เปิดเทอมใหม่แบบนี้ เรื่องหนักอกหนักใจก็ตกไปอยู่ที่ ปวช.ปี 3 ที่ต้องเลือกต่อว่าเมื่อเรียนจบ ปวช. แล้วจะเรียนต่อทางไหนดีระหว่าง ปวส. หรือเข้ามหาวิทยาลัย ถ้าใครตัดสินใจได้แล้วว่าจะเข้า ปวส. ก็เหลือรอบสมัครและสอบตอนที่วิทยาลัยเปิดสอบได้เลย
แต่ก็มีน้องอีกส่วนหนึ่งที่อยากเรียนต่อมหาวิทยาลัยหลังจากจบ ปวช. เลย ถ้าในมุมของน้องๆ ก็ยากเอาเรื่องอยู่ค่ะ แต่ถ้าเรารู้ขั้นตอนการสอบเข้าละก็เรื่องยากจะเป็นเรื่องง่ายไปเลย ก่อนที่จะถึงการสอบก็มีเรื่องที่ ปวช. ต้องรู้ก่อนที่จะลงสนามรับตรง-แอดมิชชั่น 59 มีเรื่องอะไรบ้าง ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
แต่ก็มีน้องอีกส่วนหนึ่งที่อยากเรียนต่อมหาวิทยาลัยหลังจากจบ ปวช. เลย ถ้าในมุมของน้องๆ ก็ยากเอาเรื่องอยู่ค่ะ แต่ถ้าเรารู้ขั้นตอนการสอบเข้าละก็เรื่องยากจะเป็นเรื่องง่ายไปเลย ก่อนที่จะถึงการสอบก็มีเรื่องที่ ปวช. ต้องรู้ก่อนที่จะลงสนามรับตรง-แอดมิชชั่น 59 มีเรื่องอะไรบ้าง ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
>> เด็ก ปวช. มีสิทธิ์สมัครได้ทั้งรับตรงและแอดมิชชั่นนะ รู้ยัง?
ตลอดทั้งปีจะมีข่าวรับตรงและการสอบแอดมิชชั่นมาทั้งปี ซึ่งน้อง ปวช. ก็มีสิทธิ์ที่จะสมัครตรงนี้เหมือนกัน สำหรับบางมหาวิทยาลัยก็จะมีรับตรงที่เฉพาะ ปวช.-ปวส. อย่างเช่น มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ส่วนในรอบแอดมิชชั่น คณะทางสายศิลป์ส่วนใหญ่สมัครได้หมด แต่สายวิทย์บางคณะก็ต้องอ่านดีๆ เพราะรับเฉพาะ ม.6 สายวิทย์ หรือรับแค่ ปวช. สายช่างอุตสาหกรรม เท่านั้นค่ะ
>> ต้องสอบ O-NET ในปีที่กำลังจะจบ ปวช. เท่านั้น
สำหรับน้องๆ ที่จะเข้ามหาวิทยาลัยในรอบแอดมิชชั่นกลาง ยังไงก็ต้องสอบ O-NET และต้องสอบครบทั้ง 8 วิชาด้วย ส่วนปีที่สอบได้คือปีที่กำลังจะจบ ปวช. 3 เท่านั้น ความโหดของ O-NET คือสามารถสอบได้แค่ครั้งเดียว และคะแนนก็จะเป็นแบบนั้นไปตลอดชีวิต ถ้าน้องๆ จะสอบก็ต้องสมัครเองค่ะที่ www.niets.or.th (ช่วงประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน) แต่ข้อดีคือสอบฟรี!! ฮ่าๆ
>> รับตรงกว่า 80% ใช้ GAT PAT รอบแรก
ถึงแม้ว่าการสมัครสอบ GAT PAT จะมาก่อนรับตรงบางส่วน แต่จากสถิติที่ผ่านมารับตรงส่วนใหญ่จะใช้ GAT PAT รอบแรกทั้งนั้น ถ้าเกิดพลาดการสอบ GAT PAT รอบแรกไปเหมือนกันว่าเราพลาดรับตรงไปเยอะมาก เลยโอกาสไปเยอะมาก ถ้าใครเล็งรับตรงไว้ให้รีบสมัครตั้งแต่รอบแรกเลยค่ะ ถ้าไม่ได้ใช้ในรับตรงก็ยังสามารถใช้ได้ในรอบแอดมิชชั่นกลางอยู่ดี
>> วิชาสามัญไม่ต้องสอบให้ครบก็ได้
วิชาสามัญ คืออีกหนึ่งการสอบที่จะใช้เฉพาะรับตรงเท่านั้น ไม่ได้บังคับสอบครบเหมือน O-NET ถ้าไม่ได้จะเข้าวิศวกรรมศาสตร์ สอบแค่ 4 วิชาก็พอคือ คณิต อังกฤษ ไทย และสังคม สอบไว้ให้มีคะแนนดีกว่าไม่มี ถึงแม้ไม่ได้ใช้ทุกรับตรงก็ตาม เลือกวิชาที่คณะที่เราอยากเข้าจะใช้ แล้วก็ลุยสอบไปเลยค่ะ
>> รับตรงไม่ได้รับ ปวช. ทุกโครงการ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น้อง ปวช. ต้องอ่านรายละเอียดการสมัครอย่างละเอียด รับตรงบางโครงการก็บอกว่ารับเทียบเท่า(ปวช.) แต่พอดูรายละเอียดก็ระบุสายของ ปวช. ด้วย ส่วนบางโครงการก็รับหมด แต่คณะทางสายวิทย์นี่แทบไม่รับเลยค่ะ T_T ในรอบแอดมิชชั่นกลางก็เหมือนกัน คณะที่ ปวช. ทุกสาขาสมัครได้จะเป็นคณะทางสายศิลป์ค่ะ เช่น นิติศาสตร์ บริหารฯ-การตลาด การท่องเที่ยวฯ อักษรฯ-มนุษยฯ(เอกไทย,อิ้งค์) ยังไงก่อนสมัครก็อ่านให้ละเอียดอีกทีดีกว่าเนาะ
>> เกรดที่ใช้รับตรง ใช้เกรดล่าสุดไม่ต้องแคร์จำนวนเทอม
ในรอบแอดมิชชั่นกลางจะใช้เกรดทั้งหมดที่เรียนจบมาเลยไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่ในรอบรับตรงจะมีบางโครงการที่กำหนดเกรดเฉลี่ยไว้ว่า 4 เทอมบ้าง 5 เทอมบ้าง ในส่วนของน้อง ปวช. ให้ใช้เกรดล่าสุดไปเลยค่ะ เพราะบางมหาวิทยาลัยมีแบ่งเป็น 3 เทอม ถ้าใช้เกรดแค่ 4 เทอมคือยังเป็นเกรดตอนเรียนปี 2 เทอมแรกอยู่เลย เพราะฉะนั้นถ้าจะสมัครสอบที่ไหนเอาเกรดล่าสุดไปเลย อ่าลืมแทบใบทรานสคริปต์ด้วยนะจ๊ะ
>> แอดมิชชั่นถ้าขาดคะแนนใดคะแนนหนึ่งก็แอดฯ ไม่ได้
ค่ะ ... ถ้าขาดคะแนนใดคะแนนหนึ่งก็แอดมิชชั่นไม่ได้ อย่าง O-NET ขาดไปวิชาหนึ่งก็ไม่ได้ค่ะ ถึงแม้ว่าคะแนนแอดมิชชั่นโดยรวมจะคะแนนมากพอที่จะยื่นได้ก็ตาม ถ้าไปสอบแล้วได้ 0 คะแนนในวิชานั้นยังมีสิทธิ์ที่จะสมัครแอดมิชชั่นได้นะคะ แต่ถ้าไม่เข้าสอบคือไม่ได้เลย ถ้าถึงวันสอบแล้วเราขี้เกียจไม่ไปสอบ พี่แป้งว่าผลลัพธ์ปลายทางที่ได้มันไม่คุ้มซะเท่าไหร่ ไปสอบเถอะค่ะ
จบไปแล้วกับ 7 เรื่องที่ ปวช. ต้องรู้ก่อนที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ตอนนี้เป็นช่วงเริ่มของการเตรียมตัว ใครที่ยังไม่ได้อ่านหนังสือต้องเริ่มแล้วค่ะ การสอบทุกอย่างมันจะเร็วมาก ถ้าพยายามมากพอ มันไม่มีอะไรเกินความพยายามของเราหรอกค่ะ สู้ๆ นะ...
บทความสายอาชีพ
บอร์ดสายอาชีพ
@Paengdekd
3 ความคิดเห็น
ขอบคุณนะคะ เป็นประโยขน์มากเลย