5 นิสัยป่วยๆ ต้องเปลี่ยน! ถ้าไม่อยากแพ้ในสนามสอบระดับประเทศ

           ต้องมีสักครั้งที่น้องๆ จะต้องไปสอบระดับประเทศ เอาที่ใกล้ตัวที่สุด ก็เป็นการสอบ O-NET ที่ได้เจอกันแทบทุกคน แต่บางคนก็มีมากกว่านั้น ต้องไปหาที่สอบชิงทุน หรือ สอบเข้ามหาวิทยาลัยต่างๆ

           การสอบระดับประเทศแบบนี้ ฟังดูน่ากลัวเพราะต้องเจอคนเป็นหมื่นเป็นแสน แต่ความจริงคนที่น่ากลัวที่สุด ไม่ใช่คู่แข่งที่เราจะเจอในสนามสอบหรอก แต่เป็น "ตัวเรา" เองนี่แหละ ต่อให้คนอื่นเตรียมตัวมาดี๊ดี แต่ถ้าเราก็เตรียมตัวมาดีมากๆ มีหรือที่เราจะสู้คนอื่นไม่ได้ ดังนั้นมาดูกันว่า นิสัยแบบไหนกันที่เป็นต้นเหตุทำให้เราแพ้ ถ้ามีก็เลิกซะเถอะนะ พูดจริงๆ!!


 

 

    1. ขี้กลัว ใจเสาะ ไม่กล้าสู้
           คนประเภทนี้ใจเสาะ กลัวไปหมดทุกอย่าง ถ้าให้เลือกไปสอบเอง จะไม่ไป เพราะคิดล่วงหน้าไปแล้วว่า สอบกลับมาก็แพ้อยู่ดี สู้ไม่ต้องไปเลยดีกว่า ส่วนการสอบที่บังคับสอบ หรือ พ่อแม่ให้สอบแข่งขันกับเขา ก็ทำไปตามหน้าที่ ไม่ได้มุ่งมั่นตั้งใจเท่าไหร่

           นิสัยนี้ต้องเปลี่ยน! เพราะการสอบระดับประเทศทำให้เราเห็นโลกภายนอกมากขึ้น คนอื่นเขาเตรียมตัวกันมาเต็มที่ เราจะมาเล่นๆ ก็ดูไร้จุดหมายเกินไป ที่สำคัญ ไม่ว่าจะสนามสอบอะไร คนจะสอบเป็นหมื่น เป็นแสนคน ทุกคนก็ต้องเตรียมตัวมากันทั้งนั้นค่ะไม่ใช่แค่เราคนเดียว คนทุกคนมีมุมกลัว แต่อย่าให้ความกลัวมาทำลายความตั้งใจของเรา สนามสอบบางอย่างเปรียบเสมือนประตูสู่อนาคตดีๆ ของเรานะคะ ถ้าวันนี้เรายังกลัว ไม่กล้าสู้กับคนอื่น ไม่มีวันชนะหรอกค่ะ

 
     2.  ชะล่าใจ ไม่รอบคอบ
           คนประเภทนี้ คือ คนไม่เตรียมตัว รู้แค่ว่าต้องสอบ แต่อย่าถามรายละเอียดนะ เจ๊ส่ายหน้าอย่างเดียว เพราะไม่มีข้อมูลอะไรอยู่ในหัวเลย สอบวิชาอะไร วันไหน ถามมาก็เปิดอินเทอร์เน็ตกันตรงนั้น หรือ เกาะเพื่อนไปตลอดๆๆ ตอนทำข้อสอบก็ไม่เครียด เพราะคิดว่าถ้าจะได้ เดี๋ยวก็ได้เอง ดูเหมือนเป็นคนชิวๆ แต่ขอเรียกว่าชะล่าใจจะดีกว่า

           คนแบบนี้ ถ้าแค่มาลองข้อสอบก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้ามาสอบจริงจังต้องเปลี่ยนนิสัยกันหน่อย เพราะความชะล่าใจทำให้เราเลื่อนลอย และคิดว่าคนอื่นเขามาสอบกันเล่นๆ ทั้งๆ ที่บางคนอ่านหนังสือกันมาครึ่งปีแล้ว และที่สำคัญคนที่มาเตรียมตัวกันตอนวันสอบ ถ้าเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมา เช่น เครื่องปริ้นเสีย พิมพ์บัตรเข้าสอบไม่ได้ หรือ ไม่ได้จดห้องสอบ แต่วันสอบอินเทอร์เน็ตล่ม ฯลฯ มีแต่เจ๊งกับเจ๊งนะจ๊ะ
 

     3. คิดว่าตัวเองเก่งที่สุดในโลก
           คนประเภทนี้ คือ คนที่ค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเองมีดี เก่ง พร้อม สอบข้อเขียนก็มั่นใจว่าความรู้มีเต็มที่ สอบปฏิบัติ ก็มั่นใจว่าฉันเก่ง ฉันทำได้เพอร์เฟคแน่นอน ทำให้ไม่เปิดรับความคิดเห็นของคนอื่น หนักหน่อยก็ดูถูกคนอื่นอีกต่างหาก ทำให้คนประเภทนี้ไม่ค่อยจริงจังกับการสอบ คิดว่าอ่านนิดๆ หน่อยๆ ก็ไปสอบได้แล้ว ทั้งๆ ที่ความเป็นจริง อาจจะมีคนเก่งกว่าเป็นพันๆ หมื่นๆ คน

          นิสัยนี้ต้องเปลี่ยน!  เพราะถ้ายึดถือตัวเราว่าเก่ง ดี พร้อม ไม่มีใครเทียบรัศมีได้ จะทำให้เราไม่มองโลกความเป็นจริงว่า การแข่งขันมันเป็นการแข่งขัน และข้อสอบระดับประเทศ ก็ไม่ใช่มานั่งกามั่วกันง่ายๆ ดังนั้นคนที่คิดว่าตัวเองเก่ง และไม่เตรียมตัวให้เหมาะสม ก็มีโอกาสพลาดเยอะมากๆ ท่องเอาไว้ในใจเลยค่ะ "อย่าคิดว่าตัวเองเก่ง ถ้ายังไม่รู้จักคนทั้งโลก"

 


 
    4. ทำตัวเป็นกบในกะลาครอบ
         คนประเภทนี้จะคล้ายๆ กับข้อที่แล้ว แต่ต่างกันที่ว่า คนกลุ่มนี้อาจจะยังไม่เก่ง และขยันอ่านหนังสือด้วย แต่... ก็มัวแต่อ่านเล่มเดิมๆ เรียนอะไรมาก็อ่านแค่นั้น คิดว่าข้อสอบเป็นแบบนี้ก็คิดว่าจะออกแบบนี้ตลอดไป ไม่พลิกแพลง ไม่รู้จักหาความรู้รอบตัวเพิ่มเติม ไม่อ่านหนังสือเล่มอื่นนอกเหนือจากที่เราเรียน ทำให้ความรู้ที่เรามี อยู่ในวงจำกัด

         นิสัยนี้ต้องเปลี่ยน! เดี๋ยวนี้ข้อสอบมันหลากหลายรูปแบบขึ้น หวังให้เป็นโจทย์ 1 ข้อ 4 ช้อยส์อย่างเดียว 100 ข้อ แทบไม่มีแล้ว ไปดูข้อสอบระดับประเทศได้เลย อย่าง O-NET เอง โจทย์ 1 ข้อ ต้องตอบให้ถูก 2 ใน 4 ช้อยส์ก็มี พี่ ม.6 ต้องเจอข้อสอบ 5 ตัวเลือก เห็นมั้ยว่าการสอบระดับประเทศ ไม่ใช่เราเลือกข้อสอบ แต่เป็นข้อสอบเลือกเรา!! นอกจากนี้ข้อสอบระดับประเทศก็ไม่ได้ออกตามหนังสือเป๊ะๆ ต้องประยุกต์ พลิกแพลง คนที่เตรียมตัวมาแบบทื่อๆ ตรงๆ เดี้ยงทุกราย
          ดังนั้น ทบทวนของเก่ามันไม่พอ ต้องหาความรู้รอบตัวตลอดเวลา ง่ายๆ แค่เปิดทีวีดูข่าวแทนละครตอนเย็นก็เหมือนฉีดอาหารเข้าสมองแล้ว จำไว้! คนที่อยากเก่งและประสบความสำเร็จ ต้องทำตัวเป็นคนโง่อยู่ตลอดเวลา หมายถึง ต้องเป็นคนที่หิวความรู้ หาความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอ และตามกระแสโลกให้ทัน

    5. ไม่วางแผนอะไรทั้งสิ้น
            4 ข้อก็ว่าแย่แล้ว ถ้ามีข้อนี้ไปอีกข้อนี่ชีวิตเข้าขั้นน่าสงสารแล้วนะคะ คนประเภทนี้ คือ คนที่ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น พรุ่งนี้มีสอบ อาจจะรู้ตัวตอนเที่ยงคืนวันนี้ก็ได้ พูดง่ายๆ คือ สมัครสอบไปแล้วก็ปล่อยไปเลย ไม่มีวางแผนว่าจะต้องอ่านหนังสือวันไหน อ่านเรื่องอะไร ต้องทำคะแนนกี่คะแนน

           นิสัยนี้ต้องเปลี่ยน! รู้มั้ยว่าคนที่สอบติดมหาวิทยาลัย/โรงเรียนดังๆ หรือสอบชิงทุนได้ ไม่ได้ได้มาเพราะโชคช่วยหรือฟลุค เขาต้องเตรียมตัวกันมาเป็นปี เคยได้ยินมั้ยว่าเด็กบางคนอยากเป็นหมอ ก็วางแผนกันตั้งแต่ ม.ต้น เลยทีเดียวว่าจะต้องเรียนสายไหน สอบอะไรบ้าง ทำให้เขาไม่พลาดโอกาสสอบต่างๆ ซึ่งการวางแผน จะทำให้เรามองเห็นแนวทางว่าจะเดินต่อไปยังไง ถ้าทางนี้พลาด จะไปทางไหนต่อได้บ้าง ดังนั้นต่อให้แพ้การสอบครั้งที่ 1 ก็ไปลุยสอบครั้งที่ 2 ได้อย่างเต็มที่ ต่างจากคนที่ไม่วางแผน พอผิดหวังจากผลสอบก็แทบจะไปเริ่มที่ศูนย์ใหม่ คือย้อนกลับไปไกลเกินไปนะ T^T


        พี่มิ้นท์ไม่รู้หรอกค่ะว่าน้องๆ เคยสอบระดับประเทศกันมากี่งานแล้ว แต่นี่เป็นคำเตือนขั้นเบสิค ถ้าเรายังมีความกลัว ความคิดเข้าข้างตัวเองว่าเก่ง ว่ารู้เยอะแล้ว เราจะไม่มีวันพัฒนาและไปสู้เขาก็ไม่ได้ ถ้าไม่เชื่อลองไปดูความคิดของไอดอล(ด้านการเรียน) ดูสิ เขามีแต่อ่านหนังสือและขวนขวายหาโอกาสให้ตัวเองทั้งนั้นแหละ ลองเปลี่ยนนิสัยตามที่ว่านี้ รับรองว่าเราจะเดินเข้าสู่สนามสอบได้เท่สุดๆ เลย
พี่มิ้นท์
พี่มิ้นท์ - Columnist พี่สาวใจเย็น ผู้เกิดมาในแอดมิชชั่นยุคแรก แต่เข้าใจ TCAS มากกว่า

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

ไม่เอ่ยนาม 27 ม.ค. 58 14:53 น. 1
ขอบคุณสำหรับข้อความดีๆค่ะ หลังจากได้อ่านจากเว็บ Dek-d แล้ว หนูจะไปอ่านหนังสือต่อเลย เพราะว่าเมื่อก่อนหนูไปสอบที่ไหนก็ได้ลำดับที่ต้นๆไม่เคยพลาด แต่พอสนามหลังๆ คนที่เคยแพ้หนูและได้ที่หลังๆ เธอกับฮึดจนชนะ กลายเป็นว่าปัจจุบันนี้หนูแพ้เขาไปหลายสนามแล้วเช่นกัน
0
กำลังโหลด

10 ความคิดเห็น

ไม่เอ่ยนาม 27 ม.ค. 58 14:53 น. 1
ขอบคุณสำหรับข้อความดีๆค่ะ หลังจากได้อ่านจากเว็บ Dek-d แล้ว หนูจะไปอ่านหนังสือต่อเลย เพราะว่าเมื่อก่อนหนูไปสอบที่ไหนก็ได้ลำดับที่ต้นๆไม่เคยพลาด แต่พอสนามหลังๆ คนที่เคยแพ้หนูและได้ที่หลังๆ เธอกับฮึดจนชนะ กลายเป็นว่าปัจจุบันนี้หนูแพ้เขาไปหลายสนามแล้วเช่นกัน
0
กำลังโหลด
praweenaphorndon Member 28 ม.ค. 58 11:51 น. 2

ขอบคุณค่ะที่ให้คำแนะนำ เป็นคำปรึกษาที่ดีมากๆเพราะเมื่อก่อนหนูชะล่าใจกับการเรียน     เพราะคิดว่ายังไงงานหรือการบ้านก็เสร็จแต่ตอนนี้หนูได้รู้วิธีหลายๆอย่างเลย  หนูจะนำคำแนะนำนี้ไปปรับใช้จะขยันมากขึ้น ตั้งใจเรียนและไม่ชะล่าใจ เพื่ออนาคตหนูจะได้มีที่เรียนที่ดีๆบ้างขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่ดีๆนะค่ะ 

0
กำลังโหลด
Hacker 28 ม.ค. 58 14:33 น. 3
พี่มีหลายขัอที่ว่านะ แต่ตอนนี้พี่อยู่วิศวะ จุฬา- -สงสัยเรียนในห้องรู้เรื่องมั้ง555 #น้องๆอย่าเลียนแบบพี่เลย ไม่ดีๆ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
★TAYLOR Member 29 ม.ค. 58 20:27 น. 7

มันตรงกับชีวิตเราจริงๆเลย ยอมรับเลยค่ะ ต้องเริ่มที่จะเปลี่ยนแล้ว ไม่เป็นกบในกะลาครอบ 

ขอบคุณพี่ๆมากๆค่ะ เย้

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด