สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com โรงเรียนที่จะมาแนะนำวันนี้ ขอบอกว่าพิเศษและอ่านเพลินสุดๆ เชื่อว่าน้องๆ คงรู้จักโรงเรียนวิทยาศาสตร์มาประมาณนึง แต่สำหรับโรงเรียนดรุณสิกขาลัย (โครงการ วมว.) เป็นโรงเรียนวิทย์ที่ไม่ธรรมดา เพราะเป็นห้องเรียน วิศว์-วิทย์ และจัดหลักสูตรการเรียนการสอนแบบ Story-Based Learning ซึ่งหลักสูตรนี้จะเป็นยังไง ต้องอ่านให้จบค่ะ สนุกมากๆ
โรงเรียน ดรุณสิกขาลัย (โครงการ วมว.)
โครงการห้องเรียน วิศว์-วิทย์ ดรุณสิกขาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
หมวดที่ 1 : นี่แหละโรงเรียนเรา
(1) ประเภทโรงเรียน >> กึ่งสหศึกษา กึ่งชายล้วน (ตั้งแต่ 1-7 ผู้ชายมากกว่าผู้หญิงทุกรุ่น มีแต่รุ่น 8 เนี่ยแหละผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเกือบ 3 เท่า =[]=) โรงเรียนประจำ กึ่งๆ สาธิตนิดหน่อย โรงเรียนที่มีแนวการเรียนและหลักสูตรแปลกแหวกแนวที่สุดในประเทศเลยก็ว่าได้
(2) สีประจำโรงเรียน >> แสด เหลือง (สีมหาวิทยาลัย) + เทา
(3) ที่ตั้งโรงเรียน >> มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ทั้งที่บางมดและบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร (โรงเรียนเราอยู่ใกล้ทะเลนะ มีป่าชายเลนอยู่ใกล้ๆ บรรยากาศดีสุดๆ)
(4) ชุดนักเรียน >> แปลกมากถึงมากที่สุด ถึงขั้นเวลาไปข้างนอก คนหันมามองกันหมด 555 เสื้อแบบเสื้อโปโล ใส่สบาย สีขาว มีแถบสีเทากับส้มอยู่ที่ไหล่ซ้าย ปัก ESC KMUTT ที่อกซ้าย ปกเสื้อสีเทา กระโปรงสีเทาอ่อนๆ จับจีบแบบที่ไม่สามารถบรรยายได้ กระเป๋าสองข้าง กางเกงผู้ชายก็สีเดียวกัน ขายาว ใส่เข็มขัดอะไรก็ได้ สีแสบตาขนาดไหนก็ได้ แถมตอนตัดชุดมีช่างมาวัดตัวเลยนะ ใครอยากได้กระโปรงสั้นขนาดไหน หลวมมากหลวมน้อย กางเกงขาเดฟขากระบอกขาบาน ตามสบาย
(7) ตัวย่อโรงเรียน >> ESC KMUTT (Engineering-Science Classroom)
(8) สิ่งที่เคารพนับถือ >> รัชกาลที่ 4 ตามชื่อมหาวิทยาลัยเลยจ้า
(9) แบ่งชั้นเรียนยังไง >> โรงเรียนเราไม่แบ่งห้อง รับรุ่นละ 30 คน ปัจจุบันมีถึงรุ่น 8 (ม. 4 ปีนี้) แต่รุ่นต่อไปปีหน้า 59 จะเปิดรับ 2 ห้อง รวมเป็น 60 คนแล้วนะ
ปล. โรงเรียนเรารับแค่ ม. ปลาย สายวิทย์อย่างเดียวจ้า
(12) สภาพห้องเรียน >> ที่บางขุนเทียนใช้ระบบแอร์ระบบเดียวกับมหาลัย จะตัดระบบทำความเย็นตอนห้าโมง วันไหนเลิกเรียนช้าหรือเรียนตอนเย็นก็ต้องทนร้อนกันไปเนอะ แต่ไม่ต้องห่วง ห้องของ ม.5 และ ม.6 มีแอร์ที่โรงเรียนติดตั้งเองอยู่จ้า เย็นจนหลับ 5555
หมวดที่ 2 : สิ่งมีชีวิตในโรงเรียน
(1) จำนวนนักเรียน >> น้อยกว่าหรือเท่ากับ 90 คน (3 รุ่น รุ่นละ 30 คนเป็นอย่างมาก) แต่รุ่นต่อไปจะรับ 60 คนแล้ว
(2) คนนี้แหละ น่ารักเว่อร์ >> โรงเรียนเราเหรอ....... อาจารย์น่ารักที่สุดค่ะ เข้าใจเด็ก เป็นกันเอง อยู่หอกับเรา ปรึกษาได้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องเงิน 555+
(3) สัตว์น่ารักๆ ในโรงเรียน >> Varanus salvator (ตัวเงินตัวทอง) ที่คลานกันให้ว่อนทั่วมอที่บางขุนเทียน ตัวนึงนี่ก็ไม่เล็กเลยจ้า, Euglena viridis (ยูกลีนา) เต็มบ่อแถวทางเดินไปตึกเรียน << นี่นับเป็นสัตว์เหรอ ก็ไม่นะ แต่จะนับ 55555+, Passer montanus (นกกระจอกบ้าน) ที่ชอบสร้างรังตรงระเบียงที่หอแล้วลูกของมันก็ร่วงลงมาที่พื้นระเบียง เด็กเราใจดีทุกคน เก็บมาเลี้ยง....แต่ไม่เคยมีชีวิตรอดเพราะมันยังเด็กมากไป
หมวดที่ 3 : ชีวิตในโรงเรียน
(1) เวลาเข้าเรียน - เลิกเรียน >> เข้าเรียน 8.30 หรืออาจจะเป็น 9.00 ตามอาจารย์ผู้สอน พักเที่ยง 12.00-13.00 เรียนต่อถึง 16.00 (บางวิชาอ.ก็นัดเรียนต่อตอนกลางคืนเลิกไม่เกินสี่ทุ่ม)
(2) กิจกรรมสุดฮิตหลังเลิกเรียน >> ไปออกกำลังกายที่สปอร์ตคอมเพล็กซ์ของมหาลัยหรือไม่ก็สุดฮิตที่สุดในสามโลก.... “กลับไปนอน” ค่ะ
(3) ที่เที่ยว ที่สถิต หลังเลิกเรียน >> เตียงนอนที่หอ โรงยิม สนามฟุตบอล บ่อไต ห้องเรียน (นั่งทำงาน) วันศุกร์ถ้าจะออกไปนอกมอก็ตลาด 61 หรือเซ็นทรัลพระรามสอง แต่สำหรับหลายๆ คนที่บ้านอยู่กรุงเทพ ที่สถิตที่ฟินที่สุดในวันศุกร์ก็คือ “บ้าน” นั่นเองจ้า
(4) กีฬาเด็ดๆ ของคาบพละ >> ลีลาศเลยจ้า เต้นเหยียบเท้ากันมันส์ แถมรุ่นเรา (รุ่น 7)ผู้ชายเยอะกว่าผู้หญิงมาก เลยมีผู้ชายคู่กันด้วย ฟิน >////<
(5) รุ่นพี่ไอดอล(ที่จบไปแล้ว) >> พี่ที่จบไปแล้วเป็นไอดอลทุกคนค่ะ ส่วนใหญ่ได้ดีในคณะทั้งนั้น เช่น เป็นประธานค่าย ประธานรุ่น เรียนดีได้เหรียญ ฯลฯ
(6) เมนูนี้เด็ดสุดในโรงอาหาร >> มีหลายโรงอ่ะ เป็นของมหาลัย เด็ดทุกเมนูจ้า ที่เด็ดๆ คือ KFC ที่บางมด มันเป็น KFC ที่มากกว่า KFC ถ้าอยากรู้ก็ลองสอบเข้ามาดูนะ
(7) ข้าวในโรงอาหาร จานละเท่าไหร่ >> 25+ แต่อร่อยมาก ให้เยอะมาก ฟินสุดจริงๆ
(8) มีของกินหน้าโรงเรียนมั้ย >> เอ่อ ที่บางขุนเทียนมีแต่ต้นโกงกางกับตัววารานัส 555+ แต่ก็มีมาร์ทอยู่ใต้หอกับใต้ตึกเรียน มีร้านลูกชิ้นทอดพันปี (ทอดนานมากมาย) แต่เราชอบกินนะ อร่อยดี ส่วนที่ฮิตมากๆ เป็นเด็กดรุณต้องเคยกินซักครั้ง ถ้าไม่เคยกินนี่พลาดมาก ก็คือหมูกระทะที่สั่งมากินกันใต้หอนั่นเอง หลังงานใหญ่แทบทุกงาน (เช่น เลี้ยงส่งเพื่อนไปต่างประเทศ เลี้ยงหลังจัดค่าย เลี้ยงหลังกีฬาสี หรือบางทีไม่มีงานอะไรก็เลี้ยงกันได้) เราก็จะสั่งมาแล้วก็เฉลี่ยกันคนละประมาณ 100 บาท อิ่มมาก อร่อยมาก
หมวด 4 : บอกรักโรงเรียน
ถามว่าอยากบอกอะไรโรงเรียน... มีเยอะมาก เราผูกพันกับอาจารย์และเพื่อนๆ โรงเรียนนี้สอนอะไรเราเยอะมาก ใครที่ได้อ่านบทความนี้แล้วมีโอกาสได้เข้ามาเรียนที่นี่ น้องก็จะรู้เองว่า สิ่งที่น้องได้จากโรงเรียนนี้ น้องจะสามารถนำไปใช้กับชีวิตน้องได้ทั้งชีวิต และน้องจะผูกพันกับที่นี่มากๆ เหมือนกับพวกพี่ และน้องก็จะได้รู้สึกแบบพี่ว่ารักโรงเรียนนี้ขนาดไหน
“...พระจอมเกล้าธนบุรี พระจอมเกล้าธนบุรี นามนี้ที่เรารักมั่น เป็นน้ําหนึ่งใจเดียว
เหมือนเชือกมัดเกลียวผูกกัน ผูกใจพันพวกเราเชื่อมโยงเยื่อใย...”
BONUS : ความหลุด รั่ว มันส์ ฮา ของนักเรียนโรงเรียนเรา
สวมวิญญาณชาวร็อคในคืน All go night
(เป็นงานแสดงดนตรีของชุมนุม All go rhythm... ถ้าอยากรู้ว่ามันส์แค่ไหนต้องเข้ามาลอง)
โรงเรียน ดรุณสิกขาลัย (โครงการ วมว.)
โครงการห้องเรียน วิศว์-วิทย์ ดรุณสิกขาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ก่อนอื่นอยากให้ทุกคนทราบว่าใน มจธ. มีโรงเรียนดรุณ 2 แบบด้วยกัน แบบแรกคือโรงเรียนดรุณสิกขาลัย (โครงการ วมว.) หรือ ห้องเรียน วิศว์-วิทย์ มจธ. กับอีกดรุณ คือ โรงเรียนดรุณสิกขาลัย (DSIL) ที่เป็นโรงเรียนทางเลือก ออกแนวอินเตอร์ แต่เสียค่าเล่าเรียน วันนี้เราจะมาแนะนำ (ออกแนวโปรโมทให้มาสอบ) โรงเรียนของเรากัน
เกริ่นนำก่อนนะ คือพูดถึงชื่อโรงเรียนเรา แทบทุกคนมักจะถามว่า “อุ้ย! โรงเรียนอะไรอ่ะ” “อยู่กรุงเทพรึเปล่า” บอกเลยว่าอยู่กรุงเทพ และเป็นโรงเรียนที่ติดอันดับ 34 จาก 100 โรงเรียนดี และได้อันดับ 3 ของประเทศจากคะแนน O-NET(www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1332746067) โรงเรียนเรายังตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยอันดับที่ 1 ของไทย อันดับที่ 55 ของเอเชีย จากการจัดอันดับโดย Times Higher Education (www.timeshighereducation.co.uk/world-university-rankings/2015/regional-ranking#/sort/0/direction/asc) เป็นเพราะโรงเรียนเราไม่สนับสนุนให้นักเรียนไปแข่งขันที่อื่นเยอะ ประกอบกับนักเรียนน้อย ถึงจะไปแข่งก็ยากที่จะได้รางวัลมาเยอะๆ แบบโรงเรียนอื่นๆ แล้วโรงเรียนเราก็ไม่ได้ประชาสัมพันธ์หนักมากซักเท่าไหร่ นี่อาจจะเป็นครั้งแรกๆ ที่เราประชาสัมพันธ์โรงเรียนแบบจริงจังขนาดนี้ ทีนี้ทุกคนอยากรู้แล้วใช่มั้ยล่ะว่าโรงเรียนนี้มีอะไรดี งั้นเรามาทำความรู้จักโรงเรียนกันเลยดีกว่า......
เกริ่นนำก่อนนะ คือพูดถึงชื่อโรงเรียนเรา แทบทุกคนมักจะถามว่า “อุ้ย! โรงเรียนอะไรอ่ะ” “อยู่กรุงเทพรึเปล่า” บอกเลยว่าอยู่กรุงเทพ และเป็นโรงเรียนที่ติดอันดับ 34 จาก 100 โรงเรียนดี และได้อันดับ 3 ของประเทศจากคะแนน O-NET(www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1332746067) โรงเรียนเรายังตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยอันดับที่ 1 ของไทย อันดับที่ 55 ของเอเชีย จากการจัดอันดับโดย Times Higher Education (www.timeshighereducation.co.uk/world-university-rankings/2015/regional-ranking#/sort/0/direction/asc) เป็นเพราะโรงเรียนเราไม่สนับสนุนให้นักเรียนไปแข่งขันที่อื่นเยอะ ประกอบกับนักเรียนน้อย ถึงจะไปแข่งก็ยากที่จะได้รางวัลมาเยอะๆ แบบโรงเรียนอื่นๆ แล้วโรงเรียนเราก็ไม่ได้ประชาสัมพันธ์หนักมากซักเท่าไหร่ นี่อาจจะเป็นครั้งแรกๆ ที่เราประชาสัมพันธ์โรงเรียนแบบจริงจังขนาดนี้ ทีนี้ทุกคนอยากรู้แล้วใช่มั้ยล่ะว่าโรงเรียนนี้มีอะไรดี งั้นเรามาทำความรู้จักโรงเรียนกันเลยดีกว่า......
หมวดที่ 1 : นี่แหละโรงเรียนเรา
(1) ประเภทโรงเรียน >> กึ่งสหศึกษา กึ่งชายล้วน (ตั้งแต่ 1-7 ผู้ชายมากกว่าผู้หญิงทุกรุ่น มีแต่รุ่น 8 เนี่ยแหละผู้หญิงมากกว่าผู้ชายเกือบ 3 เท่า =[]=) โรงเรียนประจำ กึ่งๆ สาธิตนิดหน่อย โรงเรียนที่มีแนวการเรียนและหลักสูตรแปลกแหวกแนวที่สุดในประเทศเลยก็ว่าได้
(2) สีประจำโรงเรียน >> แสด เหลือง (สีมหาวิทยาลัย) + เทา
(3) ที่ตั้งโรงเรียน >> มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ทั้งที่บางมดและบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร (โรงเรียนเราอยู่ใกล้ทะเลนะ มีป่าชายเลนอยู่ใกล้ๆ บรรยากาศดีสุดๆ)
(4) ชุดนักเรียน >> แปลกมากถึงมากที่สุด ถึงขั้นเวลาไปข้างนอก คนหันมามองกันหมด 555 เสื้อแบบเสื้อโปโล ใส่สบาย สีขาว มีแถบสีเทากับส้มอยู่ที่ไหล่ซ้าย ปัก ESC KMUTT ที่อกซ้าย ปกเสื้อสีเทา กระโปรงสีเทาอ่อนๆ จับจีบแบบที่ไม่สามารถบรรยายได้ กระเป๋าสองข้าง กางเกงผู้ชายก็สีเดียวกัน ขายาว ใส่เข็มขัดอะไรก็ได้ สีแสบตาขนาดไหนก็ได้ แถมตอนตัดชุดมีช่างมาวัดตัวเลยนะ ใครอยากได้กระโปรงสั้นขนาดไหน หลวมมากหลวมน้อย กางเกงขาเดฟขากระบอกขาบาน ตามสบาย
(5) ชุดพละ >> เสื้อสีส้มแป๊ด เดินไปไหนก็จะมีแต่คนมอง บวกกับกางเกงพละขายาวแบบไหนก็ได้
(6) ชุดอื่นๆ >> นักเรียนแต่ละคนจะมีเสื้อช็อปคนละตัว สีเทา ปักชื่อตัวเอง ชื่อมหาลัย ชื่อโรงเรียน เหมือนเสื้อช็อปวิศวะทุกอย่างเลย แล้วก็จะได้ใช้อยู่บ่อยๆ บอกเลยว่าเสื้อช็อปวิศวะอุ่นมาก ถึงกับใช้แทนเสื้อกันหนาวได้ในวันที่มีช็อป ส่วนเสื้อกาวน์สำหรับทำแล็ปต้องซื้อเอง ใช้บ่อยเช่นกัน
(6) ชุดอื่นๆ >> นักเรียนแต่ละคนจะมีเสื้อช็อปคนละตัว สีเทา ปักชื่อตัวเอง ชื่อมหาลัย ชื่อโรงเรียน เหมือนเสื้อช็อปวิศวะทุกอย่างเลย แล้วก็จะได้ใช้อยู่บ่อยๆ บอกเลยว่าเสื้อช็อปวิศวะอุ่นมาก ถึงกับใช้แทนเสื้อกันหนาวได้ในวันที่มีช็อป ส่วนเสื้อกาวน์สำหรับทำแล็ปต้องซื้อเอง ใช้บ่อยเช่นกัน
(7) ตัวย่อโรงเรียน >> ESC KMUTT (Engineering-Science Classroom)
(8) สิ่งที่เคารพนับถือ >> รัชกาลที่ 4 ตามชื่อมหาวิทยาลัยเลยจ้า
(9) แบ่งชั้นเรียนยังไง >> โรงเรียนเราไม่แบ่งห้อง รับรุ่นละ 30 คน ปัจจุบันมีถึงรุ่น 8 (ม. 4 ปีนี้) แต่รุ่นต่อไปปีหน้า 59 จะเปิดรับ 2 ห้อง รวมเป็น 60 คนแล้วนะ
ปล. โรงเรียนเรารับแค่ ม. ปลาย สายวิทย์อย่างเดียวจ้า
(10) มาทำความรู้จักกับโครงการ วมว. กันนิดนึง >> โครงการ วมว. ย่อมาจาก โครงการสนับสนุนการจัดตั้งห้องเรียนวิทยาศาสตร์ในโรงเรียนโดยการกำกับดูแลของมหาวิทยาลัย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตอนนี้มีทั้งหมด 16 โรงเรียน (เราเรียกแต่ละโรงเรียนว่า ศูนย์) และยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ เช่น มทส. (โคราช) มช. (เชียงใหม่) มอ.ว. (สงขลา) ม.บูรพา (ชลบุรี) ฯลฯ
ซึ่งเราจะมีกิจกรรมงานสานสัมพันธ์ฉันท์ วมว. กันทุกปี แต่ละศูนย์จะผลัดกันจัด เป็นกิจกรรมสำหรับน้อง ม.4 ที่กำลังจะขึ้นเป็น ม.5 จะมีเพื่อนๆ จากมหิดลวิทยานุสรณ์มาร่วมด้วย ช่วงที่มีงานสานฯ ก็คือช่วงเที่ยวนั่นล่ะค่ะ เช่น รุ่น 7 จัดงานที่สงขลา เราก็แวะเที่ยวประจวบ สุราษฎร์ ประมาณนี้ สำหรับ ม.5 ขึ้น ม.6 ก็ไม่น้อยหน้า จะมีกิจกรรม SCiUS Forum คือการนำโครงงานที่นักเรียนในแต่ละศูนย์ทำในเทอมหรือปีนั้นๆ มาประกวด มีรางวัลสำหรับผู้ชนะด้วย
(11) วิธีเรียน >> ขอแยกเป็น 2 เรื่องนะคะ
11.1 หลักสูตรการเรียน
อย่างที่บอกไปแล้วเป็นโรงเรียนที่มีหลักสูตรแปลกแหวกแนว จะเรียนแบบ Story-Based Learning คือเรียนตาม Timeline ประวัติศาสตร์และเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น เช่น ม.4 เทอม 1 จะเริ่มเรียนตั้งแต่ Big Bang กำเนิดจักรวาล โลก ระบบสุริยะ การเกิดสิ่งมีชีวิต เรื่องเซลล์ต่างๆ กว่าจะมาเป็นยูคาริโอต ม.4 เทอม 2 มนุษย์เริ่มออกเดินทางไปสำรวจโลก เราจะได้เข้าช็อปทำเรือ มีการคำนวณหา C.G. เรียนการดูดาวเพื่อหาทิศทาง ฯลฯ เรียนไปเรื่อยๆ ม.6 ก็จบยุคปัจจุบันพอดี แต่ละวิชาก็มีชื่อที่แปลก เช่น The Origin of Life, Phuwiangosaurus sirindhornae, Principia ฯลฯ ส่วนเรื่องเนื้อหาวิชาการไม่ต้องห่วง ล่วงหน้ายันมหาลัยแน่นอน แต่ไม่ต้องกลัวเรียนไม่ไหว แต่ละรุ่นของเรามีคนไม่เยอะ แถมเป็นโรงเรียนประจำ พวกเราก็ช่วยกันเรียน ช่วยกันติวให้เพื่อนตลอด โรงเรียนเราเน้นสอน Critical thinking และ Creative thinking เป็นแนวคิดให้พวกเรารู้จักตั้งคำถาม รู้จักสงสัยให้มากขึ้น ทำให้พวกเรามีความคิดสร้างสรรค์ในการทำสิ่งใหม่ขึ้นมาเสมอ ^^
หนึ่งในสิ่งที่สำคัญมากเมื่อมาเรียนที่นี่คือ “โปรเจค” หรือที่โรงเรียนทั่วไปเรียกว่าโครงงานนั่นแหละ ทุกโรงเรียนในโครงการ วมว. ให้นักเรียนทำโปรเจคเทอมละ 1 โปรเจค แต่โรงเรียนเราจะเริ่มทำตอนปิดเทอมใหญ่ก่อนขึ้นม.5 งานนี้เป็นงานที่กระทรวงวิทย์บังคับ โปรเจคก็มีหลากหลายสาขาวิชา เช่น หุ่นยนต์ ชีววิทยา เคมี คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เราทำโปรเจคกันกลุ่มละ 1-3 คน ขอบอกก่อนเลยว่าเป้าหมายของโรงเรียนในโครงการ วมว. เนี่ย ต้องการผลิตนักวิทยาศาสตร์ให้ประเทศไทย เราเลยต้องมีการทำรายงานแบบรายงานวิจัยและการนำเสนอผลงานตอนท้ายภาคเรียน
ซึ่งเราจะมีกิจกรรมงานสานสัมพันธ์ฉันท์ วมว. กันทุกปี แต่ละศูนย์จะผลัดกันจัด เป็นกิจกรรมสำหรับน้อง ม.4 ที่กำลังจะขึ้นเป็น ม.5 จะมีเพื่อนๆ จากมหิดลวิทยานุสรณ์มาร่วมด้วย ช่วงที่มีงานสานฯ ก็คือช่วงเที่ยวนั่นล่ะค่ะ เช่น รุ่น 7 จัดงานที่สงขลา เราก็แวะเที่ยวประจวบ สุราษฎร์ ประมาณนี้ สำหรับ ม.5 ขึ้น ม.6 ก็ไม่น้อยหน้า จะมีกิจกรรม SCiUS Forum คือการนำโครงงานที่นักเรียนในแต่ละศูนย์ทำในเทอมหรือปีนั้นๆ มาประกวด มีรางวัลสำหรับผู้ชนะด้วย
(11) วิธีเรียน >> ขอแยกเป็น 2 เรื่องนะคะ
11.1 หลักสูตรการเรียน
อย่างที่บอกไปแล้วเป็นโรงเรียนที่มีหลักสูตรแปลกแหวกแนว จะเรียนแบบ Story-Based Learning คือเรียนตาม Timeline ประวัติศาสตร์และเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น เช่น ม.4 เทอม 1 จะเริ่มเรียนตั้งแต่ Big Bang กำเนิดจักรวาล โลก ระบบสุริยะ การเกิดสิ่งมีชีวิต เรื่องเซลล์ต่างๆ กว่าจะมาเป็นยูคาริโอต ม.4 เทอม 2 มนุษย์เริ่มออกเดินทางไปสำรวจโลก เราจะได้เข้าช็อปทำเรือ มีการคำนวณหา C.G. เรียนการดูดาวเพื่อหาทิศทาง ฯลฯ เรียนไปเรื่อยๆ ม.6 ก็จบยุคปัจจุบันพอดี แต่ละวิชาก็มีชื่อที่แปลก เช่น The Origin of Life, Phuwiangosaurus sirindhornae, Principia ฯลฯ ส่วนเรื่องเนื้อหาวิชาการไม่ต้องห่วง ล่วงหน้ายันมหาลัยแน่นอน แต่ไม่ต้องกลัวเรียนไม่ไหว แต่ละรุ่นของเรามีคนไม่เยอะ แถมเป็นโรงเรียนประจำ พวกเราก็ช่วยกันเรียน ช่วยกันติวให้เพื่อนตลอด โรงเรียนเราเน้นสอน Critical thinking และ Creative thinking เป็นแนวคิดให้พวกเรารู้จักตั้งคำถาม รู้จักสงสัยให้มากขึ้น ทำให้พวกเรามีความคิดสร้างสรรค์ในการทำสิ่งใหม่ขึ้นมาเสมอ ^^
หนึ่งในสิ่งที่สำคัญมากเมื่อมาเรียนที่นี่คือ “โปรเจค” หรือที่โรงเรียนทั่วไปเรียกว่าโครงงานนั่นแหละ ทุกโรงเรียนในโครงการ วมว. ให้นักเรียนทำโปรเจคเทอมละ 1 โปรเจค แต่โรงเรียนเราจะเริ่มทำตอนปิดเทอมใหญ่ก่อนขึ้นม.5 งานนี้เป็นงานที่กระทรวงวิทย์บังคับ โปรเจคก็มีหลากหลายสาขาวิชา เช่น หุ่นยนต์ ชีววิทยา เคมี คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เราทำโปรเจคกันกลุ่มละ 1-3 คน ขอบอกก่อนเลยว่าเป้าหมายของโรงเรียนในโครงการ วมว. เนี่ย ต้องการผลิตนักวิทยาศาสตร์ให้ประเทศไทย เราเลยต้องมีการทำรายงานแบบรายงานวิจัยและการนำเสนอผลงานตอนท้ายภาคเรียน
11.2 ชีวิตในโรงเรียน
เนื่องจากเป็นโรงเรียนประจำพวกเราก็ต้องนอนหอ หอของโรงเรียนเป็นหอในของมหาลัยที่วิทยาเขตบางขุนเทียน นอนกันห้องละ 3-4 คน ชีวิตที่หอก็ดี๊ดี ขึ้นหอก่อนสี่ทุ่ม หอมี Wi-Fi กับอินเทอร์เน็ตแบบสายแลน ซื้อของกินจากมาร์ทใต้หอมากินบนห้องก็ได้ ทำอะไรตามใจได้เลยแต่ห้ามเสียงดังเนื่องจากอยู่ตึกเดียวกับพี่มหาลัย นอนกี่โมงก็ได้แต่ต้องตื่นมาเรียนให้ทัน นักเรียนต้องมีความรับผิดชอบในตัวเอง เช่น ซักผ้ากันเอาเองโดยใช้เครื่องซักผ้าของโรงเรียน ทำความสะอาดห้อง (มีตรวจหอทุกคืนวันพุธ) ออกกำลังกายให้ได้ตามที่กำหนด ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟกันเองด้วย
ส่วนเรื่องไปเรียนก็ตื่นไปกินข้าวให้ทันก่อนแปดโมง ถ้าวันจันทร์กับศุกร์จะไปเรียนที่บางมด ขึ้นรถไมโครบัสมหาลัยไป ส่วนวันอังคารถึงพฤหัสบดีเรียนที่ตึกบางขุนเทียน เข้าแถว 8.15 น. เริ่มเรียนประมาณ 9 โมงถึงเที่ยง พักกินข้าวแล้วขึ้นมาเรียนต่อบ่ายโมงถึงสี่โมงเย็น เรียนวันละ 2 วิชาเองจ้า จิ๊บๆ ส่วนเรื่องขนมขบเคี้ยวก็มีให้เรื่อยๆ โดยคณะกรรมการนักเรียนในแต่ละปีจะเปิดสหกรณ์เอาไว้ เป็นร้านซื่อสัตย์ หยิบขนมเองจ่ายเงินเอง
เนื่องจากเป็นโรงเรียนประจำพวกเราก็ต้องนอนหอ หอของโรงเรียนเป็นหอในของมหาลัยที่วิทยาเขตบางขุนเทียน นอนกันห้องละ 3-4 คน ชีวิตที่หอก็ดี๊ดี ขึ้นหอก่อนสี่ทุ่ม หอมี Wi-Fi กับอินเทอร์เน็ตแบบสายแลน ซื้อของกินจากมาร์ทใต้หอมากินบนห้องก็ได้ ทำอะไรตามใจได้เลยแต่ห้ามเสียงดังเนื่องจากอยู่ตึกเดียวกับพี่มหาลัย นอนกี่โมงก็ได้แต่ต้องตื่นมาเรียนให้ทัน นักเรียนต้องมีความรับผิดชอบในตัวเอง เช่น ซักผ้ากันเอาเองโดยใช้เครื่องซักผ้าของโรงเรียน ทำความสะอาดห้อง (มีตรวจหอทุกคืนวันพุธ) ออกกำลังกายให้ได้ตามที่กำหนด ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟกันเองด้วย
ส่วนเรื่องไปเรียนก็ตื่นไปกินข้าวให้ทันก่อนแปดโมง ถ้าวันจันทร์กับศุกร์จะไปเรียนที่บางมด ขึ้นรถไมโครบัสมหาลัยไป ส่วนวันอังคารถึงพฤหัสบดีเรียนที่ตึกบางขุนเทียน เข้าแถว 8.15 น. เริ่มเรียนประมาณ 9 โมงถึงเที่ยง พักกินข้าวแล้วขึ้นมาเรียนต่อบ่ายโมงถึงสี่โมงเย็น เรียนวันละ 2 วิชาเองจ้า จิ๊บๆ ส่วนเรื่องขนมขบเคี้ยวก็มีให้เรื่อยๆ โดยคณะกรรมการนักเรียนในแต่ละปีจะเปิดสหกรณ์เอาไว้ เป็นร้านซื่อสัตย์ หยิบขนมเองจ่ายเงินเอง
(12) สภาพห้องเรียน >> ที่บางขุนเทียนใช้ระบบแอร์ระบบเดียวกับมหาลัย จะตัดระบบทำความเย็นตอนห้าโมง วันไหนเลิกเรียนช้าหรือเรียนตอนเย็นก็ต้องทนร้อนกันไปเนอะ แต่ไม่ต้องห่วง ห้องของ ม.5 และ ม.6 มีแอร์ที่โรงเรียนติดตั้งเองอยู่จ้า เย็นจนหลับ 5555
(13) จุดเด่นของโรงเรียน >> เยอะมากกก เพราะโรงเรียนเราแหวกแนวไม่เหมือนใคร 555+
13.1 ชุดนักเรียนแปลก ไม่ปักชื่อนักเรียน มีเสื้อช็อป อย่างที่บอกไปแล้วข้างบน
13.2 ออกทัศนศึกษาทุกเดือน บอกเลยว่าไปบ่อยสุดๆ แทบทุกเดือนก็ว่าได้ ม.4 อาจจะไปเช้าเย็นกลับบ้าง แต่พอ ม.5 ม.6 ก็มีทริปค้างคืน
13.3 เรียนฟรี มีเงินใช้ ย้อมสีผมได้ รองเท้าสีรุ้ง ถ้าเดินไปที่ไหนแล้วเจอนักเรียนใส่ชุดนักเรียนแปลกๆ ย้อมสีผมเป็นบางคน รองเท้าผ้าใบสีแสบๆ เดาได้เลยว่าเป็นนักเรียนโรงเรียนเราแน่ๆ ทำอะไรกับผมก็ได้ เพราะโรงเรียนมีความคิดที่ว่า “สิ่งที่อยู่บนหัวไม่เกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ในหัว” รองเท้า ถุงเท้า สีอะไรก็ได้
ส่วนที่บอกว่าเรียนฟรี มีเงินใช้ คือเรียนฟรีด้วยทุนจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีเบี้ยเลี้ยงให้ เหมือนเป็นค่าข้าวกลางวันเพราะโรงเรียนเลี้ยงแค่ข้าวเช้ากับข้าวเย็น เรียนจบก็ไม่ต้องใช้ทุน แต่ว่ามีการติดโปรหรือที่เรียกกันว่าหลุดทุน ถ้าเกรดในเทอมแรกไม่ถึงที่กำหนดก็จะพิจารณาเทอมต่อไป ถ้ารวมกันหารสองไม่ถึงอีกก็จะติดโปร มี 2 ทางเลือกคือเรียนต่อแบบจ่ายเงินหรือลาออกไปเรียนต่อที่อื่น แต่ไม่ต้องกลัวติดโปรกันนะ เพราะทุกรุ่นเพื่อนๆ จะช่วยกันติว อาจารย์ก็อยู่หอหลายท่าน เราไม่เข้าใจก็ไปสอบถามอาจารย์ได้
13.4 นักเรียน = นักศึกษามหาวิทยาลัย เรามีสิทธิประโยชน์แบบนักศึกษาแทบทุกอย่าง เช่น ใช้ห้องสมุดมหาวิทยาลัย ยืมจักรยานมหาวิทยาลัย บัตรนักเรียนของเราก็เป็นบัตรนักศึกษา รหัสก็เป็นรหัสนักศึกษา ใช้บัตรนักศึกษาขึ้นรถรับส่งระหว่างวิทยาเขตได้ฟรี ตอนประกาศผลสอบก็ประกาศในระบบของมหาวิทยาลัย ลุ้นกันจนนั่งไม่ติดเก้าอี้เลยทีเดียว อาจารย์ของเราทุกคนไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ภายในหรืออาจารย์จากคณะต่างๆ ของมหาวิทยาลัยก็นับเป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัยด้วยนะ
13.5 ข้อสอบไม่มีปรนัย โรงเรียนเราไม่มีสอบมิดเทอม แต่ว่ามีไฟนอลแบบสอบกัน 5 วันในหนึ่งอาทิตย์ (ก็คือสอบทุกวันนั่นแหละ) เช้า 1 วิชา บ่าย 1 วิชา เป็นข้อสอบเขียนเกือบทั้งหมด จะมีปรนัยหลุดมาบ้างก็ตามแต่ความเมตตาของอาจารย์แต่ละท่าน
13.6 แจกไอแพด ข้อนี้ไม่พูดไม่ได้ โรงเรียนนี้ให้นักเรียนยืมใช้ไอแพดมินิของโรงเรียนกันฟรีๆ ตลอด 3 ปี คนละ 1 เครื่อง! ไม่มีที่ไหนให้มากกว่านี้แล้วจริงๆ
13.7 นักเรียนในโรงเรียนสามัคคีกันมาก เรามั่นใจว่าผู้ปกครองของหลายๆ คนคงคิดลบไว้กับโรงเรียนประจำ เพราะคิดว่าลูกอาจจะเล่นเกมมากไป ติดเพื่อนเกินไป ฯลฯ แต่โรงเรียนประจำก็มีข้อดีนะ อาจารย์สอนให้พวกเรารักกัน แล้วทั้งรุ่นมีแค่ 30 คน คงจะทะเลาะกับใครไม่ได้ งานกลุ่มก็เยอะ เราเลยสามัคคีกันมากในรุ่น ไปไหนไปกัน กินอะไรก็กินด้วยกันหมด (โดยเฉพาะหมูกระทะ กินเสร็จก็ช่วยกันล้าง แต่พอเรียกเก็บเงินก็ชิ่ง //ล้อเล่นนะ 555+)
13.8 สิทธิพิเศษอื่นๆ สำหรับนักเรียนในโครงการ นอกจากเรียนฟรี มีเงินใช้แล้ว โรงเรียนเรายังมีโควต้าสำหรับศึกษาต่อในคณะวิทยาศาสตร์ของ 24 มหาวิทยาลัยด้วยนะ มหาวิทยาลัยอะไรบ้างนั้นก็ลองเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บไซต์ของโรงเรียน หรือเว็บไซต์ของ วมว. ได้จ้า
13.1 ชุดนักเรียนแปลก ไม่ปักชื่อนักเรียน มีเสื้อช็อป อย่างที่บอกไปแล้วข้างบน
13.2 ออกทัศนศึกษาทุกเดือน บอกเลยว่าไปบ่อยสุดๆ แทบทุกเดือนก็ว่าได้ ม.4 อาจจะไปเช้าเย็นกลับบ้าง แต่พอ ม.5 ม.6 ก็มีทริปค้างคืน
13.3 เรียนฟรี มีเงินใช้ ย้อมสีผมได้ รองเท้าสีรุ้ง ถ้าเดินไปที่ไหนแล้วเจอนักเรียนใส่ชุดนักเรียนแปลกๆ ย้อมสีผมเป็นบางคน รองเท้าผ้าใบสีแสบๆ เดาได้เลยว่าเป็นนักเรียนโรงเรียนเราแน่ๆ ทำอะไรกับผมก็ได้ เพราะโรงเรียนมีความคิดที่ว่า “สิ่งที่อยู่บนหัวไม่เกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ในหัว” รองเท้า ถุงเท้า สีอะไรก็ได้
ส่วนที่บอกว่าเรียนฟรี มีเงินใช้ คือเรียนฟรีด้วยทุนจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีเบี้ยเลี้ยงให้ เหมือนเป็นค่าข้าวกลางวันเพราะโรงเรียนเลี้ยงแค่ข้าวเช้ากับข้าวเย็น เรียนจบก็ไม่ต้องใช้ทุน แต่ว่ามีการติดโปรหรือที่เรียกกันว่าหลุดทุน ถ้าเกรดในเทอมแรกไม่ถึงที่กำหนดก็จะพิจารณาเทอมต่อไป ถ้ารวมกันหารสองไม่ถึงอีกก็จะติดโปร มี 2 ทางเลือกคือเรียนต่อแบบจ่ายเงินหรือลาออกไปเรียนต่อที่อื่น แต่ไม่ต้องกลัวติดโปรกันนะ เพราะทุกรุ่นเพื่อนๆ จะช่วยกันติว อาจารย์ก็อยู่หอหลายท่าน เราไม่เข้าใจก็ไปสอบถามอาจารย์ได้
13.4 นักเรียน = นักศึกษามหาวิทยาลัย เรามีสิทธิประโยชน์แบบนักศึกษาแทบทุกอย่าง เช่น ใช้ห้องสมุดมหาวิทยาลัย ยืมจักรยานมหาวิทยาลัย บัตรนักเรียนของเราก็เป็นบัตรนักศึกษา รหัสก็เป็นรหัสนักศึกษา ใช้บัตรนักศึกษาขึ้นรถรับส่งระหว่างวิทยาเขตได้ฟรี ตอนประกาศผลสอบก็ประกาศในระบบของมหาวิทยาลัย ลุ้นกันจนนั่งไม่ติดเก้าอี้เลยทีเดียว อาจารย์ของเราทุกคนไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ภายในหรืออาจารย์จากคณะต่างๆ ของมหาวิทยาลัยก็นับเป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัยด้วยนะ
13.5 ข้อสอบไม่มีปรนัย โรงเรียนเราไม่มีสอบมิดเทอม แต่ว่ามีไฟนอลแบบสอบกัน 5 วันในหนึ่งอาทิตย์ (ก็คือสอบทุกวันนั่นแหละ) เช้า 1 วิชา บ่าย 1 วิชา เป็นข้อสอบเขียนเกือบทั้งหมด จะมีปรนัยหลุดมาบ้างก็ตามแต่ความเมตตาของอาจารย์แต่ละท่าน
13.6 แจกไอแพด ข้อนี้ไม่พูดไม่ได้ โรงเรียนนี้ให้นักเรียนยืมใช้ไอแพดมินิของโรงเรียนกันฟรีๆ ตลอด 3 ปี คนละ 1 เครื่อง! ไม่มีที่ไหนให้มากกว่านี้แล้วจริงๆ
13.7 นักเรียนในโรงเรียนสามัคคีกันมาก เรามั่นใจว่าผู้ปกครองของหลายๆ คนคงคิดลบไว้กับโรงเรียนประจำ เพราะคิดว่าลูกอาจจะเล่นเกมมากไป ติดเพื่อนเกินไป ฯลฯ แต่โรงเรียนประจำก็มีข้อดีนะ อาจารย์สอนให้พวกเรารักกัน แล้วทั้งรุ่นมีแค่ 30 คน คงจะทะเลาะกับใครไม่ได้ งานกลุ่มก็เยอะ เราเลยสามัคคีกันมากในรุ่น ไปไหนไปกัน กินอะไรก็กินด้วยกันหมด (โดยเฉพาะหมูกระทะ กินเสร็จก็ช่วยกันล้าง แต่พอเรียกเก็บเงินก็ชิ่ง //ล้อเล่นนะ 555+)
13.8 สิทธิพิเศษอื่นๆ สำหรับนักเรียนในโครงการ นอกจากเรียนฟรี มีเงินใช้แล้ว โรงเรียนเรายังมีโควต้าสำหรับศึกษาต่อในคณะวิทยาศาสตร์ของ 24 มหาวิทยาลัยด้วยนะ มหาวิทยาลัยอะไรบ้างนั้นก็ลองเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บไซต์ของโรงเรียน หรือเว็บไซต์ของ วมว. ได้จ้า
หมวดที่ 2 : สิ่งมีชีวิตในโรงเรียน
(1) จำนวนนักเรียน >> น้อยกว่าหรือเท่ากับ 90 คน (3 รุ่น รุ่นละ 30 คนเป็นอย่างมาก) แต่รุ่นต่อไปจะรับ 60 คนแล้ว
(2) คนนี้แหละ น่ารักเว่อร์ >> โรงเรียนเราเหรอ....... อาจารย์น่ารักที่สุดค่ะ เข้าใจเด็ก เป็นกันเอง อยู่หอกับเรา ปรึกษาได้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องเงิน 555+
(3) สัตว์น่ารักๆ ในโรงเรียน >> Varanus salvator (ตัวเงินตัวทอง) ที่คลานกันให้ว่อนทั่วมอที่บางขุนเทียน ตัวนึงนี่ก็ไม่เล็กเลยจ้า, Euglena viridis (ยูกลีนา) เต็มบ่อแถวทางเดินไปตึกเรียน << นี่นับเป็นสัตว์เหรอ ก็ไม่นะ แต่จะนับ 55555+, Passer montanus (นกกระจอกบ้าน) ที่ชอบสร้างรังตรงระเบียงที่หอแล้วลูกของมันก็ร่วงลงมาที่พื้นระเบียง เด็กเราใจดีทุกคน เก็บมาเลี้ยง....แต่ไม่เคยมีชีวิตรอดเพราะมันยังเด็กมากไป
หมวดที่ 3 : ชีวิตในโรงเรียน
(1) เวลาเข้าเรียน - เลิกเรียน >> เข้าเรียน 8.30 หรืออาจจะเป็น 9.00 ตามอาจารย์ผู้สอน พักเที่ยง 12.00-13.00 เรียนต่อถึง 16.00 (บางวิชาอ.ก็นัดเรียนต่อตอนกลางคืนเลิกไม่เกินสี่ทุ่ม)
(2) กิจกรรมสุดฮิตหลังเลิกเรียน >> ไปออกกำลังกายที่สปอร์ตคอมเพล็กซ์ของมหาลัยหรือไม่ก็สุดฮิตที่สุดในสามโลก.... “กลับไปนอน” ค่ะ
(3) ที่เที่ยว ที่สถิต หลังเลิกเรียน >> เตียงนอนที่หอ โรงยิม สนามฟุตบอล บ่อไต ห้องเรียน (นั่งทำงาน) วันศุกร์ถ้าจะออกไปนอกมอก็ตลาด 61 หรือเซ็นทรัลพระรามสอง แต่สำหรับหลายๆ คนที่บ้านอยู่กรุงเทพ ที่สถิตที่ฟินที่สุดในวันศุกร์ก็คือ “บ้าน” นั่นเองจ้า
(4) กีฬาเด็ดๆ ของคาบพละ >> ลีลาศเลยจ้า เต้นเหยียบเท้ากันมันส์ แถมรุ่นเรา (รุ่น 7)ผู้ชายเยอะกว่าผู้หญิงมาก เลยมีผู้ชายคู่กันด้วย ฟิน >////<
(5) รุ่นพี่ไอดอล(ที่จบไปแล้ว) >> พี่ที่จบไปแล้วเป็นไอดอลทุกคนค่ะ ส่วนใหญ่ได้ดีในคณะทั้งนั้น เช่น เป็นประธานค่าย ประธานรุ่น เรียนดีได้เหรียญ ฯลฯ
(6) เมนูนี้เด็ดสุดในโรงอาหาร >> มีหลายโรงอ่ะ เป็นของมหาลัย เด็ดทุกเมนูจ้า ที่เด็ดๆ คือ KFC ที่บางมด มันเป็น KFC ที่มากกว่า KFC ถ้าอยากรู้ก็ลองสอบเข้ามาดูนะ
(7) ข้าวในโรงอาหาร จานละเท่าไหร่ >> 25+ แต่อร่อยมาก ให้เยอะมาก ฟินสุดจริงๆ
(8) มีของกินหน้าโรงเรียนมั้ย >> เอ่อ ที่บางขุนเทียนมีแต่ต้นโกงกางกับตัววารานัส 555+ แต่ก็มีมาร์ทอยู่ใต้หอกับใต้ตึกเรียน มีร้านลูกชิ้นทอดพันปี (ทอดนานมากมาย) แต่เราชอบกินนะ อร่อยดี ส่วนที่ฮิตมากๆ เป็นเด็กดรุณต้องเคยกินซักครั้ง ถ้าไม่เคยกินนี่พลาดมาก ก็คือหมูกระทะที่สั่งมากินกันใต้หอนั่นเอง หลังงานใหญ่แทบทุกงาน (เช่น เลี้ยงส่งเพื่อนไปต่างประเทศ เลี้ยงหลังจัดค่าย เลี้ยงหลังกีฬาสี หรือบางทีไม่มีงานอะไรก็เลี้ยงกันได้) เราก็จะสั่งมาแล้วก็เฉลี่ยกันคนละประมาณ 100 บาท อิ่มมาก อร่อยมาก
(9) อะไรคือ ความเว่อร์ที่สุดของกีฬาสีปีที่ผ่านๆ มา >> ปกติกีฬาสีโรงเรียนเรามี 2 สี มีแข่งโคฟเวอร์ เชียร์หลีดเดอร์ สแตนด์ พาเหรด แต่ที่เด็ดสุดๆ คือการจับฉลากของขวัญปีใหม่หลังจบงาน ตัวอย่างของขวัญปีใหม่ปีที่แล้วเว่อร์วังอลังการมาก กะละมังพร้อมน้ำยาซักผ้า สายยาง ฯลฯ ที่เอาไว้ทำความสะอาดห้อง ฮามาก 555+
(10) วิธีทำโทษเวลามาสาย>> วิ่งลงบันไดจากชั้นที่เรียน (ชั้น 6) ลงไปชั้นล่างสุด แล้วขึ้นบันไดอีกฝั่งของตึกขึ้นมาชั้น 6 หรือบางทีก็เก็บรวบยอดไว้กระโดดตบตอนวันที่มีวิ่งตอนเย็น
(11) มุมเด็ดของโรงเรียน >> บ่อไต สปอร์ตคอมเพล็กซ์ ห้องแล็บเคมี ห้องแล็บชีวะ
(12) ความประทับใจในโรงเรียน >> ถึงแม้ว่าจำนวนนักเรียนจะไม่เยอะแบบที่อื่น แต่ที่นี่เราก็รักกัน สามัคคีกันมาก เรามาอยู่ที่โรงเรียนนี้เหมือนได้ก้าวข้ามชีวิตเด็กม.ปลายธรรมดาๆ ไปเป็นนักศึกษามหาลัยก่อนคนอื่น โรงเรียนสอนมากกว่าสิ่งที่อยู่ในตำรา สอนการใช้ชีวิตร่วมกับคนในสังคม สอนให้รู้จักรับผิดชอบตัวเอง รับผิดชอบต่อส่วนรวม ต้องบริหารเวลาเป็น ทำให้เรามีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
(11) มุมเด็ดของโรงเรียน >> บ่อไต สปอร์ตคอมเพล็กซ์ ห้องแล็บเคมี ห้องแล็บชีวะ
(12) ความประทับใจในโรงเรียน >> ถึงแม้ว่าจำนวนนักเรียนจะไม่เยอะแบบที่อื่น แต่ที่นี่เราก็รักกัน สามัคคีกันมาก เรามาอยู่ที่โรงเรียนนี้เหมือนได้ก้าวข้ามชีวิตเด็กม.ปลายธรรมดาๆ ไปเป็นนักศึกษามหาลัยก่อนคนอื่น โรงเรียนสอนมากกว่าสิ่งที่อยู่ในตำรา สอนการใช้ชีวิตร่วมกับคนในสังคม สอนให้รู้จักรับผิดชอบตัวเอง รับผิดชอบต่อส่วนรวม ต้องบริหารเวลาเป็น ทำให้เรามีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
หมวด 4 : บอกรักโรงเรียน
ถามว่าอยากบอกอะไรโรงเรียน... มีเยอะมาก เราผูกพันกับอาจารย์และเพื่อนๆ โรงเรียนนี้สอนอะไรเราเยอะมาก ใครที่ได้อ่านบทความนี้แล้วมีโอกาสได้เข้ามาเรียนที่นี่ น้องก็จะรู้เองว่า สิ่งที่น้องได้จากโรงเรียนนี้ น้องจะสามารถนำไปใช้กับชีวิตน้องได้ทั้งชีวิต และน้องจะผูกพันกับที่นี่มากๆ เหมือนกับพวกพี่ และน้องก็จะได้รู้สึกแบบพี่ว่ารักโรงเรียนนี้ขนาดไหน
“อด คืออยากได้แต่ไม่ได้ ทน คือไม่อยากได้แต่ต้องได้”
“โรงเรียนนี้อาจจะไม่ได้ทำให้น้องสอบหมอติด แต่จะทำให้น้องเรียนหมอรอด”
“สามปีในดรุณมันสั้นนะน้อง อยากทำอะไรก็รีบทำ”
“โรงเรียนนี้อาจจะไม่ได้ทำให้น้องสอบหมอติด แต่จะทำให้น้องเรียนหมอรอด”
“สามปีในดรุณมันสั้นนะน้อง อยากทำอะไรก็รีบทำ”
“...พระจอมเกล้าธนบุรี พระจอมเกล้าธนบุรี นามนี้ที่เรารักมั่น เป็นน้ําหนึ่งใจเดียว
เหมือนเชือกมัดเกลียวผูกกัน ผูกใจพันพวกเราเชื่อมโยงเยื่อใย...”
พี่กล้าบอกได้เลยว่าไม่มีที่ไหนที่ให้ประสบการณ์และต้นทุนชีวิตกับน้องได้มากเท่าที่นี่แล้ว พี่ภูมิใจและดีใจมากๆ ที่ได้มาเรียนที่นี่ ไม่เคยมีวันไหนที่พี่คิดว่าตัวเองเลือกผิดที่มาเข้าโรงเรียนนี้ พี่หวังว่าน้องๆ จะเก็บโรงเรียนพี่ไว้เป็นหนึ่งในตัวเลือกเรียนต่อมอปลาย แล้วหวังว่าเราจะได้พบกันตอนรับน้องนะคะ
BONUS : ความหลุด รั่ว มันส์ ฮา ของนักเรียนโรงเรียนเรา
สวมวิญญาณชาวร็อคในคืน All go night
(เป็นงานแสดงดนตรีของชุมนุม All go rhythm... ถ้าอยากรู้ว่ามันส์แค่ไหนต้องเข้ามาลอง)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์โรงเรียน : www.kmutt.ac.th/gifted/
เว็บไซต์ของโครงการ วมว. : http://scius.most.go.th/
Facebook Page ของโรงเรียน : www.facebook.com/DSS.KMUTT
Facebook Page ของคณะกรรมการนักเรียน : www.facebook.com/ESCKMUTTStudentCommitee
Facebook Page ของหนังสือพิมพ์โรงเรียน : www.facebook.com/escdssnews
Wikipedia ของโรงเรียน : https://th.wikipedia.org/wiki/โรงเรียนดรุณสิกขาลัย
โดย คณะกรรมการนักเรียน โรงเรียนดรุณสิกขาลัย (โครงการ วมว.) ประจำปีการศึกษา 2558
ขอบคุณรูปภาพ จากพี่รุ่น 5 เพื่อนรุ่น 7 และรูปจากอาจารย์ รวมถึงน้องๆ รุ่น 8 เพื่อนๆ รุ่น 7 และพี่ๆ รุ่น 6 ที่เป็นนายแบบนางแบบชุดนักเรียนให้จ้า
เว็บไซต์โรงเรียน : www.kmutt.ac.th/gifted/
เว็บไซต์ของโครงการ วมว. : http://scius.most.go.th/
Facebook Page ของโรงเรียน : www.facebook.com/DSS.KMUTT
Facebook Page ของคณะกรรมการนักเรียน : www.facebook.com/ESCKMUTTStudentCommitee
Facebook Page ของหนังสือพิมพ์โรงเรียน : www.facebook.com/escdssnews
Wikipedia ของโรงเรียน : https://th.wikipedia.org/wiki/โรงเรียนดรุณสิกขาลัย
โดย คณะกรรมการนักเรียน โรงเรียนดรุณสิกขาลัย (โครงการ วมว.) ประจำปีการศึกษา 2558
ขอบคุณรูปภาพ จากพี่รุ่น 5 เพื่อนรุ่น 7 และรูปจากอาจารย์ รวมถึงน้องๆ รุ่น 8 เพื่อนๆ รุ่น 7 และพี่ๆ รุ่น 6 ที่เป็นนายแบบนางแบบชุดนักเรียนให้จ้า
102 ความคิดเห็น
สุดยอด!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ตอนนี้อยู่ม.5แต่อายุ16 เรียนได้ไหมคะ???
สมัครเดือนกันยานี้เลยครับ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1627931874131317&set=a.1537294673195038.1073741841.100007435608010&type=1&theater
เรียนฟรี ไม่เสียค่าเทอมด้วยเหรอค่ะ สุดยอดดด
เรียน ฟรี อยู่ฟรี มีหอพัก
มีเงินเดือนให้ ด้วย นะ
เป็นรรที่ถึงจะบรรยายไปยาวมากกกกกกก แล้วก็ยังเล่าความมหัศจรรย์ไม่หมด 555555555555
โรงเรียนเราเองงงงงงงง>3< อาจารย์น่ารัก รุ่นพี่ก็นั่ลล้าคคคค น้องรุ่น8ก็น่ารัก555555 มาสมัครสอบกันเยอะๆน้าาาา รอรุ่น9อยู่✌
สอบยากไหม ละถ้าขอเข้าตอนม.5ได้ม้ะ?55555
พี่ค่ะ ตอนนี้หนูอยู่ม.3แล้วหนูกำลังหาที่เรียนต่อม.4ค่ะ โรงเรียนพี่เป็นโรงเรียนที่หนูอยากเข้าค่ะ คนไปสอบเยอะมั้ยค่ะ เพราะถ้าไปกลัวไม่ติดค่ะ แต่อยากเรียนมาก พี่ช่วยแนะนำเรื่องการสมัครสอบหน่อยได้มั้ยค่ะ
อยากเข้ามากคะขอคำเเนะนำได้มั้ยคะอยากรู้ว่าสอบยากมากมั้ยคะ
โรงเรียนในฝันนี่หว่า 55+
ฝันว่าสักวันห้องเรียนจะมีแค่ 30 คน
เข้าแถว 8.15 เลิก 4 โมง
ไม่ขออะไรมากกว่านี้แล้วแหละ แต่เหมือนกระทรวงศึกษาธิการจะทำไม่ได้
ชอบตรงที่ว่า “สิ่งที่อยู่บนหัวไม่เกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ในหัว” ซึ่งหลายรร.และวิทลัยไม่เข้าใจ5555
โรงเรียนพี่สาวเราเองค่ะ พี่เรารุ่น 8 ค่ะ เราก็ว่าจะลองไปสอบอยู่เหมือนกัน
ปล. คิวเราไม่ใช่รุ่นหน้า อีกยาวค่ะ