เมื่อช่วงสองสัปดาห์ก่อน ผู้เขียนไปงาน EDUCA 2014 มาค่ะ เป็นงานเกี่ยวกับการพัฒนาวิชาชีพครู ในงานจะมีการอบรม และการนำเสนอนวัตกรรมและความรู้ใหม่ๆ ทั้งไทยและเทศให้คุณครูและนักการศึกษาที่เกี่ยวข้องได้มาเรียนรู้ร่วมกัน  งานนี้ผู้เขียนก็สมัครเข้าไปฟังการอบรมกับเขามาด้วย หัวข้อที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งคือ "สถานการณ์ปัญหาวัยรุ่นในประเทศ" โดยมี รศ.พล.ต.นพ. วิโรจน์ อารีย์กุล ประธานอนุกรรมการ Adolescent Health ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย มาเป็นผู้ให้ความรู้ค่ะ สิ่งหนึ่งที่คุณหมอย้ำ คือ "ปัญหาวัยรุ่น เป็นปัญหาที่ป้องกันได้ ถ้าเราทำกันจริงๆ" ค่ะ







            ดังนั้น จึงขอสรุป 15 ประเด็นสำคัญที่ผู้เขียนได้ฟังบรรยายมานำเสนอให้ชาว Dek-D ทุกคนเรียนรู้ร่วมกันต่อไปค่ะ


1.
วัยรุ่นเป็นช่วงชีวิตที่สำคัญซึ่งเสมือน "การเกิดอีกครั้ง" ของคนคนหนึ่งที่จะเติบโตขึ้นจากการหล่อหลอมผ่านสิ่งแวดล้อม สังคม วัยรุ่นเป็นช่วงวัยสำคัญที่จะกำหนด "สไตล์" ของแต่ละคน หลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตของผู้ใหญ่คนหนึ่งก็เกิดจากการลองทำครั้งแรกที่ช่วงวัยรุ่นนี่แหละ ซึ่งการนับช่วงของการเป็นวัยรุ่นแบบคร่าวๆ ของสมัยนี้ จึงอยู่ราวๆ อายุ 10 - 24 ปีได้เลย เพราะเดี๋ยวนี้เด็กโตเร็วขึ้น สังคมพาให้เด็กกลายเป็น "วัยรุ่น" ได้เร็ว และก็ยังนับว่าเป็นวัยรุ่นได้จนกว่าจะเรียนจบมหาวิทยาลัยเลยทีเดียว (ก่อนการเข้าสู่ชีวิตการทำงาน) 10 ขวบนี่อาจนับว่าไม่เร็วเกินไปที่จะเรียกว่าวัยรุ่นด้วยซ้ำ เพราะสมัยนี้ "คุณแม่วัยรุ่นที่เข้ามาปรึกษาหมอ อายุ 8 ขวบ ส่วนคุณพ่ออายุ 13 ปี" ก็มี



2.
ด้วยสภาพสังคมยุคใหม่ อาหารการกินที่สะดวกสมบูรณ์ ทำให้วัยรุ่นเป็นโรคอ้วนได้ และมีแนวโน้มเป็นไปได้มากว่า "ถ้าตอนวัยรุ่นอ้วน ก็จะเป็นผู้ใหญ่อ้วนต่อไป" ดังนั้นต้องปลูกฝัง "ไลฟ์สไตล์รักษ์สุขภาพให้วัยรุ่น" ให้วัยรุ่นตระหนักและเข้าใจการดูแลตัวเองอย่างถูกต้องตามหลักสุขภาพด้วยค่ะ ไม่ใช่แค่อ้วนหรือผอม การออกกำลังกาย การขาวด้วยสารต่างๆ ที่ผิดหลักการแพทย์ การสวยด้วยทางผิดๆ หรือแม้แต่การหลงไปกับสารพัดเครื่องสำอางหรืออาหารเพื่อสุขภาพที่ไม่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องนอกจากคำชมออนไลน์ชวนเชื่อค่ะ



3.
ผู้ใหญ่ที่มีปัญหายาเสพติด หรือแม้เพียงบุหรี่ มักเริ่มต้นลองสิ่งเหล่านั้นตอนวัยรุ่น และยิ่งลองตอนอายุน้อยมากแค่ไหน ก็มีโอกาสติดมันต่อไปนานมากยิ่งขึ้น และบุหรี่มักเป็นจุดเริ่มต้นของยาเสพติดอื่นๆ ต่อไป ซึ่งถ้าได้ลองมันเร็วมากแค่ไหน ก็ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาสมองของวัยรุ่นมากขึ้นเท่านั้นค่ะ



 
4.
พ่อแม่ส่วนใหญ่มักคิดว่า แค่ดูแลลูกตัวเองให้ดีก็พอแล้ว แต่จริงๆ "ลูกชาวบ้านมีผลต่อลูกคุณ" เพราะวัยรุ่นเป็นวัยติดเพื่อน (สังเกตได้ว่าถ้าพ่อแม่ว่าตัวเองก็อาจจะแค่งอนๆ แต่ถ้าว่าไปที่เพื่อนนี่โคตรโกรธ) เพื่อนมีอิทธิพลต่อความคิดของลูกวัยรุ่น ดังนั้นหลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะแนะนำเพียงลูกหรือดูแลเพียงลูกตัวเองไม่ได้ เพื่อนของวัยรุ่นก็สำคัญไม่แพ้กัน ถ้ามีโอกาสให้ชักชวนและทำความรู้จักเพื่อนลูก เท่าๆ กับที่คุณอยากใกล้ชิดลูกวัยรุ่นของตัวเองค่ะ




5.
เหตุการณ์บานปลายของการทะเลาะวิวาทในวัยรุ่นมักเกิดจาก "อาวุธใกล้มือ" ซึ่งจริงๆ วัยรุ่นอาจไม่ได้ต้องการคร่าชีวิตใคร แต่พอโกรธ แล้วเจออาวุธ (หรือไม่ใช่อาวุธแต่เป็นของที่ทำให้เกิดบาดเจ็บได้) ก็คว้าหมับมาฟันแทงโดยไม่ได้เจตนา จนเกิดเหตการณ์รุนแรงได้ค่ะ ดังนั้นอย่าเก็บอาวุธไว้ใกล้มือเด็ก/วัยรุ่น หรือง่ายต่อการหยิบจับ เพราะเมื่อคนเราไม่มีสติ อะไรก็คว้ามาทำร้ายกันได้ แม้กระทั่้งตัวเอง เช่น การฆ่าตัวตายจากปืนของพ่อค่ะ


6.
เวลาวัยรุ่นผิด ให้ถามหาต้นตอ พยายามถามถึงสาเหตุ อย่าทำโทษที่ปลายเหตุหรือพิจารณความผิดจากการกระทำอย่างเดียว เพราะทุกความผิดของวัยรุ่นมักมีต้นเหตุที่คาดไม่ถึง  เช่น วัยรุ่นอายุ 13 คนอื่นขโมยของกินในร้านสะดวกซื้อ การขโมยเป็นความผิด แต่เมื่อถามว่าทำไมต้องขโมย กลายเป็นว่าเพราะตัวเขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเพื่อหาอาหารมาให้น้องกิน ตอนนี้น้องหิว เขาต้องดูแลน้อง


7.
การพูดกับวัยรุ่น (ทั้งระหว่างเพื่อนกับเพื่อน หรือผู้ใหญ่กับวัยรุ่น) ห้ามพูดเกินจริง วัยรุ่นจะไม่ศรัทธา วัยรุ่นไม่ชอบคนขี้เวอร์ ไม่ว่าจะอวดเวอร์ หรือถ่อมตัวเวอร์เกินไป ผู้ใหญ่เองก็เช่นกัน ไม่ควรพูดเกินจริงแบบเล่านิทานให้เด็กเล็กฟัง ไม่ควรชักแม่น้ำทั้งห้ามาเพื่ออธิบายเพียงเรื่องเดียว คือไม่ยกเหตุการณ์กว่าร้อยเหตุ(ซึ่งอาจไม่เกี่ยวกันเลย) มาอ้างหรือเทียบกัน ให้อธิบายหรือพูดเป็นเรื่องๆ ไป  และไม่ยกคนอื่นมาเปรียบกับลูกวัยรุ่นของตัวเองไม่ว่าเรื่องใดๆ


8.
ควรสอนเรื่องโซเชียลออนไลน์ สมัยนี้ผู้ใหญ่อาจเป็นรองวัยรุ่นในเรื่องการใช้เทคโนโลยี แต่อย่างไรก็ยังอยู่ในสังคมเดียวกัน เราสามารถอธิบายได้ว่า การโพสต์เรื่องต่างๆ ในโซเชียลออนไลน์ มีผลกระทบต่อตัวเองทั้งสิ้น โดยเฉพาะการโพสต์เพื่อแชร์(ในเชิงหวังดี) แต่มันกลายเป็นการแฉ และเมื่อมีการโพสต์ต่อๆ ไปก็กลายเป็นโทษไปเสียอีก ถือขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล ในต่างประเทศถือเป็น bullying มีกรณีที่มีคนถูกโพสต์เรื่องหนึ้งๆและมีการแชร์ต่อไป รับแรงกดดันจากกระแสสังคมไม่ไหวจนนำไปสู่การฆ่าตัวตาย "คิดก่อนแชร์" จึงเป็นเรื่องสำคัญ





 

9.
ยุคที่มีความหลากหลายทางเพศ (ในเชิงรสนิยม) เรื่องของความชอบส่วนบุคคลที่เป็นเรื่องง่ายๆ ที่คนเราจะรู้สึกชอบ แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะแสดงออกและยอมรับกันในสังคม โดยเฉพาะถ้ามีเรื่องความเชื่อ ศาสนา พื้นฐาน/ชื่อเสียงครอบครัวมาเกี่ยวข้อง ความไม่เข้าใจ การไม่ยอมรับ หรือการไม่รับรู้ตัวเองในเรื่องรสนิยมทางเพศนี้ นำไปสู่ความวิตกกังวล มีผลกระทบกลายเป็นโรคซึมเศร้า จนมีปัญหาในการใช้ชีวิตในสังคมได้
 

 
10.
วัยรุ่นมีแฟน! การกีดกันความรักในยุคนี้อาจยิ่งเป็นการยุให้เกิดความผิดพลาดตามมามากขึ้น แต่สิ่งที่เด็กวัยรุ่นพึงรู้มากที่สุดคือ 1 ใน 10 ของเด็กที่มีแฟน...ไม่ได้เจอรักที่สวยหรู มันจะกลายเป็น "dating violence" ในรูปแบบต่างๆ ระหว่างแฟนกับแฟนเอง จนอาจกระทบไปถึงเพื่อนรอบข้าง เช่น ทะเลาะกัน บังคับข่มขู่กันให้มีเพศสัมพันธ์ แล้วอัดคลิปขู่จะแฉ หรือหึงหวงกันจนเกิดเรื่องแย่ๆ บานปลายต่างๆ ตามมา อย่างตามไปหึงหวงดักตบดักทะเลาะกับคนที่มายุ่งกับแฟนตัวเอง เชียร์ อัดคลิป แชร์ (เข้าสู่วังวนในข้อ 8 ต่อไปอีกข้อ)  


 
11.
เอดส์! ถุงยางมีความสำคัญ ผู้ใหญ่ควรเปลี่ยนทัศนคติว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องพูดไม่ได้ ไม่อยากสอนเรื่องเพศศึกษาและการใช้ถุงยาง ถุงยางนับว่าเป็นอุปกรณ์ที่ได้ผล ทั้งการป้องกันการท้องก่อนวัย และการติดโรคไม่น่าพึงประสงค์ การให้เด็กเรียนรู้เรื่องเพศอย่างถูกต้องจากผู้ใหญ่ พ่อแม่หรือครูไม่ใช่เรื่องผิดพลาดหรือการชี้นำ เพราะมีผลยืนยันได้ว่า การให้เด็กได้เรียนเรื่องเพศศึกษาอย่างถูกต้อง ทำให้เด็กตระหนักถึงผลด้านลบของการมีเพศสัมพันธ์ในวัยที่ไม่เหมาะสมได้ มากกว่าการปล่อยให้ไปลองเอง โง่เอง เจ็บเอง และมุ่งไปสู่วงจรในต่อไป...



12.
เรื่องการตั้งท้องอาจเป็นเรื่องผิดเรื่องน่าอายของสังคม แต่ไม่ใช่เรื่องผิดที่คุณแม่วัยรุ่นควรจะได้เรียนหนังสือต่อไปเหมือนกันเพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน และไม่ควรอายที่จะไปโรงเรียน สถานศึกษาสมัยนี้จึงควรให้โอกาสแก่เด็กที่ผิดพลาดได้เรียนหนังสือตามปกติ แม้จะอุ้มท้องก็ตาม มิฉะนั้นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เลือกอุ้มท้องเก็บลูกไว้ ก็จะเข้าสู่วงจร "โง่ จน เจ็บ" ต่อไป คือ

ท้อง > ไม่ได้เรียนหนังสือ >ไม่มีความรู้ > ทำงานเลี้ยงดูลูกในทางที่ควรไม่ได้ > ตัวเองและลูกลำบาก > ลูกเติบโตในสิ่งแวดล้อมไม่เหมาะสม > ลูกโตขึ้นแบบมีปัญหาต่อไปอีกคน ซึ่งทำให้ครอบครัวหนึ่งที่อยู่วงจรนี้ก็กลายเป็นภาระของสังคมไปจริงๆ ได้ค่ะ

 

 
13.
สัก! การสักเป็นความชอบส่วนบุคคล การสักไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายใดๆ เพียงแต่วัยรุ่นต้องเข้าใจ (และผู้ใหญ่ควรแนะนำ) ว่า "การสัก" อาจมีผลกระทบต่ออนาคตอาชีพได้ในบางสายงาน (ซึ่งวัยเรียนวัยรุ่นยังไม่รู้หรอกว่าตัวเองจะได้โอกาสไปทำอาชีพอะไรจริงๆ ในอนาคต) บางอาชีพไม่รับคนมีรอยสักเข้าทำงาน อีกทั้งการสักมีผลเสี่ยงต่อสุขภาพ อุปกรณ์ไม่สะอาด แผลติดเชื้อ แพ้อุปกรณ์หรือน้ำยาจนถึงชีวิต ลบรอยสักก็ยาก เป็นแผลเป็นถาวร ซึ่งจริงๆ ยังมีวิธีการอื่นๆ เช่น การเพนท์เป็นครั้งคราว สวยๆ ตามสไตล์ตามกาลเทศะ จนกว่าที่ตัวเองจะรู้แน่ว่าทำงานอะไร อยู่ในสังคมแบบไหน ค่อยคิดเรื่องสักแบบถาวรค่ะ อย่าให้รอยสักช่วงวัยรุ่น (ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นเรื่องพลาดมากกว่า) เป็นตัวกำหนดชะตาเราในอนาคตแทนความคิดของตัวเราเอง


 
14.
สาเหตุการตายของวัยรุ่นคือ อุบัติเหตุ และส่วนมากเป็นอุบัติเหตุจากมอเตอร์ไซค์ การขับขี่อย่างปลอดภัย การขับขี่อย่างเหมาะสม ไม่ใช่การโออ้วดแข่งขัน ไม่ขับขี่อย่างคึกคะนองเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะไม่ทำให้ครอบครัวและตัวคุณเสียใจ ...คนตายเสียใจ ไม่มีคนเป็นที่ไหนรับรู้นะ



 

15.
สื่อและเทคโนโลยีอาจเป็นความรุนแรง ไม่ว่าโทรศัพท์มือถือ เท็บเล็ต การ์ตูน ละคร เกม ฯลฯ  ละครที่บอกว่าสะท้อนสังคม ตีแผ่เรื่องความรุนแรงและเพศต่างๆ ยิ่งถ้าตัวละครดำเนินโดยวัยรุ่นเองด้วยแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าห้ามนำเสนอกับวัยรุ่นเสียเลย  แต่สิ่งสำคัญคือ "ต้องดูให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์" ไม่ใช่การดูเอามันเอาสนุก บอกว่าสะท้อนเรื่องจริง แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าโลกจริงๆ จะเหมือนในละครหรือไม่ เพราะความรู้เท่าให้ถึงการณ์ของเด็กวัยรุ่นแต่ละคนแตกต่างกัน ถ้าสื่อจะเอาแต่ขายความดราม่าจนไม่สะท้อนผลสะท้อนผลลัพธ์ใดๆ นอกจากความบันเทิงเริงอารมณ์ สื่อก็ไม่ยุติธรรมต่อวัยรุ่นหรือคนในสังคม สื่อจะเป็นดาบลงทัณฑ์สังคมไปเสียเอง






                  สำหรับผู้ใหญ่แล้ว ไม่ว่าเป็นพ่อแม่ ผู้ใหญ่ในบ้าน หรือครูอาจารย์ของวัยรุ่น ก็ต้องเข้าใจวัยรุ่นยุคใหม่ ที่เร็วไปตามยุคสมัย การเถียง การล้อเลียน การเลียนแบบจากสื่อ เป็นสิ่งที่อยู่คู่วัยรุ่นสมัยนี้ แต่ถ้าผู้ใหญ่เข้าใจ การทำตัวอย่างให้วัยรุ่นเห็นว่า การเถียง คือการพูดอย่างมีเหตุผล การล้อเลียนคือการเลือกพูดเล่นตามกาลเทศะ และการดูจากสื่อไม่ใช่การเลียนแบบแต่ต้องเป็นการเรียนรู้ วัยรุ่นก็จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เข้าใจกาลเทศะ อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขค่ะ

 
ไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่ต้องเข้าใจ แต่วัยรุ่นเองก็ต้องยอมรับตัวเองและปฎิบัติให้ดีเช่นกัน!
พี่เกียรติ
พี่เกียรติ - Community Master ถนัดแฝงตัวตามกระทู้เด็กดี มีความสนใจเป็นล้านเรื่องขึ้นอยู่กับดราม่าขณะนั้น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

Sad Princess Member 28 ต.ค. 57 17:15 น. 9

ใช่ค่ะ เบื่อญาติฝ่ายพ่อมากกกก พอเราชี้เเจงเหตุผลก็หาว่าเถียง พอเหตุผลเราสู้เขาได้ ก็จะบอกว่า ' ไม่รู้ล่ะ ยังไงเธอก็ต้อง บลาๆๆๆๆ ' คือ เบื่อมากอ่ะ -คำว่า ' ไม่รู้ล่ะ ' ของพวกผู้ใหญ่เนี่ย มันเเลดูเหมือนความเอาเเต่ใจของพวกผู้ใหญ่ปะ?  ฟังเราบ้างสิ เอาตามตรงนะ บางทีคุณครูของเรายังเข้าใจเรามากกว่าญาติสนิทมิตรสหายทั้งหลายเลย  เสียใจ

1
Whitepearl_2001 Member 30 ต.ค. 57 21:30 น. 9-1
ก็เถียงต่อไปเลยค่ะ ตอบไปเลย So what ? ไปเรื่อยๆๆๆ ถ้าญาติถามว่า ทำไมถึงต้องพูดแต่ so what ๆๆๆๆ ก็ตอบต่อไปเลย แล้วเมื่อไหร่จะเลิกพูดว่า ไม่รู้ล่ะ ล่ะคะ ? เยี่ยม
0
กำลังโหลด
Dema The Valentine Member 28 ต.ค. 57 11:03 น. 1

อยากให้พ่อแม่เข้าใจแบบนี้ แต่ทำไมไม่เข้าใจกันซะที..... บอกบอกเหตุผลก็บอกว่าเถียงๆๆๆๆๆ หัดฟังกันบ้างงงงง

1
กำลังโหลด
MilkTea' Member 28 ต.ค. 57 18:57 น. 11

ไม่ชอบให้พ่อแม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวมากไป รหัสเฟม รหัสล็อคโทรศัพท์ เพื่อนเราส่วนใหญ่โทรศัพท์นี่ไม่ได้กันขโมยนะ กันพ่อแม่อ่ะ บางที เราก็มีเรื่องส่วนตัวของเรา .

2
Eak Surachai Member 30 ต.ค. 57 21:22 น. 11-1
เราเคยโดนแม่เอาเฟสไปเล่นอ่ะ555 เรื่องจริงไม่ตลก เราเคยเอาเฟสเราไปเข้าค้างไว้ที่โทรศัพท์แม่ แล้ววันต่อมาก กำลังคุยกับเพื่อนในแชทเฟส2คน คุยนินทาเรื่องเพื่อนที่โรงเรียน เรื่องศิลปินคนไหนหล่อค่อยแบบด่ากันด่ากันอ่ะ ประมาณแบบ "เห้ย- จัสตินบีเบอรแม่งโชว์ซิกแพคอีกแล้วว่ะ กูล่ะจะเป็นลม นี้แหละสมกับเป็นผัวกู 555" แล้วอยู่แชทเราก็เด้งขึ้นมา "ยังไม่นอนอีกหรอลูก" เราเลยตอบไปว่า "นั้นใครอ่ะ " เท่ากับแชทนี้คุยกัน3คน แต่มี2ยูสเซอร อีก3นาทีต่อมาเพื่อนทักไลน์มาบอก "แม่ แม่-แน่ๆ" เราตกใจมากเลยหวาา เพราะในชีวิตจริงเราไม่เคยพูดคำหยาบไห้พ่อแม่ได้ยิน และพอถึงตอนเช้ามันก็เป็นแม่จริงด้วย เราบอกแม่ นั้นมันโลกส่วนตัวนะแม่ โกรธโกรธ จากนั้นมาเป,ี่ยนระหัสทุกอย่าง ตั้งแต่ ไลน์ เฟส จีเมลล์โกรธ
0
กำลังโหลด
sorrayut 28 ต.ค. 57 17:14 น. 8
สำหรับผมแล้วใครคิดยังไงก็ช่างเพราะความคิดเห็นของคนเรามันไม่เหมือนกัน//บางทีเราก็ต้องยอมรับความคิดเห็นของคนอื่นๆดูนะ//เราน่ะอายุ15แต่แม่อาจจะมองผมเป็นคนที่ยังเรียนรู้และมีประสบการณ์มากกว่าเขาคือง่ายๆเขาจะตีเส้นกรอบทุกครั้งบางครั้งแน่นอนมันต้องรู้สึกว่า เอ๊ะทำไมต้องโดนกีดกันเวลาจะทำอะไรมิอะไรต่อมิอะไรมันลำบากไปหมดแน่นอนมันต้องเกิดอาการเก็บกดจนต้องเถียงขึ้นมาเพื่อจะเอาให้ตัวเองนั้นได้อย่างใจ//แต่ถึงยังไงคนที่เป็นพ่อแม่คนละนะถึงเขาจะเป็นคนที่ออกจะความคิดเก่าไปหน่อยแต่ยังไงละเขาเป็นพ่อแม่เขาต้องห่วงคนอย่างเราอยู่แล้ว//ที่มาcommentนี้ก้อยากให้รู้ว่าที่พ่อแม่เข้าใจเราน่ะเราลองปรับความเข้าใจให้ถึงที่สุดหรือยังเราลองนำเสนอและโน้มน้าวใจพูดให้เข้าใจสิไม่ก็ลองปรับความเข้าใจซึ่งกันและกัน//คิดว่าเป็นเด็กnerdก็แล้วแต่เพราะที่แน่ๆก็อย่ามาว่าคนที่รักเรามากที่สุดแล้วกัน
1
กำลังโหลด

18 ความคิดเห็น

Dema The Valentine Member 28 ต.ค. 57 11:03 น. 1

อยากให้พ่อแม่เข้าใจแบบนี้ แต่ทำไมไม่เข้าใจกันซะที..... บอกบอกเหตุผลก็บอกว่าเถียงๆๆๆๆๆ หัดฟังกันบ้างงงงง

1
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
G-iant Member 28 ต.ค. 57 16:41 น. 7

เรื่องจริงยิ่งกว่าละครค่ะ 55 เราเองก็เป็นวัยรุ่น บางครั้งก็อยากให้ผู้ใหญ่เข้าใจไม่ใช่คิดว่าทุกเรื่องที่เราทำเป็นสิ่งเลวร้าย จนขัดขวาง ทำให้เด็กเกิดความอยากรู้อยากลองจนก่อปัญหาในภายภาคหน้าได้ (สำหรับบางคนนะคะ) คิดแล้ววัยรุ่นเซ็ง 55 เย้

0
กำลังโหลด
sorrayut 28 ต.ค. 57 17:14 น. 8
สำหรับผมแล้วใครคิดยังไงก็ช่างเพราะความคิดเห็นของคนเรามันไม่เหมือนกัน//บางทีเราก็ต้องยอมรับความคิดเห็นของคนอื่นๆดูนะ//เราน่ะอายุ15แต่แม่อาจจะมองผมเป็นคนที่ยังเรียนรู้และมีประสบการณ์มากกว่าเขาคือง่ายๆเขาจะตีเส้นกรอบทุกครั้งบางครั้งแน่นอนมันต้องรู้สึกว่า เอ๊ะทำไมต้องโดนกีดกันเวลาจะทำอะไรมิอะไรต่อมิอะไรมันลำบากไปหมดแน่นอนมันต้องเกิดอาการเก็บกดจนต้องเถียงขึ้นมาเพื่อจะเอาให้ตัวเองนั้นได้อย่างใจ//แต่ถึงยังไงคนที่เป็นพ่อแม่คนละนะถึงเขาจะเป็นคนที่ออกจะความคิดเก่าไปหน่อยแต่ยังไงละเขาเป็นพ่อแม่เขาต้องห่วงคนอย่างเราอยู่แล้ว//ที่มาcommentนี้ก้อยากให้รู้ว่าที่พ่อแม่เข้าใจเราน่ะเราลองปรับความเข้าใจให้ถึงที่สุดหรือยังเราลองนำเสนอและโน้มน้าวใจพูดให้เข้าใจสิไม่ก็ลองปรับความเข้าใจซึ่งกันและกัน//คิดว่าเป็นเด็กnerdก็แล้วแต่เพราะที่แน่ๆก็อย่ามาว่าคนที่รักเรามากที่สุดแล้วกัน
1
กำลังโหลด
Sad Princess Member 28 ต.ค. 57 17:15 น. 9

ใช่ค่ะ เบื่อญาติฝ่ายพ่อมากกกก พอเราชี้เเจงเหตุผลก็หาว่าเถียง พอเหตุผลเราสู้เขาได้ ก็จะบอกว่า ' ไม่รู้ล่ะ ยังไงเธอก็ต้อง บลาๆๆๆๆ ' คือ เบื่อมากอ่ะ -คำว่า ' ไม่รู้ล่ะ ' ของพวกผู้ใหญ่เนี่ย มันเเลดูเหมือนความเอาเเต่ใจของพวกผู้ใหญ่ปะ?  ฟังเราบ้างสิ เอาตามตรงนะ บางทีคุณครูของเรายังเข้าใจเรามากกว่าญาติสนิทมิตรสหายทั้งหลายเลย  เสียใจ

1
Whitepearl_2001 Member 30 ต.ค. 57 21:30 น. 9-1
ก็เถียงต่อไปเลยค่ะ ตอบไปเลย So what ? ไปเรื่อยๆๆๆ ถ้าญาติถามว่า ทำไมถึงต้องพูดแต่ so what ๆๆๆๆ ก็ตอบต่อไปเลย แล้วเมื่อไหร่จะเลิกพูดว่า ไม่รู้ล่ะ ล่ะคะ ? เยี่ยม
0
กำลังโหลด
Piszerel Member 28 ต.ค. 57 18:43 น. 10

คุณครูและเพื่อนก็มีส่วนเกี่ยวด้วยนะ เพราะการกระทำบางอย่างที่ไม่คิดของเพื่อน หรือการกระทำบางอย่างที่ไม่รู้ว่าเพราะความไม่คิด อยากสะใจ หรืออะไรก็ตามแต่ของครูบางคน(หรืออาจจะหลายๆคน แต่ขอย้ำว่าไม่ใช่ทุกคน) ก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน

(เคืองครูกับเพื่อนไม่หาย โดนทำอะไรที่เราไม่รู้จะบอกว่าไม่คิด คิดไม่เป็น หรืออะไร หงุดหงิดมากๆ เพราะมันไม่ใช่อะไรที่สมเหตุสมผลที่โรงเรียนที่เค้าเรียกกันว่าโรงเรียนมาตรฐานสากล หรือเด็กห้องดีๆที่มีความคิดเขาทำกันเลยทำเลย - -*****)

โกรธโกรธโกรธ

0
กำลังโหลด
MilkTea' Member 28 ต.ค. 57 18:57 น. 11

ไม่ชอบให้พ่อแม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวมากไป รหัสเฟม รหัสล็อคโทรศัพท์ เพื่อนเราส่วนใหญ่โทรศัพท์นี่ไม่ได้กันขโมยนะ กันพ่อแม่อ่ะ บางที เราก็มีเรื่องส่วนตัวของเรา .

2
Eak Surachai Member 30 ต.ค. 57 21:22 น. 11-1
เราเคยโดนแม่เอาเฟสไปเล่นอ่ะ555 เรื่องจริงไม่ตลก เราเคยเอาเฟสเราไปเข้าค้างไว้ที่โทรศัพท์แม่ แล้ววันต่อมาก กำลังคุยกับเพื่อนในแชทเฟส2คน คุยนินทาเรื่องเพื่อนที่โรงเรียน เรื่องศิลปินคนไหนหล่อค่อยแบบด่ากันด่ากันอ่ะ ประมาณแบบ "เห้ย- จัสตินบีเบอรแม่งโชว์ซิกแพคอีกแล้วว่ะ กูล่ะจะเป็นลม นี้แหละสมกับเป็นผัวกู 555" แล้วอยู่แชทเราก็เด้งขึ้นมา "ยังไม่นอนอีกหรอลูก" เราเลยตอบไปว่า "นั้นใครอ่ะ " เท่ากับแชทนี้คุยกัน3คน แต่มี2ยูสเซอร อีก3นาทีต่อมาเพื่อนทักไลน์มาบอก "แม่ แม่-แน่ๆ" เราตกใจมากเลยหวาา เพราะในชีวิตจริงเราไม่เคยพูดคำหยาบไห้พ่อแม่ได้ยิน และพอถึงตอนเช้ามันก็เป็นแม่จริงด้วย เราบอกแม่ นั้นมันโลกส่วนตัวนะแม่ โกรธโกรธ จากนั้นมาเป,ี่ยนระหัสทุกอย่าง ตั้งแต่ ไลน์ เฟส จีเมลล์โกรธ
0
กำลังโหลด
Contract Member 29 ต.ค. 57 10:36 น. 12

สำหรับเราไม่รู้นะ พอโดนด่าหรืออะไร ไม่ว่าจะผิดหรือถูก พอจะอธิบายเหตุผลหรือสาเหตุ เค้าก็ไม่ฟัง ชอบหาว่าเถียง เราก็เลยเลืกที่จะ #เงียบ มากกว่า

เอ่อ..เอ่อ..เอ่อ..เอ่อ..เอ่อ..เอ่อ..เอ่อ..เอ่อ..เอ่อ..เอ่อ..เอ่อ..

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด