สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ใครๆ ก็บอกว่าถ้าเรียนไม่รู้เรื่องก็ไปเรียนพิเศษสิ! น้องๆ เห็นด้วยกับคำพูดนี้หรือเปล่าคะ? แล้วถ้าไม่เรียนล่ะ จะเรียนสู้เพื่อนไม่ได้เลยหรอ เพราะสมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่เราก็ไม่เห็นจะได้เรียนพิเศษ ก็เรียนจบออกมาทำงานได้เหมือนกัน
ต้องบอกก่อนว่า การแข่งขันด้านการเรียนตอนนี้สูงขึ้นเยอะ ใครที่อยากสอบได้เกรดดีๆ ก็ต้องพยายามมากกว่าคนอื่น ซึ่งก็ไปลงที่กวดวิชาเป็นส่วนใหญ่ แต่น้องๆ รู้มั้ยคะว่ามีหนทางอีกมากมายที่ทำให้เราประสบความสำเร็จด้านการเรียนได้ โดยไม่พึ่งการเรียนพิเศษเลย ซึ่งพี่มิ้นท์มีข้อมูลมาให้ลองอ่านตัดสินใจดูว่าเราไหมที่จะเรียนด้วยตัวเองมั้ย หรือ ไม่ไหวจนต้องเรียนพิเศษจริงๆ
การเรียนด้วยตัวเอง
การเรียนด้วยตัวเองก็คือ การค้นคว้าหาความรู้ด้วยตัวเอง อ่านหนังสือเอง ตั้งใจเรียนในห้องเอง ไม่เข้าใจอะไรตรงไหนก็ไปถามอาจารย์หรือหาหนังสืออ่านประกอบเพิ่มเติม การเรียนด้วยตัวเองมีข้อดีตรงที่ อิสระ สามารถสร้างเทคนิคการจำที่เหมาะกับตัวเองได้ เราวางแผนการอ่านหนังสือเองได้ ซึ่งถ้าเราวางแผนดีๆ มีเวลาเหลือเที่ยวเล่นอีกต่างหาก ที่สำคัญที่สุดก็คือ ประหยัดค่ะ ไม่งั้นเรียนพิเศษทุกคอร์สก็ได้กินมาม่าเป็นอาหารหลักแน่นอน
เรียนด้วยตัวเองเหมาะกับคนแบบไหน
1. มีความรับผิดชอบ ความจริงไม่ว่าจะเรียนแบบไหนก็ต้องมีความรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่สำหรับน้องๆ ที่มุ่งมั่นตั้งใจอ่านหนังสือเองคงต้องมีความรับผิดชอบมากหน่อย แผนการอ่านหนังสือทั้งหมดอยู่ในมือของตัวเอง เรียกว่า "ใจ" ของน้องๆ ใหญ่ที่สุดและเป็นนายตัวเองไปแล้ว วันไหนจิตใจเอาชนะความขี้เกียจไม่ได้ วันนั้นก็ไร้ค่า แต่ถ้าเอาชนะตัวเองได้ มีความรับผิดชอบจะ strong มากจ้า
2. อ่านคนเดียวรู้เรื่องกว่า คนบางคนชอบอ่านหนังสือคนเดียว ถ้าต้องไปอ่านหนังสือกับเพื่อนจะปวดหัวมาก เพราะเสียงดัง วุ่นวาย เม้าท์แตก ซึ่งการเรียนพิเศษนั้นต้องเรียนร่วมกับคนจำนวนมากก็ต้องเป็นแบบนั้นแหละค่ะ ดังนั้นคนที่ชอบความเงียบสงบ ต้องการสมาธิสูง อ่านคนเดียวเหมาะกว่า แต่อย่าเผลอหลับแล้วกัน
3. ชอบหาความรู้ด้วยตัวเอง ไม่รู้ว่าน้องๆ เคยมีอาการแบบนี้มั้ย ประมาณว่าอ่านหนังสือเรื่องนึงอยู่แล้วชอบมากๆ อยากรู้ต่อ ก็ต้องไปหาหนังสือเล่มอื่นมาเสริมในประเด็นนั้น ซึ่งคนที่มีคุณสมบัตินี้เหมาะกับการอ่านหนังสือด้วยตัวเองมากกว่าค่ะ เพราะเราจะมีเวลาในการหาข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องที่ชอบ และสามารถอ่านเพิ่มได้ตามความพอใจ ช่วยให้เรามีความรู้รอบด้านมากขึ้นนั่นเอง
4. ตั้งใจเรียนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถึงแม้จะมีคนบอกว่าการเรียนในห้องเรียนมันล้มเหลว แต่เชื่อเถอะว่าหน้าที่ของครูก็คือการให้ความรู้ และสิ่งที่ครูสอนในห้องก็ตรงตามหลักสูตรและนำไปใช้ได้จริง ถ้าน้องๆ ตั้งใจเรียนในห้องก็ต้องได้ความรู้ที่ครบถ้วนอยู่แล้ว ซึ่งสถาบันกวดวิชาก็เอาความรู้ในห้องเรียนมาสอนเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือทำให้สนุกขึ้นแค่นั้นเอง ดังนั้นถ้าตั้งใจฟังครูสอนทุกคำ ทบทวนบทเรียนเองดีกว่าค่ะ
5. มีข้อจำกัดเรื่องค่าใช้จ่าย จะว่าไปเรื่อยค่าใช้จ่ายก็เป็นปัญหาใหญ่นะคะ เพราะจะลงเรียนแต่ละวิชาก็เป็นพันๆ บาท บางคนเรียนทุกปีปีละหลายวิชา ก็หมดค่าเรียนพิเศษเป็นแสนๆ ก็มี เงินจำนวนนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะหามาส่งเสียให้เรียนได้ทุกครอบครัว ดังนั้นคนที่ไม่อยากให้งบบานปลาย การทบทวนบทเรียนด้วยตัวเองเป็นทางเลือกที่ดีค่ะ
การเรียนพิเศษ
การเรียนพิเศษ ก็คือ การไปเรียนเสริมกับอาจารย์ท่านอื่น มีทั้งแบบติวตัวต่อตัว ติวแบบเป็นกลุ่ม และติวในสถาบันกวดวิชา มีข้อดีคือ มีเพื่อนเรียนด้วย มีคนกำหนดเวลาการติวที่แน่นอน อาจจะได้เทคนิคใหม่ๆ ที่ไม่มีสอนในห้องเรียน รวมถึงถ้ามีข้อสงสัยอะไร ก็สามารถสอบถามเพิ่มเติมกับครูผู้สอนได้ แต่ก็ต้องแลกมากับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น และถ้ายังไม่ตั้งใจเรียนอีก ก็ไม่ต่างอะไรกับนอนอยู่บ้านค่ะ
เรียนพิเศษเหมาะกับคนแบบไหน
1. เรียนไม่ทันเพื่อน ข้อนี้เป็นเรื่องใหญ่ เข้าใจว่าเวลาเรียนในห้องแล้วเพื่อนรู้เรื่องหมดยกเว้นเรา มันเป็นความรู้สึกยังไง พรุ่งนี้ขึ้นเรื่องใหม่แล้ว แต่เรื่องเก่ายังไม่รู้เรื่อง ความไม่เข้าใจที่สะสมมากๆ เข้า ทำให้เราแย่ค่ะ ดังนั้น ใครที่รู้ตัวว่าวิชาไหนเรียนไม่ทันเพื่อน ก็ควรไปหาเรียนเสริมเพื่อปรับพื้นฐาน จะได้ไม่เป็นภาระในอนาคตค่ะ
2. อยากได้คนมาอธิบายในส่วนที่ยังไม่เข้าใจ ครูแต่ละคนมีวิธีการสอนไม่เหมือนกัน บางเรื่องเราอาจจะเรียนกับครูคนนี้ไม่เข้าใจ แต่กับอีกคนเข้าใจดี ก็ช่วยให้เราเรียนสนุกและชอบวิชานั้นมากขึ้นได้นะ
3. อยากได้วิธีลัด ต้องบอกก่อนว่าตามกวดวิชามีเทคนิคการจำเยอะมากค่ะ (ก็เก็บค่าเรียนไปแล้วนี่นา) ซึ่งน้องๆ หลายคนมุ่งมั่นจะมาตักตวงเคล็ดลับนี้กันสุดฤทธิ์ เพราะจะช่วยให้ทั้งเรื่องเรียนและสอบของเราง่ายขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ได้สูตรลัดไปแล้ว ก็ต้องทบทวนอยู่ดี ไม่อย่างนั้นลืมทั้งสูตร ลืมทั้งเนื้อหาเลย ส่วนน้องๆ ที่ไม่ได้เรียนพิเศษก็ไม่ได้หมายความว่าจะสู้เค้าไม่ได้ ถ้าเราอ่านและทำแบบฝึกหัดจนเข้าใจ เจ๋งกว่าคนได้สูตรลัดอีกค่ะ
4. อ่านหนังสือคนเดียวไม่ได้ อ่านทีไรแล้วไปเฝ้าพระอินทร์ตลอด การเรียนพิเศษก็เป็นอีกวิธีนึงที่น่าสนใจค่ะ เพราะน้องๆ จะมี Activity ตลอด ตั้งแต่เดินทางไปกลับ นั่งเรียน ที่สำคัญคือ มีเพื่อนเรียนด้วยกัน รู้สึกมีกำลังใจในการเรียน งงตรงไหนก็ให้เพื่อนช่วยสอนได้
5. ไม่ชอบการทบทวนด้วยตัวเอง ถ้าน้องๆ เป็นคนที่จับหนังสือยาก ไม่สามารถเริ่มต้นอ่านหนังสือได้ด้วยตัวเอง จนมองเห็นอนาคตลางๆ ว่าไม่น่ารอด ก็ไปทบทวนจากสถาบันกวดวิชาได้เลย มีคนคอยสอนและทบทวนบทเรียนให้ หากไม่ติดขัดเรื่องเงินๆ ทองๆ นะคะ
นี่เป็นตัวอย่างเช็คตัวเองคร่าวๆ เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจว่าเราเหมาะกับแบบไหนมากที่สุด ยังไงก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าถ้าเหมาะกับรูปแบบไหนแล้วจะทำอีกรูปแบบไม่ได้นะคะ พี่มิ้นท์เชื่อว่าน้องๆ หลายคนมีความรับผิดชอบและเก่งมากพอที่จะดูแลตัวเองทั้งการเรียนพิเศษและอ่านหนังสือด้วยตัวเองไปพร้อมๆ กันได้ แบบนี้แหละเจ๋งที่สุด^^
ทีนี้ พี่มิ้นท์อยากรู้บ้างว่า ชาว Dek-D.com ชอบอ่านหนังสือด้วยตัวเองหรือเรียนพิเศษมากกว่ากันคะ และเพราะอะไร?
ทีนี้ พี่มิ้นท์อยากรู้บ้างว่า ชาว Dek-D.com ชอบอ่านหนังสือด้วยตัวเองหรือเรียนพิเศษมากกว่ากันคะ และเพราะอะไร?
5 ความคิดเห็น
เราเรียนพิเศษมาตลอดเลยค่ะ นิสัยตรงกับคนเหมาะที่จะเรียนพิเศษตั้งแต่ข้อ 1-5
แล้วหายนะก็เกิดขึ้นเมื่อขึ้นมหาลัยค่ะ...ลาก่อย ไม่มีคนช่วยสอนก็ร่วงลงเหวเลยค่ะ
ยิ่งเนื้อหายากกว่าม.ปลายแบบอัพเกรด ...แถมเราเป็นพวกจับหนังสือ(เรียน)ยากมากก
เพื่อน ๆ เขาก็สอนให้เราไม่ได้ตลอด เพราะเขาก็ต้องอ่านส่วนของตัวเองด้วย ไม่อยากไปรบกวนเขาน่ะนะ
แถมชอบบอกว่า 'เราก็ทำไม่ได้อ่ะ ไม่รู้เรื่องเลย' ( แต่มันก็ทำข้อสอบได้..ซึ่งฉันตก...)
555 สรุปว่าเป็นที่เราไม่ยอมอ่านหนังสือด้วยตัวเองเลยตั้งแต่ม.ปลาย พอตอนนี้เลยต้องปรับตัวขนานใหญ่เลยค่ะ ฮืออ น้อง ๆ ทุกคนสู้ๆ นะ อย่างน้อยก็ทำแบบฝึกหัด ทบทวนด้วยตัวเองบ้างด้วยนะเออ จะได้ชิน ๆ พออยู่มหาลัยจะได้สบายเนอะ //มุดกลับลงหลุมหายนะแห่งไฟนอลต่อไป...
ชอบอ่านหนังสือเองค่ะ 555 เข้าห้องสมุดบ่อยจนอาจารย์บรรณารักษ์รู้จักแล้ว
แล้วก็ชอบซื้อหนังสือมาอ่านเองด้วยค่ะ อิอิ
เราทั้งอ่านเองทั้งเรียนพิเศษด้วย(แต่เราเรียนพิเศษแค่ที่เดียวไง)เลยกลายเป็น 2in1 เลยค่ะ