ก่อนแก้ต้องรู้สาเหตุ! รวม 5 เหตุผลที่มีแนวโน้มให้เด็กอาชีวะตีกัน



           วัสดีค่ะ ภาพของเด็กนักเรียนอาชีวะยกพวกตีกัน ดูจะเป็นภาพติดตาไปเสียแล้ว นอกจากจะติดตาแล้วก็ยังทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีสำหรับสถาบันอาชีวะต่างๆ เพราะมีข่าวออกมาอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ผู้ปกครองส่วนใหญ่หวั่นใจหากลูกหลานจะเรียนสายอาชีวะ เด็กส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะเรียนสายสามัญเพื่อความปลอดภัย
 

          จริงๆ แล้วเป็นเพียงไม่กี่กลุ่มเท่านั้นที่ตีกัน เมื่อเทียบกับนักเรียนอาชีวะทั่วประเทศ ซึ่งปัญหาหลักๆ ที่ทำให้เด็กอาชีวะตีกันก็แล้วแต่เหตุการณ์นั้นๆ ซึ่งรวบรวมมาเป็น 5 เหตุผลยอดฮิตที่เด็กอาชีวะตีกัน มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

1. สถาบันครอบครัว

          จุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่มาก นั่นก็คือสถาบันครอบครัว เด็กส่วนใหญ่ที่มีปัญหาทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย ก็มาจากครอบครัวที่ขาดความรัก ขาดความมั่นใจในตนเอง ขาดการดูแลและการอบรมอย่างใกล้ชิด ทำให้โตมาเป็นคนที่ต้องการเป็นที่สนใจ และไม่ได้คิดถึงสิ่งผิดที่ตามมาทีหลัง ถูกชักจูงให้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทได้ง่าย

2. ศักดิ์ศรีของสถาบัน

           เป็นสิ่งที่ถูกฝั่งจากรุ่นสู่รุ่น (เหมือนทายาทอสูร) เป็นอริมาตั้งแต่สมัยก่อนโน้นนนนนนนน ว่าเคยมีเรื่องกับสถาบันนั้นนะ ไม่ถูกกันนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่ก็ให้ลุยทันที ซึ่งก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องที่ขัดแย้งกันคืออะไร เพียงแค่รุ่นพี่บอกมาว่ามีปัญหากัน แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าต้นปัญหาคือใคร ซึ่งมันควรจะยุติปัญหากันได้แล้วเนอะ เพราะคนที่เราไปมีเรื่องด้วย ก็เป็นนักเรียนธรรมดาทั่วไปที่ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน และที่น่าเสียใจมากๆ คือ คนที่ถูกทำร้ายมักเป็นนักเรียนดี ตั้งใจเรียน แต่ต้องกลายเป็นผู้รับเคราะห์ หมดอนาคตไปซะอย่างนั้น

3. วัยรุ่นเลือดร้อน

           เป็นช่วงที่ฮอร์โมนพลุ่งพล่าน ช่วงรอยต่อของวัยรุ่นเลือดร้อน ที่พร้อมจะมีเรื่องได้ตลอดเวลา แค่เดินผ่านหน้าก็มีเรื่องได้แล้ว และยิ่งมีแนวร่วมคอยยุด้วยล่ะก็มีเรื่องกันง่ายๆ เลย ซึ่งบางทีอาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด หรือความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ปัญหาข้อนี้แก้ง่ายมาก แค่คำว่า "อภัย" มีเพื่อนเยอะดีกว่ามีศัตรูนะเออเอิงเอย

4. ค่านิยม

           ถ้าใครทำร้ายคู่อริ และชนะกลับมา ถึงแม้ร่างกายและทรัพย์สิน (ทั้งของตัวเองและผู้อื่น) จะเสียหายไปสักแค่ไหน ก็จะเป็นที่ยอมรับ (ในกลุ่มเล็ก ๆ) ว่าเก่ง เจ๋ง นี่แหละคนจริง กลายเป็นฮีโร่ไปเฉยเลย การสร้างค่านิยมแบบนี้เป็นการส่งเสริมให้ทำผิดแล้วทำผิดอีก ต้องหาฮีโร่ตัวจริงสักคนไปทลายค่านิยมนี้ให้ได้

5. พฤติกรรมเลียนแบบ

           ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่ามีเด็กบางกลุ่มมองว่าการก่อเหตุทะเลาะวิวาทเป็นเรื่องปกติ ใครๆ ก็ทำกัน ทั้งในภาพยนตร์ ในละคร แล้วก็เหตุการณ์จริงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบว่าการทำแบบนี้มันเจ๋ง ทำแล้วเราคือผู้นำที่สามารถควบคุมคนอื่นได้ และนานวันเข้าก็จะชินชากับการใช้ความรุนแรงในสังคม


            โดยพื้นฐานของคนที่มาเรียนต่อ พี่แป้งเชื่อว่าก็ไม่ได้เป็นเด็กที่มีความคิดรุนแรง แต่เพราะสังคม เพื่อน และสภาพแวดล้อมทำให้กลายเป็นคนที่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ซึ่งก็ทำให้เสียทรัพย์ เจ็บตัว และบางเหตุการณ์ก็เสียชีวิต ทั้งๆ ที่อนาคตอาจจะกลายเป็นเจ้าของธุรกิจของประเทศก็ได้ เพราะฉะนั้นมาช่วยกันเถอะค่ะ ต่อต้านความรุนแรง และปลูกฝังการคิดใหม่กับกับเด็กรุ่นหลัง แล้วเหตุการณ์เหล่านี้จะค่อยๆ หายไปจากสังคมไทยเองค่ะ

            บางทีก็แอบน้อยใจแทนน้องๆ อาชีวะที่สร้างชื่อเสียง สร้างผลงานดีๆ ให้กับประเทศ ที่คนรู้น้อยมากถึงแม้จะออกข่าวเหมือนกับเหตุการณ์ที่เด็กตีกันก็ตาม ซึ่งจริงๆ แล้วสังคมเด็กอาชีวะเป็นสังคมที่น่ารักและอบอุ่นมาก มีความช่วยเหลือ รักกัน และสนิทกันมาก ถ้าใครที่รู้ตัวเองแล้ว และมีเรียนทางสายอาชีวะก็ลุยเลยค่ะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

 
พี่แป้ง
พี่แป้ง - Columnist นักข่าวสายรับตรง พร้อมเสิร์ฟข่าวสอบเข้าทุกมหา'ลัย เติมพลังได้จากชาเย็นหวานน้อย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

เตี้ยน้อยเขียวเหลือง Member 6 ก.พ. 59 00:12 น. 7

มันก็มีอยู่ทุกสถาบันนั่นแหละ เด็กสายสามัญก็ยังมีเลย ใช่ว่าจะมีแต่เด็กอาชีวะซะหน่อย

0
กำลังโหลด

8 ความคิดเห็น

มัณทนา Member 29 ม.ค. 59 14:23 น. 1

อย่าคิดว่าเด็กสายสามัญจะไม่มีเรื่องพวกนี้นะคะ

ก่อนที่จะมาว่าเด็กสายอาชีพกับเด็กสายอาชีวะแบบเหมารวม

ไปแก้ไขพฤติกรรมของพวกลูกหลานที่เป็นเด็กสายสามัญให้ได้ซะก่อน

3

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากมีข้อความหยาบคาย ใช้ภาษาไม่เหมาะสม

กำลังโหลด
ixoxoi Member 3 ก.พ. 59 12:12 น. 2

มันก็ไม่ทั้งหมดน่ะ มันก็มีดี แล้วก็ไม่ดีทุกที่ป่ะ พอพูดถึงเด็กสายอาชีพ สายอาชีวะ ทำไมมองแต่เรื่องนี้กัน เข้าใจว่าส่วนนึงคือเรื่องตีกันที่เป็นข่าว แล้วก็ดันไปมองกันแต่ตรงนั้น มันก็เกิดจากความคึกคะนองของวัยรุ่น แล้วไอเรื่องศักดิ์ศรีสถาบันไอคนตีกันก็คิดไปเอง สถาบันไม่ได้ยุให้ตีกันซะหน่อย 

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ผู้อ่านเงียบๆ Member 5 ก.พ. 59 19:49 น. 5

สายสามัญก็คงมีแหละแต่มักไม่โด่งดังเท่าเฉย ๆ (เวลาเห็นอาชีวะ อ. หรือ ป. เขาจะดูน่ากลัวหน่อย ๆ แต่มีมารยาทมากเลยนะครับ)

0
กำลังโหลด
Chjdjg 5 ก.พ. 59 21:30 น. 6
ถ้าครูอาชีวะสอนดี เครื่องมือครบ วัดสุมีเพียงพอ เด็กมันไม่ตีกันหรอก แต่นี้เป็นว่า 1 เรียนไปครึ่งเทอม หนังสือเพิ่งมา 2 มีหนีงสือก็ไม่ให้เด็ก กลับบอกว่สให้ไปก็หาย 3 มีแต่ครูอัตราจ้าง ไม่มั่นคงต่ออนาคต แล้ว นร จะดีได้ไง 3 ครูอัตราจ้างบางคนเก่ง ขยัน จนไม่มีเวลาอ่านหนังสือสอบเป็นครูราชการ สอบก็เลยไม่ติด 4 ส่วนครูอัตราจ้างที่ขี้เกียจหลบเก่ง มีเวลาอ่านหนีงสือเลยสอบติด 5 ควรเลิกการมีอัตราจ้างได้แล้วมันทำลายการศึกษา 6 ควรยกเลิกค่าสอนเกินหน่วย ชม เพื่อให้ครูมีเวลาทำอย่างอื่นบ้าง (ที่นี้มีแต่โหลดสอน แต่ไม่สอน กินแต่ค่าสอน) 7 เงินค่าวัสดุ ไม่เคยตกถึง นร หน แผนกกับครู เอาไปทำอย่างอื่นหมด เช่นเป็นโน๊ตบุคของ หน แผนก 8 ผอ ชอบสั่งให้ครูไปทำงานที่สามารถเอาไปปรับระดับของ ผอ แต่ไม่มีประโยชน์โดยรวมกับ นร 9 ผอ กับ ร ผอ มีหน้าที่ประชุมที่อื่นมากกว่านั่งทำงานที่ รร 10 โกงกินทุกระดับประทับใจ อาชีวะจงเจริญ (ชาติตอนบ่ายๆ) และนี้คือปัญหาจริงส่วนหนึ่งที่ยังคงเป็นอยู่และยังทำอยู่
0
กำลังโหลด
เตี้ยน้อยเขียวเหลือง Member 6 ก.พ. 59 00:12 น. 7

มันก็มีอยู่ทุกสถาบันนั่นแหละ เด็กสายสามัญก็ยังมีเลย ใช่ว่าจะมีแต่เด็กอาชีวะซะหน่อย

0
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด