Hello สวัสดีจ้าน้องๆ ชาวเด็กดี ได้ยินพี่แนนทักเป็นภาษาต่างชาติอีกแล้ว แน่นอนค่ะว่า "สัมภาษณ์ติวเตอร์" วันนี้ พี่แนนจะพาน้องๆ ไปพูดคุยกับติวเตอร์ที่สอนภาษาอังกฤษติวเข้ม การสอบวัดผลสำหรับเรียนต่อหลักสูตรนานาชาติโดยเฉพาะถึง 2 ท่าน จากสถาบันสอนภาษา AiMS (เอมส์)

ท่านแรก คือ อ.ศรัณย์ (หัวหน้าภาควิชาภาษาอังกฤษ) และอ. ณัฐ (หัวหน้าภาควิชาเลข) ที่จะมาเล่าถึงเทคนิคการสอนที่ไม่เหมือนใครของ AiMS ด้วยการสอนแบบจิตวิญญาณครู และการันตีว่า แม้น้องๆ จะเรียนในไทยก็ประสบความสำเร็จระดับอินเตอร์ได้ เพราะมีรุ่นพี่ที่มาเรียน สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกอย่าง ฮาร์วาร์ด (Harvard University) ได้โดยที่ไม่เคยไปเรียนต่างประเทศเลย น่าสนใจแล้วใช่ไหมคะ ไปฟังกันเลยดีกว่า!!

พี่แนน : ทราบมาว่า AiMS เปิดมาเกือบจะ 20 ปี แล้ว ที่นี่มีคอนเซปต์อะไร หรือมีอะไรโดดเด่นที่ทำให้อยู่มาอย่างยาวนานขนาดนี้คะ?

อ.ณัฐ : AiMS  มีความเชี่ยวชาญในการเตรียมความพร้อม ให้กับนักเรียนในการเรียนหลักสูตรอินเตอร์ ไม่ว่าจะ ในประเทศหรือต่างประเทศครับ เ ราเป็นที่แรกที่จริงจัง กับการเตรียมตัวเรียนหลักสูตรนานาชาติ ใ นช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา  เรามีการการจัดทำหนังสือรวบรวมหลักสูตรนานาชาติในประเทศไทยถึง 2 เล่ม เล่มละ 100 กว่าหน้า มีการจัดกิจกรรมแนะแนวให้กับน้องๆ ทุกเดือนเพื่อ แนะแนวว่าหลักสูตรนานาชาติมีอะไรบ้าง สายวิทย์ เข้าอะไรได้บ้าง แล้วสายศิลป์ล่ะ ต้องเตรียมตัวยังไง และได้รับเกียรติให้ไปบรรยายนอกสถานที่ปีละกว่า 10 โรงเรียน ทั้งโรงเรียนไทยและโรงเรียนหลักสูตร อินเตอร์ นอกจากนี้ยังมีการเชิญอาจารย์จาก หลักสูตรอินเตอร์ของจุฬาฯ และจากธรรมศาสตร์มาจัดกิจกรรม Open House ถึงที่ AiMS เลย

อ.ศรัณย์ : การเข้าไปเรียนหลักสูตรอินเตอร์ไม่ใช่ว่า จะเข้าไปเรียนก็ได้เลย เราเจาะไปถึงเรื่องครอบครัว เราเชิญผู้ปกครองเข้ามาพูดคุยกัน ให้ลึกและความ เข้าใจถึงจุดมุ่งหมายของครอบครัว AiMS ไม่ได้มอง ตัวเองเป็นแค่ติวเตอร์ แต่เราเป็นที่ปรึกษาทางด้าน การศึกษาด้วย เราทำเหมือนกับภาพรวมทั้งหมดก่อน ให้เค้าเห็นว่าจะเข้าอินเตอร์มีองค์ประกอบอะไรบ้าง หลังจากนั้นค่อยลงไปสู่การ Test ที่เจาะลึกลงไป จุดเด่นของเราคือ “ไม่ต้องท่องมาก” อาจารย์จะสอนวิธีเอาตัวรอดในห้องสอบให้ได้สั้นๆคือศัพท์ภาษาอังกฤษ มี 4 ตัว ไม่ someone (คน) ก็ something (สัตว์/สิ่งของ) และไม่ doing (ทำอะไรซักอย่าง) ก็ being (ถูกกระทำ อะไรซักอย่าง) นักเรียนอินเตอร์ทำได้ นักเรียนไทย ก็ต้องทำได้ มันมีแค่นี้จริงๆแต่เราไปทำให้มันยากเอง การที่ AiMS ยังอยู่มาได้เกือบ 20 ปีนั้นพิสูจน์ให้เห็น ว่าเราสอนได้ดีแถมเข้าใจง่ายด้วย ด้วยกระบวนการของ AiMS “ไม่ต้องท่องมากก็เก่งได้”

พี่แนน : ถ้ามีน้องๆ มาปรึกษาเรื่องการเรียน หลักสูตรอินเตอร์ อาจารย์จะให้คำแนะนำยังไงบ้างคะ?

อ.ณัฐ : ตัวน้องเองจะมีพื้นฐานหลากหลาย ทั้งโรงเรียนไทย โรงเรียนอินเตอร์ โรงเรียนสองภาษา เราสามารถแนะนำตั้งแต่แรก มีการวัดความถนัด โดยเราเชิญอาจารย์จิตวิทยาแนะแนวมาให้คำแนะนำ ถึงที่ AiMS เลยทีเดียว ถ้ารู้แล้วว่าถนัดด้านใด ก็จะดูว่าภาคอินเตอร์มีที่ไหนเปิดสอนบ้างโดยมี 3 กระบวนการครับ

ขั้นแรก คือ consult (ให้คำปรึกษา) ก่อนเรียน ไม่ว่าจะเป็นหรือไม่ได้เป็นนักเรียนของเรา เราก็ให้คำปรึกษา พอรู้ว่าอยากเรียนอะไร ขั้นต่อมาคือ study (เรียน) แต่ไม่ใช่ว่า เรียนแล้วก็จบ ก่อนเรียนเรามีการวัดผล เรียนจบมีวัดผลอีกครั้ง เพื่อดูพัฒนาการว่าเป็นยังไง หลังจากนั้นก็จะมีการ success (ดูผลสำเร็จ) ว่าผลเป็นยังไงบ้าง อย่างปีที่แล้วมีนักเรียนสอบติดอินเตอร์จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ไป 542 คนคือเราดูทั้งกระบวนการเลย ตั้งแต่แนะนำ ว่าหลักสูตรอินเตอร์เป็นอย่างไร เรียนเป็นยังไง จบแล้วทำงานอะไร หรือแม้กระทั่งการวางแผน ทางการเงิน ว่าการเรียนจบหลักสูตรต้องมีค่าใช้จ่าย อะไรบ้าง

พี่แนน : เห็นที่นี่มีคอร์สหลากหลายมากเลยค่ะ คอร์สไหนบ้างที่เป็นคอร์สฮิตของที่นี่ที่อยากแนะนำเลย

อ.ศรัณย์ : ที่นี่มีทั้งคอร์สเดี่ยว คอร์สกลุ่มเล็ก (5-20 คน) และคอร์สกลุ่มใหญ่ หรือ Regular class (ไม่เกิน 25 คน) ซึ่งนี่คือจุดเด่นของเราที่จำกัดจำนวนนักเรียนต่อชั้นเพื่อให้ นักเรียนได้ประโยชน์เต็มที่ และล่าสุดคือคอร์สแบบ SELF ที่นักเรียนมาเรียนกับคอมพิวเตอร์ซึ่งนักเรียนชอบกันมาก เพราะเข้ามาเรียนเมื่อใดก็ได้ ส่วนวิชา SAT ดูเหมือน จะได้ รับความนิยมมากที่สุด เพราะต้องใช้สอบ ในภาคอินเตอร์ เกือบทุกหลักสูตรและนักเรียนหลายๆ คนเจาะจง มาเรียนกับ AiMS จากการที่รุ่นพี่และเพื่อน บอกต่อๆ กันมา แล้วก็มี GAT ซึ่งเป็นคอร์สที่น้องๆ ขอให้เปิด เราก็จะทำให้น้องเห็นว่า มันไม่ต้องขยันมาก จนเครียด หรือปวดหัว เพียงแต่ต้อง ประยุกต์ใช้ให้ได้ เราจะสอนเทคนิคทำข้อสอบของเด็กอินเตอร์ ซึ่งเด็กไทยไม่รู้ และอีกวิชาที่เราเปิดสอนมายาวนาน กว่า 15 ปี คือ IGCSE ที่เรามีอาจารย์ที่รู้ลึกและสอนที่ AiMS มานานกว่า 5 ปีอยู่ไม่ต่ำกว่า 10 คน เวลาสอน เราจึงเน้นการอธิบาย ให้เข้าใจ ไม่ใช่การเปิดเฉลย มาสอนนักเรียนเท่านั้น ในรอบ 3 ปี ล่าสุดนักเรียน AiMS สอบ IGCSE ได้ที่ 1 ในประเทศ 2 คน ในแต่ละปีมีนักเรียน AiMS ได้ A หรือ A star หลายสิบคนเลย เรามีนโยบายให้เด็กเข้าเรียนได้ฟรี 1 ครั้ง ในวิชาที่เรียน แบบกลุ่มหรือถ้าจัดกลุ่มมาเองตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก็สามารถ ให้อาจารย์สอนให้ฟรี 2 ชั่วโมงเพื่อดูว่าเราสอนเป็นยังไง ที่ยิ่งกว่านั้นคือ เราเชิญคุณพ่อคุณแม่มาฟังด้วย ภาพที่ ประทับใจคือ บางทีลูกมาเรียนไม่ได้ คุณแม่มาเรียนแทน อันนี้ด้วยจิตวิญาณครู ก็จะเน้นเรื่องนี้ แล้วพ่อแม่ก็จะได้รู้ว่า เราสอนอะไรลูกคุณ

พี่แนน : โอ้โฮ้ เรียนฟรีก่อนได้ด้วย น่าสนใจมากค่ะ

อ.ศรัณย์ : ถ้าเป็นคอร์สกลุ่มก็ทดลองเรียนได้ฟรี 2 ชั่วโมง แต่หากเป็นคอร์สเดี่ยว (ไพรเวท) ก็ให้ลงทะเบียนเรียนน้อยๆดูก่อน เช่น 2 ชั่วโมง เพื่อดูว่าครูกับคุณสามารถไปด้วยกันได้ไหม เพราะบางทีองค์ประกอบไม่ได้อยู่ที่ความรู้อย่างเดียว มันอยู่ที่การถ่ายทอด พี่ชอบใช้ คำว่า Homey Education คือมีด้านการศึกษาด้วย เด็กที่มาเรียนก็จะรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน รู้สึกกับพนักงานเราเหมือนเป็นญาติ เราเน้นเรื่อง feedback ให้เจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์คอยถามเค้า เพื่อนำมาปรับปรุง ที่สำคัญคือเราจะบอกคนที่เป็นครู ทุกคนว่า อย่าใช้ความเป็นครู กดดันให้เด็กยอมรับ ในสิ่งที่คุณเองก็ยังไม่ชัวร์ เราจะมีการเทรนด์ครูอยู่ ตลอดโดยเฉลี่ย 3 เดือนต่อครั้ง แถมการคัดเลือกครู ก็โหดมาก บางคนจบ Ivy League มาสมัครแต่ไม่ สามารถพิสูจน์ได้ว่าสอนให้เด็กเข้าใจได้ เราก็ไม่รับ เพราะเราต้อง การครูที่ทำให้เด็กหันมาชอบวิชาที่เรียนได้ เฉลี่ยแล้วจะมีครูผ่านการสัมภาษณ์ เพียง 1 ใน 4 เท่านั้นครับ

พี่แนน : อย่างคอร์ส SAT เป็นคอร์สที่ได้รับความนิยมมาก ตรงนี้เรามีการสอนต่างจากที่อื่นยังไงบ้างคะ

อ.ศรัณย์ : ที่ผ่านมาเรามีการแบ่งระดับ ในวิชา SAT ภาษาอังกฤษหรือที่เรียกว่า Critical Reading จะมีแบ่งออกเป็น 2 ระดับ อันแรกคือ Extended การเรียนการสอนก็จะไม่ได้ประคับประคองสักเท่าไหร่ เป็นการเรียนแบบเถียงและถามครูซะส่วนใหญ่ ส่วนอีกคลาสถ้ายังไม่แข็งแรง พี่จะไม่เรียกว่าเก่งหรือไม่เก่ง แต่จะเรียกว่าแข็งแรงหรือไม่แข็งแรง ซึ่งถ้าไม่แข็งแรงนักก็จะเข้าคลาส Foundation ที่ครูจะช่วยนักเรียน มากหน่อยเพื่อให้นักเรียนเห็นว่าข้อสอบ SAT มีวิธีทำอย่างไรพอเราแยก 2 คลาสนี้ออกมา ผลที่ได้รับคือ เด็กที่มาเรียนแบบ Extended ไปสอบมา 2 คนแรกก็ได้คะแนน 500 และ 510 คะแนนจากเต็ม 800 คะแนน แต่มาตรฐานเด็กอเมริกายังไม่ถึง 500 เลย แต่สำหรับในไทยที่ได้ Critical Reading 500 ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่เราทำได้ แล้วเราก็มาแชร์ไอเดียกันในคลาส ทำให้ที่เหลือก็มีกำลังใจขึ้นมา

อ.ณัฐ : อย่าง SAT ในส่วนเลขก็แบ่งเป็น 3 ระดับ เพื่อให้ตรงกับความสามารถของนักเรียน จะได้สอน tricks หรือเทคนิคต่างๆ คู่ไปกับสิ่งที่เค้า พร้อมรับ ทั้งนี้นักเรียนไม่จำเป็นต้อง เริ่มเรียนจาก ระดับแรกเสมอไป แต่ขึ้นอยู่กับผลการทำ Pre-test โดยระดับแรกคือ Foundation คือพื้นฐาน จากนั้นก็สูงขึ้นมาเป็น Moderate เป็นขั้นกลาง คือเริ่มทำโจทย์ ฝึกประยุกต์ใช้สูตร แล้วก็มาขั้นสูง คือ Higher คือระดับสำหรับนักเรียนที่ต้องการทำ คะแนนสอบให้ได้เยอะๆ ถึงขั้นเต็มเลยก็มี น้องๆ ที่มาเรียน ก็มีได้เต็มเยอะมาก บางคนได้เต็ม 800 สองครั้งติดต่อกันเลย ทั้งนี้เบื้องหลังความสำเร็จ คือแต่ละกลุ่มมีการจำกัดจำนวนนักเรียน เช่น Higher จำกัดแค่ 10 คนต่อชั้นเรียน เวลาเรียน ผมจะมีเวลาไปสอน ไปแนะนำเขาได้ทีละคน นี่คือสิ่งที่น้องๆ ชอบกันมากเพราะปกติ เขาไม่เคย เรียนชั้นเรียนที่ครูเอาใจใส่ได้ขนาดนี้มาก่อน

พี่แนน : วิชาเลขกับภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่น้องๆ แพ้ทาง กันมาก อย่างนี้ทางอาจารย์ทั้งสองท่าน มีเทคนิคการสอน ยังไงบ้างคะ?

อ.ศรัณย์ : ในวิชาภาษาอังกฤษ ส่วนใหญ่ที่มาเลย จะเริ่มจากคำว่า "ไม่ชอบ" ซึ่งเราก็รู้ว่าชอบคงไม่มา ซึ่งหน้าที่ของคุณคือ ต้องสอบให้ได้ นั่นคือขั้นแรก แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ดังนั้นหน้าที่ของเราคือ ทำให้คน ที่ไม่ชอบ หรือชอบแต่ไม่เข้าใจทั้งหมดปรับให้มาอยู่ถึง เป้าหมาย นั่นคือการสอบผ่านซึ่งนั่น คือเป้าหมายแรก แต่ไม่ใช่ทั้งหมด AiMS จะปรับทัศนคติก่อน ให้ความเป็น เราซึมซับกับเค้า อย่างเวลานักเรียนมาผมจะบอกเสมอ ว่าเวลาเรียนอย่าลืม "เถียงกับถาม" ต้องเรียนแบบ อเมริกันสไตล์คือ Two-way Communication คือ ไม่ใช่เรียนแล้วตอบแต่ “ครับๆ” อันที่สองตัวครูเอง จะได้ตื่นตัวตลอดเวลา ทาง AiMS จะต่อต้านการเปิด หนังสือ สอนมากๆ เพราะไม่ได้ประโยชน์กับนักเรียน เท่าไหร่

ภาษาอังกฤษเราจะไม่เน้นเรื่องของการท่อง เวลาสอน เราสอนให้น้องหลบศัพท์ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า น้องไม่ต้องท่องหนังสือ คือน้องอ่านมาอย่างดี มันอาจจะ ลืมกันได้ เราใช้หลักสูตรที่เราเรียกว่า Mnemonic คือ หา tricks ง่ายๆ มาท่องจำศัพท์ตัวนั้น เช่น คำว่า bridge แปลว่า สะพาน ซึ่งทำให้สองฝั่ง เข้าหากันใกล้ ดังนั้น abridge หมายถึง การทำให้ใกล้ กัน ,สั้นลง เราจะสอนเทคนิคแบบนี้ หรือบางครั้ง เราไม่รู้ศัพท์เราเดาจากบริบทได้ไหม แปลออกหมดแล้ว ก็รู้สึกถูกไปหมด เราจะสอนให้เค้ารู้จักสกัดขึ้นมา เราจะเป็นโค้ชคู่กับเค้าและจะ simplify คือทำให้เค้า เห็นว่ามันง่ายจริง และเราโค้ชเค้า คือเราเป็นพี่เลี้ยงเค้า ให้เค้าเถียง และถามได้

อ.ณัฐ : ในวิชาเลขนั้นไม่จำเป็นต้องท่องสูตรมาก ต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่าข้อสอบเลขของ SAT ไม่ใช่การท่องจำแต่เป็นการฝึกให้แก้ปัญหา ผมเคยเจอ น้องคนหนึ่งซึ่งครูเขาสอนให้จำสูตรเยอะมาก แต่โชคร้าย คือสูตรบางสูตรใช้ได้กับปัญหาบางข้อเท่านั้น มันไม่มีสูตร ครอบจักรวาลที่ใช้ได้กับทุกปัญหา ดังนั้นผมจะสอนให้เขา เข้าใจก่อนแล้วหาวิธีแก้ปัญหาโดยไม่ยึดติดกับสูตร ซึ่งนักเรียนหลายๆ คนเรียนแล้วชอบเพราะไม่ต้องท่องจนเครียดแต่ก็สอบได้คะแนนเท่าๆกับคนที่นั่งท่องสูตรหรือมากกว่าด้วยซ้ำ

พี่แนน : สอนมาเกือบ 10 ปีทั้งสองท่าน อย่างนี้มีเรื่องประทับใจอะไรบ้างคะ

อ.ศรัณย์ : มีน้องคนหนึ่งชื่อน้องการ์ตูนมาเรียนกับเราตั้งแต่เตรียมอุดมศึกษา เรียน IELTS แค่ 6 ชม. ไปสอบได้ 6.5 เต็ม 9 ตอนหลังเลยไปสอบเข้าทันตแพทย์ แล้วก็มาเรียน TOEFL พอไปสอบก็ได้ 108 เต็ม 120 ตอนนี้ต้องเรียก หมอการ์ตูน ซึ่งคุณหมอไม่เคยไปต่างประเทศเลย ภาษาอังกฤษดีมาก สอบเข้าฮาร์วาร์ดได้ และได้ทุนคิง  ตอนแรกที่มาเรียนก็ให้เราช่วยสอนเรื่อง writing ให้ พอไปสอบก็ได้คะแนน writing 28 เต็ม 30 ของ TOEFL เราใช้ความเป็น AiMS ปรับเค้า จนเค้าไม่ต้องเสียเงิน ไปอยู่ต่างประเทศนานๆ เพื่อซึมซับ แล้วให้เค้าเถียงถามซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเค้าจะเคลียร์ ส่วนน้องอีกคนหนึ่ง เขาเรียน Home School มาตั้งแต่เด็ก คุณพ่อคุณแม่ต้องการเตรียมตัวให้เข้ามหาวิทยาลัย ก็พาน้องมาเรียน IGCSE กับ SAT ซึ่งสุดท้ายแล้วก็สอบได้ที่ BBA จุฬาฯซึ่งเข้ายากมากเพราะใช้คะแนน SAT สูงที่สุดในประเทศไทย ในวันที่เขาสอบได้ก็เขียนจดหมายมาขอบคุณครูและมอบให้ด้วยตัวเองทั้งๆ ที่วันนั้นอายุเพียง 13 ปีเท่านั้น !

อ.ณัฐ : เอาล่าสุดเลยก็คือ นักเรียน AiMS 272 คนสอบติดจุฬาฯ อินเตอร์ปี 57 ส่วนธรรมศาสตร์ ติดไป 270 คน บางหลักสูตรนักเรียน AiMS สอบติดไปแทบจะยกคณะเลยทีเดียว เช่น หลักสูตร BE ธรรมศาสตร์เข้าไปได้ 113 คนจากจำนวนรับ 150 คน หรือหลักสูตร EBA จุฬาฯเข้าไปได้ 108 คน จากจำนวนรับ 150 คน ส่วน BBA จุฬาฯและธรรมศาสตร์เข้าไปได้หลักสูตรละ 55-57 คน จากจำนวนรับ 120-160 คน ปีนี้เลยเอารูปน้องๆที่สอบติดมาติดที่กระจกใสข้างหน้า AiMS ผลสุดท้ายคือ แทบจะกลายเป็นผนังทึบไปเลยเพราะติดเยอะไปหมดครับ แล้วน้องๆก็ชอบกลับมาหาเรา มาขอบคุณ แวะมาคุยด้วย เราเป็นครูก็ชื่นใจ ที่สำคัญคือการที่ AiMS เปิดมานานมาก ก็จะมีศิษย์เก่าที่เรียนจบ ปริญญาตรี-โทแล้วกลับมาสอนที่ AiMS ด้วยหลายคน อย่างน้อยก็ผมคนหนึ่งล่ะ เรียกได้ว่ามีความผูกพัน กันลึกซึ้งมากครับ

พี่แนน : มีน้องๆ แอบมาบ่นให้อาจารย์ฟังบ้างไหมคะ เป็นเรื่องอะไรบ้าง?

อ.ศรัณย์ : ถ้าในเรื่องการสอน Listening คือนักเรียนฟัง ไม่ออก ฟังไม่ทัน เราก็จะฝึกให้เค้าไปฟังแบบแอบฟังคน “นินทา” เรา เดาเสียงอักษรตัวแรกบ้าง เดาจาก Tone เสียงต่างๆบ้าง ถ้า Reading คือ อ่านไม่ทัน อ่านไม่เข้าใจ ไม่รู้ศัพท์ ตัดชอยส์ไม่ได้ เทคนิคของ AiMS คือให้สกัด keywords ไม่ต้องแปลแต่ต้องรู้ว่าเราอ่านอะไร ใครทำอะไรอยู่ ต้อง “Feel” ให้ได้ ส่วนเรื่อง Writing ก็จะเอาแพทเทิร์นให้เค้าดู เช่น จาก Bangkok Post ว่าเขียนยังไง คอยให้คำปรึกษา ให้เค้าเขียนมาส่ง เราก็จะแก้ส่วนที่ผิดไปพร้อมๆ กันกับนักเรียนจะได้รู้ และเข้าใจอย่างถูกต้อง ไม่ใช่แค่แก้แล้วคืนให้นักเรียน เราจะสอนแนว copy-cut-paste คือขั้นต้นในการฝึก เราก็ต้องเลียนแบบจากผู้รู้ก่อน ต่อมาจึงประยุกต์ใช้เองได้ ส่วน Speaking เด็กจะขี้อาย กลัว ผมก็จะสอนว่าใช้ศัพท์ ง่ายๆ อย่ากลัวผิด ใช้คำง่ายๆ เช่น this, that, ok ไปเลย การพูดภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง ขั้นต่ำคือ ถูกต้องตาม จุดประสงค์ สำเนียงไม่ต้องกลัว เพราะคนไทยเอง ก็ยังมีหลายสำเนียง ถ้าเราพูดต่อว่าฝรั่งแล้วเขาเอาดอกไม้ มาให้เราแสดงว่าไม่ประสบความสำเร็จ แต่ถ้าพูดแล้วเขา เอาไม้มาไล่ฟาดเราได้แสดงว่าพูดได้ถูกต้อง

อ.ณัฐ : เป็นเรื่องของการประยุกต์ เพราะวิชาเลข ก็มีทฤษฎี มีสูตรต่างๆ อยู่ บางคนรู้ว่าเค้าถามเรื่องนี้ ก็ต้องใช้สูตรนี้แก้ปัญหา บางคนทำได้ บางคนทำไม่ได้ ปัญหาคือ ทำยังไงให้ประยุกต์ใช้ได้ โดยส่วนตัวเชื่อว่าเลขเป็นการสอนคนอย่างหนึ่ง แต่ไม่ได้สอนให้เดินตามระเบียบ แต่ให้เป็นเครื่องมือ มาใช้ในการแก้ไขปัญหา เสน่ห์ของเลขคือ ถูกก็คือถูก ผิดก็คือผิด สิ่งที่พยายามถ่ายทอดก็คือ ให้น้องประยุกต์เป็น จนได้สิ่งที่เป็นคำตอบขึ้นมา

พี่แนน : ฟังแล้วฮึดทีเดียวค่ะ สุดท้ายนี้อยากให้ อาจารย์ฝากอะไรถึงน้องๆ ชาว Dek-d.com สักนิดค่ะ

อ.ณัฐ : อยากให้ซักประมาณ ม.3 ถึงม.4 ถามตัวเองว่าอยากเรียนอะไร อยากทำงานอะไร จะได้วางแผนได้ถูกต้อง เพื่อที่ตอนเรียนแล้วจะได้ เจอสิ่งที่เราสนใจจริงๆ พอค้นหาตัวเองเจอ ก็ค่อยมาวางแผนกันว่า เราจะต้องทำอะไรบ้าง จะได้ไม่กระทบกับสิ่งที่เรียนปัจจุบัน ทาง AiMS เราก็ช่วยวางแผนให้ทุกอย่างในส่วนนี้เพราะการเรียนอินเตอร์สามารถเตรียมตัวได้ก่อนการสอบ GAT PAT เนื่องจากข้อสอบต่างๆนั้นสามารถสอบ ได้เมื่อใดก็ได้ ไม่มีการจำกัดอายุผู้สอบและเก็บผล ไว้ได้ 2 ปี ดังนั้นใครเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ เช่น ม.4 ก็จะได้เปรียบคนอื่น ซึ่งมันไม่รบกวนการสอบ GAT PAT ด้วยเพราะเราสอบไปตั้งแต่ม.4-5 แล้วครับ

อ.ศรัณย์ : การศึกษาไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต ไมได้แปลว่าเราจบขั้นสูงสุดของการศึกษา แล้วเราประสบความสำเร็จแล้ว มันเป็นแค่ขั้นเริ่มต้น เท่านั้น อย่างอาจารย์ยังเรียนไม่จบนะ วันที่อาจารย์ เรียนจบคือวันที่อาจารย์ลาโลกนี้ไป ดังนั้น อย่าไปเครียด มันเป็นแค่ก้าวแรกเท่านั้น เธอไม่ได้แย่ที่สุดถ้าเธอสอบเข้าคณะต่างๆ ไม่ได้ มันแค่ one step in life แล้วก็ just go get it เอากับมันสักตั้ง มองให้มันเป็นเรื่องธรรมดา ที่มันเข้ามา และสุดท้ายคือ ถ้ามีปัญหาด้าน การศึกษา อยากปรึกษา ให้มาที่ AiMS ครับ

ขีดเส้นใต้ประโยคสุดท้าย ฝากถึงน้องๆ ที่แอดมิชชั่นปีนี้เลยนะคะ อย่างที่อาจารย์ศรัณย์บอก น้องไม่ได้แย่ที่สุดถ้าสอบไม่ติด มันเป็นแค่ก้าวแรกเท่านั้น อนาคตมีอะไรอีกมากมายรอเราเรียนรู้ ได้มากกว่านั้น ชัดเจนมากๆ ค่ะ รวมทั้งสไตล์การสอนแบบนี้ ต้องโดนใจน้องๆ ชาว Dek-D.com แน่นอน ใครสนใจ ไปดูได้ที่ www.aims.co.th จ้า

A.I.M.S. (Advanced Institute of Multi Studies)
Siam Square:
Tel: 02-254-9300-2, 02-658-4253-4
Fax: 02-254-8675
CP Tower 3 Phayathai:
Tel: 02-644-9620-1
Fax: 02-644-9622

พี่แนน
พี่แนน - Columnist พี่ใหญ่ฝ่ายกิจกรรมด้านการศึกษา และฝ่ายดูแลสุขภาพจิตของน้องๆ ในทีมให้เป็นปกติ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

7 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
Worranart 4 ก.ค. 57 09:36 น. 3
คือลูกเรียนโรงเรียนไทย แต่กำลังสนใจให้ลูกไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยภาคอินเตอร์อ่ะค่ะ ไม่ทราบว่าอยากเข้าไปปรึกษาที่ Aims นี่ต้องโทรไปนัดก่อนหรือเข้าไปได้เลยคะ ขอบคุณค่ะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Minni 15 ก.ค. 57 09:54 น. 6
ที่เรียนสะดวกดีค่ะ เคยมาเรียนกับเพื่อนๆที่รร. ลงจากบีทีเอสปุ๊บก็ถึงเลย คุณพ่อคุณแม่เลยไม่ค่อยห่วงเรื่องเดินทาง แล้วก็พี่ๆสอนได้สนุกดี เข้าใจง่าย เลยเรียนแล้วไม่ค่อยเครียด ตอนนี้เลยเข้า EBA จุฬาได้เรียบร้อยสมใจ^^ ส่วนห้องเรียนนี่เราชอบเลยเพราะว่าเป็น-ส่วนดี
0
กำลังโหลด
Blue Topaz Member 25 พ.ย. 58 11:33 น. 7

เคยไปเรียนมาค่ะ อาจารย์สอรสนุกทั้งคู่เลยโดยเฉพาะอาจารย์ศรัณย์ตอนสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษรแบบ devious trick

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด