มหา'ลัยไทย ทำไมกลายเป็นธุรกิจ

รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า จากการการสัมมนาเรื่อง “วิพากษ์การอุดมศึกษาไทย” ที่จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งมีผู้บริหาร มหาวิทยาลัย นักวิชาการและตัวแทนจากองค์กรเอกชน เข้าร่วมนั้น ผู้เข้าประชุมมีความเห็นตรงกันว่า ขณะนี้สถาบันอุดมศึกษาไทยส่วนใหญ่มุ่งธุรกิจอุดมศึกษา มีการขายปริญญาบัตร เปิดหลักสูตรจำนวนมาก มีการถ่ายทอดความรู้แบบสำเร็จรูป และมหาวิทยาลัยจำนวนมากก็ใกล้ตายกับการให้คำตอบหรือทางเลือกแก่สังคม แต่อุดมศึกษาไทยก็มีจุดแข็งที่การตั้งอยู่ในภูมิภาค ซึ่งเป็น ศูนย์รวมระหว่างวิทยาการตะวันตกและตะวันออกที่สามารถเลือกเข้ามาได้ ขณะที่จริตและนิสัยของคนไทยไม่สู้งานหนัก ไม่ค่อยมีวินัย ไม่ตรงต่อเวลา ไม่ขยัน แต่คนไทยมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ ชอบให้บริการ ดังนั้นหลักสูตรที่เหมาะสมกับคนไทยคือ อุตสาห กรรมบริการ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ปรัชญา ศาสนา และพลังงานทดแทน เป็นต้น

 

รศ.ดร.สมพงษ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นว่าปัญหาอุดมศึกษาไทยที่ทำให้สถานการณ์วิกฤติมากขึ้น เพราะมหาวิทยาลัยมีความแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว สภามหาวิทยาลัยก็เป็นจุดอ่อนของมหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยขาดความเป็นเอกภาพ ดังนั้นจึงมีการเสนอทาง ออกว่า มหาวิทยาลัยไทยต้องก้าวให้หลุดพ้นจากกับดักการแข่งขัน การจัดอันดับและวิทยาการทุนนิยม พร้อมทั้งเสนอให้มีการจัดตั้งคณะทำงาน เพื่อผลักดันแนวคิดจากการประชุมครั้งนี้ให้เป็นรูปธรรม โดยเห็นว่า สกอ. และ ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ควรเป็นหลักในการสานต่องานนี้

พพี่ลาเต้ขอขอบคุณข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ข่าวสดพ