สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ผ่านมาเป็นสัปดาห์แล้ว แต่ข่าวเรื่องคุณอุทัย เวียงคำ หนุ่มเมืองแพร่ถูกแมงมุมกัดยังอยู่ในความสนใจของคนไทย เพราะแมงมุมตัวเล็กๆ ดูไม่น่าจะมีภัยร้ายแรงอะไร กลับทำให้ผู้เคราะห์ร้ายถูกพิษแมงมุมเล่นงานจนมีแผลเหวอะหวะ ลุกลามไปตามร่างกาย จนถึงขั้นเนื้อตาย ต้องตัดขาทิ้งเพื่อรักษาชีวิตไว้เลยทีเดียว
สำหรับแมงมุมที่ถูกพูดถึงในเคสนี้ คือ แมงมุมพิษสีน้ำตาล ซึ่งเป็นคนละชนิดกับแมงมุมแม่ม่ายสีน้ำตาลนะคะ เพราะอาการของผู้ป่วยทีเกิดขึ้นอยู่คนละกลุ่มกับแมงมุมแม่ม่ายสีน้ำตาล อย่างไรก็ตามแมงมุมทั้ง 2 ชนิดนี้ถือว่าเป็นแมงมุมชนิดมีพิษร้ายแรงทั้งคู่ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีก็เกิดอันตรายได้ วันนี้พี่มิ้นท์ก็เลยนำเกร็ดความรู้เรื่องแมงมุมมีพิษจากสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยมาฝาก ให้น้องๆ ทำความรู้จักและระมัดระวังตัวมากขึ้น เป็นไปได้ว่ามันอาจจะแอบซ่อนอยู่ในบ้านของน้องๆ ก็ได้นะ บรึ๋ยย น่ากลัว >
แมงมุมมีพิษ มีอยู่ 3 ชนิด คือ แมงมุมแม่ม่ายดำ, แมงมุมแม่ม่ายน้ำตาล และแมงมุมพิษสีน้ำตาล มีลักษณะและพิษ ดังนี้
1. แมงมุมแม่ม่ายดำ ตัวผู้กับตัวเมียจะมีลักษณะแตกต่างกันคือ ตัวเมีย จะมีความยาว 1-2 เซนติเมตร มีสีดำ ตัวกลม ท้องจะมีลายเป็นรูปนาฬิกาทรายสีแดง ส่วนแมงมุมแม่ม่ายดำตัวผู้ ตัวจะเล็กกว่าตัวเมียประมาณ 20 เท่า มีสีน้ำตาล และไม่มีลายนาฬิกาทรายที่ท้อง ด้วยความที่ตัวผู้มีขนาดเล็กกว่าตัวเมียเยอะ มันจึงไม่สามารถกัดคนได้ ดังนั้นแมงมุมแม่ม่ายสีดำที่กัดมนุษย์ จึงเป็นตัวเมียเท่านั้น
พิษของแมงมุมแม่ม่ายสีดำ จะเป็นพิษที่มีผลต่อระบบประสาท โดยพิษจะทำให้เกิดช่องว่างบริเวณปลายเซลล์ประสาท ผลที่ตามมาคือ ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งจนเป็นอัมพาต ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตมามักมาจากกล้ามเนื้อกระบังลมและกล้ามเนื้อหัวใจหยุดทำงาน ส่วนอาการที่เกิดขึ้นนั้น ระยะแรกอาจมีแค่ผื่นแดงๆ และรู้สึกปวดบริเวณที่ถูกกัด ต่อมาภายใน 30 นาที ผิวหนังรอบแผลที่ถูกกัดแดงขึ้น และเหงื่อออก พร้อมทั้งรู้สึกชาและปวดแผล นอกจากนี้อาจมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ปวดกล้ามเนื้อ ความดันสูง มือสั่น ชัก ในผู้ป่วยบางรายอาจเกิดไตวายเฉียบพลัน จนถึงขั้นเสียชีวิตได้
2. แมงมุมแม่ม่ายน้ำตาล จะมีขนาดเล็กกว่าแมงมุมแม่ม่ายดำเล็กน้อย ตัวกลม มีลายเป็นรูปนาฬิกาทรายสีส้มหรือเหลืองบริเวณหน้าท้อง พิษของแมงมุมแม่ม่ายน้ำตาลจะรุนแรงกว่าแมงมุมแม่ม่ายดำ 2 เท่า ถ้าเทียบพิษในปริมาณที่เท่ากัน แต่แมงมุมแม่ม่ายน้ำตาลจะปล่อยพิษในการกัดแต่ละครั้งน้อยมาก โดยพิษที่เกิดขึ้นก็เป็นพิษทางระบบประสาทเช่นกัน ทำให้เกิดอาการเกร็ง กระตุกในบริเวณที่โดนกัด อย่างไรก็ตามพิษจะไม่ทำให้เกิดภาวะเนื้อตายตรงบริเวณที่ถูกกัด นี่จึงเป็นเหตุผลว่าชนิดแมงมุมที่เป็นข่าวไม่ใช่แมงมุมแม่ม่ายน้ำตาลค่ะ
ปกติแล้วแมงมุมแม่ม่ายน้ำตาลไม่ก้าวร้าวนะคะ ถ้าถูกรบกวนมากๆ จะวิ่งหนีเข้าซอกด้วยซ้ำ ดังนั้นแมงมุมชนิดนี้มีโอกาสกัดคนน้อยมาก ถ้าถูกกัดแสดงว่าไปจับหรือไปทับมันจนได้รับบาดเจ็บ มันจึงกัดเข้าให้ ><
3. แมงมุมพิษสีน้ำตาล เป็นแมงมุมที่อยู่ในข่าวนี้นั่นเอง แมงมุมชนิดนี้มีขนาดเล็กประมาณ 6-20 มิลลิเมตร มีสีน้ำตาลหรือเหลืองเข้ม มีลักษณะเด่นคือ ด้านหลังตรงช่วงศีรษะถึงอกของแมงมุมจะมีลายสีดำๆ คล้ายรูปไวโอลิน มีขาเรียวยาวเมื่อเทียบกับลำตัว แมงมุมชนิดนี้ชอบอาศัยอยู่ในที่มืดค่ะ ไม่ว่าจะเป็นตู้เสื้อผ้า ตู้รองเท้า เตียงนอนก็สามารถพบเจอได้เหมือนกัน ดังนั้นเราอาจจะถูกกัดได้เพราะไปโดนมันแบบไม่รู้ตัว
พิษของแมงมุมชนิดนี้จะออกฤทธิ์ทั้งทางผิวหนังและระบบเลือด (แต่ไม่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท) ทำให้ผิวหนังมีอาการปวดและคันบริเวณที่ถูกกัดหลัง 2-8 ชั่วโมง จากนั้นก็จะมีตุ่มน้ำพอง บวมแดง และปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ขนถึงขั้นแผลเริ่มดำไหม้ ทำให้ผิวหนังตายได้ถึงร้อยละ 37 ส่วนพิษต่อระบบเลือดนั้น จะทำให้เกิดความผิดปกติหลายอวัยวะ โดยมีอาการแสดงทำให้เกิดเม็ดโลหิตแดงแตก เกร็ดเลือดต่ำ มีการแข็งตัวของเกร็ดเลือดกระจายทั่วร่างกาย เป็นอันตรายต่ออวัยวะภายในมากๆ ค่ะ
แมงมุมทั้ง 3 ชนิดนี้ นับได้ว่ามีพิษที่อาจจะร้ายแรงกว่าพิษงูด้วยซ้ำ แต่ด้วยขนาดที่เล็ก ปริมาณพิษจึงไม่มาก และพิษในแมงมุมแต่ละตัวก็ไม่เท่ากัน แต่ก็ต้องเตือนกันก่อนว่าต่อให้ปริมาณพิษไม่เยอะก็อย่าชะล่าใจนะคะ มีตัวอย่างให้เห็นแล้วว่ามันก็รุนแรงใช่เล่นอยู่ เราอาจจะไม่ใช่คนที่โชคดีที่โดนกัดแล้วไม่เป็นอะไร ตรงกับคำที่นายแพทย์สุชัย สุเทพารักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพิษวิทยาคลินิค บอกไว้ว่า "แมงมุม 1 ตัว ทำให้คนเสียชีวิตน้อยมาก แต่ทำให้อาการหนักได้"
ฉะนั้นทางที่ดีจึงควรป้องกันด้วยการดูแลความสะอาดภายในบ้าน อย่าให้รกหรือมีซอกทึบหลายจุด เพราะจะเป็นการเพิ่มที่อยู่ให้กับเจ้าแมงมุมพิษได้ แต่ถ้าถูกกัดขึ้นมาแล้ว หากมีอาการปวดจนทนไม่ได้ หน้ามืด ไข้ขึ้นก็อย่ามัวแต่ทานยาแก้ปวด แต่ควรรีบพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งช้า พิษยิ่งเข้าไปทำลายร่างกายเรามากขึ้นค่ะ
ฉะนั้นทางที่ดีจึงควรป้องกันด้วยการดูแลความสะอาดภายในบ้าน อย่าให้รกหรือมีซอกทึบหลายจุด เพราะจะเป็นการเพิ่มที่อยู่ให้กับเจ้าแมงมุมพิษได้ แต่ถ้าถูกกัดขึ้นมาแล้ว หากมีอาการปวดจนทนไม่ได้ หน้ามืด ไข้ขึ้นก็อย่ามัวแต่ทานยาแก้ปวด แต่ควรรีบพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งช้า พิษยิ่งเข้าไปทำลายร่างกายเรามากขึ้นค่ะ
ปล. จริงๆ พี่มิ้นท์มีภาพบาดแผลจากการถูกแมงมุมพิษกัดเยอะมากเลยค่ะ แต่มันน่ากลัวมาก กลัวจะช็อคกันไปมากกว่านี้ แต่ถ้าใครอยากดู พี่มิ้นท์นำทางให้ พิมพ์คำว่า Brown recluse spider ใน Google ค่ะแล้วจะเห็นเอง ^^
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย
www.dst.or.th/html/index.php?op=article-detail&id=1207&cid=7#.U9C-zfl_tBE,
www.thaihealth.or.th, www.flickr.com/photos/mikefett/5822275858/,
http://arthropodecology.com/2013/06/13/update-spiders-still-dont-bite/,
www.vulcantermite.com/pest-safety/is-it-true-that-you-swallow-spiders-in-your-sleep/
57 ความคิดเห็น
บ้านเราแมงมุมชอบอยู่ในห้องน้ำ หลอน~~~
น่ากลัวจัวเลย จะมีแมงมุมแบบนี้แอบอยู่ในบ้านเราไหมนะ ฮ่าๆ
โดนกัดที กลายเป็น spiderman 5555
อยากอ่านนะแต่ไม่กล้าอ่าน
ภาพพพพพ น่ากลัวมากกกกกกก
โอวมายกอด
เห็นรูปพรรณสัณฐานแต่ละตัว บรึ๋..... น่ากลัว
แต่โชคดีที่ไม่มีตัวบึ้งด้วย
เราเชื่อว่าแมงมุมไม่ใช่สัตว์ก้าวร้าว ถ้าเรารักษาความสะอาดก็จะไม่มีแน่นอน หรือถ้าพอเจอแล้วเราไม่ไปทำอะไรมันมันก็จะไม่ทำอะไรเรา (แต่ระวังไว้หน่อยก็ดี >< โดนกัดมาทีไม่ใช่เล่นๆ)
เจอแมงมุมในระยะห้าเมตร
//me// จับรองเท้า ย้ากกกกกกกกกกกก ตายซะ
*เราจะไม่ทนค่ะ แหะๆ
ไปดู เพิ่ม เติม มาละ สัตว์ พวก นี้ ถ้าเราไม่ไปยุ่งกับ มัน ก็ไม่มีไรหรอก
ส่วนมาก ที่อยู่ ของพวกมันไม่ค่อยมีเลยมา อาศัยอยู่ในบ้าของเรา อย่างน้อย ก็ควรจะ
จัดบ้านให้ดีๆ ไม่ควรปล่อยให้รกเหมือนป่า จบแค่นี้ พอ ขี้เกียจ สาธยาญ
น่ากลัวววอ่าาT^T
พิษน่ากลัวมากกกกกกกกก
น่ากลัวจัง!! YoY
น่ากัวววววววว!!!!!!
น...น่ากลัวมาเลยค่ะ โดยเฉพาะแมงมุมพิษสีน้ำตาล บ...บรื้ออ
บรื๋อออ