สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ใครว่าวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องยาก คนหัวไม่ดีจะเรียนไม่รู้เรื่อง ถ้ามองในมุมสนุก จะรู้ว่าวิทยาศาสตร์ที่อยู่รอบตัวเรา มีเรื่องสนุกรอให้น้องๆ ไปสัมผัสอีกหลายอย่างเลยค่ะ หนึ่งในนั้นก็คือ การทดลองที่พี่มิ้นท์นำมาฝากในวันนี้
การทดลองวิทยาศาสตร์วันนี้ ไม่ได้เว่อร์วังอลังการ ต้องเตรียมสถานที่กลางดงป่า ขอแค่มีโต๊ะสัก 1 ตัว พร้อมอุปกรณ์อื่นๆ ที่หาได้รอบๆ ตัว เช่น เทียนไข ปากกาสี กระดาษ ลูกโป่ง และขาดไม่ได้เลยก็คือ "น้ำ" พระเอกในการทดลองของเราในวันนี้ค่ะ เตรียมตัวดูให้ดี แล้วลองนำไปเล่นกันเลยจ้า
การทดลองวิทยาศาสตร์วันนี้ ไม่ได้เว่อร์วังอลังการ ต้องเตรียมสถานที่กลางดงป่า ขอแค่มีโต๊ะสัก 1 ตัว พร้อมอุปกรณ์อื่นๆ ที่หาได้รอบๆ ตัว เช่น เทียนไข ปากกาสี กระดาษ ลูกโป่ง และขาดไม่ได้เลยก็คือ "น้ำ" พระเอกในการทดลองของเราในวันนี้ค่ะ เตรียมตัวดูให้ดี แล้วลองนำไปเล่นกันเลยจ้า
การทดลองที่ 1 อุปกรณ์ที่ใช้ แก้วน้ำ น้ำ กระดาษที่วาดลูกศร
การทดลองนี้ เมื่อน้องๆ นำแก้วน้ำไปวางหน้ากระดาษที่วาดลูกศร เมื่อมองทะลุไปก็จะเห็นลูกศรเป็นตามเดิม แต่พอใส่น้ำเข้าไปปุ๊บ ลูกศรกลับด้านจ้า จากซ้ายกลายไปเป็นขวา ถ้าเราวาดขวา ผลก็หันจะไปทางซ้าย ที่ผลเป็นเช่นนี้ เกิดจากการหักเหของแสงเมื่อผ่านน้ำในแก้วนั่นเอง
การทดลองนี้ เมื่อน้องๆ นำแก้วน้ำไปวางหน้ากระดาษที่วาดลูกศร เมื่อมองทะลุไปก็จะเห็นลูกศรเป็นตามเดิม แต่พอใส่น้ำเข้าไปปุ๊บ ลูกศรกลับด้านจ้า จากซ้ายกลายไปเป็นขวา ถ้าเราวาดขวา ผลก็หันจะไปทางซ้าย ที่ผลเป็นเช่นนี้ เกิดจากการหักเหของแสงเมื่อผ่านน้ำในแก้วนั่นเอง
การทดลองที่ 3 อุปกรณ์ที่ใช้ ถ้วยเล็กๆ 2 ใบ วิสกี้ น้ำ การ์ดแข็ง
วิธีการทดลอง ให้เทวิสกี้ และ น้ำ ลงในแก้วคนละใบ (ใช้ใบเล็กๆ ก็พอนะคะ) จากนั้นใช้การ์ดวางปิดแก้วน้ำ และพลิกด้านไปวางบนแก้ววิสกี้ ค่อยๆ เลื่อนการ์ดให้มีช่องโหว่เพียงนิดเดียว น้องๆ จะได้เห็นวิสกี้ด้านล่างค่อยๆ พุ่งขึ้นไปด้านบน จนจบการทดลอง น้ำกับวิสกี้จะสลับที่กันค่ะ
วิธีการทดลอง ให้เทวิสกี้ และ น้ำ ลงในแก้วคนละใบ (ใช้ใบเล็กๆ ก็พอนะคะ) จากนั้นใช้การ์ดวางปิดแก้วน้ำ และพลิกด้านไปวางบนแก้ววิสกี้ ค่อยๆ เลื่อนการ์ดให้มีช่องโหว่เพียงนิดเดียว น้องๆ จะได้เห็นวิสกี้ด้านล่างค่อยๆ พุ่งขึ้นไปด้านบน จนจบการทดลอง น้ำกับวิสกี้จะสลับที่กันค่ะ
การทดลองนี้ เป็นการทดสอบความหนาแน่นของน้ำและวิสกี้ ที่มีความหนาแน่นแตกต่างกัน วิสกี้จึงลอยตัวขึ้นไปอยู่ด้านบน และน้ำสลับลงมาอยู่ด้านล่างค่ะ
การทดลองที่ 4 อุปกรณ์ที่ใช้ เทียนไข ไม้จีดไฟ ลูกโป่ง/ลูกโป่งใส่น้ำ
ใครกลัวเสียงลูกโป่งแตก ข้ามการทดลองนี้ได้เลยค่ะ เริ่มต้นให้น้องๆ จุดเทียนไขจนติดไฟ ลูกโป่งลูกแรกที่ทดลอง ไม่ต้องใส่น้ำ จะเห็นว่า แค่เอาไปใกล้ๆ ไฟ ก็แตกดังปัง! แล้ว ลูกที่สองให้ทดสอบใหม่ นำลูกโป่งไปใส่น้ำ ไม่ต้องเยอะมากนะคะ แล้วทำตามเดิม ผลปรากฏว่า ลูกโป่งที่มีน้ำ ลนไฟยังไงก็ไม่แตกค่ะ
การทดลองนี้ ให้เหตุผลคือ น้ำในลูกโป่งจะดูดซับความร้อนแทนลูกโป่ง พูดง่ายๆ คือ เมื่อลนไฟไปแล้ว ลูกโป่งรับความร้อนแล้วก็ถ่ายเทให้น้ำที่อยู่ข้างใน ซึ่งน้ำสามารถซับดูดซับความร้อนได้เยอะค่ะ และกว่าน้ำจะร้อนจนทำให้ยางขาดได้ก็ใช้เวลานานเหมือนกัน แต่ถ้าเอาไฟไปลนส่วนอื่นๆ ที่ไม่มีน้ำก็ยังแตกเหมือนเดิมนะคะ
การทดลองที่ 5 น้ำ ขวดน้ำ ปากกาเลเซอร์หรือไฟฉาย
ให้น้องๆ เตรียมขวดใส่น้ำไว้ และเจาะรูด้านข้างขวด จากนั้นให้ใช้ปากกาเลเซอร์หรือไฟฉายส่องไปด้านหลังให้ตรงกับรูที่เจาะไว้ จะเห็นว่าแสงสามารถทะลุออกมาพร้อมกับน้ำที่โค้งได้ และถ้าเอามือมารองรับปลายน้ำ แสงเลเซอร์ก็จะตกที่มือของเราด้วย
จากการทดลองนี้ เป็นเรื่องของการนำแสงของลำแสงค่ะ ที่ผ่านมาเราอาจจะคุ้นเคยว่าแสงเดินทางเป็นเส้นตรง แต่แสงจะเดินทางเป็นเส้นตรงก็ต่อเมื่อเดินทางผ่านตัวกลางชนิดเดียวกัน แต่การทดลองนี้มีตัวกลาง 2 อย่างคือ น้ำและอากาศ ดังนั้นดัชนีหักเหของน้ำอากาศต่างกัน น้ำจึงพาแสงออกมาได้จนถึงปลายน้ำเลย
ให้น้องๆ เตรียมขวดใส่น้ำไว้ และเจาะรูด้านข้างขวด จากนั้นให้ใช้ปากกาเลเซอร์หรือไฟฉายส่องไปด้านหลังให้ตรงกับรูที่เจาะไว้ จะเห็นว่าแสงสามารถทะลุออกมาพร้อมกับน้ำที่โค้งได้ และถ้าเอามือมารองรับปลายน้ำ แสงเลเซอร์ก็จะตกที่มือของเราด้วย
จากการทดลองนี้ เป็นเรื่องของการนำแสงของลำแสงค่ะ ที่ผ่านมาเราอาจจะคุ้นเคยว่าแสงเดินทางเป็นเส้นตรง แต่แสงจะเดินทางเป็นเส้นตรงก็ต่อเมื่อเดินทางผ่านตัวกลางชนิดเดียวกัน แต่การทดลองนี้มีตัวกลาง 2 อย่างคือ น้ำและอากาศ ดังนั้นดัชนีหักเหของน้ำอากาศต่างกัน น้ำจึงพาแสงออกมาได้จนถึงปลายน้ำเลย
การทดลองที่ 6
การทดลองที่ 6 อุปกรณ์ที่ใช้ แบล็คไลท์, ขวดน้ำ, แก้วน้ำ, น้ำโทนิค (น้ำโซดาผสมควินิน)
การทดลองนี้ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่เตรียมของทุกอย่างไว้ก็ได้ผลทดลองเลย โดยจะเป็นการทดสอบว่าน้ำโทนิค (น้ำโซดาที่มีส่วนผสมของควินิน) นั้นสามารถเรืองแสงได้เมื่อถูกกับรังสียูวีจากแบล็คไลท์นั่นเอง การทดลองนี้อาจจะหาของยากนิดนึง โดยเฉพาะแบล็คไลท์ แต่ถ้ามีก็ลองเล่นกันได้เลย ส่วนน้ำโทนิคนั้น ร้านสะดวกซื้อก็มีขายค่ะ ลองไปส่องๆ ดูเป็นกระป๋องสีเหลือง เขียนว่า Tonic water เลย
การทดลองนี้ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่เตรียมของทุกอย่างไว้ก็ได้ผลทดลองเลย โดยจะเป็นการทดสอบว่าน้ำโทนิค (น้ำโซดาที่มีส่วนผสมของควินิน) นั้นสามารถเรืองแสงได้เมื่อถูกกับรังสียูวีจากแบล็คไลท์นั่นเอง การทดลองนี้อาจจะหาของยากนิดนึง โดยเฉพาะแบล็คไลท์ แต่ถ้ามีก็ลองเล่นกันได้เลย ส่วนน้ำโทนิคนั้น ร้านสะดวกซื้อก็มีขายค่ะ ลองไปส่องๆ ดูเป็นกระป๋องสีเหลือง เขียนว่า Tonic water เลย
การทดลองที่ 7 อุปกรณ์ที่ใช้ ตาข่าย, ขวดน้ำ, หนังยาง, ไม้จิ้มฟัน
การทดลองนี้เป็นมายากลที่เล่นกันแพร่หลายมากๆ น้องๆ อาจจะเคยเห็นแล้ว คราวนี้มาลองทำด้วยตัวเองก็ได้นะ วิธีการคือ ใช้ตาข่ายมาครอบปากขวดและหาหนังยางมัดไว้ เติมน้ำให้เต็ม ใช้มือปิดฝาขวดให้สนิท ค่อยๆ คว่ำขวดค่ะ ผลที่ได้คือ น้ำจะไม่ไหลออกมา ยังสามารถใช้ไม้จิ้มฟันทิ่มเข้าไปได้อีกด้วย
เหตุผลที่ทำให้น้ำไม่ไหลออกมา แม้จะใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มเข้าไป เป็นเพราะว่า อากาศภายนอกมีแรงดัน และแรงดันของอากาศจึงดันไม่ให้น้ำไหลออกมาได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เอียงขวดจนอากาศเข้าไป น้ำก็จะไหลออกมาตามปกติค่ะ
การทดลองนี้เป็นมายากลที่เล่นกันแพร่หลายมากๆ น้องๆ อาจจะเคยเห็นแล้ว คราวนี้มาลองทำด้วยตัวเองก็ได้นะ วิธีการคือ ใช้ตาข่ายมาครอบปากขวดและหาหนังยางมัดไว้ เติมน้ำให้เต็ม ใช้มือปิดฝาขวดให้สนิท ค่อยๆ คว่ำขวดค่ะ ผลที่ได้คือ น้ำจะไม่ไหลออกมา ยังสามารถใช้ไม้จิ้มฟันทิ่มเข้าไปได้อีกด้วย
เหตุผลที่ทำให้น้ำไม่ไหลออกมา แม้จะใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มเข้าไป เป็นเพราะว่า อากาศภายนอกมีแรงดัน และแรงดันของอากาศจึงดันไม่ให้น้ำไหลออกมาได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เอียงขวดจนอากาศเข้าไป น้ำก็จะไหลออกมาตามปกติค่ะ
การทดลองที่ 8 อุปกรณ์ที่ใช้ น้ำแช่เย็นที่ 0 องศา
ก่อนเริ่มการทดลองนี้ ให้น้องๆ นำน้ำขวดไปแช่ช่องแข็ง จนกระทุ่งได้อุณหภูมิตามที่กำหนดคือ 32 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 0 องศาเซลเซียส จับขวดเขย่ากระแทกที่โต๊ะครั้งนึง น้ำจะค่อยๆ กลายเป็นน้ำแข็งค่ะ จากนั้น ลองนำนำแข็งมาวางไว้ที่มือ แล้วเทน้ำจากขวดเมื้อกี้เทลงบนน้ำแข็ง เราก็จะได้กองน้ำแข็งจับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ จ้า
ที่เป็นแบบนี้ได้ เพราะปกติ น้ำที่แช่ไว้จนอุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียส จะยังไม่จับตัวเป็นน้ำแข็ง แต่การกระแทกแรงๆ ทำให้น้ำกลายเป็นผลึกน้ำแข็งได้ และเมื่อนำเทลงบนน้ำแข็ง น้ำเย็นจัดก็จะสามารถจับกลุ่มเกาะกันเป็นผลึกน้ำแข็งได้นั่นเอง
ก่อนเริ่มการทดลองนี้ ให้น้องๆ นำน้ำขวดไปแช่ช่องแข็ง จนกระทุ่งได้อุณหภูมิตามที่กำหนดคือ 32 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 0 องศาเซลเซียส จับขวดเขย่ากระแทกที่โต๊ะครั้งนึง น้ำจะค่อยๆ กลายเป็นน้ำแข็งค่ะ จากนั้น ลองนำนำแข็งมาวางไว้ที่มือ แล้วเทน้ำจากขวดเมื้อกี้เทลงบนน้ำแข็ง เราก็จะได้กองน้ำแข็งจับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ จ้า
ที่เป็นแบบนี้ได้ เพราะปกติ น้ำที่แช่ไว้จนอุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียส จะยังไม่จับตัวเป็นน้ำแข็ง แต่การกระแทกแรงๆ ทำให้น้ำกลายเป็นผลึกน้ำแข็งได้ และเมื่อนำเทลงบนน้ำแข็ง น้ำเย็นจัดก็จะสามารถจับกลุ่มเกาะกันเป็นผลึกน้ำแข็งได้นั่นเอง
ทั้ง 8 การทดลองนี้เห็นแล้วต้องว้าว!! กันเลยใช่มั้ยล่ะคะ การทดลองไหนที่หาของยากก็ข้ามๆ ไป แต่ก็มีอีกหลายอันที่ใช้ของรอบๆ ตัวเราทั้งนั้นเลย ปิดเทอมนี้ว่างแล้ว ก็ลองนำไปเล่นกันนะคะ จะเล่นคนเดียว หรือ ชวนเพื่อนมาเล่น แล้วโชว์เป็นมายากลเลยก็ได้ ฮ่าๆ ไว้คราวหน้าเจอการทดลองสนุกๆ พี่มิ้นท์จะนำมาฝากอีกนะคะ ก่อนจากไปวันนี้ มาดูคลิปทดลองทั้ง 8 การทดลองกันเล้ย
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
www.youtube.com/watch?v=OTuZgwxzVJ8,
www.sciencedump.com/content/8-cool-water-tricks,
http://witpoko.com/?p=2264
21 ความคิดเห็น
2 อันสุดท้ายอยากลองทำดูอะ
เป็นข้อมูลเกี่ยวกับน้ำที่สุดยอดไปเลย
ว้าวว ฮ่าๆๆๆๆอันสุดท้ายอยากลองจัง
มันตามหลอกหลอนถึงเด็กดี
เคยทำสเลอปี้จากการทดลองที่ 8 ค่ะ
อันสุดท้ายน่าลองแฮะ
น่าหนุกๆ
น่าสนใจแหะ
อยากลอง
น่าทำจังครับบบบบ