สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com เคยเจอปัญหาแบบนี้กันบ้างมั้ยคะ บีบยาสระผมจนมั่นใจว่าไม่เหลือแล้ว แต่ก็ยังออกมาไม่หมดสักที หรือ เขย่าขวดซอสมะเขือเทศจนแขนจะหลุดออกไปแล้วตัวซอสก็ยังไม่ยอมไหลออกมา
credit : http://liquiglide.com/videos/
ปัญหาแบบนี้มักจะเกิดขึ้นกับของหนืดๆ ที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์รูปแบบต่างๆ เช่น ซอสมะเขือเทศ มายองเนส ยาสระผม สบู่เหลว ยาสีฟัน กาว โลชั่น ฯลฯ บ่อยครั้งที่เราต้องโยนทิ้งไปทั้งๆ ที่ยังมีเนื้อข้างในติดอยู่จำนวนหนึ่ง ได้แต่คิดว่า "ช่างมันเถอะ เหลือนิดเดียวเอง" น้องๆ ลองคิดดูว่าถ้าทุกคนคิดแบบนี้หมด โลกของเราก็จะมีมลพิษที่เกิดจากของเหลือใช้มากขนาดไหน แต่วันนี้พี่มิ้นท์จะพาไปรู้จักเทคโนโลยีใหม่ ที่จะทำให้เราบีบของได้ไม่เหลือสักหยดเดียว ช่วยลดปริมาณขยะบนโลกได้ด้วย เจ๋งจริงๆ
แนวคิดนี้คิดค้นขึ้นโดย J. David Smith ร่วมกับ Kripa K. Varanasi ที่ต้องการสร้างสารเคลือบที่ทำให้ของเหลวไหลไม่ทิ้งคราบ และได้ต่อยอดนำสารเคลือบไปใช้กับภาชนะบรรจุอาหาร สิ่งนี้เรียกว่า LiquiGlide ช่วยแก้ปัญหาของเหลวที่หลงเหลือติดอยู่ในภาชนะให้ออกมาได้หมด โดยการเคลือบสาร nonstick ซึ่งมีคุณสมบัติลื่นไว้ด้านในของขวดหรือแก้ว เมื่อเราคว่ำหรือเอียง ของเหลวที่อยู่ภายในก็ไหลออกมาตามแรงโน้มถ่วงอย่างง่ายดาย
credit : http://liquiglide.com/videos/
แม้ว่าแนวคิดนี้จะมีคุณสมบัติเป็นพื้นผิวกันน้ำคล้ายกับเทคโนโลยี superhydrophobic ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน แต่ก็ไม่เหมือนสักทีเดียว ซึ่ง superhydrophobic ทำงานโดยการสร้างชั้นอากาศระหว่างวัสดุกับน้ำ ทำให้น้ำ (หรือของเหลวชนิดอื่น) ไหลไปไม่ทิ้งคราบ ส่วน LiquiGlide จะสร้างชั้นของเหลวเพื่อไปเติมเต็มช่องว่างระหว่างพื้นผิววัสดุแทน ผู้ค้นพบได้เรียกสิ่งนี้ว่า พื้นผิวที่ชุบไปด้วยของเหลว ผลที่ได้คือ ของเหลวที่ไหลผ่านวัสดุที่เคลือบสารจะไม่ทิ้งคราบอะไรไว้เลย แถมยังไหลได้สม่ำเสมอ ไม่ต้องออกแรงเขย่าให้เมื่อนแขนอีกต่อไป
credit : http://liquiglide.com/tech/
หลายคนอาจจะสงสัยว่าเคลือบสารแบบนี้ มันจะปลอดภัยมั้ย... ไม่ต้องเป็นห่วงเลยค่ะ สารเคลือบชนิดนี้ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ สามารถใช้กับอาหารได้ ซึ่งผ่านการทดสอบจากองค์กรอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) เรียบร้อยแล้วด้วยค่ะ ซึ่งทีมคิดค้นยังมองว่านวัตกรรมนี้ช่วยลดปริมาณซอสหรืออาหารที่เหลือค้างตามขวดได้ถึง 1 ล้านตันต่อปี ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลายบริษัทซื้อลิขสิทธิ์ไปผลิตแล้วค่ะ
นอกจากจะเพิ่มความสะดวกสบาย และเพิ่มความสุขกับอาหารหยดสุดท้ายแล้ว ยังตอบโจทย์รักษ์โลกได้ดีเยี่ยมเลยล่ะ ถ้าเราใช้ของจนหมดก็ไม่มีเศษซากอาหาร ซากครีมให้เป็นภาระของโลก และลดปัญหาขยะจากการทิ้งขวดด้วย เพราะถ้าขวดสะอาด ล้างง่าย ก็สามารถรีไซเคิลกลับมาใช้กับสินค้าแบบถุงเติมได้อีก อะไรจะดีขนาดนี้
ปล. น้องๆ รู้หรือเปล่าว่ามี "พืช" ที่พื้นผิวของใบมีลักษณะกันน้ำแบบนี้ด้วย นึกออกมั้ยว่าเป็นใบอะไร ติ๊กต่อกๆๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://liquiglide.com/tech/
http://liquiglide.com/videos/
http://www.iflscience.com/technology/nonstick-no-waste-coating-sliding-marketplace
http://liquiglide.com/tech/
http://liquiglide.com/videos/
http://www.iflscience.com/technology/nonstick-no-waste-coating-sliding-marketplace
13 ความคิดเห็น
ใบบัวว
ใบบัว......ปะ
ใบบัวจำได้ว่าเคยเห็นในหนังสือ
เจ๋งไปเลยค่ะ! เยี่ยมๆๆๆไปเลยแหละ!!
แพ้นมวัวตั้งแต่ขึ้น ม.ปลาย แล้ว แต่ดื่มนมแพะได้นะคะ
ใบบอน ใบบัว ใบตอง รึเปย่านะ แต่ค่อนข้างแน่ใจว่าใบบอน
นี่ถ้าทำตกคงอดเพราะไปหมดเลย
ชอบมากๆเลยครับ ^^
ใบบัว....รึเปล่านะคะ เพราะเหมือนเคยอ่านเจอในหนังสือนะคะ