สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com จากครั้งก่อนๆ ที่ พี่แนนนำเสนอเรื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัยแบบอินเตอร์กันไปพอสมควร มาครั้งนี้!! พี่แนนก็มีอีกหนึ่งการสอบที่น้องๆ หลายคนให้ความสนใจ สอบถามเข้ามาในเว็บไซต์ Dek-D.com กันมากทีเดียวค่ะ กับการสอบ GED ว่าแต่ GED คืออะไรหล่ะนี่?
|
GED คือ ระบบการสอบเทียบวุฒิ ม.ปลาย ด้วยหลักสูตร
อเมริกา ที่น้องๆ เด็กไทยตอนนี้สนใจ ใช้ในการนำไปสอบเข้าระดับมหาวิทยาลัยกันอย่างแพร่หลาย หลายๆ คำถาม เกี่ยวกับการสอบ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการวางแผน การสมัครสอบ วิธีการนำไปใช้ พี่แนนได้ไปหาคำตอบมาให้แล้วค่ะ จากพี่เปิ้ลและ พี่หญิง จุฬาติวเตอร์ ที่ให้คำตอบที่เคลียร์สุดๆ รวมทั้งเตือน เรื่องที่น้องๆ พลาดกันมานักต่อนัก จะมีอะไรบ้างไปฟังกันเลยดีกว่า พี่แนน : มากันที่คำถามแรกสำคัญที่สุดค่ะพี่เปิ้ล GED นี่คืออะไรคะ? พี่เปิ้ล : GED คือ General Educational Development เป็นการสอบที่เทียบเท่ากับวุฒิการศึกษาระดับมัธยมปลาย ในประเทศไทย ตามหลักสูตรการศึกษาของสหรัฐอเมริกาค่ะ พูดง่ายๆ ก็คือ ใช้เทียบศึกษาผู้ใหญ่ อย่างที่อเมริกาที่คนที่ เค้าออกนอกระบบการศึกษา ออกมาทำงาน แล้วเค้าอยาก จะพัฒนาความสามารถของเค้า เช่น จบ ม.ต้น ก็อยากจบ ม.ปลาย พูดง่ายๆ ก็คือการสอบเทียบวุฒิ ม.ปลาย ของอเมริกานั่นเองค่ะ การสอบจะมีทั้งหมด 5 วิชา โดยเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ได้แก่ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาสังคม วิชาวิทยาศาสตร์ reading และ writing ค่ะ หากน้องสอบผ่านทุกวิชา คือแต่ละวิชาต้องเกิน 410 และ ต้องได้คะแนนรวม 2,250 ขึ้นไป ก็สามารถทำเรื่องขอ transcript and diploma ได้เลยค่ะ |
พี่แนน : แล้วการสมัคร ต้องมีขั้นตอนยังไงบ้างคะ?
พี่เปิ้ล : การสอบ ให้น้องเข้าไปสมัครที่เว็บ https://ged.com เราจะได้ username password มา จากนั้นก็เข้าไปกรอกข้อมูล ประวัติส่วนตัวได้เลย โดยเราสามารถเลือกวิชา สอบทั้ง 5 วิชา และเลือกเวลาที่จะสอบเองได้หมด จะทยอยสอบสัปดาห์ละ 1 วิชา หรือวันเดียวจะสอบ 3 วิชาก็ได้ ถ้าคุณพร้อม ค่าใช้จ่าย วิชาละประมาณ 1600 บาท 5 วิชา ก็ประมาณ 8 พันกว่าบาท ทางศูนย์สอบจะมีสอบทุกวันทำการปกติ มีวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลาสอบจะมีค่อนข้างถี่ เช่น 9.00 น. 9.30 น. 10.00 น. แต่ควรไปก่อนเวลาสอบจะดีกว่าค่ะ บรรยากาศศูนย์สอบ ในห้องจะมีไม่กี่คน แต่ละคนจะมีคอมพิวเตอร์เป็นของตัวเอง ข้อสอบเป็นแบบออนไลน์ ดังนั้น ต้องพิมพ์คล่อง และอ่านภาษาอังกฤษได้ |
พี่แนน : เห็นว่าตอนนี้การสมัครสอบ GED เคร่งครัด มากขึ้น?
พี่เปิ้ล : ใช่ค่ะ ตอนนี้ศูนย์สอบ ในประเทศไทยเคร่งครัดมากขึ้น โดยคนที่มาสอบอายุ 16 ก็ได้ค่ะ แต่วุฒิ diploma จะออกตอนอายุ 17 พี่แนน : แล้วลักษณะข้อสอบเป็นยังไงคะพี่ ยากไหม? พี่เปิ้ล : การสอบแต่ละวิชาจะมีเวลาให้ประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ ส่วนการสอบ เนื่องจากหลักสูตรเป็นของ อเมริกา วิชาเลขกับวิทยาศาสตร์เด็กไทยน่าจะพอได้อยู่ ความรู้ ม.ต้น ก็น่าจะเพียงพอ แต่อาจจะต้องปรับ ในเรื่องของภาษาอังกฤษ แต่วิชาสังคม ไม่ใช่แค่ความรู้เท่าที่เรียนมา แต่จะออก ประวัติศาสตร์อเมริกา การเมือง การปกครอง สงครามโลก โดยเป็นศัพท์ของเค้า ต่างจากวิชาวิทยาศาสตร์ที่เราเรียน ม.ต้น มาเพียงพอ คือน้องพอรู้คำศัพท์ก็จะรู้ไอเดียแล้ว แต่สังคมนี่ศัพท์ยากค่ะ ทั้งศัพท์การเมือง ชื่อคน ก็อาจจะ ยากสักหน่อย การสอบแต่ละวิชาจะมีเวลา ให้ประมาณ 1 ชั่วโมง |
พี่แนน : แล้วพอสอบผ่านทุกวิชาตามเกณฑ์ คะแนน ที่ได้มาจะมีวันหมดอายุไหมคะ? พี่เปิ้ล : การนำคะแนนคะแนนไปใช้ มีกำหนดไม่เกิน 2 ปีค่ะ อย่างถ้าน้องสอบไว้แล้วไปเมืองนอก เกิน 2 ปีก็ต้องสอบใหม่หมด ต้องระวังเรื่องเวลาให้ดี พี่แนน : แล้วในประเทศไทย คณะ มหาวิทยาลัยไหน ที่ใช้บ้างคะ แล้วมีกำหนดคะแนนขั้นต่ำไหม? พี่เปิ้ล : วุฒิ GED สามารถนำไปยื่นเข้ามหาวิทยาลัย ชั้นนำต่างๆ ได้มากมายค่ะ ไม่ว่าจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ มหิดล หรือมหาวิทยาลัยเอกชน ส่วนการไปยื่นเข้า คณะต่างๆ เช่น นิเทศศาสตร์ บริหาร หรือคณะอื่นๆ ที่ไม่ได้ใช้ความรู้ พื้นฐานเยอะ ส่วนใหญ่รับหมด แต่ถ้าเป็นคณะแพทย์ เค้าจะดูเจาะลึกเข้าไปอีก ดูคะแนนรวมรายวิชา หรือเจาะลง รายวิชา น้องๆ ต้อง ระวังตรงนี้ ดังนั้น ถ้าน้องรู้แล้วว่า คณะที่เราจะเข้า ไม่ใช่คณะธรรมดา ต้องไปดูว่าคณะนั้น กำหนดอะไรบ้าง ส่วนคะแนน GED ควรได้เท่าไหร่ ต้องดูจากเกณฑ์ ที่แต่ละคณะกำหนดไว้ เช่น บางคณะระบุมาเลยว่า คะแนน GED ต้องได้กี่คะแนน ดังนั้นพี่ว่า เพื่อความชัวร์ ควรได้ 2800 หรือถึง 3000 ได้ยิ่งดีค่ะ |
พี่แนน : แล้วการใช้คะแนน GED โดยไม่ต้องแปลงวุฒิ หมายถึงอะไรคะ?
พี่เปิ้ล : GED ในประเทศไทยเค้ามองว่าเป็นวุฒิเทียบ ม.ปลาย ซึ่ง 5 วิชานี้ เลข สังคม วิทย์ writing reading ต้องสอบ ดังนั้นเมื่อคุณได้ diploma ก็เอาไปยื่นได้เลย แต่ต้องได้รับการรับรองจากรัฐเมน ซึ่งประเทศไทย เป็นศูนย์สอบที่เชื่อถือได้ ขึ้นตรงกับรัฐเมนอยู่แล้ว ปัจจุบันกระทรวงศึกษาธิการ ระบุไว้ชัดเจนว่า ไม่ต้องไปทำเรื่องแล้วค่ะ สามารถนำ diploma ที่ได้ ไปยื่นเพื่อเป็นวุฒิ ที่เทียบเท่าชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้เลย โดยเข้าไปที่ http://bet.obec.go.th เลือกการเทียบวุฒิการศึกษาต่างประเทศ แล้วเลือกประกาศของ GED เป็นเอกสาร pdf สั่งพิมพ์ ออกมาได้สะดวกค่ะ ถ้ามหาวิทยาลัยขอ ก็ยื่นพร้อมกับ diploma ได้เลย แต่ประเทศไทยยังเป็นระบบการสอบเดิม คะแนนวิชานึงก็เต็ม 800 แต่ถ้าเป็นแบบใหม่จะมี Passing Score และ Honors Passing Score ประเทศไทยยังไมได้ใช้ค่ะ ต่างประเทศเริ่มใช้แล้ว ดังนั้น ถ้าคุณจะไปสอบ GED เพื่อยื่นวุฒิเรียนต่างประเทศ ต้องระวัง จะใช้แบบเก่าไม่ได้ ต้องเลือกของปี 2014 ซึ่งจะมีการบอกระดับคะแนนด้วย ถ้าต้องการรู้รายละเอียดสำหรับ GED 2014 ให้ไปดูที่ www.chulatutor.com ได้เลยค่ะ |
อ่านจบแล้ว เรียกได้ว่า น้องได้วิธีการเตรียมตัวไปเกินครึ่งกันอย่างแน่นอนค่ะ ทีนี้เรามาดูในส่วนของการเก็งข้อสอบในแต่ละรายวิชาทั้ง 5 วิชากันดีกว่าค่ะ ว่าวิชาไหนต้องไปอ่านตรงไหนเพิ่ม แนวข้อสอบจะต้องไปหาจากไหน และวางแผนยังไงให้อ่านทัน ไปดูกันจากคลิปด้านล่างนี้เลย!!
|
แสดงความคิดเห็น
ถูกเลือกโดยทีมงาน
ยอดถูกใจสูงสุด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการที่จะลบความเห็นนี้ใช่หรือไม่ ?
12 ความคิดเห็น
bewyparichat แอดมาด้วยค่ะ
พี่ขออนุญาตแนะนำน้องๆที่สอบ GEDผ่านแล้ว มาเรียนต่อหลักสูตรป.ตรี BBA ของ British College ที่ม.ศรีปทุมค่ะ เป็นหลักสูตรของประเทศอังกฤษ ไม่ใช่แค่หลักสูตรอินเตอร์ธรรมดาทั่วๆไป เรียนในไทย จบภายใน 3 ปี ได้วุฒิ 3 ใบค่ะ คุ้มค่ะ เหมือนเรียนจบนอกจบไทยพร้อมกันค่ะ จบเร็วยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ ลองหาข้อมูลดูในgoogleค่ะ