สวัสดีค่ะ ใครที่หลงเข้ามาบทความนี้เห็นกรอบสีเขียวๆ น่ารักแบบนี้ขอให้น้องๆ รู้ไว้ว่านี่เป็นบทความสำหรับน้องๆ สายอาชีพ ปวช. ปวส. หรือเทียบเท่า ซึ่งคอลัมน์นี้จะมีพี่แป้งและพี่เกียรติเป็นที่ปรึกษาให้กับน้องๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนต่อ ปวส. สอบเข้ามหา'ลัย เรียนต่อสายไหนดี รวมทั้งชีวิตจริงของเด็ก ปวช.-ปวส. รวมอยู่ที่นี่หมดเลย
ช่วงนี้เพิ่งผ่านการสมัครสอบ GAT PAT 1/58 ไปเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ในช่วงสมัครสอบมีน้องหลายคนถามพี่แป้งกับพี่เกียรติมาว่า "ทำไมต้องสมัครด้วย" หรือ "เป็นเด็ก ปวช. ไม่สอบได้มั้ย?" พี่แป้งเลยได้รวบรวม 10 เหตุผลที่ว่าทำไมเด็ก ปวช. ต้องสมัครสอบ GAT PAT แถมพ่วงด้วย O-NET และ 7 วิชาสามัญด้วยค่ะ รับรองว่าอ่านครบ 10 ข้อแล้วต้องเตรียมสมัครแน่นอน
ช่วงนี้เพิ่งผ่านการสมัครสอบ GAT PAT 1/58 ไปเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ในช่วงสมัครสอบมีน้องหลายคนถามพี่แป้งกับพี่เกียรติมาว่า "ทำไมต้องสมัครด้วย" หรือ "เป็นเด็ก ปวช. ไม่สอบได้มั้ย?" พี่แป้งเลยได้รวบรวม 10 เหตุผลที่ว่าทำไมเด็ก ปวช. ต้องสมัครสอบ GAT PAT แถมพ่วงด้วย O-NET และ 7 วิชาสามัญด้วยค่ะ รับรองว่าอ่านครบ 10 ข้อแล้วต้องเตรียมสมัครแน่นอน
กว่า 80% ของโควตา-รับตรง ใช้คะแนน GAT PAT, 7 วิชาสามัญ
รับตรงส่วนใหญ่ตอนนี้มีน้อยที่มากเลยค่ะที่จะจัดสอบเอง อย่างล่าสุด รับตรง มศว ปี 58 ก็เปลี่ยนเกณฑ์การคัดเลือก จากเดิมจะจัดสอบเองที่สนามสอบอิมแพคอารีน่า หรือ ม.ธรรมศาสตร์ แต่ตอนนี้ก็เปลี่ยนเป็นใช้ GAT PAT และ 7 วิชาสามัญเรียบร้อยแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นถ้ามีคะแนน GAT PAT และ 7 วิชาสามัญไว้ ก็เหมือนมีอาวุธอยู่กับตัว เจอสนามสอบไหนที่สนใจก็สมัครได้เลย ส่วนคะแนนไม่ต้องยื่นเองนะคะ เดี๋ยวทางรับตรงจะดึงคะแนนจาก สทศ. ไปเอง เราแค่ตรวจสอบก็พอ
รอบแอดมิชชั่นใช้ O-NET เป็นสัดส่วนคะแนน 30%
ถ้าใครโชคร้ายพลาดรอบรับตรงล่ะก็อย่าเพิ่งหมดหวังนะคะ เพราะว่ายังมีรอบแอดมิชชั่นกลางที่เราสามารถสมัครได้อีก แต่!! ต้องมีคะแนน O-NET เสียก่อนค่ะ เพราะ O-NET คิดเป็น 30% ของคะแนนแอดมิชชั่นเลย เทียบได้เท่ากับ 9,000 คะแนน แยกเดี่ยวไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครเลยค่ะ ถ้ามองว่า 9,000 คะแนนมันน้อยล่ะก็ บอกเลยว่าคิดผิดมากกกกกกกกก เพราะแอดมิชชั่นบางสาขาก็เฉือนกันด้วยคะแนน O-NET ข้อเดียวเท่านั้น!!
GAT PAT สามารถสมัครได้มากกว่า 1 ครั้ง
ใครที่กำลังโวยวายว่ามาบอกอะไรตอนนี้ GAT PAT เขาสมัครกันเสร็จเรียบร้อยแล้วขอให้ฟังพี่แป้งก่อน การสอบ GAT PAT สามารถสมัครได้ 2 รอบเลยค่ะ รอบที่ผ่านไปเป็นรอบแรก ส่วนใหญ่จะใช้ในรับตรง ส่วนรอบต่อไปเป็นรอบที่ 2 นำไปใช้ในแอดมิชชั่นและรับตรงหลังแอดมิชชั่นได้ค่ะ โดยการดึงคะแนนจะดึงคะแนนที่ดีที่สุดของบแต่ละวิชามาให้ โดยการคละรอบ เช่น สอบ PAT 1 รอบแรกคะแนนดีกว่ารอบ 2 แต่ GAT รอบ 2 ดีกว่ารอบแรก ทางระบบจะเลือกคะแนน PAT 1 รอบแรกและ GAT รอบ 2 ให้ค่ะ แบบนี้ก็แฟร์ๆ กันไป คะแนนตอนไหนดีสุดก็เอาอันนั้นค่ะ
O-NET สมัครได้ครั้งเดียวเท่านั้น
ข้อแตกต่างระหว่าง GAT PAT กับ O-NET ก็คือ GAT PAT จะสมัครกี่รอบก็ได้ คะแนนหมดอายุแล้วก็สมัครใหม่ สอบใหม่ได้ แต่ O-NET สามารถสอบได้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วต้องสอบตอนที่กำลังเรียนอยู่ ปวช.ปี 3 เท่านั้นด้วย เรียนจบ ปวช.แล้วจะสอบก็ไม่ได้ คะแนนไม่ดีก็สอบใหม่ไม่ได้ด้วย โอกาสมีแค่ตอน ปวช.ปี 3 ครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อสอบเสร็จแล้วคะแนนก็จะอยู่กับเราไปทั้งชีวิต
มีรับตรงน้อยโครงการที่ใช้ผลสอบ V-NET
ปกติแล้วเมื่อน้องๆ เรียน ปวช. ต้องมีการสอบ V-NET เฉพาะของ ปวช. ซึ่งหลายคนก็เถียงว่า V-NET สามารถใช้ในรับตรงได้ ใช่ค่ะ V-NET ใช้ในรับตรงได้ แต่มีน้อยโครงการมากๆ ที่ใช้ผลสอบ V-NET ต้องเป็นโครงการที่รับเฉพาะ ปวช. เท่านั้น โอกาสเราเลยน้อยตามไปด้วย ถ้าเราสอบ GAT-PAT, O-NET, 7 วิชาสามัญ เหมือนเพิ่มโอกาสในรอบรับตรงและแอดมิชชั่นให้สูงขึ้นค่ะ อย่าลืมว่า V-NET ใช้ในรอบรับตรงบางโครงการได้ แต่ใช้ในรอบแอดมิชชั่นไม่ได้นะคะ
ถ้าไม่มี O-NET ก็แอดมิชชั่นไม่ได้
อย่างที่พี่แป้งบอกในข้อต้นๆ ไปแล้วว่า O-NET คิดสัดส่วนเป็น 30% ของแอดมิชชั่น เมื่อคิดเป็นคะแนนก็เป็น 9,000 คะแนน ซึ่งการที่ไม่สอบ O-NET ไม่ได้หมายความว่าระบบที่ทำคะแนนแอดมิชชั่นจะคิดคะแนนส่วนนี้เป็น 0 ถ้าเกิดได้เกรด 4.00 GAT เต็ม 300 คะแนน แต่ O_NET ไม่ได้สอบก็ไม่มีสิทธิ์แอดมิชชั่นเหมือนคนที่ได้เกรด 2.50 GAT 200 แต่สอบ O-NET นะคะ ไปสอบแล้วได้ 0 คะแนนก็ยังมีสิทธิ์แอดมิชชั่น แต่ถ้าไม่สอบเลยก็ไม่มีสิทธิ์เลยค่ะ
GAT PAT และ 7 วิชาสามัญ ไม่จำเป็นต้องสอบทุกวิชา
การสอบ GAT PAT หรือ 7 วิชาสามัญ ไม่ได้บังคับว่าต้องสอบครบทุกวิชา มีเพียง O-NET เท่านั้นที่บังคับสอบให้ครบ 8 วิชา (แต่สอบเพียง 6 คาบ) ส่วน GAT PAT และ 7 วิชาสามัญ สามารถเลือกวิชาได้เลยค่ะ เช่น อยากเข้าคณะบริหารฯ-บัญชี ก็สมัครสอบแค่ GAT กับ PAT 1 ส่วนวิชาสามัญก็เป็น ไทย สังคม อังกฤษ คณิตศาสตร์ แค่นี้พอค่ะ
นอกจากแอดฯ แล้ว O-NET, GAT PAT ยังใช้ในรับตรงหลังแอดฯด้วย
ในทุกๆ ปีเมื่อผลแอดมิชชั่นประกาศแล้ว บางสาขาจะมีที่นั่งเหลือค่ะ แต่ละคณะที่ดูแลสาขานั้น ๆ ก็จะเปิดรับตรงเรียกว่า รับตรงหลังแอดมิชชั่น เพื่อที่จะคัดเลือกรอบสุดท้ายสำหรับที่นั่งที่ว่างอยู่ ซึ่งจะไม่จัดสอบเองค่ะ จะใช้คะแนน O-NET หรือ GAT PAT เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกแทน โดยเป็นคะแนนเดียวจากที่แอดมิชชันนั่นแหละ ถึงแม้ว่าจะไม่แอดมิชชั่นแต่ก็มีรับตรงหลังแอดฯอยู่ดี เพราะฉะนั้นสมัครสอบเถอะจะเกิดผล
เห็นแบบนี้แล้วใครที่บอกว่า GAT PAT, O-NET, 7 วิชาสามัญ ไม่สำคัญละก็ต้องคิดใหม่แล้วล่ะค่ะ GAT PAT 1/58 ตอนนี้สมัครไม่ทันแล้วก็จริง แต่ว่ายังมี GAT PAT 2/58 อยู่นะคะที่จะสมัครประมาณต้นปีหน้า ส่วน O-NET ก็สมัคร 1-15 พฤศจิกายนนี้แล้วค่ะ ใครที่จะไม่สมัครพี่แป้งว่าสมัครเถอะค่ะ สอบฟรีไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มเลย ส่วนคะแนนไม่มีวันหมดอายุด้วย
ใครที่ยังงงๆเรื่องวิชาสอบ GAT PAT หรือ 7 วิชาสามัญนะคะ พี่แป้งแนะนำเว็บไซด์นี้เลยค่ะ www.niets.or.th รวมหมดทุกการสอบ ไม่ว่าจะสมัคร เช็คผลสอบ เปลี่ยนแปลงข้อมูล เข้าไปเลยที่เว็บนี้เว็บเดียวค่ะ ส่วนใครที่มีข้อสงสัยจะถามพวกพี่ก็ถามมาที่คอมเม้นท์ด้านล่าง หรือจะ Follow ทวิตเตอร์ที่ @paengdekd หรือ @kiatkarine มาได้เลยค่ะ รับรองว่าตอบทุกคน
27 ความคิดเห็น
มันต้องสมัคร อะไร ยังไง ช่วงไหนหรอคะ โอเน็ตหนิ ตอนนี้หนูอยู่ ปวช. 2 แล้วแต่ยังไม่ค่อยรู้เรื่องเลยค่ะ
ถ้าสมัคแล้วแต่ไม่สอบo-netได้มั้ยค่ะพี่
เรียนเอกอังกฤษจีน ภาษาต่างประเทศ จะเข้านิเทศน์ เอกประชาสัมพันธ์ แต่ต้องสอบโอเนต แล้วเพิ่งรู้ว่า ใช้ V net โอกาสน้อย ตอนนี้อยู่ปวช.3แล้วจะทำไงดี จะสอบตรงกลัวคะแนนจะไม่พอ T_______T