตราบใดที่เรามีความสามารถเชี่ยวชาญจริงๆ ค่ะ ก็ตอบโจทย์ทั้งตลาดแรงงานและอาเซียนอยู่แล้ว แน่นอนว่าอย่าลืมฝึกภาษาอังกฤษให้พอใช้งานได้ควบคู่กันไว้ด้วยค่ะ
___________________________________________________
พี่เกียรติขึ้นบทความนี้ ในเวลาที่กำลังจะเปิดเทอมใหม่ เพื่อที่น้องๆ ชาว Dek-D ที่ยังไม่ได้เลือกสายการเรียน จะได้มีโอกาสวางแผนกันตลอดทั้งปีค่ะ แต่ถ้ากำลังเรียนอยู่สายใดสายหนึ่งแล้ว หรือรู้สึกว่าอาจจะเลือกสายผิด ก็ลองพิจารณาดีๆ ได้ค่ะ ขอย้ำอีกครั้งว่า อนาคตของเรา เราต้องพิจารณาดีๆ มองให้ไกลมากขึ้น ไม่ว่าจะเลือกสายอาชีพ และสายสามัญนะคะ เพราะทั้งสองสายที่เลือกเรียนยังเป็นแค่จุดเริ่มต้นค่ะ เรายังต้องเดินต่อไปข้างหน้าอีกค่ะ
67 ความคิดเห็น
ช่วยได้เยอะเลยอ่านแล้วอยากทำตาม แต่ผมถูกกำหนดไว้ว่าต้องเป็นหมออย่างเดียว ทั้งที่ไม่ชอบวิทย์คณิตเลย 555 ไม่ชอบแต่ก็ทำไรไม่ได้นอกจากทน
ไมไม่เรียนอย่างที่ตัวเองชอบล่ะ?ทำ
ชีวิตของอนาคตต้องคิดให้ลึกและคิดให้มากนะ ไม่นั้นมีจมจ้า ฮ่าๆ
เรียน ปวช.บัญชี ต่อ ปวส.คอมพิวเตอร์ธุรกิจ จบมาทำงาน ตอนนี้เรียนต่อปริญญาตรี ศศบ.ภาษาอังกฤษ น้องบางคนจะจบ ม.ต้น สนใจสายอาชีพบ้างแต่ยังลังเลว่า เรียนไปแล้วมันจะรอดมั้ย? มันจะใช่มั้ย? พี่จะยกตัวอย่างทั้งเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้องให้ดูนะคะ ว่าแต่ละคนเปลี่ยนสายหรือเรียนต่อกันอะไรยังไงบ้าง แต่ไม่แน่ใจว่าตอนนี้กฏการรับสมัครยังเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า มีข้อมูลก็มาเพิ่มได้ค่ะ สายอาชีพบางทีก็กว้างอยู่นะคะ
1. เพื่อนรุ่นเดียวกัน จบม.ปลาย วิทย์-คอม มาต่อ ปวส.บริหารฯ คอมพิวเตอร์ธุรกิจ อีกคนจบมาด้วยกันต่อ ต่อศิลปกรรม คอมพิวเตอร์กราฟฟิค
2. รุ่นน้องเรียน ปวช.คอมฯธุรกิจ จบไปเรียน ป.ตรี นิเทศฯ
3. รุ่นน้องเรียน ปวช.คหกรรม จบไปเรียนครู คหกรรม กับรุ่นพี่อีกคน จบ บัญชี ไปต่อป.ตรี ครูบัญชี
4.รุ่นน้อง เรียนเทคโนโลยีศิลปกรรม ไปต่อ นิเทศฯ
5.เพื่อนร่วมชั้น จบ คอมฯธุรกิจ ไปต่อ Business English ได้ข่าวว่านางได้ไปแลกเปลี่ยนตอนเรียนต่อ ป.ตรีด้วยอ่ะ
ุ6.เพื่อนสนิท เรียนบัญชีด้วยกันมา ไปต่อ ป.ตรี การจัดการ ป.โท การจัดการธุรกิจเกษตร เพิ่งบินไปไต้หวันเรียนต่ออีกใบ จำไม่ได้ว่าเรียนสาขาอะไร
7.อ้อ มีเพื่อนสนิทตอนเด็ก เรียน วิทย์-คณิตฯ มาต่อบัญชี 4 ปี ตอนนี้ไปนอกอ่ะ ทำร้านสปาไทยหรืออะไรสักอย่างใน CA (จำไม่ได้ค่อยได้)
8.หัวหน้า (เกี่ยวมั้ย ไม่รู้นึกได้) จบม.ปลาย เรียนต่อวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ เพิ่มบัญชีอีกใบ นับถืออ่ะ คนละทางเลยยังเรียนจบทั้งสองใบ งว้อออ
นึกไม่ออกแล้วค่ะ ตัน นึกได้จะมาเพิ่มให้นะคะ
ขอแย้งเรื่องวิศวกรหน่อยนะคะ เพราะคิดว่าคุณจขกท.คงกำลังเข้าใจผิดเกี่ยวกับอาชีพนี้อยู่ค่ะ
ส่วนใหญ่คนที่จบสายอาชีพมาจะเป็นวิศวกรได้ต้องเรียนต่อปริญญาค่ะ
ไม่ใช่จบปวส.แล้วเป็นวิศวกรได้เลย เพราะว่าบางสถาบันสภาวิศวกรยังไม่รองรับค่ะ ยิ่งเรื่อง AEC ถ้าไม่สามารถสอบใบประกอบวิชาชีพของไทยได้ก็ไม่มีสิทธิ์ยื่นสอบของต่างชาติได้อยู่แล้วค่ะ เพราะต้องใช้มาตรฐานในแต่ละวิชาชีพ (Mutual Recognition Arrangement : MRA) ซึ่งกำหนดไว้ว่าวิศวกรต้องมีใบประกอบวิชาชีพและมีประสบการณ์ทำงานไม่น้อยกว่า 7 ปีค่ะ
ส่วนใหญ่คนที่จบปวส.มาจะได้เป็นโฟร์แมนค่ะ ยกเว้นคนที่มีประสบการณ์การทำงานหรือเก่งจริงๆทางบริษัทอาจให้เป็นวิศวกรได้ (แบบไม่มีใบอนุญาต) เข้า AEC ไม่ได้ เซ็นแบบไม่ได้ค่ะ
มีน้องสายอาชีพมาฝึกงานเป็นโฟร์แมน2คน เลยบอกให้น้องไปเรียนต่อเป็นวิศวกรเลยดีกว่าค่ะ ในเมื่อเราลงมือปฏิบัติมาแล้ว การเข้าใจในทฤษฎีคงไม่ยากเกินไปนัก
ใครอยากเรียนวิศวกรรมก็ลองตรวจสอบการรองรับของทางสภาก่อนนะคะ ว่าสถาบันที่เราจะเรียนทางสภารองรับรึเปล่า
http://www.coe.or.th/coe/main/coeHome.php?aMenu=301
ไม่อยากให้น้องๆที่จะเรียนวิศวกรรมที่อ่านกระทู้นี้แล้วเข้าใจผิดค่ะว่าเรียนที่ไหนก็เป็นวิศวกรได้
ในเมื่อเลือกจะเรียนแล้วก็อยากให้ทุกคนได้ไปสู่จุดสูงสุดของอาชีพค่ะ
เอ่อ ตอนแรกเราจะเรียน สายวิทย์-คณิต ของ รร อำเภอแห่งหนึ่งสอบเข้าได้แล้ว แต่ก็ไม่ได้เรียน มาเรียน อาชีว สาขา บัญชี สนุกดีนะ ได้เพื่อน ได้ประสบการณ์อะไรหลาย ๆ อย่าง บัญชีก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด แค่รู้หลักการณ์ รู้สูตร รู้ความน่าจะเป็นไปได้ วิเคราะห์เหตุการณ์เป็นก็รุ่งแล้ว ตอนนี้อยู่ ปวช.2 เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาก็ไปฝึกงานที่ธนาคาร ได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างประสบการณ์เยอะมากกก จบ ปวช ก็น่าจะ ต่อ ป.ตรี บัญชี เลย แล้วก็เสริมภาษานิดหน่อย น่าจะรุ่งแล้วหล่ะ
พวกเรื่องคนจะตัดสินใจไปเรียนดีมั้ยอันนี้โลกแตกพอกัน
เพราะ่ส่วนใหญ่จะติดตรงกลัวสังคมพาเสียบ้าง ติดเพื่อนเก่าบ้าง ไม่มีคนไปเรียนด้วยบ้าง
อยากบอกว่าให้เลิกความคิดเหล่านั่นซะ
เพราะเราเป็นคนนึงที่เรียน ม.4 สายวิทย์-คณิตมาก่อนปีนึงแล้วไม่ไหว
เปลี่ยนสายไปเรียน ปวช.ปี 1 ใหม่เลย(สายออกแบบ) แถมเรียนไกลในกรุงเทพ อยู่คนเดียว เรื่องจะเสียไม่เสียไม่ใช่อยู่แค่ที่เพื่อน อยู่ที่ใจเราต้องหนักแน่นที่จะไม่หลุดออกนอกกรอบ
เพื่อนไม่มีก็หาใหม่เอาดาบหน้าก้ได้ ทุกที่ไม่ได้มีแค่คนเลว ตอนแรกเราก็คิดแง่ลบเหมือนกันว่าเรียนสายอาชีพนี่ดูไม่ค่อยดีเลย
จนมาเรียนเองถึงได้รู้ว่ามันดีกว่าสายสามัญซะอีก เพราะเรียนเน้นไปที่สาขาวิชาที่เราเลือกนั้นๆเน้นๆ
ฉะนั้นใครจะเรียนสายอาชีพเรื่องเพื่อนไม่ต้องแคร์หรอก เพราะจบไปคงไม่ได้ไปทำงานที่เดียวกันหรอกใช่มั้ย?
เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังตัดสินใจอยู่เน่อ!
เราเรียนสาอาชีพค่ะ ตอนนี้ปวส. แล้วเรียนสาขาช่างก่อสร้าง ภูมิใจนะคะได้เรียนสาขานี้ ด้วยความชอบทางด้านนี้อยู่แล้ จึงไม่ค่อยมีปัญหากับการเรียนคะ ความจริงจะเรียนสายไหนมันก็ไม่ต่างกันนะคะ แต่มันต่างกันที่ตัวของเราค่ะ ว่าตัวคุณมีความพยายาม อดทน มุ่งมั่น ขนาดไหน ถ้าคุณมีความตั้งใจสูงไม่ยอมแพ้อะไรง่ายซะก่อน จะเรียนสาขาไหนอาชีพอะไร ก็ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน เราเชื่อแบบนั้น เราอยากให้น้องๆที่ยังไม่รู้จะเรียนอะไร เชื่อในตัวเองก่อน แล้วเลือกเรียนในสิ่งที่อยากเรียน จะได้ไม่มานั่งเสียดายหรือเสียเวลาภายหลังน่ะค่ะ