สวัสดีค่าน้องๆ ชาว Dek-D.com วันนี้พี่มิ้นท์มีเทคนิคที่ดูเหมือนจะไม่เป็นเทคนิคเท่าไหร่ เพราะบางคนอาจจะทำเป็นกิจวัตรประจำวันอยู่แล้ว แต่ที่นำมาฝากกันเพื่อให้เห็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดี ให้น้องๆ ทำต่อไป ส่วนใครที่ไม่เคยทำก็ลองนำไปปฏิบัติกันดูค่ะ

         วิธีพัฒนาความจำมีหลายวิธีค่ะ แต่ที่เลือกมาวันนี้ เป็นวิธีง่ายๆ ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก และเป็นวิธีที่น้องๆ เคยทำหรือทำเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ไม่รู้มาก่อนว่ามันช่วยพัฒนาความจำของเราได้! น่าสนใจแล้วใช่มั้ยเอ่ย งั้นตามไปดูกันเลยค่ะ
    

 

    1. เดินก่อนสอบ
         เคยเห็นคนเดินไปเดินมาแล้วพูดคนเดียวหน้าห้องสอบจนเรารู้สึกว่าจะเดินทำไม? กันบ้างหรือเปล่าคะ พฤติกรรมแบบนี้เชื่อว่าหลายคนก็เป็นเสียเอง เพราะรู้สึกว่าถ้านั่งเฉยๆ จะคิดไม่ออก ไม่น่าเชื่อว่า การเดินมันดีจริงๆ ค่ะ การเดินก่อนช่วงสอบได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถเพิ่มหน่วยความจำและเพิ่มพลังสมองของเราได้ แต่ในที่นี้ก็ไม่ได้หมายความว่าให้เดินสวนสนามกันหน้าห้องสอบนะ แต่อยากให้ลองเดินเล่นพักผ่อนในสถานที่อื่นๆ ก่อนเข้าห้องสอบค่ะ
         ที่มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายเบาๆ 20 นาที อย่างเช่น การเดิน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้สมองของเราจริงๆ

 


 
   2. อ่านออกเสียงให้ดัง
         วิธีนี้อาจจะดูเหมือนคนบ้าไปหน่อย แต่ถ้าได้ผลดีกว่าก็น่าลองไม่ใช่เล่นนะคะ การอ่านเสียงดังหรืออ่านออกเสียง ทำให้น้องๆ ได้รับสารจากประสาทสัมผัสทั้งทางตาและทางหู แต่การอ่านแบบปกติ จะรับสารได้แค่ทางดูเท่านั้น ซึ่งการอ่านออกเสียงทำให้เราจำสิ่งที่ได้อ่านมากขึ้น เหมือนเป็นการทบทวนไปในตัวค่ะ วิธีนี้ขอแนะนำให้ทำที่บ้านหรือที่ปลอดคนค่ะ และที่ห้ามคือห้องสมุด ไม่งั้นจะกลายเป็นคนไม่มีมารยาทไปทันที

     3. ทฤษฎีการให้รางวัล
        การให้รางวัลเมื่อทำสำเร็จเป็นเคล็ดลับที่นำมาใช้ในหลายวงการมาก อย่างน้องๆ ก็คงเคยได้ของขวัญจากคุณพ่อคุณแม่ ตอนได้เกรด 4 หรือสอบได้อันดับดีๆ ทำให้เราอยากทำสิ่งนั้นอีก
        สำหรับการเพิ่มความจำ การให้รางวัลก็หยิบมาประยุกต์ได้เหมือนกัน ยกตัวอย่าง เช่น ต้องการอ่านและทบทวนบทเรียนหนึ่งบท ให้เอาขนมมาวางไว้ทุกย่อหน้าเลย อ่านหนึ่งย่อหน้าจบแบบเข้าใจก็กินขนมเป็นรางวัล เป็นต้น น้องๆ ลองเอาไปประยุกต์ได้นะ


 

    4. อย่าเป็นแค่ผู้เรียน ให้เป็นผู้สอนด้วย
         หนทางที่ดีที่สุดถ้าคุณเข้าใจบทเรียนจริงๆ ก็คือ การสอนคนอื่น เพราะจะสอนคนอื่นได้ นอกจากจะต้องอ่านมาแล้ว ยังต้องเข้าใจเรื่องนั้นๆ แบบสุดติ่งกระดิ่งแมว ไม่อย่างนั้นจะไม่มีอะไรมาสอนเขาเลย การสอนก็จะยิ่งย้ำความจำให้ฝังแน่นมากขึ้นด้วย ในขั้นเริ่มต้น ถ้าไม่มีเหยื่อ เอ้ย! เพื่อนมาให้เราสอน หรือ ยังไม่มั่นใจว่าเราจะสอนคนอื่นได้ หาตุ๊กตามาแทนก็ได้ค่ะ (อันนี้พูดจริงๆ นะเออ)

    5. เชื่อมโยงต้องทำให้เป็น    
         ความจำกับการเชื่อมโยงเป็นของคู่กัน ถ้าสามารถเชื่อมโยงสิ่งที่เรียนเข้าหากันได้จะเป็นประโยชน์ต่อข้อมูลชุดเก่าๆ ที่เคยเรียนมา เพราะเราจะจำข้อมูลแบบกลุ่ม เชื่อมโยงตั้งแต่ต้นจนจบ มีสิ่งนี้ก็จะมีสิ่งนี้ต่อเป็นเส้นสายความทรงจำ อย่างเช่น วิชาประวัติศาสตร์ ถ้าจำแบบเชื่อมโยง จะเป็นวิชาที่เรียนสนุกมาก และต่อยอดเนื้อหาใหม่ได้ไว ดีกว่าจำแยกเป็นชิ้นๆ พอเริ่มเรื่องใหม่ ก็ไม่สามารถต่อยอดความรู้เดิมได้
         สตีฟจ๊อบ ผู้นำด้านเทคโนโลยี ยังเคยบอกไว้ว่า "ความคิดสร้างสรรค์ก็เป็นแค่การเชื่อมสิ่งต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน ถ้าถามคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ว่าสร้างผลงานออกมาได้ยังไง พวกเขาก็จะรู้สึกผิดนิดนึง เพราะพวกเขาไม่ได้ทำอะไรจริงๆ จังๆ เลย พวกเขาแค่มองเห็นบางอย่าง"
         แล้วการเชื่อมโยงทำยังไง? ไม่ต้องพูดอะไรมากค่ะ Mind Maps คือคำตอบ มายแม็พหรือแผนผังความคิด เป็นการเอาไอเดียความรู้ต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้เราเชื่อมโยงชุดข้อมูลทั้งหมดได้ในเวลาอันรวดเร็ว


 

     6. วาดเป็นรูปซะเลยสิ
         การวาดภาพประกอบจะช่วยให้น้องๆ เข้าใจเนื้อหาในส่วนที่ยากที่จะอธิบาย ก่อนสอบก็หยิบภาพขึ้นมาดู จะช่วยให้จำได้ดีกว่าท่องตัวอักษร เพราะการมองเป็นภาพจะจดจำรายละเอียดได้มากกว่า และทบทวนความจำได้ง่ายกว่าด้วย ยกตัวอย่าง (แบบนอกเรื่องสักนิด) เวลาเราทะเลาะกับเพื่อน พอจะย้อนความจำกลับไป เราจะนึกภาพสถานการณ์ออกก่อนคำพูดเสมอ!
          การวาดภาพประกอบนำไปประยุกต์ใช้ได้หลายวิชานะ เช่น วิชาชีววิทยา วิชานี้ท่องเยอะมาก วาดรูปเข้าไปเลย หรือ พวกวิชาภาษาอังกฤษที่ต้องจำคำศัพท์คล้ายๆ กัน เช่น สับสนว่า Glass, Cup, Mug มันต่างกันยังไง  ก็วาดรูปประกอบดีกว่านั่งท่องว่าแก้วแต่ละแบบเป็นยังไง ถึงคราวที่ต้องดึงข้อมูลกลับก็จำเป็นรูปได้เลย


 

 

     7. ทำ Flashcard
          Flashcard หรือ บัตรคำศัพท์ เป็นวิธีลัดในการจดจำคล้ายๆ กับการวาดภาพ เพราะเป็นหลักการใช้ภาพในการจำ แต่แฟลชการ์ดจะใช้ได้หลากหลายกว่า  1 ภาพ สามารถออกแบบใช้แทนทั้งคำศัพท์ คอนเซปท์ คำอธิบายเฉพาะ หรือคำพูดคนสำคัญก็ได้ การทำแฟลชการ์ดเป็นนิยมมากสำหรับการเรียนภาษาต่างประเทศ เพราะพกพาไปได้ทุกที่ หยิบทบทวนได้สะดวก และก็จำได้ดีกว่าวิธีอื่นๆ
          วิธีการทำก็ไม่มีอะไรมาก แค่หารูปที่สื่อถึงคำศัพท์หรือประโยคที่ต้องการ แล้วปริ้นออกมาใส่กระดาษแข็ง การ์ดแต่ละใบอย่าทำให้มีขนาดใหญ่มาก จะไม่สะดวกต่อการพกพาค่ะ


 

     8. อ่านเรื่อยๆ ทุกวัน
          การอ่านอาทิตย์ละ 1-2 วัน แต่วันละหลายๆ ชั่วโมง ได้ผลไม่ดีเท่ากับอ่านวันละนิดแต่อ่านทุกวันนะคะ เพราะการอ่านหนังสือทุกวันจะทำให้การอ่านของเราสมูธมากขึ้น พูดง่ายๆ คือ อ่านแล้วมันต่อเนื่องนั่นเอง ต่างจากอ่านวันนี้ แล้วกางหนังสืออีกทีอาทิตย์หน้า เชื่อเหอะ ร้อยทั้งร้อย ลืมหมดว่าอ่านอะไรมาแล้วบ้าง ต้องมาเสียเวลาอ่านทบทวนของเก่าอีกครั้ง
          ถ้าบางวันคิวแน่นจนรู้สึกว่าหาเวลาอ่านไม่ได้จริงๆ ก็ต้องหาเวลาอ่านให้ได้ค่ะ (แหม่ คิดว่าจะอนุโลมไม่ต้องอ่านสินะ) ด้วยวิธีการลดเวลาทำกิจกรรมอย่างอื่น เพื่อให้มีเวลาอ่านมากขึ้น เช่น อาบน้ำ 20 นาที ทำการบ้าน 30 นาที ดูละคร 20 นาที ก็ลองปรับเวลาให้อาบน้ำเร็วขึ้น ดูละครลดน้อยลง เป็นต้น
    
   
  9. สร้างนิสัยอ่านให้เป็นที่
         ความจริงแล้ว ขอแค่มีสมาธิ ก็ง่ายต่อการจำอย่างมีประสิทธิภาพแล้วค่ะ แต่ปัญหาอยู่ตรงที่สมาธินี่แหละ เพราะบางครั้งเราก็ไม่สามารถมีสมาธิได้ทุกที่ ทุกเวลา พี่มิ้นท์จึงขอแนะนำให้น้องๆ ฝึกนิสัยอ่านให้เป็นที่ เลือกที่ให้เหมาะกับตัวเองที่สุด สัก 1-2 ที่ค่ะ เช่น ถ้าในบ้าน จะอ่านในห้องนอนมุมไหน หรือ อ่านสวนหลังบ้าน อะไรก็ได้ แต่ขอให้เป็นที่ที่เราพักอ่านได้จริงๆ เมื่อได้อยู่ในสถานที่ที่คุ้นเคย จิตใจเราก็จะไม่วอกแวก สมาธิก็จะบังเกิดเอง
       ทริคเล็กๆ สำหรับการเลือกสถานที่ ก็ควรจะเป็นสถานที่ที่เงียบ สะดวกสบาย และก็ต้องมั่นใจว่าอยู่แล้วมีความสุขและแรงบันดาลใจด้วยนะ
    
        อย่างที่บอกแต่แรกว่า เคล็ดลับในการเพิ่มประสิทธิภาพความจำมีเป็นร้อยทริค แต่ 9 ทริคนี้ทำได้ง่ายๆ ถ้าทำได้ทุกวัน สมองของน้องๆ จะแข็งแกร่ง อ่านอะไรก็จำได้ อยากจำอะไรก็เข้าหัว แล้วจะมีความสุขกับการเรียนมากขึ้นจ้า
        ชาว Dek-D คนไหนมีวิธีอื่นนอกเหนือจากนี้ที่ไม่เกินความสามารถของเพื่อนๆ มาแชร์กันได้นะคะ ถ้าเด็ดจริงอะไรจริง พี่มิ้นท์จะขอยืมไปใช้ด้วย^^

 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
www.examtime.com/blog/study-hacks/,
http://blog.iqmatrix.com/overcome-self-sabotage,
http://tinytownbooksandtoys.com/vintage-flash-cards.php
พี่มิ้นท์
พี่มิ้นท์ - Columnist พี่สาวใจเย็น ผู้เกิดมาในแอดมิชชั่นยุคแรก แต่เข้าใจ TCAS มากกว่า

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
กำลังโหลด
RD Nop Member 17 ก.พ. 58 11:33 น. 1

วิธีที่ 4. นี่จำแม่นจริงๆ แต่จำได้ไม่นานมากเพราะเครียดเกิน 

แต่ชอบวิธีที่ 2 กับ 6 ออกเสียงดังๆ กับ วาดรูป มากที่สุดเพราะเหมือนได้เป็นการคลายเครียดในการจำ

0
กำลังโหลด

21 ความคิดเห็น

RD Nop Member 17 ก.พ. 58 11:33 น. 1

วิธีที่ 4. นี่จำแม่นจริงๆ แต่จำได้ไม่นานมากเพราะเครียดเกิน 

แต่ชอบวิธีที่ 2 กับ 6 ออกเสียงดังๆ กับ วาดรูป มากที่สุดเพราะเหมือนได้เป็นการคลายเครียดในการจำ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
icekamonchanok Member 18 ก.พ. 58 20:20 น. 4

เป็นวิธีการเพิ่มความจำที่ดีจริงๆค่ะเราสามาถทำได้ด้วยตัวเองเป็นวิธีที่เหมาะกับการปฏิบัติเวลาสั้นๆสามารถทำได้ก่อนเข้าห้องสอบและสามารถที่จะทำได้เป็นประจำด้วยค่ะ...

0
กำลังโหลด
icekamonchanok Member 18 ก.พ. 58 20:21 น. 5

เป็นวิธีการเพิ่มความจำที่ดีจริงๆค่ะเราสามาถทำได้ด้วยตัวเองเป็นวิธีที่เหมาะกับการปฏิบัติเวลาสั้นๆสามารถทำได้ก่อนเข้าห้องสอบและสามารถที่จะทำได้เป็นประจำด้วยค่ะ...

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Windiiz7 Member 27 ก.พ. 58 23:24 น. 8

การเดินกับอ่านออกเสียงช่วยจริงๆค่ะ คอนเฟิร์มเลย

ล่าสุดสอบเคมี คืนก่อนสอบเป็นไข้ไม่ได้อ่านเลย

ช่วงเช้าทำธนาคาร รร. มาอ่านเอาก่อนสอบ 1 ชม. 555

เดินบ่นๆเหมือนคนบ้า สรุปว่าผ่านค่าาา ><bbb

0
กำลังโหลด
just on Member 3 มี.ค. 58 19:01 น. 9

มันก็แล้วแต่ความถนัดด้วยอ่ะ จริงๆ ที่จะมีแบ่งเป็นถนัดการเรียนรู้ด้วยเสียง,ภาพ,การสัมผัส

อย่างเช่น เราถนัดด้วยเสียง อ่านออกเสียงดังๆอันนี้ใช้ได้ผลจริงๆ จะจำเสียงอ่านของตัวเองแล้วไปนั่งนึกในห้องสอบ 5555555 หรือไม่ก็เวลามีคนมาอ่านหนังสือให้ฟังก็จะจำเนื้อหาของหนังสือได้มากกว่าอ่านเอง 

แต่ถ้าเป็นถนัดด้วยการสัมผัส ก็นั่นแหละเดินไปเดินมา ถ้าด้วยภาพก็ทำflash card หรือวาดรูปประมาณนี้ '^'

0
กำลังโหลด
DL.deela Member 9 มี.ค. 58 18:00 น. 10

การหลับก้อช่วยได้น่ะ หลับในที่นี้หมายถึงยังมีสมาธิอยู่ท่องไปด้วยหลับตาไปด้วยช่วยให้จำดีขึ้นเยอะเลยแต่เน้นน่ะว่ามีสมาธิไม่ใช่เพลอหลับแบบนี้ตอนสอมเหนือยกว่าเดิมอีกก!!หลับดีกว่า

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
sola 15 มี.ค. 58 15:32 น. 13
บางวิธีน่ะค่ะทำเป็นประจำอยู่แล้วค่ะ เช่น สอนเพื่อน อ่านออกเสียงดังๆค่ะ เพิ่งรู้ว่ามัน่วยให้จำง่ายขึ้นอ่ะค่ะ ยิ้ม
0
กำลังโหลด
Irregular's miNd Member 24 มี.ค. 58 18:01 น. 14

ข้อ8และข้อ9นี่ทำมาตั้งแต่เด็กเลยค่ะ ยอมรับว่าช่วยพัฒนาจริงๆแล้วมันทำให้แม่นภาษาไทยมากเลยด้วย

0
กำลังโหลด
น้อย 24 มี.ค. 58 20:26 น. 15
จะพยายามจ้าแน่นอน หัดเรียนภาษาอังกฤษ ยังไม่ถึงไหนเลย จำศัพท์ไม่ค่อยได้ การอ่าน สระ ยิ่งฟังไม่รู้เรื่อง ประโยคต่างๆ ยังไม่ค่อยได้ ยังเรียนรู้อีดเยอะค่ะ เรียนรู้จากในเน๊ต..ช่วยแนะนำด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
0
กำลังโหลด
SuperHero'ซออู้ Member 25 มี.ค. 58 13:16 น. 16

4 5 6 ทำประจำ บอกเลยได้ผลดีมาก จำได้ดีและจำได้นานด้วย มีประโยชน์สุดๆ อ่านไปสนุกกับมันไป ไม่เครียด แถมความรู้เต็มหัว เยี่ยม

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Nongnam Member 9 เม.ย. 58 15:33 น. 19

วิธีที่ 9 คงใช้กับบ้านเรายาก เพราะอยู่ในเมืองไม่มีสวนหลังบ้าน หรือที่ที่สงบเลย #มีคนอยู่ในบ้านตลอด รถก้เสียงดัง นอนทีนี่สะดุ้งเลย

0
กำลังโหลด
หมิวhhh 9 เม.ย. 58 15:45 น. 20
ที่บอกให้สอนเพื่อน555555 เมื่อก่อนตอนประถม ที่บ้านมีกระดานไวท์บอร์ด .เลยเล่นเป็นครูแต่ไม่มีนักเรียรวิธีนี้ได้ผลนะคะ55555 ,อาจจะดูบ้าไปนิดนึงงง. #ตอนนี้กำลังขึ้นม4 .ก็ยังทำ555
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด