สวัสดีค่ะน้องๆ กลับมาเจอกับ Top 10 Education เรื่องท็อปสุดชิคที่เราอาจคิดไม่ถึงด้านการศึกษา สัปดาห์นี้พี่เมษ์ชวนน้องๆมาดูข้อดีของการเข้าห้องเรียนกันค่ะ ทำไมต้องเข้าละ เบื๊อเบื่อเนอะ แต่เชือพี่สิ มันดีจริงๆ นะ
เคยถามตัวเองมั้ยคะน้องๆ ว่า เราเข้าเรียนกันทำไม? พี่เมษ์เคยถามตัวเองนะว่าทำไมต้องมานั่งเรียนด้วยเนี่ย เรียนทางเน็ตได้มั้ย อัดวิดีโอเปิดได้รึเปล่า แล้วเรียนที่บ้านไมไ่ด้เหรอ แล้วพี่ก็เพิ่งค้นพบว่าการเข้าเรียนมันมีข้อดีกว่าที่เราคิดนะ จะมีอะไรบ้าง ตามมาเลย!!
1. ถามได้ ตอบได้
น้องลองนึกภาพว่าตัวเองเรียนที่บ้าน ผ่านหน้าจอเล็กๆ แล้วไม่เข้าใจเรื่องที่อาจารย์อัดวิดีโอสอนไว้สิ จะถามใครละทีนี้ ถึงแม้ว่าเราจะได้รับอนุญาติให้ถามทางอีเมลล์แต่กว่าจะได้รับการตอบกลับ บางทีเราก็ต้องการฟีดแบคที่ทันทีจริงมั้ย แถมการสื่อสารแบบโต้ตอบก็ทำให้เราสามารถถามให้ชัด จนเราเข้าใจแบบทะลุปรุโปร่งแน่นอนค่ะ
2. เข้าใจง่ายกว่าอ่านเอง
เรียนเองอ่านเองก็ดีหรอกค่ะ แต่ก็ไม่คอนเฟิร์มว่าเราเข้าใจถูกจริงๆ รึเปล่า แถมถ้าเข้าเรียนเนี่ยก็ทุ่นเวลาทำความเข้าใจเนื้อหาให้เราเยอะเลย เอาเวลาทำความเข้าใจใหม่ตั้งแต่แรกไปใช้ทำแบบฝึกหัดให้เนื้อหาแม่นเป๊ะกว่าเดิม ดีกว่าเห็นๆ อ่อ อีกนิดนึง การเข้าห้องเรียนเนี่ย นอกจากทุ่นเวลาอ่านหนังสือแล้ว ยังช่วยให้เราได้รู้เทคนิค วิธีลัด แบบที่หาในหนังสืออ่านไม่ได้ด้วยหละ
3. มีเพื่อนร่วมชะตากรรม เรียนคนเดียวก็จะเหงาเกินไปจริงมั้ยคะ เข้ามาห้องเรียนเถอะ มาเจอเพื่อนในห้องเรียนดีกว่าค่ะ อย่างน้อยก็มีเพื่อนร่วมชะตากรรม วัยเดียวกัน ต้องเจออะไรเหมือนๆ กัน ชวนกันเรียน ช่วยกันติว วันไหนท้อแท้ขึ้นมา หันไปข้างๆ ก็ยังมีเพื่อนที่เจออะไรมาเหมือนเรา ไม่เหงา ไม่เครียดคนเดียวเนอะ
4. ทำคะแนนนำก่อนใคร
เด็กที่เข้าห้องเรียนคุณครูก็ย่อมจำได้กว่าคนที่แว๊บไปแว๊บมาเนอะ อย่าคิดว่าไม่จำเป็นนะคะ จะบอกว่ายิ่งตอนตัดเกรด เอาคะแนนจิตพิสัยมาช่วย สมมติว่าคะแนนเราขาดไปสัก 0.5 หรือ 1 คะแนน จะบอกเลยนะ ว่าคะแนนเข้าห้องเรียนเนี่ย เปลี่ยนเกรดได้เลยนะคะ อย่าทำเป็นเล่นมองข้ามไป
5. ไม่พลาดรายละเอียดงาน/รายงาน
แหม จะให้ใครมานั่งจดรายละเอียดงาน หรือรายงานแล้วเคลียร์ทุกประเด็นที่เราสงสัยได้เท่าตัวเราเองคงไม่มีอีกแล้วนะคะ ถ้าเราเข้าเรียนแล้วคุณครูสั่งงาน หรือแจกแจงรายละเอียดงาน หรือรายงาน เราก็สามารถเคลียร์ทุกประเด็น นำไปทำรายงานก็ทำได้ถูกประเด็น เตรียมกวาดคะแนนได้เลยเพราะทำได้ถูกประเด็นที่คุณครูต้องการแน่นอน
6. ตอบได้ตรงประเด็น
ในที่นี้เน้นไปที่การสอบเลย ถ้าสมมติว่าเราเข้าเรียนเราจะรู้ว่าคุณครูเน้นตรงไหนบ่อยๆ ซึ่งตรงไหนที่เน้นเป็นพิเศษนั่นแหละค่ะที่มีแนวโน้มเข้ามาอยู่ในข้อสอบ ถ้าเข้าเรียนบ่อยๆ จับทริคคุณครูได้แน่นอนค่ะ รับรองว่าจับทางข้อสอบ อ่านหนังสือได้ตรงประเด็น
7. ได้เล่นพร้อมเรียน
ต้องบอกเลยว่าไปโรงเรียน สิ่งหนึ่งที่เราได้เจอคือเพื่อนค่ะ ฮั่นแหละ หลายคนแอบมีแฟน ก็เจอแฟนซะด้วย นี่แหละค่ะวัยเรียน ,,, ไปเรียนด้วยกัน เล่นด้วยกัน ค่อยๆ เติบโตไปด้วยกัน ไม่ได้ไปแค่เพื่อไปเรียนเท่านั้น มุมเล็กๆ ของชีวิตคือไปใช้ชีวิตกับเพื่อน จริงมั้ยคะ
8. ได้แลกเปลี่ยนสังคม
ถ้าน้องอยู่แค่ที่บ้าน คนที่น้องจะได้เจอก็มีแค่ครอบครัว ไม่มีสังคม ไม่รู้จักการปรับตัวเลยนะคะนั่น แต่การไปโรงเรียน การเข้าห้องเรียน ทำให้น้องได้เจอเพื่อนใหม่ คนที่ไม่ได้มีพื้นฐานเหมือนกันกับเรา มาจากที่มาที่ต่างกัน มีแนวคิดต่างกันก็เป็นเหมือนการจำลองสังคมข้างนอกมาให้น้องๆ ได้เรียนรู้ก่อนจะโตเป็นผู้ใหญ่ที่ต้องอยู่ร่วมกับคนอีกมากมาย เห็นมั้ยเข้าห้องเรียนนะดีนะเอ้อ!!!
9. รู้จักคน ได้คอนเนกชั่น
เพื่อนที่น่ารักและคบกันไปอีกยาวนาน มีไม่น้อยค่ะที่มาจากการเป็นเพื่อนร่วมห้อง เคยเรียนด้วยกันมาก่อน ใครจะรู้ละว่าอนาคตของเพื่อนที่นั่งในห้องเดียวกัน หรือคนที่เราให้ลอกการบ้านเนี่ยเค้าจะเติบโตไปทางไหน อาจจะได้มาช่วยเหลือกันเมื่อยามคับขันนี่แหละ พี่เมษ์ว่ามิตรภาพ ความผูกพันธ์และสิ่งที่ได้จากการนั่งเรียนด้วยกัน โตไปก็ไม่จำเป็นจะต้องตัดขาดความสัมพันธ์เลยด้วย
10. ได้สร้างแลนด์มาร์ค
พี่เมษ์เชื่อว่าห้องเรียนทุกห้องต้องมีความเป็นเอกลักษณ์ที่น้องๆ สร้างขึ้นมา อาจจะเป็นการประดับตกแต่งห้องเรียน หรือสัญลักษณ์ที่แอบทำไว้บนโต๊ะ เก้าอี้ กระดาน ฯลฯ อะไรก็ตามล้วนความทรงจำร่วมกันของวัยเรียนและเพื่อนร่วมห้อง เชื่อสิว่าน้องๆ จะคิดถึงตอนจบไปแล้ว เข้าเรียนเถอะ เพราะโอกาสที่จะเจอบรรยากาศแบบนี้มีไม่มากหรอกนะ
นี่แหละค่ะ ข้อดีของการเข้าห้องเรียนที่ให้มากกว่าสิทธิ์ในการเข้าห้องสอบ เชื่อว่าหลายคนที่เข้าห้องเรียนอยู่แล้วก็ขอให้มีความสุขกับทัศนคติดีๆ กับการเข้าห้องเรียนต่อไปนะคะ แต่ใครที่ยังงอแงไม่อยากเข้าเรียน อ่านแล้วก็น่าจะเปลี่ยนความคิดไปได้บ้างนะคะ เวลาวัยเรียนนะมีไม่เยอะหรอกนะ สร้างความทรงจำไว้เถอะ จะได้ไม่เสียดาย
นี่แหละค่ะ ข้อดีของการเข้าห้องเรียนที่ให้มากกว่าสิทธิ์ในการเข้าห้องสอบ เชื่อว่าหลายคนที่เข้าห้องเรียนอยู่แล้วก็ขอให้มีความสุขกับทัศนคติดีๆ กับการเข้าห้องเรียนต่อไปนะคะ แต่ใครที่ยังงอแงไม่อยากเข้าเรียน อ่านแล้วก็น่าจะเปลี่ยนความคิดไปได้บ้างนะคะ เวลาวัยเรียนนะมีไม่เยอะหรอกนะ สร้างความทรงจำไว้เถอะ จะได้ไม่เสียดาย
แล้วกลับมาเจอกันใหม่วันพฤหัสบดีหน้านะคะ แต่จะมีเรื่องท๊อปสุดชิคอะไรมาให้อ่านกันอีกใน Top 10 Education กับพี่เมษ์นะคะ วันนี้ไปละจ้า บ๊ายบาย
10 ความคิดเห็น
เราอ่านเองเข้าใจง่ายกว่าอ.สอนเยอะเลย อ.สอนอะไรไม่รุ มึน
ใครเคยเจอคุณครูแบบนี้บ้างตอนแรกถามว่าใช่หรือไม่
นักเรียนก็ตอบว่า 'ใช่' ตอบเบาครูก็ถามไป 3 รอบก็ดังขึ้นเรื่อยๆ
แต่ผลคือโดนคัด 75 จบแล้วคัดคนละอย่างกะที่ถาม
เพื่อนข้างห้องโดน 100 จบ
-สร้างแลนมาร์กมันมีจริงๆ นะ...
เพื่อนผู้ชายอ่ะ จบคาบมันสร้างแลนมาร์กได้เป็นสิบ...
#เกมเศรษฐี - -
ข้อ2ผมบอกเลยนะว่าเรื่องจริงตอนม.1 ม.2 ม.3 ผมนิตั้งใจจะอ่านล่วงหน้าก็อ่านไปแต่ไม่เข้าใจเลยจนครูมาสอนถึงเข้าใจ
มันก็จริงนะคะ แต่ว่าทุกวันนี้เรากลัวการเข้าสังคมไปแล้วค่ะไม่มีเพื่อน ไปโรงเรียนก็ไม่มีความสุขไม่แฮปปี้เหมือนเดิมไม่มีเรื่องที่จะพูดคุยกับเพื่อนไม่รู้จะต้องคุยกับใครจนบางทีมันทำให้บรรยากาศน่าอึดอัดไปหมด ทุกวันนี้เราต่างจากเมื่อก่อนมากค่ะเมื่อก่อนเราเป็นคนที่ไม่ได้เรียนเก่งนะคะเพียงแค่ค่อนข้างขยันซะมากกว่าทำงานส่งตรงเวลาหรือเกือบตรงเวลาเรียนก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างค่ะ แต่มันมีความสุขมากกว่านี้มากค่ะ จริงๆแล้วที่เป็นแบบนี้เพราะเราย้ายโรงเรียนค่ะขึ้นมอปลายมันทำให้เราต้องปรับตัวแต่เราก็ทำไม่ได้ เราเหนื่อยและท้อในทุกๆวันเรารู้นะคะว่าสิ่งที่เราทำมันไม่ได้ส่งผลดีทั้งตอนนี้และในอนาคตเลยเผลอๆอาจทำให้คนรอบข้างเดือดร้อนซะด้วยซ้ำ เรามีคำพูดที่อยากจะระบายมันออกมามากมายแต่ก็ไม่มีใครที่รับฟังเราได้จริงๆและเราก็ไม่ต้องการที่จะร้องขอให้ใครเข้าใจหรอกนะคะเพราะเราก็รู้ตัวเราดีว่าเราเป็นคนกระทำมันเองเราก็ต้องรับผลของมันเราเสียใจกับการกระทำของตัวเองแต่เราเลือกที่จะไม่พูดดีกว่าค่ะมันคงกลายเป็นคำแก้ตัวซะมากกว่า
ปล.เราแค่จะมาแชร์ประสบการณ์เรียนและไปโรงเรียนเท่านั้นแต่มันกลับกลายเป็นการระบายความในใจซะงั้นไป