รู้ไว้ใช่ว่า! 9 ข้อทำให้ครบก่อนสอบ สอบหนนี้จะได้ไม่เหนื่อย

สวัสดีค่ะ เปิดเทอมกันมาไม่นาน เผลอแป๊บเดียว น้องๆ มัธยมก็ต้องเตรียมตัวสอบกันอีกแล้ว ใครสอบวันไหนกันบ้าง แอบมารายงานตัวให้พี่อีฟรู้ได้นะคะ :D ได้ยินว่าน้องๆ หลายคน กำลังเตรียมตัวสอบกัน ก็ลองหยิบเอาเคล็ดลับต่างๆ ที่พี่ๆ เคยแนะนำไปทำตาม เพื่อเพิ่มคะแนนสอบกันได้นะคะ ให้การสอบรอบนี้ได้คะแนนเต็มกันทุกคนเลย

ใครที่ใกล้สอบแล้ว แต่ยังไม่รู้จะเริ่มหรือเตรียมตัวยังไง วันนี้พี่อีฟก็เลยขอมาแนะนำ 9 ข้อที่ต้องรู้ก่อนสอบ ลองมาเช็กตัวเองกันหน่อยว่า 9 ข้อนี้ น้องๆ รู้กันรึยัง แต่ขอบอกว่า แค่รู้ไม่พอค่ะ ต้องรีบลงมือทำด้วย จะมีอะไรกันบ้างตามพี่อีฟไปดูกันเลยค่ะ!

1. รู้ว่าต้องสอบวิชาอะไร
ใกล้สอบขนาดนี้แล้ว หลายคนยังสงสัยอยู่เลยว่าจะสอบวิชาอะไร วันไหนบ้าง นอกจากจะเตรียมตัวไม่ทันแล้ว ยังแสดงถึงความไม่ใส่ใจด้วยนะ เพราะถ้าไม่วางแผนล่วงหน้า นอกจากจะต้องอ่านหนักวันใกล้สอบ ที่มีแววว่าอาจจะอ่านไม่ทันแล้ว ถ้ามีหลายวิชาที่ต้องอ่าน บอกเลยว่าเตรียมตัวไม่ทันแน่นอนค่ะ ดังนั้น ก่อนจะสอบเมื่อไหร่ เช็กดูให้ดีว่าเราต้องสอบวิชาอะไร วันไหนบ้าง จะได้วางแผนการอ่านกันได้ทัน วิชาไหนยากมาก จะได้อ่านก่อน วิชาไหนยังไม่เข้าใจ จะได้อ่านทบทวน รับรองว่าเป็นวิธีที่ได้ผลแน่นอน

2. อ่านให้ถูกเรื่อง
แค่รู้วิชาเรียนคงไม่เพียงพอที่จะทำให้น้องๆ ได้คะแนนเต็มในการสอบครั้งนี้ค่ะ เพราะอย่างที่รู้กันว่าในหนังสือเรียน 1 เล่ม ก็แบ่งออกเป็นหลายบทเรียน จะให้ครูสอนทุกบทเรียนในหนึ่งเทอม น้องๆ คงเก็บเกี่ยวความรู้ได้ไม่เต็มที่เท่าไหร่ ดังนั้น ปกติใน 1 เทอม คุณครูจึงมักจะสอนแค่ 1-2 บทเรียนเท่านั้นค่ะ แล้วเรื่องไหน บทเรียนไหนที่ครูสอน นั่นแหละค่ะ คือสิ่งที่เราต้องรู้ คือบทเรียนที่เราต้องอ่าน เช่น ถ้าครูสอนเรื่องไฟฟ้า แต่เราไปอ่านเรื่องแรง แบบนี้ถึงจะอ่านเต็มที่มาแค่ไหน แต่คะแนนร่วงแน่นอนค่ะ เพราะอ่านไม่ถูกเรื่องที่เรียนนั่นเอง

3. รู้ว่ามีคะแนนเท่าไหร่ เหลือคะแนนเท่าไหร่
ข้อนี้ก็สำคัญมากเลยค่ะ พี่อีฟเชื่อแน่ว่าความรู้สึกของน้องๆ ที่จริงจังกับการเรียน แล้วพยายามให้ได้เกรด 4 กับน้องๆ ที่อาจไม่ได้ตั้งใจเรียนมาก แต่พยายามไม่ให้ได้เกรด 0 คงจะไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ ดังนั้น ลองเช็กตัวเองดูให้ดีค่ะ ว่าก่อนสอบ มีคะแนนอยู่เท่าไหร่กันบ้าง แล้วเหลืออีกกี่คะแนนถึงจะรอดปลอดภัย วิธีนี้จะช่วยทำให้เรา ไม่เหนื่อยจนเกินไป เพราะถ้าเหลือคะแนนอีกไม่เยอะก่อนจะถึงเป้าหมาย ก็จะได้สบายใจและไม่หักโหมอ่านหนักจนเกินไป หรือถ้าเหลือคะแนนอีกเยอะมากกว่าจะถึงเป้าหมาย ก็จะได้เตรียมตัวฟิตอ่านหนังสือให้เต็มที่ค่ะ

4. รู้ว่ามีงานอะไรที่ยังส่งไม่ครบ
ก่อนสอบทั้งที อย่าลืมเช็กให้ดีค่ะว่ามีงานอะไรที่เรายังไม่ได้ส่งรึเปล่า เพราะถึงแม้เราจะสอบได้คะแนนเต็ม แต่ถ้าขาดส่งงานชิ้นใดชิ้นหนึ่งไป คุณครูก็ไม่สามารถให้คะแนนเก็บเราได้ค่ะ อาจจะติด ร ไว้ก่อน ยังไงเราก็ต้องมาตามแก้ทีหลังอยู่ดี ดังนั้น ก่อนสอบรอบนี้ ลองเอาเวลาที่มี มาคิดทบทวนให้ดีว่าเราส่งงานครบรึยัง หรือถ้าใครจำไม่ได้จริงๆ ก็อย่าอายที่จะถามคุณครูค่ะ ว่ามีงานไหนที่เรายังไม่ได้ส่งบ้าง บางคนพอกลับมาเช็กจริงๆ มีทั้งเราลืมส่งเอง หรือคุณครูลืมลงคะแนนด้วยนะคะ ทางที่ดีอย่าลืมตรวจสอบและรักษาสิทธิ์ในคะแนนของเราดีกว่าค่ะ

5. รู้ว่าวิชานี้เน้นคะแนนเก็บ หรือเน้นคะแนนสอบ
ใครที่ส่งงานครบ เข้าสอบทุกครั้ง แต่คะแนนก็ยังไม่เป็นที่พอใจ ต้องปรับตัวเพิ่มกันหน่อย ลองมารู้จักแต่ละวิชาที่เรียน แล้วแบ่งประเภทวิชาต่างๆ ดูค่ะ ว่าเป็นวิชาที่เน้นคะแนนเก็บหรือวิชาที่ใช้คะแนนสอบ บางวิชาอาจจะคะแนนเก็บ 60 คะแนนสอบ 40 หรือ คะแนนเก็บ 80 คะแนนสอบ 20 หรือ อาจจะครึ่งต่อครึ่ง คะแนนเก็บกับคะแนนสอบ 50 : 50 กันเลย ถ้าลองแบ่งแบบนี้ เราจะได้จัดระเบียบตัวเองถูกค่ะ ว่าจะต้องให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากัน เช่น ถ้าเป็นวิชาที่เน้นคะแนนเก็บ แล้วเรารู้ตัวว่าไม่เก่ง ก็อาจจะเน้นความรับผิดชอบกับคะแนนเก็บให้เต็มที่ แบบนี้ก็มีโอกาสได้คะแนนดีๆ ไม่ต่างกันค่ะ

6. รู้ว่าต้องเริ่มอ่านหนังสือก่อนสอบนานแค่ไหน
ไม่ว่าจะเป็น 1 วัน หรือ 1 อาทิตย์ ระยะเวลาอ่านหนังสือที่เราจำเป็นต้องใช้ในแต่ละวิชา ตัวเราเองจะเป็นคนที่รู้ดีที่สุดค่ะ บางคนอ่านแค่ 1 วัน ก็เข้าใจและจำได้แล้ว แต่บางคนอาจจะต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์เพื่อที่จะทำความเข้าใจในหนึ่งเรื่อง ลองสำรวจตัวเองดูค่ะ ว่าเราถนัดหรือไม่ถนัดในวิชาไหน และอย่าลืมว่าเราไม่ได้สอบเพียงแค่วิชาเดียว เผื่อเวลาการอ่านหนังสือให้กับทุกวิชาที่ต้องสอบด้วยนะคะ บางคนอาจจะเลือกวิธีวางแผนระยะยาว หรือทำเป็นตารางอ่านหนังสือเอาไว้เลย ก็ไม่ว่ากันค่ะ ใครชอบหรือถนัดวิธีไหนก็ลุยอ่านกันได้เลย

7. รู้ว่าพักผ่อนเพียงพอหรือยังก่อนสอบ
สุขภาพใจพร้อม แต่ถ้าสุขภาพกายไม่ไหว ก็แย่เอาได้ง่ายๆ เหมือนกันนะคะ พี่อีฟเคยเห็นน้องๆ หลายคนที่อ่านหนังสือหามรุ่งหามค่ำ เตรียมตัวมาอย่างดี แต่ร่างกายไม่ได้พักผ่อน พอมาถึงวันสอบ ความรู้ที่มีอยู่เต็มเปี่ยม ก็ไม่ได้ลื่นไหลเหมือนเคย อะไรที่เหมือนว่าจะง่าย ก็ติดอยู่ที่ปลายสมอง อะไรที่เคยคิดออก วันที่สอบก็กลับคิดไม่ออกเหมือนเคย เสียดายทั้งเวลาทั้งโอกาสและความพยายามที่ผ่านมานะคะ ดังนั้น อย่าลืมสำรวจตัวเองให้ดีว่าเราพักผ่อนเพียงพอหรือยัง ถ้าจะให้แนะนำ พี่อีฟคิดว่าวันสุดท้ายก่อนสอบนี่ควรพักผ่อนให้เต็มที่เลยค่ะ จะได้สมองปลอดโปร่ง

8. รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ต้องตัดโซเชียลออกไป
น้องๆ คนไหนที่ใช้เวลาเกือบทั้งหมดไปกับโซเชียลเน็ตเวิร์ค ทั้งเฟซบุ๊ก ไลน์ ทวิตเตอร์ อินสตราแกรม อยู่ไหนก็ต้องอัพเดทให้เพื่อนทั้งห้องรู้ ชีวิตการเรียนในแต่ละวันไม่ได้สนใจอะไร เล่นจนทำการบ้านไม่ทัน ไม่ได้อ่านหนังสือ ขอให้เลิกพฤติกรรมเหล่านี้เถอะนะคะ ก่อนที่จะสายเกินแก้ จริงๆ โซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นเรื่องที่ดีถ้าเราใช้ถูกวิธี เราสามารถหาความรู้จากสิ่งเหล่านี้ได้ด้วย แต่อะไรถ้ามากเกินไป ก็ไม่ดีทั้งนั้นค่ะ รู้ว่าเวลาไหนควรใช้ เวลาไหนควรลดจะดีกว่า ใกล้สอบแบบนี้ ถ้าถึงเวลาที่ต้องอ่านหนังสือเมื่อไหร่ ใครที่กลัวห้ามใจไม่ได้ ก็หักดิบปิดเครื่องไปเลยดีกว่าค่ะ

9. รู้ว่าขี้เกียจไม่ได้แล้ว!
ข้อสำคัญที่สุดที่พี่อีฟขอเก็บไว้เป็นข้อสุดท้าย อยากจะให้น้องๆ นึกไว้อยู่เสมอค่ะ ยิ่งใกล้สอบ ยิ่งอยู่ในชั้นเรียนที่สูงขึ้น เรายิ่งขี้เกียจไม่ได้ค่ะ เพราะอนาคตอยู่ไม่ไกลแล้ว ถ้าใครเริ่มขี้เกียจ พี่อีฟก็อยากให้ลองนึกถึงผลเสียที่จะตามมา เช่น เวลาที่เราพลาดอนาคตที่ตั้งใจ ว่าเราจะเสียใจมากแค่ไหน การสอบในห้องเรียน ก็เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นของการสอบอื่นๆ ในชีวิตนะคะ พี่อีฟอยากจะให้น้องๆ ตั้งใจให้ดีและทุ่มเทให้เต็มที่ค่ะ ถ้าคิดอยู่เสมอว่าจะไม่ขี้เกียจ เดี๋ยวแรงฮึดและความตั้งใจก็จะตามมาเองค่ะ :D

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ 9 ข้อที่พี่อีฟมาชวนเรารู้ไปพร้อมๆ กัน ลองถามตัวเองว่าเรารู้ครบรึยัง และถ้ารู้ครบแล้ว ทำตามกันได้กี่ข้อเอ่ย? พี่อีฟเชื่อว่า น้องๆ ทุกคนอยากสอบได้คะแนนดีๆ กันอยู่แล้ว แต่บางทีการเอาชนะความขี้เกียจก็ทำได้ยากหน่อย ต้องอาศัยความพยายามในการเอาชนะใจตัวเองเป็นอย่างมาก ดังนั้น มาพยายามไปพร้อมกันตั้งแต่วันนี้ดีกว่าค่ะ !