สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com.... ทั่วโลกกำลังผวาและตั้งรับกันอย่างเต็มที่กับเชื้อไวรัสเมอร์ส ที่กำลังเป็นข่าวดังที่ประเทศเกาหลีใต้และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ความน่ากลัวของเชื้อไวรัสตัวนี้ไม่ใช่แค่ทำให้ติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลันและลุกลามเข้าปอดอย่างรวดเร็ว ที่น่ากลัวว่านั้นคือยังไม่มียารักษา ได้แต่รักษาตามอาการของผู้ป่วยเท่านั้น
ผู้ติดเชื้อไวรัสเมอร์ส ยังพบผู้ป่วยต่อเนื่องเรื่อยๆ ณ ตอนนี้ก็หลายประเทศแล้ว เช่น จอร์แดน ซาอุดิอาระเบีย กาตาร์ อังกฤษ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฝรั่งเศส ตูนีเซีย เยอรมนี อิตาลี โอมาน คูเวต ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย จีน ฯลฯ และล่าสุดคือ เกาหลีใต้ แม้ในไทยจะยังไม่พบผู้ติดเชื้อเมอร์ส แต่จำเป็นต้องรู้จักไวรัสชนิดนี้เอาไว้ เพื่อป้องกันตนเองได้อย่างถูกต้อง วันนี้พี่มิ้นท์จึงเอาข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสเมอร์สจากกรมควบคุมโรค มาบอกต่อน้องๆ จ้า
► ไวรัสเมอร์ส เกี่ยวข้องอะไรกับประเทศตะวันออกกลาง
ไวรัสเมอร์ส มีชื่อเรียกว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือมีอีกชื่อเต็มๆ ว่า กลุ่มอาการระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันในประเทศตะวันออกกลาง (Middle Easr respiratory sysdrome coronavirus (MERS-CoV)) เป็นโรคระบบทางเดินหายใจชนิดหนึ่งเกิดจากเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (MERS-CoV) ซึ่งโคโรนาไวรัสจัดเป็นวงศ์ใหญ่ของไวรัสวงศ์หนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคได้หลายโรคเลยทีเดียว ตั้งแต่หวัดธรรมดาไปจนถึงโรคซาร์ส (โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง)
เหตุที่ใช้ชื่อว่าเป็นโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันในประเทศตะวันออกกลาง เพราะ ตรวจเจอเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2555 ที่ประเทศซาอุดิอาระเบียและกระจายไปทั่วคาบสมุทรอาหรับ ไม่นานเชื้อไวรัสนี้ก็แพร่ไปประเทศอื่นๆ โดยมีต้นเหตุมาจากคนที่ติดเชื้อขณะอยู่ในตะวันออกกลางแล้วเดินทางไปประเทศอื่นๆ นั่นเอง
กรณีของผู้ติดเชื้อรายแรกที่ประเทศเกาหลีก็มาจากสาเหตุเดียวกันนี้ คือ มีการติดเชื้อหลังจากเดินทางกลับจากซาอุดิอาระเบียด้วยอาการป่วย
► 6 อาการที่เข้าข่ายเป็นผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (MERS-CoV)
อาการของผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่า มีลักษณะคล้ายกับโรคซาร์ส แต่รุนแรงมากกว่า โดยจะมีอาการสำคัญๆ ดังนี้
1. มีไข้
2. ไอ
3. หายใจหอบและหายใจลำบาก ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงอาจมีภาวะหายใจล้มเหลว
4. ตรวจร่างกายมักจะพบว่าเป็นปอดอักเสบ
5. ถ่ายเหลว
6. ผู้ป่วยบางรายอาจมีภาวะอวัยวะล้มเหลว โดยเฉพาะไตวาย หรือ ช็อคจากการติดเชื้อ
ความน่ากลัวของโรคนี้ยังไม่หมดค่ะ เพราะคนทั่วไปบางกลุ่มอาจจะไม่แสดงอาการเลยก็ได้ ส่วนในกลุ่มของผู้ที่มีโรคประจำตัว ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน มะเร็ว ปอดเรื้อรัง อาการป่วยจะค่อนข้างรุนแรงกว่ากลุ่มอื่นๆ ทั้งนี้ใครที่ติดเชื้อนี้เข้าไปแล้ว มีโอกาสถึง 27% ที่จะเสียชีวิต
► ไวรัสเมอร์สน่ากลัว แต่ไม่ได้แพร่กระจายง่าย
น้องๆ อาจจะรู้สึกว่าขึ้นชื่อว่าไข้ ไอ เป็นหวัด ติดต่อกันได้ง่าย แต่จริงๆ แล้วการแพร่กระจายเชื้อไวรัสนี้จากคนสู่คน ไม่ได้แพร่ได้ง่าย หากไม่มีการสัมผัสกับผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดหรือไปสัมผัสของใช้ร่วมกับผู้ป่วย รวมถึงการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วยค่ะ ดังนั้นโอกาสที่จะแพร่กระจายในเป็นกลุ่มก็มีน้อยตามไปด้วย
ทีนี้น้องๆ คงอยากรู้แล้วว่าไวรัสชนิดนี้ มาได้ยังไง อะไรคือแหล่งเชื้อที่แท้จริงกันแน่? จากข้อมูลในปัจจุบัน ยังบอกถึงที่มาของเชื้อนี้ไม่ได้ แต่ว่าก็ได้มีการศึกษาโดยการแยกเชื้อไวรัสโคโรนา(ชนิดเดียวกับที่พบในคน) จากอูฐ ในอียิปต์ กาตาร์และซาอุดิอาระเบีย มีการตรวจพบสารภูมิต้านทาน (antibody) ต่อเชื้อไวรัสโคโรนาในอูฐทั่วแอฟริกาและตะวันออกกลาง การศึกษาสารพันธุกรรมในคนและอูฐ ยังพบว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันระหว่างไวรัสที่พบในอูฐและคนอีกด้วย ซึ่งต่างจากสัตว์ชนิดอื่นๆ เช่น แพะ วัว หมู ฯลฯ ที่ไม่พบสารภูมิต้านทานเลย นี่จึงเป็นส่วนสนับสนุนข้อสันนิษฐานนี้ว่า อูฐน่าจะเป็นแหล่งที่มาของการติดเชื้อในคนค่ะ
► ดูแลตัวเองยังไงดี?
เนื่องจากไวรัสชนิดนี้ยังไม่มียารักษาและวัคซีนป้องกัน การดูแลตัวเองจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นจริงๆ ในชั่วโมงนี้ ซึ่งคำแนะนำในการป้องกันไวรัสชนิดนี้ มีดังนี้
- ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่
- เลี่ยงเนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก หรือ อาหารที่ปรุงไม่ถูกสุขลักษณะ
- ใช้ช้อนกลางเมื่อต้องทานอาหารร่วมกับผู้อื่น
- ไม่สัมผัสตา จมูกหรือปากด้วยมือที่ยังไม่ล้าง
- ผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน โดยมีไข้และไอรุนแรงขนาดที่รบกวนชีวิตประจำวัน ควรงดพบปะกับคนอื่นๆ เพื่อลดการแพร่เชื้อ เมื่อไอและจามก็ควรปิดปากด้วยทิชชู่ และทิ้งลงถังขยะ ถ้าอยู่ภาวะคับขัน หาทิชชู่ไม่ได้ ให้ไอหรือจามใส่ต้นแขนของตัวเอง อย่าไอหรือจามใส่มือเด็ดขาด เพราะต้องไปสัมผัสกับสิ่งของอื่นๆ อีก ยิ่งเป็นการแพร่เชื้อได้ง่ายขึ้น
- หากได้เดินทางกลับมาจากตะวันออกกลาง ถ้ารู้สึกเหมือนมีไข้ ไอและจาม ในช่วงสองสัปดาห์หลังจากกลับมาถึง ให้ไปพบแพทย์ทันที (เชื้อเมอร์ส มีระยะฟักตัว 2-14 วัน)
- หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับอูฐ สัมผัสอูฐ หรือดื่มน้ำนมดิบจากอูฐ
ช่วงนี้น้องๆ อาจจะได้ยินชื่อไวรัสเมอร์สกันอยู่บ่อยๆ เพราะที่ประเทศเกาหลีมีการระบาดตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาและมีผู้เสียชีวิต 6 รายแล้ว หลายประเทศถึงขั้นต้องยกเลิกการเดินทางไปเยือนแดนกิมจิกันเลยทีเดียว ส่วนประเทศไทยก็มีการเตรียมพร้อมรับมือแล้วเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ น้องๆ ต้องดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองกันด้วยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพประกอบจาก
http://en.wikipedia.org/wiki/Middle_East_respiratory_syndrome_coronavirus,
www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/206/โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่/,
www.cidrap.umn.edu/news-perspective/2013/07/oie-downplays-camels-possible-mers-cov-source,
http://alazhar.perubatan.org/2015/02/mers-cov/,
http://themedicalcity.com/newsroom/press_release_view/tmc-medical-facts-mers,
www.cnbc.com/id/102728192,
http://globalnation.inquirer.net/124382/dfa-no-travel-ban-yet-in-s-korea-amid-mers-cov-outbreak,
http://beid.ddc.moph.go.th/beid_2014/files/FQA_MERS_23_May_14_Final.pdf
19 ความคิดเห็น
เหมือนธรรมชาติกำลังลงโทษเราเลย ยิ่งกว่าเอดส์ มะเร็งอีก ความวัว (อีโบลา) ไม่ทันหาย ความควาย (MERS-CoV)) เข้ามาแทรก อนาคตข้างหน้าคงมีโรคที่น่ากลัวมาเยือนอีกแน่ๆๆๆ
เจนขนลุกเลยค่ะ
ในอนาคตจะมีไวรัสอะไรมาเพิ่มอีก....โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ #โลกนี้ช่างอยู่ยาก
ติ่งเกาหลี #ร้องไห้หนักมาก T_T
มันเป็นอาวุธชีวภาพหรือเปล่าตั้งเเต่ อีโบร่า เเละ
ถึงขั้นมีภาวะหายใจล้มเหลวเลยหรอ??
มันน่ากลัวมากๆเลยนะ
แถมยังไม่มียารักษาด้วยอ่ะ
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลดีๆ
ขนาดอีโบล่า ไทยยังคิดค้นยามารักษาโรคจนสำเร็จ ไวรัสเมอร์สยังไงไทยก็ต้องหายามารักษาได้ แต่อย่าชะล่าใจไป เราควรทำตามคำแนะนำ เป็นอีกวิธีที่จะป้องกันจากโรคร้ายๆ เดี๋ยวนี้โรคก็อินเทรนขึ้นเยอะ อีโบล่า(2557) ตอนนี้ เมอร์สก็ปรากฎ มีไอโฟน6 จนจะมีไอโฟน7 โรคเดี๋ยวนี้มันพัฒนาตามเทคโนโลยีเลย...
ขอแสดงความยินดี ขณะนี้ไวรัสเมอร์สถึงไทยแล้ว TAT
ปัจจุบัน ติดไวรัสเมอร์ส 4 วันลงโลง ต่อไปไม่ 4 วิลงโลงเลยเหรอ//พิมพ์ประชดไวรัส(เพื่อ..)
ตอนนี้มีคนเจอแล้วนิค่ะ เป็นชาวต่างชาติผู้ายนิ
อนาคตจะมีไวรัสใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกเท่าไรเนีย
ในอนาคตจะมีไวรัสอะไรมาเพิ่มอีกมากมาย หรืออาจจะมีการกลายพันธุ์ ซึ่งเราก็ต้องรับมือกับพวกมัน
ก็ไม่รู้สิคะ นางติ่งนางหนึ่งบอกว่า โอ๊บป้านางไม่มีวันติดเชื้อ เพราะเค้าขาวจะตาย #เพลีย