สวัสดีค่ะ เปิดเทอมกันมาหลายเดือนแล้ว มีใครเคยลองสำรวจตัวเองไหมคะ ว่าการเรียนในปีนี้ง่ายขึ้น หรือยากขึ้นกว่าเดิม ที่เคยตั้งใจว่าจะทำตัวให้ดีขึ้นทุกครั้งที่เห็นเกรดตัวเองแย่ ได้ปรับปรุงตัวเองบ้างแล้วรึยัง หรือใครที่เคยพยามยามมาหลายทีแต่ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ได้ลองปรับพฤติกรรมกันบ้างรึยัง
ใครที่พยายามมากี่ปี เกรดก็ยังเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลงไปไหน งานก็ส่งทุกครั้ง ก่อนสอบก็อ่านหนังสือทุกที แต่ก็ยังเกรดตก การเรียนร่วงกันอยู่ ลองมาสำรวจดูว่าเรามี 6 พฤติกรรมอันตราย ที่ควรเลิกทำ! เหล่านี้รึเปล่า
• ไม่ทำการบ้าน ลอกเพื่อนดีกว่า
เป็นพฤติกรรมอันตรายที่มีมาทุกยุคทุกสมัยเลยนะคะ สิบปีที่แล้วตอนที่พี่อีฟเรียนเป็นยังไง ปัจจุบันนี้พฤติกรรมนี้ก็ยังมีให้เห็นค่ะ รีบมาโรงเรียนแต่เช้าเพื่อมาลอกงานเพื่อน หรือใครมาสายก็ปั่นงานแม้กระทั่งตอนเข้าแถว โอ้ยยยย ทำกันขนาดนี้! ถ้าคุณครูจับได้เมื่อไหร่ เกรดร่วงแน่นอน
เหตุผลฮิตๆ ที่น้องๆ อ้างก็คือไม่มีเวลา ลืมทำ หรือแม้กระทั่งการบ้านยากเกินไป ให้ทำเองก็ไม่ไหว เพราะไม่เข้าใจ งั้นพี่อีฟขอเสนอทางแก้พฤติกรรมอันตรายเหล่านี้ เช่น ถ้าใครบอกว่าไม่มีเวลา ลองเปลี่ยนจากการบ้านมาเป็นการทำก่อนกลับบ้านค่ะ รู้ว่าครูสั่งแล้ว ไม่ต้องรอไปทำที่บ้าน แต่ทำเวลาว่างที่โรงเรียนได้เลย หรือถ้าใครอ้างว่าลืม สมุดจดการบ้านถือเป็นอุปกรณ์จำเป็นของน้องๆ เลยค่ะ แต่ถ้าเหตุผลว่ายากเกินไป อยากให้ลองทำให้สุดฝีมือก่อน ถ้าไปต่อไม่ไหว ให้เพื่อนช่วยอธิบายดีกว่าลอกแน่นอนค่ะ
• เดี๋ยวค่อยทำงาน ขอเล่นอินเตอร์เน็ตก่อน
เป็นพฤติกรรมต่อเนื่องจากข้อแรก น้องๆ บางคน กลับถึงบ้านเมื่อไหร่ ขอเล่นมือถือก่อน ขอเล่นอินเตอร์เน็ตก่อน ทำการบ้านไว้ทีหลังทุกที มารู้ตัวอีกทีก็เล่นเพลินถึงสี่ห้าทุ่ม ได้เวลาเข้านอนแล้ว เป็นแบบนี้ทุกวัน นอกจากการบ้านไม่ได้ทำ สุขภาพยังเสี่ยงทรุดโทรมไม่รู้ตัวอีกด้วย!
ทางแก้ที่ดีคือการรวบรวมสติ แล้วนึกถึงความเลวร้ายของการสะสมงานเป็นดินพอกหางหมู หรือถ้าทำไม่เสร็จแล้วจะต้องโดนคุณครูจัดการแน่ๆ อย่ารอให้ถึงกลางคืนหรือตอนเช้าเพื่อทำการบ้านของวันนี้เลยนะคะ เพราะช่วงเวลาในการทำการบ้านที่ดี คือ ช่วงเวลาที่เพิ่งกลับมาจากโรงเรียนนี่แหละค่ะ ความรู้ที่เราได้รับมายังสดใหม่ ถ้ากลับมาทบทวนอีกทีด้วยการทำการบ้าน รับรองว่าจำได้แม่นยำแน่นอน
• ถ้าครูไม่เช็กชื่อ ก็ไม่เข้าคาบนี้ดีกว่า
ถึงแม้ว่าวิชาเรียนของมัธยม คุณครูมักจะเช็กชื่อ ไม่ว่าจะจากการเรียกชื่อ ให้ส่งงาน หรือ ให้ทำแบบฝึกหัดในคาบ แต่ก็จะมีบางวิชาค่ะ ที่คุณครูมักจะไว้เนื้อเชื่อใจเรา ไม่เช็กชื่อ หลายคนก็เลยเห็นโอกาส โดดเรียนคาบนี้เลย ทั้งที่ก็ไม่รู้จะโดดไปทำอะไร ขอแค่ไม่เข้าก็สบายใจ เป็นพฤติกรรมอันตรายอันดับต้นๆ เลยนะคะ
เอาใหม่ค่ะ ใครที่ชอบโดดเรียนเป็นประจำ ลองสัก 1 วันค่ะ ตั้งใจกับตัวเองในตอนเช้า ว่าวันนี้จะเข้าเรียนให้ครบทุกคาบ น้องๆ รู้ไหมคะ ว่าแค่เราเข้าเรียนให้ครบทุกคาบ นอกจากความรู้ที่จะได้รับอย่างเต็มที่ โดยที่ไม่ต้องอ่านหนังสือเพิ่มเติมหามรุ่งหามค่ำแล้ว ยิ่งอาจารย์เห็นหน้าเราบ่อยๆ คะแนนจิตพิสัยอาจจะลอยมาแบบไม่รู้ตัวก็ได้นะคะ
• ไม่โดดเรียนก็ได้ แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจเรียนนะ
ไม่เหมือนกับข้อที่แล้วนะคะ เพราะน้องๆ เลือกที่จะเข้าเรียน แต่กลับไม่ตั้งใจเรียนแบบสุดๆ เลย คุยกันเสียงดังรบกวนเพื่อนๆ ตลอดเวลา หรือที่แย่กว่านั้น ชวนเพื่อนๆ ที่ตั้งใจเรียนคุยอีก นอกจากนั้นยังแอบมีกินขนมในคาบ หรือง่วงเหงาหาวนอนกันแบบสุดๆ เรียกได้ว่าพฤติกรรมไม่ดีในห้องเรียน จัดเต็มในคาบนี้เลย ถ้าใครมีพฤติกรรมเหล่านี้ ถึงไม่โดดเรียน แต่ก็มั่นใจได้ว่า ไม่ได้รับความรู้อะไรในคาบเรียนแน่นอน
ใครที่คุยกันประจำในคาบเรียน มาเรียนแต่ละทีก็ไม่เคยตั้งใจ พี่อีฟขอแนะนำให้รีบปรับพฤติกรรมอันตรายนี้ด่วนเลย เปลี่ยนพฤติกรรมการคุย ให้เป็นพฤติกรรมการกล้าถามในสิ่งที่ยังสงสัย หรือกล้าตอบเวลาที่อาจารย์เรียกให้ตอบดีกว่าค่ะ นอกจากนั้นถ้าเพื่อนคนไหนสงสัย ก็ให้ใช้พฤติกรรมการคุยของเรานี่แหละค่ะ ช่วยอธิบายให้เพื่อนๆ ฟัง หรือใครที่ง่วงเหงาหาวนอน ก็ลุกขึ้นไปล้างหน้าตา เพื่อเรียกสติในการเรียนกลับคืนมาทันทีค่ะ !
• หนังสือที่ใช้เรียน แต่เก็บไว้ที่บ้านทุกครั้ง
เห็นกระเป๋าน้องๆ หลายคนแบนมาก แบนจนสงสัยว่าพกอะไรมาเรียนบ้าง น้องๆ คนไหน ที่ไม่เคยพกหนังสือมาเรียนเลย รีบสารภาพมาเลยค่ะ นึกไปถึงตอน ม.ต้น เยอะแค่ไหนก็แบกมาเรียนได้ แต่พอเริ่มชั้น ม.ปลาย ก็เริ่มเบาบางลงตามชั้นปีเลย เป็นแบบนี้ประจำ น้องๆ หลายคนอาจจะชอบ เพราะเบาตัวตอนมาเรียน แต่ทุกข์หนักแน่ค่ะ ถ้าตอนเรียนก็ไม่เข้าใจ เพราะไม่รู้ว่าครูพูดถึงหน้าไหน เสี่ยงเกรดแย่ได้ง่ายๆ เลย
ทางแก้ที่ดีควรจะเริ่มต้นจากตัวเราค่ะ ให้คิดเสมอว่าการหยิบหนังสือมาเรียน ก็เหมือนหยิบอนาคตเรามาด้วย เราจะเลือกหยิบอนาคตมามากหรือน้อย ก็อยู่ที่ตัวเราทั้งนั้น และสมัยนี้ หลายๆ โรงเรียน ก็เริ่มมีกระเป๋าเสริม (กระเป๋าเคียง) เพื่อให้น้องๆ ได้แบ่งสมุดหนังสือที่ถือมาใส่ลงไปได้ ไม่สร้างภาระให้หลังเราต้องแบกอย่างเดียว พี่อีฟมั่นใจว่าเราไม่ได้แบกมาหนักทุกวันแน่นอน หนักบ้าง เบาบ้าง สลับกันไปค่ะ
• นอนดึกทุกวัน ใครว่าไม่เกี่ยวกับการเรียน
พี่อีฟเชื่อว่ากว่า 80% ของน้องๆ ในวัยมัธยม ต้องนอนดึกแน่นอน รู้ไหมคะ ว่าการนอนดึกนี่เป็นตัวการสำคัญเลยที่ทำให้ผลการเรียนของเราแย่ลงได้ ถึงแม้จะนอนดึกเพราะอ่านหนังสือก็ตามค่ะ! เพราะนอกจากร่างกายของเราควรได้รับการพักผ่อนเพียงพอ สมองของเราก็ควรได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอจากการนอนด้วย
ทางที่ดีที่สุด ควรมีเวลาในการนอนที่สัมพันธ์กับการเจริญเติบโตค่ะ อายุเท่าไหร่ ควรนอนแค่ไหน ก็ควรปฏิบัติตามทันที ยิ่งนอนดึกแค่ไหน ตื่นสายเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้นาฬิกาชีวิตเราเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ถ้าร่างกายพักผ่อนน้อย สมองอ่อนล้า ถึงอ่านเข้าไปมากแค่ไหน แต่ถ้าสมองไม่นำไปประมวลผลต่อ ก็ถือเป็นการอ่านที่ไร้ค่านะคะ ดังนั้น เลิกพฤติกรรมอันตรายเช่นการนอนดึกดีกว่าค่ะ
.jpg)
เชื่อว่าถ้าใครทำเป็นนิสัยแล้ว ให้ปรับภายในหนึ่งวันก็คงยาก ลองเลือกหยิบไปทำวันละข้อก็ได้ค่ะ พี่อีฟรับรองผลแน่นอนว่าถ้าทำครบทั้ง 6 ข้อ แล้ว การเรียนมีแต่รุ่ง ไม่มีร่วงแน่นอน น้องๆ คนไหน มีพฤติกรรมที่คิดว่าทำแล้วเกรดร่วงแน่นอน ก็ลองเอามาแชร์ได้นะคะ เพื่อนๆ ที่มีพฤติกรรมเดียวกันจะได้รีบปรับปรุงตัว เริ่มทำวันละนิด ลองปรับนิด ลองเปลี่ยนหน่อย หรือลองทำทุกอย่างให้พอดี ผลการเรียนเราในครั้งนี้ จะดีขึ้นแบบทันตาเห็นแน่นอนค่ะ :D
ปล.พี่เคยไปเข้าค่าย4วัน กลับเย็นวันอาทิตย์ จันทร์สอบ พี่ยอมไม่กินข้าวเที่ยงเพื่ออ่านฟิสิกส์ โชคดีที่พี่มีบุญเก่า จากการตั้งใจเรียนในห้อง ปรากฎว่าได้ท็อบด้วย สู้ๆนะ
16 ความคิดเห็น
นอนดึกไปเรียนที่ไรนี่ง่วงตลอดเลยค่ะ
นอนดึกกับขี้เกียจทำการบ้าน จนมีโปรโมชั่น ไม่สบายทุกวันพฤหัสบดี - วันเสาร์
ตอนนี้เราไม่สบายแบบเป็นๆ หายๆ ดีงามค่ะ 5555 // ในเลข 5 มีน้ำตา
สำหรับผม ผมไม่เคยมีปัญหาเรื่องลืมหนังสือเรียนเลยฮะ เพราะว่าทิ้งไว้ที่โรงเรียนหมดแล้ว...
ปัญหาเริ่งหนังสือไม่ค่อยมี ถ้าไม่เอากลับมาทำการบ้านหรือทำสรุปสอบก็อยู่ในโต๊ะที่เรียนนะแหละ
อื้อหือ เราเปนตั้งแต่ข้อแรกเลอ คือเปนพวกถ้าไม่ยุโรงเรียนจะแบบไม่อยากจับหนังสือเลอ หนังสือก็ไว้โรงเรียนหมดแหล่ะ เวลาสอบหรอ อ่านก่อนสอบนั่นแหล่ะ เพราะเคยแบบอ่านไปแล้วไม่มีความหมายอ่ะ ชิวๆไปดีกว่า
อะเหื้ออออ เป็นเกือบทุกข้ออ่ะ แต่เกรดดันไม่ตก 5555 อาจเป็นเพราะเราเคยเรียนพิเศษมาก่อนแล้วละมั้ง
ทุกอย่างที่ว่ามาเป็นหมดเลยยกเว้น ครูไม่เช็กชื่อคาบนี้ไม่ข้าดีกว่า แต่การเรีนดีตลอดติดท้อปของห้องเสมอ วิธีการคือช่วงใกล้สอบคือช่วงที่ครูบอกแนวข้อสอบ ช่วงนั้นคือช่วงที่สมควรตั้งเรียนและจดทุกอย่าง โซเชลเก็บใส่กล่องมัดให้่เรีบร้อยแล้วฝังไว้เลยพอหมดช่วงนี้มาก็ขี้เกียจเหมือนเดิม 55555 ลองเเอาไปใช้ดูเพื่อได้ผลเหมือนกันค่ะ
เหอะๆ ทำๆไปเหอะ ทุกข้อที่ว่ามา แค่อย่าทิ้ง อย่าให้เกรดร่วง พยายามเก็บเกรดมากๆก็พอ(ถ้าไม่ได้เข้าคณะที่สอบเข้ายากเช่น แพทย์อะนะ)
ที่แน่ๆ เข้า ม. หนักกว่านี้ เวลานอนเรานี่เสียไปเลย ไม่ใช่ตีสามไม่หลับ ทั้งที่ตอนมัธยม เราไม่เคยนอนเกินเที่ยงคืนเลย แถมต้องเก็บชั่วโมงนอนอีก
หนังสือเรียนที่ทิ้งไว้ที่บ้าน ปัญหาคือ มีเด็กขี้ขโมย รร เลยไม่ให้เอาไว้ใต้โต๊ะ(รร เอกชนนี่ใช่เลย ขี้เกียจแบกเลยขโมยกันหนุกหนาน) หนังสือเล่มนึงหนักเท่าไหร่ วิชานึงมีสมุด ออฟชั่นเสริมมากมาย ไม่ใช่ทุกคนที่ขยันแบก อันนี้ต้นปัญหาแก้ยากแต่บางทีก็ควรหาทางแก้บ้าง