สวัสดีค่ะ หลายๆ สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ พี่อีฟได้มีโอกาสไปเดินเล่นศูนย์หนังสือหรือร้านหนังสือเป็นประจำ และมักจะเห็นน้องๆ มัธยม ที่เดินเลือกซื้อหนังสืออ่านสอบหรือหนังสือเตรียมสอบกันทุกครั้ง ถ้าทำได้ คิดว่าน้องๆ หลายคน คงอยากอ่านให้หมดทุกเล่มเลย แต่เวลาก็ไม่มี เงินก็ไม่พอ จะเลือกหนังสือทั้งที ก็เลยต้องมีเคล็ดลับกันหน่อย
วันนี้พี่อีฟเลยขอพาน้องๆ ไปดู 6 เคล็ดลับเลือกหนังสืออ่านให้ประหยัดและถูกใจ! จะได้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อ เดินเลือกหนังสือในครั้งต่อไป จะมีเคล็ดลับไหนน่าใช้กันบ้าง เราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
1. เลือกหนังสือที่ได้รับมาจากรุ่นพี่หรือญาติพี่น้อง
เชื่อว่าเวลานี้ ใครที่มีพี่สาวหรือพี่ชายถือเป็นโชคดีที่ไม่ต้องซื้อหนังสือใหม่หลายรอบ รวมไปถึงชีทเรียนพิเศษ สรุปบทเรียนที่พี่ๆ ทำขึ้นเอง หรือเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่พี่ๆ เคยจดมา เพราะสมบัติจากพี่ๆ เหล่านี้ ถือเป็นขุมทรัพย์ชั้นดี ที่เราสามารถหยิบยืมหรือขอมาใช้ได้ตลอดเวลา ได้ทั้งความรู้จากหนังสือที่อ่าน แถมยังได้ความรู้จากเทคนิคที่พี่ๆ จดเพิ่มไว้ในหนังสือด้วย ส่วนใครที่ไม่มีพี่สาวพี่ชาย ก็อย่าเพิ่งน้อยใจไปค่ะ พี่แอบเห็นเด็กมัธยมหลายโรงเรียน มีระบบรุ่นพี่รุ่นน้องหรือพี่รหัสน้องรหัส ลองเข้าไปพูดคุยหรือทำความรู้จักกับรุ่นพี่ที่เราสนิท รับรองว่ารุ่นพี่จะต้องเอ็นดูอยากส่งต่อความรู้ให้เราแน่นอนค่ะ
2. เลือกหนังสือที่ตรงกับเรื่องที่สนใจ
น้องๆ หลายคนเคยมาเล่าให้พี่อีฟฟังนะคะ ว่าบางทีเรียนไป 10 เรื่อง แต่ไม่เข้าใจแค่ 2 เรื่อง ก็ไม่รู้จะทำยังไง หรืออยากทบทวนแค่เรื่องๆ เดียว แต่ไม่อยากเรียนพิเศษทั้งคอร์สต้องทำยังไง พี่อีฟก็ขอแนะนำให้น้องๆ เลือกใช้วิธีอ่านหนังสือ โดยเลือกอ่านหนังสือเฉพาะเรื่องที่ตรงกับความสนใจของตัวเองค่ะ ไม่ใช่เลือกตามเพื่อน หรือเลือกไปตามกระแส แต่ลองเปิดหนังสือแต่ละเล่ม ลองเลือกดูเรื่องที่ตัวเองสนใจ ลองอ่าน 1-2 หน้า ว่าคนเขียนใช้ภาษาที่เราอ่านง่าย หรืออธิบายโจทย์เข้าใจรึเปล่า ถ้าได้หนังสือที่ตรงกับเรื่องที่ตัวเองสนใจแล้ว ก็รีบหยิบไปจ่ายตังได้เลย
3. เลือกหนังสือที่จัดพิมพ์หรือปรับปรุงครั้งล่าสุด
ถึงจะไม่ใช่เคล็ดลับแรกที่น้องๆ หลายคน จะนึกถึง แต่ก็ถือเป็นเคล็ดลับสำคัญที่ช่วยให้น้องไม่ต้องไปหาซื้อหนังสือเล่มใหม่บ่อยๆ นะคะ เพราะหนังสือที่จัดพิมพ์หรือปรับปรุงครั้งล่าสุด เป็นเหมือนหนังสือที่อัพเดตข้อมูล ข่าวสาร หรือแม้กระทั่งความรู้ในสมัยปัจจุบัน ให้น้องๆ ได้รู้แล้ว ยังเหมือนเป็นการรีเช็กข้อมูลที่อาจผิดพลาดในเล่มก่อนๆ ได้ด้วย ยิ่งปรับปรุงมากเท่าไหร่ น้องๆ ก็จะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นระเบียบ รวมไปถึงทันสมัยมากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนั้นจำนวนครั้งที่จัดพิมพ์ยังบอกถึงความนิยมและความชื่นชอบของคนอ่านที่มีต่อหนังสือเล่มนั้นๆ ด้วย ถ้าคนชื่นชอบมาก ก็มีแนวโน้มเป็นหนังสือที่ดีได้เหมือนกัน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่สามารถนำไปพิจารณาในการเลือกซื้อหนังสือครั้งหน้าได้ค่ะ
4. เลือกหนังสือที่มีอ้างอิงจากหลายที่
ใครมีหนังสือเล่มไหนอยู่ในมือ อยากให้น้องๆ ลองเปิดไปดูหน้าหลังสุดเลยค่ะ อาจจะมีชื่อเรียกต่างกันไปในแต่ละเล่ม เช่น บรรณานุกรรม แหล่งอ้างอิง หรือหนังสืออ้างอิง ก็ไม่ต่างกันค่ะ ลองเปิดดูว่าหนังสือที่เรามีมีแหล่งอ้างอิงกี่แหล่ง มาจากแหล่งที่เชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน ยิ่งมีแหล่งอ้างอิงที่หลากหลายมากเท่าไหร่ และแหล่งอ้างอิงเหล่านั้นมีความน่าเชื่อถือที่เพียงพอ ก็จะทำให้หนังสือที่เราอ่านน่าเชื่อถือตามไปด้วย ครั้งหน้าเข้าร้านหนังสือเมื่อไหร่ นอกจากหน้าปกและสารบัญที่ต้องดูให้ดี บอกเลยว่าแหล่งอ้างอิงด้านหลังก็มีความสำคัญไม่แพ้กันค่ะ
5. เลือกหนังสือที่มีอยู่ในห้องสมุด
อีกหนึ่งวิธีประหยัดและสามารถเลือกหนังสือได้ตรงใจ โดยใช้เวลาเท่าไหร่ก็ได้ เหมาะกับน้องๆ ที่อยากเลือกหนังสือนานๆ พี่อีฟแนะนำให้น้องๆ ตรงไปยังห้องสมุดเลยค่ะ ข้อดีของการเลือกยืมหนังสือจากห้องสมุด ก็คือ เราสามารถเลือกอ่านหนังสือจำนวนมากได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ใครอยากเลือกให้ตรงใจที่สุด ก็เลือกได้เต็มที่ค่ะ แต่ก็อย่าลืมนะคะว่าหนังสือเหล่านั้น ไม่ใช่สมบัติส่วนตัว อ่านแล้วก็ต้องรักษาด้วย ขีดเขียนอะไรลงไปเหมือนกับหนังสือของตัวเองก็ทำไม่ได้นะคะ อย่าลืมว่าเพื่อนๆ หรือรุ่นน้องหลายคน ก็รออ่านต่อจากเราเหมือนกัน ดังนั้น อ่านให้เต็มที่แต่ก็ต้องรักษาให้ดีค่ะ
6. เลือกหนังสือด้วยตัวเอง
สิ่งสำคัญที่สุดที่จะสามารถเลือกหนังสือให้ตรงใจและประหยัดที่สุด ก็คือการเลือกซื้อหนังสือด้วยตัวเองค่ะ หมายความว่า เราต้องไปยืนอ่าน ไปดูด้วยตาของตัวเอง ลองนึกภาพว่าฝากคุณพ่อคุณแม่หรือเพื่อนซื้อ แล้วเราอยากได้หนังสือทำโจทย์ แต่ทุกคนกลับซื้อหนังสืออ่านมาให้ แบบนั้นก็ไม่ตรงกับที่ต้องการ ดังนั้น ลองหาเวลาว่างๆ สำหรับตัวเองสักหนึ่งวัน เพื่อไปเลือกซื้อหนังสือสักเล่ม ลองไปเปิดดูว่าหนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือที่เหมาะกับการทำโจทย์อย่างที่ต้องการรึเปล่า หรือหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่เหมาะกับการอ่านเนื้อหาอย่างที่เราชอบใช่ไหม จะได้ทั้งถูกใจและประหยัดเงินในการเลือกซื้อด้วยค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 6 เคล็ดลับเลือกหนังสืออ่าน ให้ประหยัดและถูกใจที่พี่อีฟนำมาฝากกันในวันนี้ ก่อนไปเลือกซื้อหนังสือครั้งหน้า ก็อย่าลืมท่อง 6 ข้อนี้ให้ขึ้นใจ จะได้ไม่เสียเงิน เสียเวลา แต่ได้หนังสือที่ไม่ถูกใจกันนะคะ ใครที่มีเคล็ดลับการเลือกหนังสือดีๆ ก็เอามาบอกเพื่อนๆ กันได้นะคะ อ่านหนังสือเตรียมสอบเมื่อไหร่ จะได้ติดมหาวิทยาลัยไปพร้อมกันค่ะ :D
0 ความคิดเห็น