ถึงคราว โรงเรียนมัธยม ออกนอกระบบ

นายวิศรุต สนธิชัย ผอ.โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย เปิดเผยว่า ตามที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการศึกษาและยกร่างการออกนอกระบบของโรงเรียนมัธยมศึกษา หรือ โรงเรียนในกำกับของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) นั้น ขณะนี้ได้มีการนำเสนอต่อ สพฐ. แล้ว เป็น 2 แนวทาง คือ 1.ออกนอกระบบทั้งโรงเรียน และ 2.ออกนอกระบบเป็นโปรแกรมหรือโปรเจกต์ แต่เรื่องการออกนอกระบบของโรงเรียนมัธยมศึกษาเป็นเรื่องใหม่ หากจะออกนอกระบบทั้งโรงเรียน ต้องถามว่าครูมีความพร้อมหรือเต็มใจหรือไม่ เพราะทั้งครูและ ผอ.โรงเรียนต้องลาออกจากระบบราชการเปลี่ยนฐานะเป็นพนักงานราชการ แต่ครูส่วนหนึ่งก็ยังไม่พร้อมเพราะที่มารับราชการก็เพื่อการเติบโตในหน้าที่การงาน

 

ซึ่ง สพฐ.จะต้องเตรียมการรองรับเรื่องนี้ ดังนั้น สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้คือการออกนอกระบบเป็นโปรเจกต์ เช่น โครงการพิเศษ คือ English Program (EP) ซึ่งถ้าจะนำร่องออกนอกระบบเฉพาะโปรแกรมก็ทำได้ง่ายกว่า ใช้บุคลากรน้อย และส่วนใหญ่จะใช้บุคลากรจากภายนอก แต่โรงเรียนจะต้องเป็นอิสระทั้งเรื่องหลักสูตร และการคัดเลือกนักเรียนเพราะจะต้องสอบคัดเลือก 100%

ผอ.โรงเรียนสามเสนฯ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ สพฐ.ได้คัดเลือกโรงเรียนที่จะผลักดันให้ออกนอกระบบไว้บ้างแล้ว ได้แก่ ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา ร.ร.สวนกุหลาบวิทยาลัย และ ร.ร.สามเสนวิทยาลัย แต่ต้องดูนโยบายรัฐบาลด้วยว่าจะดำเนินการต่อไปในทิศทางใด และ สพฐ.ก็ต้องคิดเรื่องของกฎหมายและโครงสร้างการเป็นโรงเรียนในกำกับของ สพฐ. และหากโรงเรียนไหนมีความพร้อมต้องปล่อยออกไป เอางบประมาณที่เหลืออยู่ไปดูแลโรงเรียนอื่นๆ เพราะแนวทางการรับอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวของโรงเรียนนอกระบบ จะมีทั้งที่ไม่ขอรับการอุดหนุนเลย , ขอรับบางส่วน หรือขอรับเหมือนเดิมแต่ขอระดมทรัพยากรได้โดยอิสระ ซึ่งทุกโรงเรียนจะต้องมี พ.ร.บ.เป็นของตัวเอง แต่จะไม่เหมือนกันเลย เพราะบริบทของสังคมแต่ละโรงมีความแตกต่างกัน

“การออกนอกระบบของโรงเรียนเป็นการยกมาตรฐานของโรงเรียน เพราะจะสามารถกำหนดหลักสูตรเองได้ ซึ่งหลักสูตรมีความจำเป็นที่ต้องได้รับการพัฒนา เพื่อให้ทันต่อสังคมโลก” นายวิศรุตกล่าว

พพี่ลาเต้ขอขอบคุณข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐพ