สวัสดีค่ะ ก่อนออกจากบ้านมาโรงเรียน น้องๆ ลองสำรวจตัวเองกันรึยังคะ ว่าเราต้องเอาอะไรมาโรงเรียนบ้าง ชุดนักเรียนที่ถูกระเบียบ ถุงเท้า รองเท้าที่ถูกต้องแบบเดียวกันกับชุดที่ใส่ กระเป๋าที่แบกหนังสือเรียนมาเต็มที่ แต่เอ๊ะ! ทำไมพี่อีฟยังแอบเห็นน้องๆ บางกระเป๋าหนา บางคนกระเป๋าบางอยู่เลย
เชื่อแน่ว่าไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย สิ่งของที่น้องๆ ขนมาในกระเป๋านักเรียน คงไม่ได้มีแต่หนังสือเรียนเท่านั้น วันนี้พี่อีฟก็เลยจะขอพาไปเปิดกระเป๋าน้องๆ นักเรียน ที่มองยังไงๆ ก็ไม่ใช่หนังสือเรียน หรืออุปกรณ์การเรียนแน่นอน เราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าน้องๆ พกอะไรมาเรียนกันบ้าง
1.นิตยสาร
เป็นหนึ่งไอเท็มยอดฮิตของน้องๆ เด็กผู้หญิงกันเลย เปิดกระเป๋าออกมาที เจอทั้งนิตยสารแฟชั่น บันเทิง หรือดูดวง ฯลฯ น้องๆ เชื่อมั้ยคะว่า นิตยสารเล่มเดียว สร้างความสามัคคีในห้องได้เลย เพราะเล่มเดียวเวียนกันอ่านทั้งห้อง แต่ถ้าเป็นของเพื่อนก็ต้องรักษากันหน่อย อย่าทำขาด ทำพัง บอกเลยว่าถ้าช่วงนั้นใครมีนิตยสาร จะกลายเป็นคนที่เพื่อนต้องการตัวมากเลย
จะน่ารักมากนะคะ ถ้าน้องๆ เลือกอ่านให้ถูกที่ถูกเวลา เก็บไว้อ่านตอนพักกลางวันหรือระหว่างคาบเรียนค่ะ เพราะเวลาเรียนก็ควรตั้งใจเรียนหรือควรตั้งใจฟังที่อาจารย์สอนดีกว่า ถ้าแอบอ่านในเวลาเรียนแล้วพลาดถูกจับได้ขึ้นมา อาจจะได้คืนยากเลยนะคะ
2.เครื่องสำอาง
ขอเกาะกระแสไอเท็มของน้องๆ เด็กผู้หญิงกันอีกสักอย่างนะคะ เพราะพี่อีฟก็เคยเห็นเพื่อนๆ พกมากันหลายชิ้นในสมัยมัธยมค่ะ สำหรับเครื่องสำอางหรือไอเท็มดูแลหน้าตา/ร่างกาย ถ้าบอกว่าเป็นเครื่องสำอางก็อาจจะดูจริงจังเกินไปหน่อย แต่ถ้าบอกว่าเป็นแป้ง ครีม หรือลิปกลอส/ลิปมัน ฯลฯ น้องๆ คงร้อง อ๋อออกันเลยทีเดียวววว ยิ่งสมัยนี้ไม่ใช่แค่น้องๆ ผู้หญิงที่พกของเหล่านี้นะคะ แอบมองกระเป๋าเพื่อนผู้ชายบางคน พกเยอะกว่าเราอีกค่ะ !
อย่าลืมว่าเราอยู่ในโรงเรียน ด้วยเครื่องแบบของชุดนักเรียนนะคะ ดังนั้น อย่าลืมนึกถึงกฎระเบียบของโรงเรียนอยู่เสมอ ถ้าทาครีมกันแดด หรือทาแป้งเพื่อไม่ให้ดูหน้าโทรม แบบนี้เข้าใจได้นะคะ แต่ถ้าจริงจังถึงขนาดแต่งหน้ามาเรียน แบบนี้ไม่แนะนำนะคะ ใครที่อยากแต่งอาจจะรอให้เสาร์อาทิตย์ หรือเวลาไปเที่ยวดีกว่านะคะ แต่งตัว/แต่งหน้า ให้เหมาะสมกับวัย น่ารักกว่ากันเยอะเลยค่ะ
3.หนังสือนิยาย/หนังสือการ์ตูน
สมัยที่ร้านเช่าการ์ตูนยังรุ่งเรือง น้องๆ เกือบทุกคนจะต้องมีหนังสือนิยาย หรือหนังสือการ์ตูน อยู่ในกระเป๋าแน่นอน สมัยนี้อาจจะลดๆ ลงไปบ้าง เพราะเราหาอ่านนิยายหรือการ์ตูนแบบออนไลน์กันได้แล้ว แต่ก็ยังมีบางเล่มค่ะ ที่ยังคงความคลาสสิก ต้องซื้อเป็นเล่มมาอ่านเท่านั้น
ถ้าถามถึงวีรกรรมที่เคยเกิดขึ้นในห้องเรียน วีรกรรมที่ถูกคุณครูยึดหนังสือนิยาย/การ์ตูน จะต้องเป็นวีรกรรมแรกๆ ที่น้องๆ คิดถึงแน่นอน ใครที่พกหนังสือนิยาย/หนังสือการ์ตูน ติดกระเป๋าเป็นประจำ พี่อีฟแนะนำเหมือนนิตยสารเลยค่ะ ว่าอ่านได้ แต่ต้องอ่านให้ถูกเวลา ถึงจะแอบอ่านใต้โต๊ะ หรือหลังห้อง คุณครูที่ยืนอยู่หน้าห้องก็เห็นอยู่ดีค่ะ ไม่คุ้มกับการโดนหักคะแนนเลยนะคะ
4.ขนม/ลูกอม/หมากฝรั่ง
เปิดกระเป๋าน้องๆ บางคนมา พี่อีฟนึกว่าเป็นร้านขายขนมมากกว่ากระเป๋านักเรียนอีกค่ะ เพราะขนจัดเต็มมาทุกยี่ห้อ ไม่ใช่แค่เฉพาะของตัวเองนะคะ แต่ยังเผื่อแผ่มาถึงเพื่อนๆ รอบโต๊ะอีกด้วย บางคนอาจจะพกเบาๆ แค่ลูกอมหรือหมากฝรั่ง เพื่อให้ตัวเองกินเแก้ง่วง หรือกินแก้เบื่อ แบบนี้โอเคค่ะ แต่ถ้าบางคนจัดเต็ม พร้อมจัดปาร์ตี้ทุกครั้งที่เปิดกระเป๋า แบบนั้นก็ขอห้ามไว้ก่อนเลยค่ะ
ระวังไว้ให้ดีเลยนะคะ เพราะถ้ากินลูกอมเพื่อแก้ง่วง ก็ถือว่าเข้าใจได้ค่ะ ลูกอมจะได้ช่วยให้เราสดชื่นและกลับมาตั้งใจเรียนเหมือนเดิม แต่ถ้ากินขนมหรือหมากฝรั่งระหว่างที่คุณครูกำลังสอนอยู่ จะทำให้คุณครูแอบคิดได้นะคะ ว่าเราไม่สนใจเรียนหรือไม่ตั้งใจฟัง แถมดูไม่ค่อยมีมารยาทกับคุณครูเท่าไหร่เลยด้วย ดังนั้น กินเฉพาะเวลาพักกลางวันหรือหลังเลิกเรียนดีกว่าค่ะ
5.กระดาษทิชชู่
กระดาษทิชชู่เป็นอีกอย่างที่น้องๆ หลายคนพกไว้หลายรูปแบบนะคะ ไม่ว่าจะเป็นแบบเปียกหรือแบบแห้ง กล่อง เป็นซอง หรือเป็นห่อ เป็นของที่ผู้หญิงก็พกได้ ผู้ชายก็พกดี เป็นอีกไอเท็มสารพัดประโยชน์ ที่ช่วยเราตั้งแต่เจอคราบสกปรก เช็ดหน้าตา หรือทำความสะอาดสิ่งต่างๆ ฯลฯ ถึงจะไม่เกี่ยวกับการเรียนเท่าไหร่ แต่พกไว้ก็มีประโยชน์แน่นอนค่ะ
ข้อจำกัดของกระดาษทิชชู่ที่พี่อีฟเห็นได้ชัดเจนที่สุด ก็คือการใช้ได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นค่ะ ดังนั้น ต้องใช้อย่างประหยัดที่สุด และใช้ให้คุ้มค่าที่สุดด้วย และถ้าน้องๆ คนไหนไม่ระวัง หรือใช้แบบทิ้งๆ ขว้างๆ ก็อาจจะทำให้เกิดขยะหรือเศษทิชชู่สกปรกที่ถูกทิ้งเกลื่อนกลาดได้นะคะ ดังนั้น ใช้เสร็จแล้วก็อย่าลืมทิ้งให้เรียบร้อยด้วยค่ะ
6.โทรศัพท์มือถือ
เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยที่ 5 ของน้องๆ หลายคนแล้ว สำหรับโทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทโฟน แม้หลายโรงเรียนมีกฎห้ามพกมาโรงเรียน แต่ก็ยังเห็นน้องๆ แอบพกมาอยู่ดี ถ้าพกไว้เพื่อติดต่อกับที่บ้าน หรือค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการเรียน แบบนี้ก็เข้าใจได้ค่ะ แต่ถ้าเล่นตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนเรียน หรือนั่งจับโปเกม่อนทั้งคาบ แบบนี้ก็อาจจะโดนลงโทษได้ค่ะ
จริงๆ แล้ว พี่อีฟว่าพกได้นะคะ แต่ก็ต้องใช้ให้เหมาะกับเวลาด้วย เช่น เวลาเลิกเรียน เพื่อใช้ติดต่อครอบครัว หรือเวลาพักกลางวัน เพื่อใช้ค้นข้อมูลการเรียน ฯลฯ อย่าใช้ขณะเรียน หรือขณะเข้าแถว และที่สำคัญ โทรศัพท์มือถือ ถือว่าเป็นทรัพย์สินที่มีค่า ดังนั้น เลือกที่จะนำมาโรงเรียนแล้วก็ต้องรับผิดชอบ และดูแลให้ดีค่ะ
7.ร่ม
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว อีกหนึ่งไอเท็มสำคัญที่ติดกระเป๋าแทบจะ 365 วันก็คือ ร่ม นี่แหละค่ะ เพราะสารพัดประโยชน์จริงๆ ทั้งกันแดด กันฝน กันลม หรือถือไว้เป็นไอเท็มสวยๆ ก็ยังได้ ใครที่กลัวหลงลืม เวลาไปแขวนไว้ที่ไหน ก็อาจจะพกร่มคันเล็กๆ ที่พกพาในกระเป๋าได้สะดวก แทนร่มคันใหญ่ๆ ที่อาจจะทำหลงลืมระหว่างเดินทางได้ เดี๋ยวนี้ร่มก็ทำลายน่ารักๆ ออกมา ให้เราได้เลือกเยอะแยะเลยนะคะ ลองเลือกมาใช้กันได้
ช่วงนี้ฝนตกทุกวัน ใครกางร่มมาตอนเช้า ก็อย่าลืมเผลอไปวางทิ้งไว้จนเกะกะขวางทางเดินหรือลืมไปไว้ที่อื่น แม้ว่าจะไม่เกี่ยวกับการเรียนเท่าไหร่ แต่ไอเท็มนี้จำเป็นและมีประโยชน์มากๆ เลยค่ะ เพราะอากาศมักจะชอบเล่นตลกกับเราเสมอ ถ้าไม่เชื่อลองหยิบร่มออกจากกระเป๋าดูสิ วันนั้นฝนตกแน่นอน !
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับไอเท็มที่เปิดกระเป๋านักเรียนของน้องๆ มา แต่ไม่เคยเจอหนังสือเรียนกันเลย หลายๆ อย่างพี่อีฟก็เข้าใจได้นะคะ แต่อีกหลายอย่าง ก็แปลกใจเหมือนกัน เอาเป็นว่าใครพกไอเท็มเด็ดๆ อะไร หรือเปิดกระเป๋ามาเจอสิ่งของชิ้นไหน ก็มาแชร์กันได้นะคะ และอย่าลืมว่าสิ่งสำคัญที่ควรพกไปเรียนมากที่สุด ก็คือ หนังสือเรียนและอุปกรณ์การเรียน นั่นเองค่ะ
20 ความคิดเห็น
ร่มมันจำเป็นจริงๆนะเออ
ดูอย่างวันนี้สิ ฝนตก ร่มพังเลยเอาทิ้งไว้บ้าน สุดท้ายเป็นไง ก็เปียกซกเป็นลูกหมาตกน้ำไงล่ะ ขอสาปแช่งพระพิรุณ ให้ฝนตกทำม้าย #ไม่ต้องตกใจ ลืมกินยาหลังอาหาร
ทั้งหมดนี้ สำหรับเรามีเพียงอย่างเดียว คือ"หนังสือ" ค่ะ
แค่หนังสือเรียนหนา 150 หน้าขึ้นหลายเล่มยังไม่พอ ไหนจะนิยายที่ยืมจากห้องสมุดอีก ล่าสุดมีสองเล่ม ความหนาเล่มละ 300 หน้าขึ้น เมื่อไปชั่งน้ำหนักดู...7 กิโลกรัมค่ะ (ปกติ 5 กิโลกรัมก็หนักอยู่แล้ว)
นอกเหนือจากนี้// เพิ่มเติมเลยคือกระเป๋าดินสอ ดินสอสี ไฮไลต์ ปากกาเมจิกแบบหนา แบบบาง กรรไกร กาว แม็ค แฟ้มงาน(ที่นับวันยิ่งหนาขึ้นเรื่อยๆ) พิเศษคือแว่นตา หยูกยาทั้งหลายแหล่(สำหรับเราที่ป่วยง่าย) #อยากขอความเห็นใจรวมหนังสือทุกวิชาเป็นเล่มเดียวเหมือนหนังสือติว ค่ะ (เป็นแค่เรารึเปล่าเนี่ยที่พกเยอะอย่างนี้ ฮ่าๆๆ)
เครื่องสำอาง
เรามีแค่กระป๋องแป้งเล็กๆ กับลิปมัน
กระดาษทิชชู่
พกประจำเพราะเราหน้ามัน
โทรศัพท์มือถือ
อันนี้ต้องพกประจำ ไว้โทรหาแม่ กลับบ้านเย็นบ่อยมาก
นิยายนี้ประจำแม่ถามไมกระเป๋าหนักจังบอกการบ้านเยอะแต่จริงๆแล้วมีแต่การตูนเครื่องสำอางเอาไปไม่ได้ครูห้ามแบบเด็ดขาดมากอะ
ที่ว่ามาทั้งหมด มีถูกแค่ร่มกับหนังสือนิยาย (ที่ยืนจากห้องสมุดมาให้แม่และตัวเอง) เท่านั้น ที่เหลือเป็นหนังสือเรียนหมด
เมื่อก่อนยัดหนังสือไว้ใต้โต๊ะได้ กระเป๋าในตอนนั้นเลยมีแต่การ์ตูนกับนิยาย หิ้วมาเหมือนจะเปิดร้านเช่าเลย 5555
ควรเติมลงไปอีกหนึ่งข้อนะคะ
8.พาวเวอร์แบงค์และสายชาร์จ