เย้! ปรบมือต้อนรับเทศกาลวันเด็กที่ใกล้จะมาถึงกันสักนิดสักหน่อยนะคะน้องๆ ไหนชาว Dek-D ไปเที่ยววันเด็กที่ไหนกันบ้างเอ่ย? อย่าเพิ่งปาขวดใส่พี่เมก้า 555 ถ้าน้องๆ ยังไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน วันนี้เรามาย้อนความทรงจำกลับไปวัยเด็กด้วยกันดีมั้ยคะ
ตอนเด็กๆ นะพี่เมก้ามีเรื่องน่าอายเยอะแยะเลย มานึกๆ ดูแล้วไม่รู้ว่าเผลอทำไปได้ยังไง นั่นเราทำลงไปจริงๆเหรอ? เชื่อว่าหลายคนก็คงจะมีอาการคล้ายๆ กัน เรามาย้อนเวลาไปดูเลยดีกว่าแต่บอกไว้ก่อนนะคะบางเรื่องเซอร์ไพรส์จนน้ำตาแทบไหลแน่ะ
1."พูดคนเดียว" ใครจะทำไม!
ถ้าวันหนึ่งพี่เมก้าเดินอยู่แถวสยามแล้วพูดคนเดียว คนก็จะเริ่มมองว่าพี่นี้บ้าแล้วใช่มั้ยคะ แต่ถ้าเราเป็นเด็กนั่นจะเป็นข้อยกเว้นค่ะ เพราะเชื่อว่าเด็กทุกคน เคยผ่านช่วงเวลา "พูดคนเดียว" มาแล้ว อาจจะทำทีเป็นคุยโทรศัพท์ หรือ เล่นบทบาทสมมติกับตัวเอง เอ่อ -_- แต่พฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้ถือว่าผิดปกติค่ะ ไม่แน่นะผู้ใหญ่ยังมองว่าเป็น "เด็กที่มีจินตนาการสูงเป็นเด็กฉลาดปัญญาเลิศ" ซึ่งบางทีพี่เมก้าก็นึกสงสัยว่าทำไมเราไม่คุยกับพ่อแม่หรือเราไม่มีเพื่อนคบเหรอ เราถึงมีความสุขอยู่กับเพื่อนในจินตนาการได้ขนาดนั้น TT__TT
2. "เล่นบทบาทสมมติ" อยากเป็นอะไรต้องได้เป็น
"เราอยากเป็นแม่ ให้เธอเป็นพ่อ ส่วนเธอเป็นลูก" เรา 3 คน พ่อ-แม่-ลูก ใครจะกล้าปฏิเสธพี่เมก้าบ้างว่าเกิดมาไม่เคยชวนเพื่อนเล่นพ่อแม่ลูก รับประกันได้เลยว่า 99.99% ต้องเคยรับบทบาทนี้มาก่อน เดี๋ยววันนี้แม่จะไปตลาด พ่ออยากกินอะไรคะ ประโยคนี้ต้องมาแน่!
ส่วนธีมอาชีพในฝันอย่างคุณครู คุณหมอ พยาบาล แม้กระทั่งตำรวจจับผู้ร้ายก็จะตามมาทีหลัง ไม่น่าเชื่อว่าพี่เมก้าตกเป็นผู้ร้ายตลอด ฮึกๆ อ้อ! อีกอย่างที่ขาดไม่ได้ เหล่าเจ้าหญิงเจ้าชายในนิทานจักรๆ วงศ์ๆ บ้านเราก็มีนำมาเล่นกันสนุก พาเพลินสุดๆ
3. "สนใจหนูหน่อย" จะดิ้นแล้วนะ
"แง...หนูจะเอาของเล่น...(สไลด์ตัวเตะขาลงกับพื้นแบบไม่แคร์สื่อ)" เคยเป็นกันมั้ยคะ ไปห้างทีไร อยากได้ของเล่นอันนั้น คิดอะไรไม่ออก ลงไปนอนดิ้นไว้ก่อน นาทีนั้นเราไม่อาย แต่พ่อแม่เราอายแน่ๆ สรุปคือ ถ้าพ่อแม่ไม่ตามใจซื้อให้ ก็น่าจะตรงกันข้าม โดนฟาดสักทีสองทีค่ะ ซึ่งพอโตมานั่นคือส่วนหนึ่งของความน่าอดสูในชีวิตว่า เราทำแบบนั้นลงไปได้ยังไง! ช่างเกินกว่าที่จะรับได้จริงๆ บางทีอาจเป็นเพราะตอนเด็กเราต้องการความรักจากพ่อแม่เป็นพิเศษ การได้ของเล่นที่ต้องการก็เปรียบเสมือนเครื่องการันตีว่าพ่อแม่รักเราเป็นที่หนึ่งจึงให้ของเล่นกับเรา เลยเห็นเด็กน้อยได้แดนซ์กันใหญ่
4. "เลียนแบบละคร" หนูอยากเป็นเรยา
1."พูดคนเดียว" ใครจะทำไม!
ถ้าวันหนึ่งพี่เมก้าเดินอยู่แถวสยามแล้วพูดคนเดียว คนก็จะเริ่มมองว่าพี่นี้บ้าแล้วใช่มั้ยคะ แต่ถ้าเราเป็นเด็กนั่นจะเป็นข้อยกเว้นค่ะ เพราะเชื่อว่าเด็กทุกคน เคยผ่านช่วงเวลา "พูดคนเดียว" มาแล้ว อาจจะทำทีเป็นคุยโทรศัพท์ หรือ เล่นบทบาทสมมติกับตัวเอง เอ่อ -_- แต่พฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้ถือว่าผิดปกติค่ะ ไม่แน่นะผู้ใหญ่ยังมองว่าเป็น "เด็กที่มีจินตนาการสูงเป็นเด็กฉลาดปัญญาเลิศ" ซึ่งบางทีพี่เมก้าก็นึกสงสัยว่าทำไมเราไม่คุยกับพ่อแม่หรือเราไม่มีเพื่อนคบเหรอ เราถึงมีความสุขอยู่กับเพื่อนในจินตนาการได้ขนาดนั้น TT__TT
2. "เล่นบทบาทสมมติ" อยากเป็นอะไรต้องได้เป็น
"เราอยากเป็นแม่ ให้เธอเป็นพ่อ ส่วนเธอเป็นลูก" เรา 3 คน พ่อ-แม่-ลูก ใครจะกล้าปฏิเสธพี่เมก้าบ้างว่าเกิดมาไม่เคยชวนเพื่อนเล่นพ่อแม่ลูก รับประกันได้เลยว่า 99.99% ต้องเคยรับบทบาทนี้มาก่อน เดี๋ยววันนี้แม่จะไปตลาด พ่ออยากกินอะไรคะ ประโยคนี้ต้องมาแน่!
ส่วนธีมอาชีพในฝันอย่างคุณครู คุณหมอ พยาบาล แม้กระทั่งตำรวจจับผู้ร้ายก็จะตามมาทีหลัง ไม่น่าเชื่อว่าพี่เมก้าตกเป็นผู้ร้ายตลอด ฮึกๆ อ้อ! อีกอย่างที่ขาดไม่ได้ เหล่าเจ้าหญิงเจ้าชายในนิทานจักรๆ วงศ์ๆ บ้านเราก็มีนำมาเล่นกันสนุก พาเพลินสุดๆ
3. "สนใจหนูหน่อย" จะดิ้นแล้วนะ
"แง...หนูจะเอาของเล่น...(สไลด์ตัวเตะขาลงกับพื้นแบบไม่แคร์สื่อ)" เคยเป็นกันมั้ยคะ ไปห้างทีไร อยากได้ของเล่นอันนั้น คิดอะไรไม่ออก ลงไปนอนดิ้นไว้ก่อน นาทีนั้นเราไม่อาย แต่พ่อแม่เราอายแน่ๆ สรุปคือ ถ้าพ่อแม่ไม่ตามใจซื้อให้ ก็น่าจะตรงกันข้าม โดนฟาดสักทีสองทีค่ะ ซึ่งพอโตมานั่นคือส่วนหนึ่งของความน่าอดสูในชีวิตว่า เราทำแบบนั้นลงไปได้ยังไง! ช่างเกินกว่าที่จะรับได้จริงๆ บางทีอาจเป็นเพราะตอนเด็กเราต้องการความรักจากพ่อแม่เป็นพิเศษ การได้ของเล่นที่ต้องการก็เปรียบเสมือนเครื่องการันตีว่าพ่อแม่รักเราเป็นที่หนึ่งจึงให้ของเล่นกับเรา เลยเห็นเด็กน้อยได้แดนซ์กันใหญ่
4. "เลียนแบบละคร" หนูอยากเป็นเรยา
เชื่อว่าตอนเด็ก น้องๆ ต้องเคยผ่านการดูละครเด็ดดังมามากมาย แล้วก็เกิดอยากเป็นตัวละครนั้นขึ้นมาซะอย่างนั้น บางคนอยากเป็นนางเอกอย่างหนูนา บางคนอยากเป็นนางร้ายอย่างเรยา แต่พี่เมก้าจำได้ว่าตอนเด็กๆ พี่เมก้าชอบเล่นเป็นคุณแจ๋วตลอดเลย ถ้าเป็นสมัยนี้ก็คงได้เป็นไข่ตุ้มพี่เลี้ยงของวันเฉลิมน่ะค่ะ อิอิ ชีวิตแบบเด็กๆ ก็เป็นอะไรที่มีความสุขนะคะ เล่นสนุกสนานยังไงก็ได้ แสดงออกยังไงก็ได้ แต่อย่าลืมเผื่อความรู้สึกเวลาย้อนกลับมามองตอนเราโตด้วย
5. เด็กชายอยากแปลงร่าง เด็กหญิงอยากเป็นสาว
ไหนใครไม่เคยแปลงร่างเป็นยอดมนุษย์คาคุเรนเจอร์ แบทแมน ซูเปอร์แมน พี่เมก้าฟันธงว่าร้อยทั้งร้อย น้องๆ น่าจะผ่านกันมาหมดแล้ว ต่อให้น้องๆ ผู้ชายโตมาแมนๆ เตะบอล แต่ความฝันของในวัยเด็กมักจะมีเหล่าซูเปอร์ฮีโร่เป็นส่วนหนึ่งอยู่เสมอ
ในขณะที่น้องผู้หญิงก็จะมีความรักสวยรักงามตั้งแต่เด็ก พอโตมาเราจึงมีภาพความทรงจำที่ทำให้นึกยิ้มอยู่เสมอว่า ครั้งหนึ่งเราเคยใส่เกงลิงสีแดงไว้ด้านนอก แถมยังเคยแอบเอาเครื่องสำอางของคุณแม่มาละเลงอย่างเมามันส์บนหน้าแล้วคิดว่าตัวเองสวยด้วยนะ ไม่รู้ทำไปได้ไง
6. เราเหงา "เราชอบคุยกับตุ๊กตา"
"น้องริลัคคุมะคุยกับเราหน่อยสิ วันนี้นะเราไปโรงเรียนไม่สนุกเลย เหงามาก" ตอนเด็กๆ หลายคนมีอาการแบบนี้นะคะ ชอบนั่งคุยกับตุ๊กตา มีความสุขก็ดีใจกับตุ๊กตา เศร้าก็นั่งปรับทุกข์กับตุ๊กตา คุยกันเป็นวันๆ ยังได้เลยค่ะ ไม่รู้มีอะไรให้คุยนักหนา ส่วนใหญ่เด็กๆ ที่ชอบคุยกับตุ๊กตาหรือหิ้วน้องตุ๊กตาไปไหนมาไหนด้วย มักจะเป็นลูกคนเดียว ไม่มีเพื่อนคุยเล่น เลยได้เจ้าตุ๊กตานี่แหละค่ะมาคอยอยู่เป็นเพื่อน บางคนอาจรู้สึกแปลกนะแต่พี่เมก้าเชื่อว่าจนถึงตอนนี้ผู้ใหญ่หลายคนก็ยังนั่งคุยกับตุ๊กตาอยู่ค่ะ จริงๆ
7. "ปวดชิ้งฉ่อง อยากอุ่นอุ๊น" แต่ไม่กล้าบอกครู
5. เด็กชายอยากแปลงร่าง เด็กหญิงอยากเป็นสาว
ไหนใครไม่เคยแปลงร่างเป็นยอดมนุษย์คาคุเรนเจอร์ แบทแมน ซูเปอร์แมน พี่เมก้าฟันธงว่าร้อยทั้งร้อย น้องๆ น่าจะผ่านกันมาหมดแล้ว ต่อให้น้องๆ ผู้ชายโตมาแมนๆ เตะบอล แต่ความฝันของในวัยเด็กมักจะมีเหล่าซูเปอร์ฮีโร่เป็นส่วนหนึ่งอยู่เสมอ
ในขณะที่น้องผู้หญิงก็จะมีความรักสวยรักงามตั้งแต่เด็ก พอโตมาเราจึงมีภาพความทรงจำที่ทำให้นึกยิ้มอยู่เสมอว่า ครั้งหนึ่งเราเคยใส่เกงลิงสีแดงไว้ด้านนอก แถมยังเคยแอบเอาเครื่องสำอางของคุณแม่มาละเลงอย่างเมามันส์บนหน้าแล้วคิดว่าตัวเองสวยด้วยนะ ไม่รู้ทำไปได้ไง
6. เราเหงา "เราชอบคุยกับตุ๊กตา"
"น้องริลัคคุมะคุยกับเราหน่อยสิ วันนี้นะเราไปโรงเรียนไม่สนุกเลย เหงามาก" ตอนเด็กๆ หลายคนมีอาการแบบนี้นะคะ ชอบนั่งคุยกับตุ๊กตา มีความสุขก็ดีใจกับตุ๊กตา เศร้าก็นั่งปรับทุกข์กับตุ๊กตา คุยกันเป็นวันๆ ยังได้เลยค่ะ ไม่รู้มีอะไรให้คุยนักหนา ส่วนใหญ่เด็กๆ ที่ชอบคุยกับตุ๊กตาหรือหิ้วน้องตุ๊กตาไปไหนมาไหนด้วย มักจะเป็นลูกคนเดียว ไม่มีเพื่อนคุยเล่น เลยได้เจ้าตุ๊กตานี่แหละค่ะมาคอยอยู่เป็นเพื่อน บางคนอาจรู้สึกแปลกนะแต่พี่เมก้าเชื่อว่าจนถึงตอนนี้ผู้ใหญ่หลายคนก็ยังนั่งคุยกับตุ๊กตาอยู่ค่ะ จริงๆ
7. "ปวดชิ้งฉ่อง อยากอุ่นอุ๊น" แต่ไม่กล้าบอกครู
.jpg)
"โอ๊ย ปวดๆๆ" นั่งไขว้กันจนขาแทบบิดแต่ไม่ยอมลุกไปเข้าห้องน้ำ เพราะกลัวครูว่า พูดง่ายๆ คือ กลัวโดนด่ามากกว่ากลัวก้นเปียกล่ะค่ะงานนี้ สุดท้ายคือปล่อยตรงนั้นจนรู้สึกโล่ง หลังจากโล่งความอายก็จะตามมาพร้อมกับเราที่ค่อยๆ เติบโต ยิ่งถ้ามีเพื่อนเรียนห้องเดียวกัน คบกันตั้งแต่อนุบาลมาจนถึงมหาวิทยาลัย อย่าปล่อยให้พลาดนะ พลาดปุ๊บเหยียบซ้ำ โดนขุดคุ้ยประสบการณ์หลอนมาล้อเรายันลูกบวชเลยล่ะค่ะ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
8. "นี่แฟนเรา" เปิดเผยกันสุดๆ
อื้อหือ! จุดพีคของชีวิต คือการเป็นเด็กแสบซ่านี่แหละค่ะ มั่นใจว่าในชีวิตนี้ ตอนอนุบาล-ประถม ต้องมีคู่จิ้นกันบ้างล่ะ บ้างก็เปิดตัวไปเลยว่าเป็นแฟน อื้อหือ อยากหยุดเวลานั้นไว้จริงๆ เพราะโตขึ้นมาก็หาไม่ได้แล้ว (ร้องไห้หนักมาก) พี่เมก้าเคยเห็นหนูน้อยหน้าตาน่ารักแซวพี่ชายคนหนึ่ง(ที่เป็นไอดอล) "พี่หล่ออะ โตขึ้นจะให้หนูเป็นเจ้าสาวใช่มั้ย" คือน้องมาเหนือเมฆและเทพมาก ได้รับสัมผัสอุ่นๆ ที่แก้มเป็นของขวัญด้วยอะ อยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งเลย อิอิ ตอนเด็กทำแบบนั้นก็ดูน่ารักนะคะ แต่พอโตมาเราอาจจะอยากทบทวนตัวเองแบบอายๆ ว่า ชั้นทำอะไรลงไป!
9. "แกล้งป่วย" ก็หนูไม่อยากไปโรงเรียน
ในวัยเด็ก โรงเรียนกับเด็กนักเรียนนับเป็นคู่ปรับตัวฉกาจระหว่างกันเลยนะคะ เรามักจะเห็นภาพหนูน้อยหลายคนงอแง ไม่อยากไปโรงเรียนอยู่เสมอ และวิธีที่ได้ผลดีที่สุดก็คือการแกล้งป่วย ปวดท้อง ปวดหัว เป็นไข้ ทั้งที่ความจริงแล้วเราขี้เกียจค่ะทุกคน หรือใครจะเถียง? พี่เมก้าอยากบอกว่าแอคติ้งแกล้งป่วยเป็นการกระทำที่ไม่ควรนำมาเป็นแบบอย่างแต่หลายคนทำเป็นประจำจนกลายเป็นเพื่อนซี้ไปเลยก็มี จึงเกิดเป็นคำถามตอนเราโตว่า "เสียเหงื่อกับการจ้างร้อยเล่นล้านไปเท่าไหร่" ลงทุนสุดๆ
10. "ความกลัวคืออะไร" หนูไม่รู้จัก
8. "นี่แฟนเรา" เปิดเผยกันสุดๆ
อื้อหือ! จุดพีคของชีวิต คือการเป็นเด็กแสบซ่านี่แหละค่ะ มั่นใจว่าในชีวิตนี้ ตอนอนุบาล-ประถม ต้องมีคู่จิ้นกันบ้างล่ะ บ้างก็เปิดตัวไปเลยว่าเป็นแฟน อื้อหือ อยากหยุดเวลานั้นไว้จริงๆ เพราะโตขึ้นมาก็หาไม่ได้แล้ว (ร้องไห้หนักมาก) พี่เมก้าเคยเห็นหนูน้อยหน้าตาน่ารักแซวพี่ชายคนหนึ่ง(ที่เป็นไอดอล) "พี่หล่ออะ โตขึ้นจะให้หนูเป็นเจ้าสาวใช่มั้ย" คือน้องมาเหนือเมฆและเทพมาก ได้รับสัมผัสอุ่นๆ ที่แก้มเป็นของขวัญด้วยอะ อยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งเลย อิอิ ตอนเด็กทำแบบนั้นก็ดูน่ารักนะคะ แต่พอโตมาเราอาจจะอยากทบทวนตัวเองแบบอายๆ ว่า ชั้นทำอะไรลงไป!
9. "แกล้งป่วย" ก็หนูไม่อยากไปโรงเรียน
ในวัยเด็ก โรงเรียนกับเด็กนักเรียนนับเป็นคู่ปรับตัวฉกาจระหว่างกันเลยนะคะ เรามักจะเห็นภาพหนูน้อยหลายคนงอแง ไม่อยากไปโรงเรียนอยู่เสมอ และวิธีที่ได้ผลดีที่สุดก็คือการแกล้งป่วย ปวดท้อง ปวดหัว เป็นไข้ ทั้งที่ความจริงแล้วเราขี้เกียจค่ะทุกคน หรือใครจะเถียง? พี่เมก้าอยากบอกว่าแอคติ้งแกล้งป่วยเป็นการกระทำที่ไม่ควรนำมาเป็นแบบอย่างแต่หลายคนทำเป็นประจำจนกลายเป็นเพื่อนซี้ไปเลยก็มี จึงเกิดเป็นคำถามตอนเราโตว่า "เสียเหงื่อกับการจ้างร้อยเล่นล้านไปเท่าไหร่" ลงทุนสุดๆ
10. "ความกลัวคืออะไร" หนูไม่รู้จัก
พฤติกรรมของเด็กมีหลากหลายแบบนะคะ เด็กบางคนขี้กลัวมาก กลัวคนแปลกหน้า กลัวความมืด กลัวตาย ฯลฯ แต่ก็ยังมีเด็กอีกส่วนหนึ่งที่ไม่เคยกลัวอะไรเลย ช่างสังเกต กล้าลองทุกสิ่งอย่างรอบตัว จนบางทีกลายเป็นความซุกซนที่นึกย้อนกลับไปแล้วถึงกับตั้งคำถามว่า "ทำไปได้ยังไง" เช่น ตอนเด็กชอบจับตุ๊กแกมาลูบหัวเล่น โตมากลัวมาก ตอนเด็กชอบปีนป่ายต้นไม้ โตมากลัวความสูง ตอนเด็กเจองูแล้วยิ้มให้ โตมาแทบกรีดร้องทันทีที่เห็น เป็นต้น
เป็นไงบ้างคะน้องๆ 10 พฤติกรรมวัยเด็ก ชวนอึ้ง! ที่พี่เมก้านำมาฝาก เรามีความทรงจำร่วมกันมั้ยเอ่ย? ช่วงเวลาวัยเด็กก็เปรียบเสมือนวัยแห่งการเริ่มต้นเรียนรู้ รู้จักลองผิดลองถูก โดยมีคุณพ่อ คุณแม่ คุณครู รวมถึงบุคคลรอบข้าง คอยช่วยประคับประคองให้เรากลายเป็นเด็กที่ดีในวันนี้และเป็นผู้ใหญ่ที่ดีของสังคมในวันข้างหน้านะคะ
เป็นไงบ้างคะน้องๆ 10 พฤติกรรมวัยเด็ก ชวนอึ้ง! ที่พี่เมก้านำมาฝาก เรามีความทรงจำร่วมกันมั้ยเอ่ย? ช่วงเวลาวัยเด็กก็เปรียบเสมือนวัยแห่งการเริ่มต้นเรียนรู้ รู้จักลองผิดลองถูก โดยมีคุณพ่อ คุณแม่ คุณครู รวมถึงบุคคลรอบข้าง คอยช่วยประคับประคองให้เรากลายเป็นเด็กที่ดีในวันนี้และเป็นผู้ใหญ่ที่ดีของสังคมในวันข้างหน้านะคะ
.jpg)
ประสบการณ์ของแต่ละคนย่อมมีทั้งเหมือนและแตกต่างกัน น้องๆ คนไหนมีพฤติกรรมวัยเด็กที่อยากแชร์ให้เพื่อนๆ ฟังว่าเราทำแบบนี้ไปได้ยังไงก็ขอเชิญมาแบ่งปันกันข้างล่างเลยค่ะ สุดท้ายนี้สุขสันต์วันเด็กนะคะ
32 ความคิดเห็น
ภาพสุดท้ายทำให้เราเกือบหลอน พี่เมก้าไม่ต้องยกตัวอย่างรูปภาพ(สุกี้น้ำ)ก็ได้
(เรากลัวนะเออ)
ข้อ 5 นี่เราเหมือนเด็กผู้ชายมาก 555555555 อยากแปลงร่าง(มาก ก.ไก่แสนล้านตัว)เราชอบดูพวกเซนไตไง ตอนเด็กเคยอ้อนวอนขอให้ซื้อพวกอุปกรณ์แปลงร่างมาก(โดยเฉพาะเดกะเรนเจอร์ที่ตอนเด็กชอบดู) แต่สุดท้ายก็ไม่ได้หรอก เพราะมันหายากไง 555555555 แต่ตอนนี้น่ะเหรอ.....อยากแปลงร่างเป็นสาวน้อยเวทมนตร์ ชอบดูอนิเมะสาวน้อยเวทมนตร์ ดาร์กๆ ใสๆ ดูแน่ มาโดกะ และเซเลอร์มูนที่ภายนอกเป็นการ์ตูนเด็ก แต่จริงๆ(มังงะ)มืดมนพอๆกันทั้งคู่กับมาโดกะ ชักจะไม่เกี่ยวแล้วสิ
ใช่เลยค่ะ ทั้งพูดคนเดียว ทั้งเล่นพ่อแม่ลูก
ตอนนี้ก็ยังเล่นเป็นบทบาทสมมติอยู่นะ สมมติว่าเป็นสะใภ้บ้านเจ เจตรินอะไรแบบนี้ 55555
เคยพูดคนเดียว
เล่นกับปากกา ดินสอ สีไม้ สีเทียน แปรงสีฟันเอามาเล่นบทบาทสมมุติ
จะบอกว่าพูดคนเดียวเนี่ย ทำตั้งแต่เด็กจนตอนนี้ก็ยังทำ แต่มีการเปลี่ยนใหม่หน่อยเพราะเดี๋ยวคนอื่นหาว่าบ้า จากการพูดคนเดียวเลยเป็น นั่งนิ่งๆคนเดียวแล้วมโนภาพตัวเองให้บทบาทต่างๆเหมือนในละครขึ้นมาเอง
เกือบทุกข้อทำมาหมดแล้ววว 55555
ทำบ่อยสุดคือ แกล้งป่วย ก็ขี้เกียจอ่ะเนอะ
แต่พอโตมา ถึงจะป่วยจริง ใกล้ตาย ก็ต้องไปโรงเรียนค่ะ ชีวิตม.ปลายไม่ง่ายเลย
(ร้องไห้อีกที)
ตอนเด็กนี่เลียนแบบมู่หลาน ตอนเด็กมากกก แม่เล่าให้ฟัง
จะมีตอนที่มู่หลานต้องตัดผมปลอมตัวไปรบ
จัดเลยจ้าา เอากรรไกรคีบผม แล้วนั่งบนกระโถนฉี่(สมมติว่าเป็นม้า)
ผ่านมาหมดทุกข้อค่ะ555 โดนเฉพาะเล่นคนเดียวในจินตนาการ ตอนนั้นมโนเก่งมากเห็นภาพเลยค่ะ5555555555
ข้อ 9 นี่ทำตั้งแต่เด็กจนโต
ตั้งแต่เด็กจนโต ยังไม่เคยทำแบบ ข้อ3 เลย คือ ไม่ให้ก็ไม่ให้ ยืนมองเฉยๆก้ได้ TT
1.ข้อนี้ปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่จ้า เช่น ขึ้นรถไม่ทัน
A : ขึ้นไม่ทันง่ะ แง่ๆ
B : ไม่เป็นไรๆ
ถึงตัวจะนิ่งบ้าง หน้านิ่ง แต่ในหัวนี่อย่างกะหูฟังที่เพิ่งออกจากกระเป๋า พันกันยิ่งเลย
2. เป็นแม่ตลอด บางครั้งเล่นขี่ม้าส่งเมือง เป็นม้าตลอด (ตัวใหญ่และสูงที่สุดในห้อง)
3. ไม่ดิ้น แต่จะพูดอ้อนวอนให้ถึงที่สุด 5555
4. ตัวแรกน่าจะเป็นฮีโร่ อุลตร้าแมน (คือไปดูการ์ตูนบ้านเพื่อนชายทุกวัน เลยติดการ์ตูนผู้ชายเยอะไปหน่อย 555) ต่อมาน่าจะเป็นอาซูมิ ซามูไรสวยพิฆาต เล่นทุกฉากของนางในภาคแรก ดูตอนประถมหรืออนุบาลเนี่ยแหละ จนพอม.2 เพิ่งรู้ว่าอาซูมิมีภาค 2 ด้วย และสุดท้าย....บาร์บี้
5.ไม่ต่างอะไรจากข้อ 4 เลย เป๊ะ!
6.ทั้งตุ๊กตาบาร์บี้ ตุ๊กตากระต่าย ตุ๊กตาหมี ตุ๊กตาหมา
7.Secrets
8.โมเมนต์นี้ไม่เคยมีเลย
9.ตั้งแต่ประถม - มัธยมต้น มีแค่ 5 ครั้งเอง 555 มีอีกอย่างนะ.....ทำงานไม่เสร็จ
10.กลัวความมืดเป็นสิ่งแรกมั้ง เจอมืดๆนี่ไม่ชอบเลย โดยเฉพาะกลางคืน ต่อมาก็เป็นสิ่งลี้ลับ
1. พูดคนเดียว ตอนเด็กก็ทำตอนนี้ก็ทำอยู่นะ ทำตอนคิดคำนวนหรือคิดเรื่องต่างๆ ถ้าไม่ออกเสียงแล้วคิดไม่ออก 555
2. เล่นพ่อแม่ลูก แบบเล่นคนเดียวด้วยนะ เพื่อนผู้หญิงไม่ค่อยชวนเราเล่น เราอยากเล่นเลยเล่นคนเดียวและเราอยู่กับลูกพี่ลูกน้องที่เป็นผู้ชายด้วย มันไม่เล่นหรอกก็เลยต้องเล่นคนเดียว
3. ชักดิ้นชักงอ เราไม่เคยนะ ลองทำสิโดนตีตายแน่
4. เลียนแบบละคร เราไม่เล่นเพราะไม่ค่อยได้ดูละครส่วนมากเลียนแบบการ์ตูน อย่างอาราเล่ (แถมอยากคอสเพลเป็นอาราเล่อีกต่างหาก) ดรากอนบอล อุลตร้าแมน เซนไต
5. กลับกันอะเราหญิงชอบเล่นแปลงร่าง เล่นเป็นอุลตร้าแมนบ้าง เซนไตบ้าง แปลงเป็นโกคู แต่งหน้าไม่เคยเล่น
6.ตอนเด็กเราไม่เล่นตุ๊กตา อาเราว่าแปลกซื้อมาให้เล่นไม่ยอมเล่น ชอบเล่นจำพวกตัวต่อ แล้วก็รถ พอโตขึ้นมากลับพูดเล่นกับพวกมันซะงั้น
7. เราไม่กล้าขอก็จริงแต่เราชอบไปตอนที่เพื่อนมันขออนุญาตอะ 555 ผลพลอยได้
8.ทำได้แต่มโนในใจคนเดียว ก็แหมคนที่ชอบเขามีคนที่ชอบอยู่แล้ว ก็เลยได้แค่คิด
9. ไม่เคยโกหกว่าป่วยกลัวโดนตี
10. เราขี้กลัวมาก โดยเฉพาะกลัวผี กลัวโดนตี กลัวโดนด่า กลัวเรื่องหน้าแตก