10 เรื่องในมหา'ลัย ที่เด็กมัธยมฯ เข้าใจผิด

            สวัสดีค่ะน้องชาว Dek - D เจอกับพี่เมษ์และคอลัมน์ Top 10 Education เรื่องท็อปสุดชิคที่เราอาจคิดไม่ถึงด้านการศึกษา วันนี้เรามาคุยกันเรื่องที่น้องๆ มักจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย! ลบความเข้าใจ แล้วก็มาทำความเข้าใจใหม่ดีกว่าค่ะ ตอนนี้น่าจะพร้อมแล้ว งั้นมาดูเลย!

1. เวลาว่างเยอะ

เด็กมัธยมฯ เข้าใจว่า ... 

เด็กมหา'ลัย บอกเลยว่า ....

            เรียนมัธยมไม่มีเวลาว่างเลย ว่างแค่ตอนพักเที่ยงกับหลังเลิกเรียนนิดหน่อย เพราะส่วนใหญ่ก็มีเรียนพิเศษต่อใช่มั้ยละ เรียนทั้งวัน ไม่ว่างเลย แต่เรียนมหาวิทยาลัย เวลาว่างเพียบ ชิวจะตาย เรียนเช้าบ้าง บ่ายบ้าง สบายสุดๆ เวลาว่างเยอะ                                                                                                                    

            น้องๆ รู้มั้ยว่าเวลาว่างที่เว้นเอาไว้ มันคือพื้นที่ทำรายงานและอ่านหนังสือล้วนๆ เลย ซึ่งการแบ่งเวลาจะอยู่ใน ประมวลรายวิชา(Course Syllabus)นั่นแหละ เค้าจะบอกเลยว่าต้องอ่านหนังสืออะไรบ้าง มีงานอะไรบ้าง มีหนังสืออะไรบ้างที่ต้องอ่านมาก่อน ฯลฯ พี่ๆ เค้าอยากจะบอกน้องจะตายว่า เห็นเงียบๆ งานเพียบนะจ๊ะ!!!


2. ตื่นสายได้

เด็กมัธยมฯ เข้าใจว่า ... 

เด็กมหา'ลัย บอกเลยว่า ....

            ตั้งแต่เล็กจนโตเราไปโรงเรียนกันตั้งแต่เช้า บางคนออกจากบ้านตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเลย แต่ถ้าเข้ามหาวิทยาลัย เราจะต้องตื่นสายได้แน่ๆ ได้นอนเต็มอิ่ม แถมวิชาเรียนน้อยจะตาย                                                                                                                                                                                                     

            ความจริงแล้วที่พี่ๆ มีเรียนบ่าย ต้องย้อนกลับไปถามค่ะว่า ได้นอนกันกี่โมง บางทีงานเยอะมากไม่ได้หลับไม่ได้นอน เป็นซอมบี้ไปเรียนก็บ่อยเพราะต้องปั่นงานอย่างหนัก แถมน้องๆ ก็ต้องรู้ไว้ด้วยว่าเรียนเช้าพี่ก็มีเช่นกัน แถมเข้าเรียนทีนึง คลาสยาวๆ 2-3 ชม. เข้าเรียน 8 โมงเช้า ออกจากคลาสอีกทีเที่ยง!! โอ้โห ไม่ได้พักระหว่างคาบเลยนะ T^T


3. ไม่มีหนังสือเรียน

เด็กมัธยมฯ เข้าใจว่า ... 

เด็กมหา'ลัย บอกเลยว่า ....

            เรียนมัธยมไปโรงเรียน แบกหนังสือหนักมาก อย่างกะแบกบ้าน ทั้งหนังสือ สมุด ชีท แฟ้ม ฯลฯ ยังไม่รวมอุปกรณ์การเรียน รอเข้ามหาวิทยาลัยก่อน จะชิวๆ สะพายกระเป๋าชิคๆ ไปเรียนเลยคอยดู๊!!!                                                                                                                                                                                                                                                                                                         

            หยุดก่อนน้องๆ การไม่มีหนังสือไม่ใช่เรื่องดี เพราะนั่นหมายถึงการไปค้นหนังสือในห้องสมุดตามที่อาจารย์สั่ง ซึ่งหนังสือมีน้อย แล้วเราก็มักจะไปไม่ทันเพราะเด็กเนิร์ดจะคว้าไปก่อนแล้ว - -“ ปัญหาที่ตามมาคืองานถ่ายเอกสารต้องมา เป็นการจ่ายเงินไปอีก ยังไม่พอเพียงแค่นั้น นอกจากไม่มีหนังสือเรียนแล้ว ยังไม่มีหนังสือเรียนที่เขียนเป็นภาษาไทยด้วย แถมยังมีชีทให้อ่านเป็นตั้งๆ น้องๆ ขา หนังสือเรียยนะ อ่านง่ายที่สุดแล้ว


4. ไม่ต้องเข้าเรียนก็ได้

เด็กมัธยมฯ เข้าใจว่า ... 

เด็กมหา'ลัย บอกเลยว่า ....

            ตอนเรียนมัธยมฯ ต้องเข้าเรียนทุกคาบ โดดเมื่อไหร่โดนเช็คชื่อเรียกผู้ปกครองตลอด ถ้าเข้ามหาวิทยาลัยเมื่อไหร่ เราจะเข้าเรียนก็ได้ไม่เรียนก็ได้ จะนอนให้สบายใจไปเลย!!                                                                                                                                                                                                                                                                                               

            ไม่ใชแค่เด็กมัธยมฯ หรอกค่ะที่ต้องเข้าเรียน พี่เองก็เหมือนกัน อาจจะน่ากลัวกว่าด้วย เพราะน้องๆ ถ้าขาดเรียนไปบ้าง คุณครูยังใจดีคอยตาม และให้โอกาสเรื่องเวลาเรียน แต่พี่ๆ ไม่มีใครคอยตาม ไม่มีคนคอยเตือน แถมเข้าเรียนไม่ครบก็ไม่มีการปราณี ตัดสิทธิ์สอบไปเลยหรือไม่ก็ลดเกรดทันที เรียนมหาวิทยาลัยก็ต้องเข้าเรียนเหมือนกันนะ ไม่ได้สบายกว่าตอนเรียนมัธยมฯ หรอก


5. ได้แต่งหน้าแต่งตัวสวยๆ หล่อๆ ไปเรียน

เด็กมัธยมฯ เข้าใจว่า ... 

เด็กมหา'ลัย บอกเลยว่า ....

            ตอนเรียนมัธยมฯ แค่ตัดผมผิดระเบียบยังโดนทำโทษเลย อยากจะทำสีผม แต่งหน้า เสริมหล่อ ทำตัวให้สวยบ้างก็ยากจัง งั้นไว้ทำตอนอยู่มหาวิทยาลัยดีกว่า จะหล่อ สวย ทำสีผม แต่งตัว ใส่เครื่องประดับเท่าไหร่ก็ได้ คอยดูสิ                                                                                                                                                                                                                                      

            ก็จริงอยู่ที่พี่ๆ สามารถใส่เครื่องประดับ ทำผม แต่งหน้า เซ็ทผม เสริมหล่อ ทำตัวสวยๆ ยังไงก็ได้ แต่โลกจริงๆ ไม่ได้เป็นแบบนั้น ถึงจะมีสิทธิในการทำอะไรก็ได้ตามต้องการ แต่เวลามันไม่ได้เอื้อให้พี่ๆ มาแต่งหน้า แต่งตัว เซ็ทผมหล่อสวยไปเรียนตลอดหรอกนะ เพราะบางวันแค่ตื่นไปเรียนให้ทันก็ยากแล้ว โลกจริงๆ ก็แต่งชุดนิสิต นักศึกษา ไปเรียน หน้าเน่อ ผมเผิมก็ไม่ต่างจาก ม.ปลาย เท่าไหร่หรอก 5555


6. การบ้าน / รายงาน น้อยมาก

เด็กมัธยมฯ เข้าใจว่า ... 

เด็กมหา'ลัย บอกเลยว่า ....

            เรียนมัธยมฯ รายงานเยอะมาก มีทุกวิชา วิชาละหลายๆ เล่ม ต้องทำรายงานหนักมาก ไหนจะมีการบ้านอีก กองเป็นภูเขาเลย อยากจะเรียนมหาวิทยาลัยไวๆ การบ้านน้อย รายงานน้อยมากกว่านี้เยอะ                                                                                                                                                                               

          การบ้านอาจจะน้อย รายงานน้อย แต่แต่ละชิ้นนี่ อื้มมม คะแนนเยอะมาก ใช้เวลาทำนาน ค้นคว้านาน ไม่สามารถเสิร์ชๆ แล้วส่งได้เลย ชีวิตจริงเด็กมหาวิทยาลัยหนักกว่าที่น้องคิดเยอะ ไหนจะมีงานที่ Assign มาอีกล่ะ หนังสือที่ต้องอ่านมาก่อนไมงั้นก็มาคุย มาถกกันในห้องไม่ได้ จุดนี้งานน้อย แต่ต่อยหนัก พลาดแล้วพลาดเลยนะ


7. หาแฟนได้แน่

เด็กมัธยมฯ เข้าใจว่า ... 

เด็กมหา'ลัย บอกเลยว่า ....

            เป็นเด็กมัธยมฯ มีแฟนเนี่ยยากมาก พ่อแม่ก็ไม่ปลื้ม คุณครูก็จับจ้อง เพื่อนก็ล้อ ไหนจะปัญหาจากตัวเองที่ยังไม่สวย ไม่หล่ออีกล่ะ เห้อออ ฝากความหวังไว้ที่มหาวิทยาลัยละกัน เราจะได้เจอเพื่อนใหม่ หนุ่มหล่อ สาวสวยเพียบ คราวนี้แหละ เราต้องมีแฟนแน่ๆ                   

            อธิบายตรงนี้เลยนะคะ ว่าไม่ใช่เราจะหาแฟนได้ง่ายๆ ในมหาวิทยาลัย เพราะปัจจุบัน บอกตรงๆ โสดมาตั้งแต่เข้าเรียนยันจบเรียนจบก็เยอะค่ะ ไม่สามารถการันตีได้ว่าเราจะได้เจอเนื้อคู่เสมอไป ทำใจไว้ประมาณนึง ถ้าเจอก็ชวนกันไปในทางที่ดี ถ้าไม่เจอ ก็ตั้งใจเรียน แค่นั้นเองเนอะ


8. อาจารย์ต้องเก่งกว่าแน่ๆ

เด็กมัธยมฯ เข้าใจว่า ... 

เด็กมหา'ลัย บอกเลยว่า ....

            เบื่อจังเลยเนอะ ตอนเรียนก็ซ้ำกับที่เรียนพิเศษ ที่เรียนพิเศษก็สอนซ้ำกับในห้องเรียน ซ้ำไปซ้ำมา บางเรื่องก็รู้อยู่แล้ว รอเข้ามหาวิทยาลัยก่อนเถอะ เราคงได้เจออาจารย์ที่เก่งและก็สอนเราในเรื่องที่เราอยากเรียนแน่ๆ                                                                                                                                                                                                   

            อาจารย์ทุกท่านเก่งหมดแหละ ไม่ว่าจะสอนน้องมาในระดับชั้นไหน สำหรับในรั้วมหาวิทยาลัย ท่านก็เก่งแบบมหาวิทยาลัย สอนแบบตั้งคำถามให้น้องไปหาคำตอบ แต่คุณครูช่วงมัธยมฯ จะดูแลน้องแบบป้อนความรู้ให้น้องๆ ถึงที่ ไม่ต้องคิดต่อ ก็เรียกว่าสอนกันคนละแบบกันเนอะ,,, ไม่มีหรอกคุณครูหรืออาจารย์ที่ไม่เก่ง ไม่งั้นเค้าก็คงทำหน้าที่ให้ความรู้น้องไม่ได้จริงมั้ย


9. สนุกกับกิจกรรม

เด็กมัธยมฯ เข้าใจว่า ... 

เด็กมหา'ลัย บอกเลยว่า ....

            เรียนมัธยมฯ กิจกรรมใหญ่สุดก็พวกกีฬาสี กีฬาจังหวัด หรือกิจกรรมการแข่งขัน ไม่ได้มีกิจกรรมอะไรเยอะขนาดนั้นถ้าเข้าไปเรียนมหาวิทยาลัยเราคงได้ทำกิจกรรม ทั้งกิจกรรมในคณะ กิจกรรมข้ามคณะ กิจกรรมในมหาวิทยาลัย กิจกรรมต่างมหาวิทลัย แค่คิดก็สนุกแล้ว                                                

            อันที่จริงแล้ว กิจกรรมที่ให้ทำเยอะมากสำหรับช่วงมหาวิทยาลัย แต่ก็ต้องทำแค่พอดีๆ ถ้ามากไปก็เบียดบังเวลาเรียน แต่ถ้าน้อยไปก็เสียดายช่วงเวลาที่จะได้รู้จักคนใหม่ๆ อีกอย่างบางกิจกรรมก็เป็นกิจกรรมบังคับที่ถ้าไม่ทำก็จะไม่ผ่านการประเมินตามหลักสูตร ต้องระวังให้มาก อย่าสนุกมากเกินไปละกัน


10. เข้าได้ก็จบได้

เด็กมัธยมฯ เข้าใจว่า ... 

เด็กมหา'ลัย บอกเลยว่า ....

            กว่าจะสอบเข้าไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยได้มันก็ยากเย็นมากพอแล้ว เข้าได้ก็ต้องจบแน่นอน เพราะมันคงไม่น่าจะยากไปกว่าการสอบแอดมิชชั่นเข้าไปแน่นอน                                                                                                                                                                                         

            เปลี่ยนความคิดเลย!! การแอดมิชชั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นความยากของการเรียนในระดับมหาวิทยาลัย เพราะเรียนจริงๆ หนักกว่าสอบเข้ามาก!! ไม่ใช่ว่าเข้ามาแล้วจะเรียนจบแน่ๆ ไม่ว่าจะ ม.รัฐบาล หรือ ม.เอกชน ถ้าอยากเรียนจบ ต้องขยัน ตั้งใจ และใส่ใจเรียนให้มากกว่าตอนมัธยมฯ


            นี่แหละค่ะ เรื่องราวที่เด็กมัธยมฯ มักจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย น่าจะทำให้น้องๆ เข้าใจการเรียนในมหาวิทยาลัยมากขึ้นนะคะ แต่ถ้าใครอยากรู้จักแบบเจาะลึก พี่เมษ์แนะนำให้เข้าไปชมรายการ “เด็กมาหาไร” รับรอง เจาะลึก ทีละคณะแน่นอน!!! 

            ส่วนสัปดาห์หน้าจะมีเรื่องราวอะไรมาให้ดูกัน ต้องลุ้นต่อไปนะคะ แล้วกลับมาเจอกันใหม่ได้ในวันพฤหัสบดีหน้า วันนี้ไปก่อนนะคะ บ๊ายยยยย

พี่เมษ์
พี่เมษ์ - Columnist คอลัมนิสต์ฝ่ายการศึกษา

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

PechZhezaClup Member 9 เม.ย. 58 19:37 น. 4

ถ้าเรียนมหาลัย เรียนหนักขนาดนี่นะ แล้วจะจบแบบรู้เรื่องหราคับ เวลานอนก็ไม่มี คือถ้าเป็นแบบนี้ เด็กยิ่งโง่นะผมว่า เพราะไม่มีเวลาพักผ่อน แล้วจะเอาสมองของเราไปจำเวลาอาจาร์ยสอนได้อย่างไรร   หนังใจ จะขึ้นปี 1 แหละ TTเสียใจเสียใจ

9
Dream's zenith Member 10 เม.ย. 58 12:42 น. 4-1
ก็จริงนะครับ แต่พอน้องมาเรียนมหาลัยน้องจะรู้ด้วยตัวเองครับนอนน้อย นอนดึก มันมีลิมิตของมันครับพี่เรียนวิดวะสีชมพูเพื่อนๆพี่ขยันๆทั้งนั้นอ่านหนังสิอถึงตี2ก็เยอะ ถามว่าเรียนรู้เรื่องไหมก็รู้นะแต่บางทีก็ต้องเลือกว่านอนดึกโดดเช้า หรือจะนอนดึกแต่ไปเรียน มหาลัยไม่มีใครบังคับเลยครับคุณจะเรียนไม่เรียนเรื่องของคุณทำข้อสอบให้ได้ละกัน ชีวิตมหาลัยไม่ได้สบายอย่างที่คิดขออยกประโยคสุดคลาสสิคจากพี่ๆมหาลัยละกันครับ "เข้ามาเดี๋ยวรู้เลย" ฝากไว้แค่นี้สู้ๆครับเยี่ยม
0
กำลังโหลด
ซามูไรแมว Member 10 เม.ย. 58 02:37 น. 8

แล้วแต่คณะครับ คณะผมค่อนข้างชิล มหาวิทยาลัยเรียนสบายกว่ามัธยม แต่หนักตอนทำรายงาน และหนักอีกทีตอนอ่านหนังสือสอบเพราะเป็นข้อสอบเขียนหมดเลย ต้องอ่านหนังสือโต้รุ่งบ่อย ๆ ชีวิตการเรียนอิสระ แต่ต้องรับผิดชอบและมีวินัยกับตัวเองเพราะอาจารย์ไม่ทวงงานเหมือนสมัยมัธยม ถ้าไม่ส่งก็อดคะแนนไปตามระเบียบ ดังนั้น เด็ก ๆ อย่าเพิ่งกลัวการเรียนมหาวิทยาลัยนะ ไม่มีอะไรหนักเกินคนจะสู้หรอก อุตส่าห์สอบเข้าไปเรียนได้แล้ว ก็ต้องจบออกมาได้สิ เนอะ เยี่ยม

7
กำลังโหลด
Butterfly~* Member 10 เม.ย. 58 12:12 น. 9

พี่จบปีนี้ และมองว่าบางข้อก็เกินจริงไป (แล้วแต่บางคณะ) พูดแบบนี้น้องๆที่กำลังจะเข้าปี1ก็หมดกำลังใจแย่เลย เอาเป็นว่าต้องรู้จักแบ่งเวลาให้เป็น เลือกคบเพื่อนที่ดี ก็พอแล้วค่ะ

0
กำลังโหลด
mmmmmmmm 10 เม.ย. 58 01:37 น. 6
จากเฟรชชี่ที่กำลังจะจบปีหนึ่ง 1.ว่างเยอะแล้วทำไมกูไม่มีเวลาอ่านหนังสือวะ 2.แล้วแต่ ถ้าจารย์ไม่เช็คชื่อก็ไม่ต้องซีเรียส(ด้านมืดตัวเองแท้ๆ) 3.เคยได้ยินมั้ย ค่าเทอมเปนหมื่นค่าชีทเป็นแสน ทุกวันนี้ชีทเอามากองรวมกันเยอะกว่าหนังสืออีก 4.เหตุผลเดียวกะข้อสอง 5.อันนี้จริง หล่อแบบหล่อมาเลยก็มี สวยแบบนางฟ้าก็มา~ 6.คณะเรา งานน้อย การบ้านชิว แต่สอบหนักเ-้ยๆ คณะอื่นอาจจะเปนเปเปอร์มาให้ ซึ่งก็ตามศรัทธาอาจารย์ 7.ผมขอค้านครับท่านประธาน~ ล้อเล่น อันนี้ตัวใครตัวมันฮะ 8.คศ.3 ก็เท่ากับผศนะถ้าเค้ามาอยู่มหาลัย คศ5ก็ศ ดีๆนี่เอง เพราะฉะนั้นเก่งเท่า 9.สนุกดีนะ 55555 10.อันนี้ไม่ชัวร์ เพราะอยู่แค่ปีเดียวเองงงงง
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

97 ความคิดเห็น

Bellha18 Member 9 เม.ย. 58 17:37 น. 1

ถึงจะยากแค่ไหน แต่ครูเราเคยบอกว่า

"เรียนมันไม่ยากหรอก ไม่งั้นเขาจะเรียนจบทำไมตั้งเยอะแยะ"

ส่วนตัวแล้ว...คิดว่า จะพยายามตั้งใจให้เต็มที่ค่ะ ปี 59 เราก็ต้องเข้ามหาลัยแล้ว สู้ๆ

0
กำลังโหลด
Chanyanuch Member 9 เม.ย. 58 18:18 น. 2

น้องเอ๊ย  ทุกคณะที่เรียน 4 ปีต้องไปฝึกงานตอนเรียนปีสุดท้าย

แล้วแต่โครงสร้างหลักสูตรของแต่ละมหาวิทยาลัยว่าจะให้ฝึกงานตอนเทอม 1 หรือเทอม 2

ถ้าไม่ไปฝึกงาน  ไม่งั้นเรียนไม่จบนะ

เพื่อนที่เรียน IT มจธ.กับหลานสาวที่เรียนคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เอกเคมี  ม.ธรรมศาสตร์

พอเรียนจบปี 3 ก็ไปฝึกงานแล้ว

แพทย์ ทันตะ เภสัช และสัตวแพทย์ที่เรียน 6 ปี

นักศึกษาแพทย์พอขึ้นปี 4 ต้องไปฝึกเรียนภาคปฏิบัติจริงที่หอผู้ป่วยจริง

และตอนปี 6 ให้ไปทำงานในโรงพยาบาลเป็นเวลา 1 เดือน 

ส่วนทันตะ  เภสัช  และสัตวแพทย์คงจะเหมือนกัน

1
กำลังโหลด
กำลังโหลด
PechZhezaClup Member 9 เม.ย. 58 19:37 น. 4

ถ้าเรียนมหาลัย เรียนหนักขนาดนี่นะ แล้วจะจบแบบรู้เรื่องหราคับ เวลานอนก็ไม่มี คือถ้าเป็นแบบนี้ เด็กยิ่งโง่นะผมว่า เพราะไม่มีเวลาพักผ่อน แล้วจะเอาสมองของเราไปจำเวลาอาจาร์ยสอนได้อย่างไรร   หนังใจ จะขึ้นปี 1 แหละ TTเสียใจเสียใจ

9
Dream's zenith Member 10 เม.ย. 58 12:42 น. 4-1
ก็จริงนะครับ แต่พอน้องมาเรียนมหาลัยน้องจะรู้ด้วยตัวเองครับนอนน้อย นอนดึก มันมีลิมิตของมันครับพี่เรียนวิดวะสีชมพูเพื่อนๆพี่ขยันๆทั้งนั้นอ่านหนังสิอถึงตี2ก็เยอะ ถามว่าเรียนรู้เรื่องไหมก็รู้นะแต่บางทีก็ต้องเลือกว่านอนดึกโดดเช้า หรือจะนอนดึกแต่ไปเรียน มหาลัยไม่มีใครบังคับเลยครับคุณจะเรียนไม่เรียนเรื่องของคุณทำข้อสอบให้ได้ละกัน ชีวิตมหาลัยไม่ได้สบายอย่างที่คิดขออยกประโยคสุดคลาสสิคจากพี่ๆมหาลัยละกันครับ "เข้ามาเดี๋ยวรู้เลย" ฝากไว้แค่นี้สู้ๆครับเยี่ยม
0
กำลังโหลด
rR-'BI-ISs Member 14 พ.ค. 58 17:53 น. 5-1
สู้สู้ แรกๆเข้ามาก็สาหัสอยู่ 555 แต่ถ้าค่อยๆปรับจับจุดไปเรื่อยๆ มันก็หนักนะ แต่ก็ไหวอยู่ คณะเราเรียนทุกวัน จัน-ศุกร ์เช้า-เย็น บางวิชา เรียนทั้งวันเลยก็มี เลยไม่มีเวลาว่างเท่าไหร่ แต่ถ้าทยอยทำงานแบ่งเวลา ก็มีเวลาเที่ยวละนะ 5
0
กำลังโหลด
mmmmmmmm 10 เม.ย. 58 01:37 น. 6
จากเฟรชชี่ที่กำลังจะจบปีหนึ่ง 1.ว่างเยอะแล้วทำไมกูไม่มีเวลาอ่านหนังสือวะ 2.แล้วแต่ ถ้าจารย์ไม่เช็คชื่อก็ไม่ต้องซีเรียส(ด้านมืดตัวเองแท้ๆ) 3.เคยได้ยินมั้ย ค่าเทอมเปนหมื่นค่าชีทเป็นแสน ทุกวันนี้ชีทเอามากองรวมกันเยอะกว่าหนังสืออีก 4.เหตุผลเดียวกะข้อสอง 5.อันนี้จริง หล่อแบบหล่อมาเลยก็มี สวยแบบนางฟ้าก็มา~ 6.คณะเรา งานน้อย การบ้านชิว แต่สอบหนักเ-้ยๆ คณะอื่นอาจจะเปนเปเปอร์มาให้ ซึ่งก็ตามศรัทธาอาจารย์ 7.ผมขอค้านครับท่านประธาน~ ล้อเล่น อันนี้ตัวใครตัวมันฮะ 8.คศ.3 ก็เท่ากับผศนะถ้าเค้ามาอยู่มหาลัย คศ5ก็ศ ดีๆนี่เอง เพราะฉะนั้นเก่งเท่า 9.สนุกดีนะ 55555 10.อันนี้ไม่ชัวร์ เพราะอยู่แค่ปีเดียวเองงงงง
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ซามูไรแมว Member 10 เม.ย. 58 02:37 น. 8

แล้วแต่คณะครับ คณะผมค่อนข้างชิล มหาวิทยาลัยเรียนสบายกว่ามัธยม แต่หนักตอนทำรายงาน และหนักอีกทีตอนอ่านหนังสือสอบเพราะเป็นข้อสอบเขียนหมดเลย ต้องอ่านหนังสือโต้รุ่งบ่อย ๆ ชีวิตการเรียนอิสระ แต่ต้องรับผิดชอบและมีวินัยกับตัวเองเพราะอาจารย์ไม่ทวงงานเหมือนสมัยมัธยม ถ้าไม่ส่งก็อดคะแนนไปตามระเบียบ ดังนั้น เด็ก ๆ อย่าเพิ่งกลัวการเรียนมหาวิทยาลัยนะ ไม่มีอะไรหนักเกินคนจะสู้หรอก อุตส่าห์สอบเข้าไปเรียนได้แล้ว ก็ต้องจบออกมาได้สิ เนอะ เยี่ยม

7
กำลังโหลด
Butterfly~* Member 10 เม.ย. 58 12:12 น. 9

พี่จบปีนี้ และมองว่าบางข้อก็เกินจริงไป (แล้วแต่บางคณะ) พูดแบบนี้น้องๆที่กำลังจะเข้าปี1ก็หมดกำลังใจแย่เลย เอาเป็นว่าต้องรู้จักแบ่งเวลาให้เป็น เลือกคบเพื่อนที่ดี ก็พอแล้วค่ะ

0
กำลังโหลด
จะเฟรชชี่ละน้าาาฮึ้ยย!! 10 เม.ย. 58 12:17 น. 10
อ่านแล้วโคตรรู้สึกหมดกำลังใจอ่า แต่พอมาเจอคอมเม้นของพี่ๆบางคนก็ค่อยยังชั่วหน่อย พูดสะแบบกลัวการเรียนในมหาวิทยาลัยเลย เด็กห้าแปดเกือบจิร้องไห้ ฮึบบบ!! สถานีต่อไป มหาวิทยาลัย เจอกันแน่ๆ ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นกันไป
1
rR-'BI-ISs Member 14 พ.ค. 58 18:02 น. 10-1
ใจเย็นหนู 55 แต่่ที่อ่านมา มันก็จริงนะ จริงหมดแหละ แต่แล้วแต่คณะด้วย แต่พอมาเจอจริงๆ ถามว่าหนักมั้ย ก็หนักเป็นช่วงๆ ช่วงสอบ ก็หนักหน่อย แต้ไม่ถึงขั้นขาดใจตาย ถ้าได้เรียนในสิ่งที่ชอบสิ่งที่รัก แล้วหนะ ถึงร่างจะพังแต่ใจยังอยู่55 1 เวลาว่างเยอะ > อันนี้แล้วแต่คณะเลย คณะพี่เรียนศิลปะ วิชานึงกินไปเต็มวัน ปฏิบัติ มากกว่าวิชาการ แต่ไม่ใช่ไม่มีวิชาการนะ เวลาว่างเลยต้องเอาไปทำชิ้นงานส่ง ถ้าทยอยทำ ยังไงก็มีเวลาเที่ยว 2 ตื่นสายได้ > ก็สายกว่าตอนมัธยมนะ แต่ถ้าช่วงไฟนอลทำงานส่ง อาจจะต้องนอนเช้า แต่ไม่ได้ทุกวันหรอก 3 ไม่มีหนังสือเรียน > คณะเราไม่หนักวิชาการมาก ตั้งใจฟังในห้องเรียน จดโน๊ตเอา ก็โอเคแหละ ค้นคว้า จริงๆมันไม่น่าเบื่อนะ อาจจะสนุกก็ได้ หนังสือในห้องสมุดน่าสนใจเยอะแยะ <3 4ไม่ต้องเข้าเรียนก็ได้ >แล้วแต่วิชาเลย แต่ส่วนใหญ่มีเช็คชื่อนะแม้แต่คลาส400คนก็ตาม มหาลัยเรียนที2-3ชม.ต่อวิชา ไม่เข้าก้ได้ แแต่น้องจะพลาดเนื้อหาวันนั้นไปเลย เพราะงั้นเข้าเถอะ แปปๆ ก็หมดชม.ละ 5แต่งหน้า > ถ้าวันไหนเรียนในห้องแอร์ก็แต่ง555 6การบ้านน้อย >อืมมม ของเราการบ้านชิ้นเยอะ เป็นชิ้นงานทุกอาทิตย์เลย แต่ก็ชินนะ55 7หาแฟนได้ > อืมม เราได้ 555555555555 8 อาจารย์เก่ง > เก่งจริง55 9สนุกกับกิจกรรม > สนุกดีนะ เข้าร่วมบ้างเอาแต่พอดี อย่าเสียการเรียนก็พอแหละ 10เข้าได้จบได่ > อันนี้ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบส่วนบุคคลเลย ถ้าตั้งใจ มีอู้บ้าง แต่รับผิดชอบตัวเองได้ ก็จบแน่นอนจ้า เพราะงั้นอย่ากลัวไปเลย มันก็เหมือนตอนม.3เข้าแยกสายม.4แหละ ปีแรกหนักหน่อย แต่ค่อยๆปรับตัวก็จะสบายขึ้นเอง เย้
0
กำลังโหลด
เด็กมัธยมปลาย 10 เม.ย. 58 12:25 น. 11
อยากบอกว่าไม่เคยคิดแบบฝั่งมัธยมคิดเลย (อยู่ม.ปลาย) นอกจากกีฬาสี เพราะไม่ชอบเข้าสังคมทำกิจกรรมอยู่แล้ว รู้สึกเวลาเรียนไม่พอ(วิทย์-คณิต) เลยรู้ว่ามหาลัยมันใหญ่ขนาดไหน แถมไม่อยากทำอีก ทุก ๆ ข้อที่อ่านมา ไม่มีข้อไหนที่คิดผิดเลย (ที่อยากทำด้วย) #ถ้าไม่ติดว่าโง่แล้วก็ต้องทำงานต่อนี่ลาออก54555
0
กำลังโหลด
oooho_ohooo 10 เม.ย. 58 12:32 น. 12
เรียนมหาลัยนี่หนักจริงๆนะ แต่ละคณะก็จะต่างกัน โดยเฉพาะด้านสายสุขภาพ ของเรานี่บางวันเช้าเรียนแปดโมง บางวันเลิกเรียนทุ่มสองทุ่ม นี่ขนาดเรียนภาคปกตินะ TT หนักกว่ามอปลายเยอะ บางทีมีเรียนเสาร์อาทิด เวลาว่างไม่ค่อยมี มีเวลาว่างที่นี่ต้องนอนชาร์ตพลังงานไว้อย่างเดียว ต้องอ่านหนังสือทุกวันเพราะมีควิสก่อนเรียนตลอด งานกลุ่มก็เยอะมีแต่งานหนักๆ ฝึกงานตั้งแต่อยู่ปีหนึ่ง ฝึกทุกปีเพื่อหาประสบการณ์ คิดแล้วอยากกลับไปอยู่มอปลายอีกรอบ TT
0
กำลังโหลด
เข้าใจดี 10 เม.ย. 58 12:36 น. 13
เอิ่ม เวอร์ไป ถ้าน้องๆเข้ามหาลัย แล้วรู้จักอ่านหนังสือเนิ่นๆทุกวัน มีงานแล้วทำเลย ไม่ดอง รับรองไม่หนักแน่จ้า เรียนเสร็จก็ทบทวนบ้าง //เกียรตินิยมอันดับ 1 ชัวร์-3- ที่ยกมาข้างต้น สำหรับคนชอบพอกอ่ะ หยิบหนังสือไม่ทันเด็กเรียน555 แต่พี่ไม่ใช่เด็กเนิร์ดนะ เป็นลีดไปเรียนไป ทำสีผม แต่งหน้าไป ก็จบเฉี่ยว 4.00 จ้ะ
0
กำลังโหลด
JJBabyz Member 10 เม.ย. 58 12:36 น. 14

มันไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรขนาดนั้นหรอกค่ะ มันจะหนักเป็นช่วงๆเท่านั้นแหล่ะ 
สิ่งสำคัญคือ ถ้าหนูมีวินัยในตนเอง แบ่งเวลาให้เป็น
มันก็ไม่เหลือบากกว่าแรงหรอกเนอะ ^^ อย่าเพิ่งกลัวมากไป 

ชูสองนิ้ว

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
ponytailman Member 10 เม.ย. 58 13:43 น. 17

ปกติเรียนมัธยมก็นอนดึกอยู่แล้วเพราะงานเยอะ นอนประมานตีสองทุกวัน เข้ามหาลัยจะขนาดไหนเนี่ย นอนตีห้าเลยมั้ยยเสียใจ

3
SARU-kumi Member 14 พ.ค. 58 12:38 น. 17-1
โต้รุ่งสองวันติดก็ทำมาแล้วค่ะน้อง หรือบางคณะที่เป็นสายศิลป์โหดๆ ถาปัตไรงี้ ยาวกว่านี้อีกนะ ไม่ต้องกังวล 5555
0
กำลังโหลด
Mr.kuku Member 10 เม.ย. 58 13:47 น. 18

ไม่ต้องมหาลัย ก็รู้รสชาติแบบมหาลัยได้คับ ผมผ่านมาแล้ว

พวกที่เรียนสายอาชีพ รู้ดีคับ เรียนวันล่ะ 1-2 คาบ คาบล่ะ 4-6 ชม.

บางวันเลิก 2-3 ทุ่มก็มีคับ กลับบ้าน ตี 3 ตี 4 เพื่อทำโปรเจ็ก ก็เคยมาแล้วคับ

เพราะฉะนั้น น้องๆอย่าไม่กลัวว่ามหาลัยจะยาก แค่น้องๆคิดแล้วลงมือทำ

อย่ารอเวลาแล้วค่อยทำ น้องๆจะผ่านมันไปได้แน่นอนคับ

เศร้าจัง

0
กำลังโหลด
Meใต้lตีeJคิมllจ Member 10 เม.ย. 58 14:09 น. 19

อีกเรื่องหนึ่ง เรื่องผู้ชายค่ะ

ดิฉันเคยฝันไว้ว่าจะเจอชายหน้าดีๆแบบคิ้วบอยเดินกันเต็มหมออย่างในโฆษณามหาวิทยาลัย ตามเพจคิ้วบอยงี้ ลงมันทุกวันวันละสามเวลา ดิฉันก็คิดว่าชายมหาลัยนี้ต้องหน้าดีมากแน่ๆ ดีออกโลกความจริงมันไม่ได้ฟรุ้งฟริ้งแบบนั้นเลยค่ะ ไม่เลยสักนิดค่ะ คิ้วบอยอยู่ไหนคะ!!-ที่หน้าดีก็มีผัวแล้ว ย้ำอีกครั้ง มีผัวแล้ว กรี๊ดดดดดด ชะนีไทยไร้ที่ยืนจริงๆ เพราะนั่งอ่านหนังสือหูดับตับไหม้ในห้องแช่ควายอย่างเดียวค่ะ ไม่มีหรอกจ๊ะเวลาส่องคิ้วบอย บัยยยยย//ร้องไห้หนักมาก

1
กำลังโหลด
NoffyMofy Member 10 เม.ย. 58 14:10 น. 20

ตอนประถมก็เคยมีความคิดแบบฝั่งมัธยมนะ แต่พอขึ้นมัธยมจริงๆกลายเป็นว่าอยากหยุดแค่ม.ปลายก็พอ ไม่เข้ามหาลัยได้มั้ย...แต่คนเขาจบมาตั้งเยอะเราก็ต้องจบได้!สู้เว้ย!

เสียใจหวาาเขิลจุง อ่านหนังสืออ่านหนังสืออ่านหนังสือ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด