สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek - D ใกล้จะหมดปีแล้วแต่ปัญหาเดิมของเราก็ยังอยู่ นั่นคือ วิชาในตำนานทั้งที่เรียนกันมาน๊านนานไม่รู้สึกง่ายขึ้นเลย "ภาษาอังกฤษ" นั่นเองค่ะ ,,, วันนี้เรามาดูกันให้ชัดเลยว่าทำไม๊ทำไมภาษาอังกฤษถึงง่ายนิดเดียวแต่ยากมาก !!!
ร่ำเรียน A B C กันมาตั้งแต่อนุบาล จนตอนนี้เข้ามัธยม และจะเข้ามหาลัยกันแล้ว ยังไม่มีทีท่าว่าเราจะปราบวิชาภาษาอังกฤษให้อยู่หมัด เพราะเหตุผลอะไรกันบ้าง และมีวิธีแก้ไขอย่างไรที่พี่เมษ์แนะนำได้ เริ่มกันเลยค่ะ
1. ไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่!
นี่ไม่ใช้อารมณ์นะคะ แต่นี่คือความจริงที่ต้องยอมรับว่าด้วยความที่บ้านเราใช้ภาษาไทยกันทุกที่ น้อยครั้งมากที่จะได้ใช้ภาษาอังกฤษ กระทั่งในวิชาภาษาอังกฤษก็สอนกันเป็นภาษาไทย เมื่อไม่ได้ใช้ทุกวัน มันก็ยากค่ะที่จะปะติดปะต่อให้ออกมาเป๊ะ เพราะภาษาก็เหมือนมีดแหละค่ะ ไม่ได้ใช้ก็ทื่อ ต้องลับบ่อยๆ ถึงจะใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Tips :
ในเมื่อไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่ ไม่มีที่ให้ใช้ ก็ต้องเพิ่มเวลาใช้งานภาษาอังกฤษให้มากขึ้น
เช่น ดูหนัง ฟังเพลง หาข่าวต่างประเทศอ่าน หานิทานหรือนิยายภาษาอังกฤษอ่าน แรกๆ อาจจะไม่ชอบใจ อ่านไม่เข้าใจ ฟังไม่รู้เรื่อง แต่จะบอกเลยว่าภาษาเป็นเรื่องของความเคยชิน ใช้บ่อยเข้าๆ ก็ใช้ได้เก่งเองค่ะ
อ่อ ใช้ข้ออ้างข้อนี้ในการเข้าไปทักทายหนุ่มๆ ที่มาเรียนแลกเปลี่ยนก็ได้นะ ถือว่าแลกเปลี่ยนภาษาไทยกัน พยายามสื่อสาร สอนคำไทยให้กับเพื่อนๆ ด้วยภาษาอังกฤษดูสิ ไม่ยากเกินไปหรอก แถมนอกจากจะได้เพื่อนแล้ว อาจจะเปลี่ยนแป็นแฟนเลยก็ได้นะ หุหุ >///<
2. ครูสอนไม่ตรงจุด
อันนี้ต้องขอโทษคุณครูที่สอนดีๆ หลายท่านในประเทศไทยก่อนเลย เพราะหลายท่านสอนดีอยู่แล้ว เป็นที่รักและเคารพของเรา แต่ก็ต้องพูดกันตามตรงว่ายังมีอีกหลายท่านที่ไม่ได้สอนให้ตรงจุด เพราะเน้นไปที่ Grammar เพื่อให้น้องๆ สามารถนำไปสอบเรียนต่อได้ แต่ภาษานอกจากอ่านเขียนแล้ว ต้องเน้นฟังพูดควบคู่ไปด้วย
การเรียน Grammar เป็นสิ่งที่ดีค่ะ เพราะถ้าต้องใช้งานก็ต้องใช้ให้ถูก (แถมออกข้อสอบ) แต่ประเด็นคือ ด้วยความยากของ Grammar ที่มี Tense ทั้ง 12 , Part of speech, article, Preposition , phrase, idiom, if clause, Adverbial clause, conjunction, active voice, passive voice, modal verb ฯลฯ โอ๊ยยยยยย แค่เห้นก็มึนละ นี่แหละค่ะที่ให้เรารู้สึกว่ามันย๊ากยาก ทำให้ท้อตั้งแต่ยังไม่เริ่ม พูดละเครียดเนอะ
Tips :
อันนี้พี่เมษ์มองว่าควรเริ่มตั้งแต่ที่ใจตัวเอง ท่องไว้ค่ะว่า "เราทำได้" / "มันไม่ได้ยาก" ซะก่อน เพราะตอนนี้มันมีปัญหาอยู่ที่ Mind set ของน้องที่มองว่ามันยาก เจอนิดๆ หน่อยๆ ก็รู้สึกยากละ
นอกจากแก้ที่ Mind set แล้ว ต้องรู้จักตัวเองด้วย ทบทวนตัวเองนิดนึงว่าที่เราไม่เก่ง ไม่ชอบเนี่ย เพราะพื้นฐานเราไม่ดีหรือเปล่า ถ้าคำตอบคือ "ใช่" น้องก็ต้องยอมเสียเวลาปรับพื้นฐานกันใหม่ซะก่อน เพื่อจะได้เข้าใจส่วนต่อๆ ไปได้ ตอนแรกอาจจะไม่ชอบ ลำบากใจ แต่ต้องทำค่ะ เพื่อเปลี่ยนแปลง
เรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งที่ทำให้ภาษาอังกฤษย๊ากยาก คือ "คำศัพท์" เพราะศัพท์ภาษาอังกฤษเยอะมาก พอเจอ Text เจอ Article เข้าไป ,,, ตายสนิท เพราะอ่านไปได้สองคำสามคำก็ไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ ท้อกันหมดพอดี
3. ศัพท์เยอะ มึนกับความหมายและวิธีใช้
แถมคำศัพท์ภาษาอังกฤษยังใช้ซ้ำซ้อนกัน คือ คำนั้นแปลเหมือนกัน แต่ใช้ต่างกัน เช่นศัพท์กลุ่ม Talk, Speak, Say, Tell 4 คำนี้ เราใช้กันประจำ แต่เราอาจจะใช้ผิดก็ได้เพราะ Say มักต่อด้วยพูดอะไรแบบ I said 'I love you. หรือไม่ก็ I say แล้วจบเลย ไม่ค่อยมีกรรมต่อ แต่จะมีก็ได้แบบ say to ใคร แต่ไม่นิยมกันซักเท่าไหร่
ส่วน Talk / Speak ไม่ค่อยต่างกันมาก แต่ Talk จะนึกถึงการพูดคุยมากกว่า เช่น I am talking to ..... ในขณะที่ Speak คือพูดเฉยๆ เช่น Rose can speak 3 languages. ไม่ใช่พูดคุย และ Tell จะต้องมีกรรมว่าบอกใครเสมอ เช่น I tell him ....
เห็นมั้ยคะ แค่คำง่ายๆ 4 คำ ยังใช้แตกต่างกัน เนี่ยแหละ เราเลยไม่เข้าใจ มึน งง ตึง นี้ยังไม่รวมที่แต่ละคำมี Synonym, Antonym, Idioms และ Slang อีกด้วย โอ้ย อยากจะเป็นลม
Tips :
บอกกันตรงๆ ว่าศัพท์ ไม่มีทางไหนเลยที่จะจำได้ ถ้าไม่ท่อง อยากรู้ศัพท์ต้องท่องค่ะ อาจจะใช้วิธีการต่างๆ ที่เหมาะกับตัวเองเพื่อท่องศัพท์ให้ง่ายขึ้น เช่น อาจจะท่องเป็นชุดๆ ที่คล้ายกัน , ท่องแบบเพลง, ท่องด้วยการหาศัพท์จากเพลง จากภาพยนตร์ ฯลฯ ซึ่งอยู่ที่ตัวบุคคล
แต่อย่าลืมท่องศัพท์ Synonym, Antonym, Idioms และ Slang ด้วยนะคะ เพราะออกในข้อสอบ และเจอในบทความแน่นอนค่ะ อย่าเพิ่งท้อใจก็พอค่ะ เพราะภาษาไทยที่ว่ายากน้องๆ ยังเข้าใจได้ จำคำไวยพจน์ จำคำที่ใช้ระดับภาษาต่างกันได้เลย แค่นี้ไม่เกินความสามารถ!!!
4. สำเนียงเป็นเรื่องยากมาก!!
พูดทั้งในมุมผู้พูดและมุมผู้ฟังค่ะ สำหรับมุมผู้ฟัง การเรียนรู้ผ่านสำเนียงไทย ทำให้เราเคยชินกับการพูดที่ขาด Pronunciation และการ Stress คำที่ถูกต้อง ทำให้พอเจอเจ้าของภาษาไฟแล่บใส่มา ก็เงิบสิค่ะ - -" ไปไม่เป็น
ในมุมของผู้พูด การพูดผิดๆ เพี้ยนๆ จากเจ้าของภาษา พูดออกมาก็ดูจะขัดเขินเนอะ แถมพอพูดผิดๆ ถูกๆ ก็อายเหลือเกินเนอะ ในทางกลับกัน พอกลับมาอยู่ในห้องเรียนที่มีเพื่อนคนไทย พอเราอยากพูดชัดๆ ก็โดนล้ออีก เห้อ วางตัวลำบากเนอะ
Tips :
พอกลับมาในห้องเรียนปกติ เราก็ทำตัวกลมกลืน อาจจะพูดให้ชัดเจนขึ้นจากที่ใช้อยู่ในปกติ แค่นั้นเองค่ะ แค่นี้เราก็ดูเป็นมืออาชีพ สำเนียงเป๊ะแล้วค่ะ ,,, อ่อ ที่สำคัญ ต้องฝึกฟังบ่อยๆ พูดบ่อยๆ นะคะ อย่าเขินอายกับการพูดให้ถูก ฟังให้เข้าใจเป็นทักษะค่ะ ต้องใช้เวลา
5. "ห้องเรียน" มีแต่คนไม่เก่ง
เพราะสิ่งแวดล้อมเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เกิดการเรียนรู้มากขึ้น การที่เราอยู่ในห้องเรียนที่มีแต่คนไม่รู้เหมือนๆ กัน คือ ไม่รู้เรื่องภาษาอังกฤษ หรืออาจจะไม่ค่อยเก่งเหมือนๆ กัน ทำให้เวลาที่ต้องการความช่วยเหลือ ก้ไม่รู้จะหันไปพึ่งใคร พอจะพูด หรือหัดภาษาอังกฤษใส่กันก็ไม่รู้จะเริ่มกันยังไง
ไม่ใช่แค่เรื่องพูดหรือฟัง แต่เวลาแต่งบทความ เขียน Essay หรือต้องการช่วยเหลือในการช่วยรีเชค Grammar ก็เห็นจะไม่มีใครช่วยใครได้เลย เพราะไม่เก่งด้วยกันหมด จะให้ช่วยเชคของตัวเอง้ย๊ากยาก เพราะก็รู้อยู่เท่านี้ ,,, เฮ้อออออ
Tips :
แทนที่จะยอมให้ห้องเรียนเป็นศูนย์รวมของคนที่ไม่รู้เรื่องภาษาอังกฤษ เรามาช่วยกันทำความเข้าใจภาษาอังกฤษด้วยกัน ร่วมมือกันติว ร่วมมือกันหัดเถอะ เพราะการเปลี่ยนแปลงตัวเองไปพร้อมๆ กัน ทำให้เราไม่เขิน เพราะเพื่อนๆ ก็ไม่รู้เหมือนๆ กัน
วิธีที่พี่เมษ์เคยใช้คือ ให้แต่ละคนแต่งประโยคแล้วให้เพื่อนอีกคนจับผิดว่าเราเขียนผิดตรงไหนบ้างก็ได้ แล้วลองไปให้อาจารย์หรือคนที่เก่งกว่าเรา อาจจะเป็นรุ่นพี่ที่สนิท อาจารย์ที่สอนพิเศษ ช่วยดูอีกทีก็ได้ค่ะ แบบนี้ก็สามารถพัฒนาทักษะเรื่อง Grammar ของเราได้มากเลยนะ
รู้ต้นเหตุแบบนี้แล้ว น่าจะแก้ไขได้ง่ายขึ้นนะคะ แถม Tips ที่มีก็น่าจะช่วยให้แก้ไขข้อบกพร่อง และพัฒนาให้น้องๆ เป็นคนเก่งขึ้นได้ไม่ยากแล้วนะคะ ,,, ใครมีเหตุผล / วิธีอื่นๆ ลองแนะนำมาดูละกันนะคะ
ขอบคุณภาพประกอบจาก
- http://weheartit.com/BeHappyMe/collections/
9982803-svetlana-shchedrina-luckyoptimist-quotes
- https://dk.pinterest.com/pin/
173810866840431707/
- https://www.pinterest.com/runteachrepeat/
posters-decorations/
- http://rade-petricevic.blogspot.com/2013/11/
second-language-learning-in-classromm.html
- http://www.aclipart.com/quotes/
quotes-learning-english-language/
- http://www.aclipart.com/quotes/quotes-learning-english-language/
45 ความคิดเห็น
เพื่อนในห้องไม่เข้าใจ !! จะตรงอะไรขนาดนี้
เราชอบภาษาอังกฤษมากนะ แต่ตัวที่ทำให้เราเบื่อและไม่อยากเรียนคือแกรมม่า
ภาษาอังกฤษไม่ค่อยเท่าไหร่นะ แต่คณิตศาสตร์นี่สิ5555
เรื่องที่บอกว่าต้องปรับพื้นฐานใหม่คือจริง
มันต้องค่อยๆปรับไป ยอมรับว่าเสียเวลาและเสียเงินแต่มันคุ้มนะคะ
เราก็ทำมาแล้ว เราลงคอร์สแกรมม่าเน้นๆทั้งปิดเทอมเลย
พอกลับบ้านก็มานั่งทบทวนในแต่ละวัน
มันเวิร์คจริงๆนะ
มันอาจจะดูเหนื่อยแต่ได้ผลในระยะยาวนะคะ
เราก็เคยเป็นคนหนึ่งที่เกลียด...ไม่สิ! กลัว ภาษาอังกฤษเอามากๆ จนกระทั่งโชคชะตานำพาไปยังต่างประเทศ ฟิ้ววววว~ (นั่นคือเสียงบินข้ามน้ำข้ามทะเลข้ามภูพาอันสูงใหญ่)
จากที่ไม่สามารถสื่อสารได้เลย หากจะรู้ก็งูๆ ปลาๆ ก็กลายเป็นว่าต้องปรับตัวเข้ากับทั้งสังคมและภาษา บอกเลยว่าแต่ก่อนนี่แค่เจอครูต่างชาติก็แทบจะแทรกแผ่นดินหนี! พอไปต่างประเทศ...อ้าว อิ๋บอ๋ายยย! หนีไม่พ้น! งั้นจนพุ่งชน!
เราเริ่มต้นโดยการฟังเยอะ ฟังเพื่อนพูด (หรือดูหนังก็ได้อ่ะ! เอาศัพท์เป็นภาษาอังกฤษนะ!!)แล้วอย่าลืม 'เลียนแบบ' เพราะเมื่อเราได้ศัพท์ใหม่ๆ มาเราจะต้องใช้มันถึงจะจำได้! อ่านเยอะ ฟังเยอะ เขียนเยอะ...จากเป็นเด็กที่ร้องไห้อยากกลับไทยทุกวันก็ต้องขอบคุณพระเจ้าที่นำพามาเพชิญความกลัวอันดับโครตแม่ของความกลัว! ส่วนเรื่องแกรมม่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลยเมื่อเข้าใจจริงๆ พอเข้าใจแล้วการเขียนก็ดูดีมากขึ้น
เราว่าเรื่องสังคมไทยก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เด็กไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษด้วย เพราะหากเราใส่สำเนียงมากเกิน...เพื่อนก็มาหาว่าเรา 'กระแดะ' อีก...อ้าว!!! งั้นจะทำไง? ก็คนเรากำลังเรียนรู้! ให้เขาว่าไปเถอะ จะพูดผิดพูดถูกไม่ต้องสนใจ เราแค่ต้องพยายาม ทำเพื่อตัวเอง เชื่อดิ! -คนที่ว่าเราเนี่ยแหละจะต้องมากราบขอให้ช่วยสอนภาษาอังกฤษให้~~ สะใจกว่าเยอะ! Kill them with success and bury them with a smile :)
เรียนภาษาอังกฤษนี่ไม่มีอะไรมาก: แค่...ไม่ปล่อยผ่าน จงพุ่งชน จดเขียน แล้วกลับมาหามันอีกครั้ง~
สนับสนุนให้เด็กไทยไม่กลัวภาษาอังกฤษ~
ด้วยรักและขอร้องให้โปรดอ่าน
เมื่อก่อนเคยมีปัญหาเรื่อง 'ไม่ใช่ภาษาพ่อแม่' เลยไม่ค่อยมีเวลาพูดกับ 'ครูสอนไม่ตรงจุด' แต่ตอนนี้เค้าได้มีโอกาสเรียนที่โรงเรียนที่ได้ใช้ภาษาจิงๆ ต้องพูดสื่อสารกันในโรงเรียนจิงๆ เข้าไปแรกๆรู้สึกลำบากมากๆ แต่ก้รู้สึกสนุกนะ มันท้าทายตัวเองดีว่าที่โรงเรียนเก่า กับบทเรียนตอนอนุบาลถึงมัธยมต้น เราเข้าใจกับมันมากแค่ไหน ตอนเรียนในห้องรู้สึกว่าเรารู้ดีในระดับนึงเลย ในด้านของแกรมม่า ในขณะที่เพื่อนที่อายุเท่ากัยหรือแก่กว่า ไม่เข้าใจแต่เราเข้าใจก่อนใครเพื่อน เหมือนเรามีความรู้พื้นอยู่แล้ว แต่เราไม่มั่นใจ พื้นฐานเราไม่แน่นพอเลยกลัวที่จะใช้ แต่ตอนนี้ก้ยังมีปัญหาเรื่องสำเนียงกับคำศัพท์บางคำที่ไม่รู้จะใช้โอกาสไหนดีอยู่เยอะเลย แต่ก้พยายามปรับไปเรื่อยๆ รู้สึกว่าเรียนแต่ภาษาอังกฤษพูดแต่อังกฤษ ไม่เรียนไทย ไม่พูดไทย มันก้สนุกและท้าทายตัวเองไปอีกแบบ>
ค่ะตอนนั้นทุกประการ เคยเป็นเคยเจอมาหมดทั้ง 5 ข้อเลย แต่มันแก้ได้ 55+ มีเพื่อนฝรั่งเยอะช่วยได้มากเลย โทรคุยกับเค้าด้วยทำให้ฟังแล้วได้รู้สำเนียงเค้า หลังๆไอ่หนังเก่าๆที่เราชอบแล้วเคยดูเป็นภาษาไทย หลังๆนี้ดูเป็นภาาาอักฤษไม่เอาซับ เรื่องแรกเลยที่ดูอังกฤษแล้วคือ Horn เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว เมืองนอกเค้าเข้าแล้ว แต่ไทยพึ่งเค้าเมื่อปลายเดือนที่แล้ว เลยไปหาในเว็ปแล้วเจอแต่เว็ปอังกฤษเลยดู ไม่รอดูภาษาไทยแล้ว ซึ่งรู้เรื่องค่ะ ฟังได้แปลได้เรื่องราวคร่าวๆคือ พระเอกคบกับนางเอกตั้งแต่ทั้งคู้ยังเด็ก วันนึงนางเอกโดนฆ่าตายในป่า ซึ่งเป็นวันเดียวกันที่นางเอกได้บอกเลิกพระเอกแล้วพระเอกได้ขับรถหายไป พอตื่นมาก็โดนคนกล่าวหาว่าเค้าเป็นคนฆ่าแฟนเค้า แต่เค้าไม่ได้ทำ เค้าก็พยายมทำทุกอย่างเพื่อหาตัวคนร้าย แต่ตัวเค้าก็ตกต่ำลงมากๆ ดื่มเหล้าทุกวันหลังจากแฟนบอกเลิก วันนึงที่ชาวบ้านไปร่วมไว้อาลัยให้นางเอกนะจุดที่เธอตาย เค้าขึ้นไปหลบอยู่บนบ้านต้นไม้พอชาวบ้านกลับไป ก็ลงมาแล้วโกรธบัลดานโทสะทำลาย เทียนทำลายรูปปั้น ตื่นเช้ามาก็มีเขางอกขึ้นบนหัว แต่เขานั้นจะช่วยให้คนที่เห็นเขาบนหัวของเค้ายอมสารภาพบาปในชีวิตที่เคยทำและเคยก่อ จนสุดท้ายพระเอกก็ได้รู้ว่าใครเป็นคนร้าย... รอดูเอาเองนะคะ ^ ^ พึ่งเข้าฉายในไทย 55+ แต่ดูมาก่อนแล้ว นางเอกน่าสงสารมากๆ แต่พระเอกก็ด้วย เป็นใครก็ทำใจไม่ได้ โดนบอกเลิกในวันที่จะขอเค้าแต่งงาน แต่ชอบคำพูดนุ้ของพระเองที่พูดกับนางเอก I gonna love you for the rest of my life. นางเอกตอบกลับว่า Just love me the rest of mine... ซึ้ง หวานกันจุงงงงง
จริงๆแล้วคุยกับฝรั่งไม่ต้องไป พะวงกับ ไวยกร มากหรอกค่ะ แค่ให้รู้เรื่องกันก็โอเคแล้ว ขนาดฝรั่งพูดมาบางครั้งยังทำเอาเรางง จริงๆนะขนาดตัวเค้าเองยังไม่ไป Worry อะไรกับไวยกรมันมาก แต่ครูเราสอนให้จำไวยกรต้องแต่เด็ก จำผิดจำถูกบ้าง พอจะเอามาไช้ก็กลัวใช้ไม่ถูก ตรงๆ พูดไปเลย ฝรั่งเค้า Easy Easy นะ 55+ แล้วก็พยายามจำศัพท์ไว้เยอะ ไม่ได้ให้จำในรูปแบบไทย จำในแบบอังกฤษ เค้าพูดมาอังกฤษเรียบเรียงเอาคำอังกฤษในหัวไปตอบ ขืนเอาที่เค้าพูดอังกฤษมาเรียนเรียงแปลเป็นไทยในหัว แล้วคิดคำตอบเป็นไทยกว่าจะคิดศัพท์อังกฤษตอบกลับไปได้อีก เค้าคงจะเดินขึ้นไปอยุ่บนยอดเขาแล้วค่ะ 555+
ขอบทความลักษณะนี้แต่เกี่ยวกับคณิตศาสตร์หน่อยครับ 55+ เกลียดวิชานี้ที่สุด
เพราะโรงเรียนส่วนใหญ่สอนให้เป็นภาษาที่สองไง เก่งกันไปหมดแกรมม่าเนี่ย พูดจริงไม่เห็นจะได้ เห็นเยอะมากเพื่อนผมงี้ สอบเกรด4ตลอด ไปต่างประเทศกับผมทีนี่จะสั่งข้าวกินยังเอ๋อ ละตอนนี้เนื่องจากผมใกล้จะเอนแล้ว แล้วไปลงเรียนภาษาอังกฤษที่นึง เรียนคอม ขึ้นต้นด้วยตัว E ยอมรับเลยเซงมาก เสียดายตัง เสียอารมณ์ เสียเวลา อ่านทุกคำ แปลทุกคำ ก็ยังตกลงมาเรียนภาษาอังกฤษหรือเรียนภาษาไทย เพราะpassage ภาษาอังกฤษยาวๆชีพูดเป็นภาษาไทยให้ฟังหมดเลย(แล้วสรุปตูมาเรียนอังกฤษทำไม) แล้วเอาจริงคนที่อ่านอังกฤษคล่องๆเค้าก็ไม่ได้แปลกันปะ แปลกันอยู่ได้ ไม่เห็นต้องแปลเลย มันเซง น่าหมั่นไส้ เด็กส่วนใหญ่เป็นเยอะด้วย รู้ศัพท์แปลกๆเยอะมาก เอาไว้สอบนู้นนี่(ผมก็รู้ไม่เยอะ) แต่ศัพท์ง่ายๆใช้ในชีวิตประจำวันกลับไม่รู้อ่ะ คือแบบ อะไร????
ผมศึกษาด้วยตัวเองครับเข้าใจง่ายดี สำเนียงก็ได้จากการฟังเพลงและดูซีรี่ฝรั่งซับไทย และเล่นเกมส์อ่านซับไปด้วย
ສະບາຍດີ ຂອບໃຈສຳລັບຄຳແນະນຳທີ່ດີ
สำเนียงนี่ไม่ได้เลยค่ะ TT เวลาพูดออกมาแต่ละทีเนี่ยคือแบบ เพี้ยนมากก
เราเป็นคนหนึ่งนะที่ชอบเรียนภาษาอังกฤษและเราก็ไม่อายด้วยทุกครั้งที่เราพูดภาษาอังกฤษเป็นสำเนียงนั้น แม้บางครั้งเราจะโดนว่าว่ากระแดะก็ตาม แต่มีสิ่งหนึ่งที่อยากบอกเพื่อนๆ ภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยาก และอย่ากลัวภาษาอังกฤษไม่ใช่จระเข้ถึงจะกัดเรา เวลาเจออย่างครูต่างชาติที่โรงเรียนเราลองไปคุยกับเค้าแล้วเราจะเก่งขึ้นเอง อย่างศัพท์ก็ท่องแบบครูสมศรีบอก เวลาว่างก็หยิบมาท่องแล้วเราจะรู้เวลาเราไปเจอข้อสอบแล้วเราจะได้ศัพท์เยอะมาก สู้ต่อไปทุกคน
You must lose your fear of being wrong