มารู้จักประวัติชุดนักเรียนญี่ปุ่นกันเถอะ !!

ขึ้นชื่อว่า "เครื่องแบบ" แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแบบอะไรและใครจะสวมใส่พี่ปาล์มว่าล้วนสวยงามและเรียบร้อยทั้งนั้นนะคะ แต่มีอยู่เครื่องแบบหนึ่งที่เป็นเครื่องแบบยอดนิยมในดวงใจของน้องๆนักเรียนไทย นั่นก็คือ เครื่องแบบนักเรียนญี่ปุ่นจ้า ด้วยความน่ารักคิกขุของชุดทำให้น้องๆหลายคนอยากจะใส่บ้าง แต่ก่อนจะไปเปิดแมกกาซีนดูชุดนักเรียนญี่ปุ่นสวยๆ เรามารู้ประวัติกันก่อนดีกว่า Let's go !!

เครื่องแบบนักเรียนญี่ปุ่น เป็นชุดเสื้อผ้าที่นักเรียนหรือนักศึกษาประเทศญี่ปุ่นใช้สวมใส่ ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า "เซฟุกุ" (, Seifuku ; เครื่องแบบ, ) หรือ "กะกุเซฟุกุ" (, Gakuseifuku ; ชุดนักเรียน, ?) ประเทศญี่ปุ่นเริ่มใช้เครื่องแบบนักเรียนมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ปัจจุบัน โรงเรียนรัฐบาลและโรงเรียนเอกชนเกือบทุกโรงเรียนต่างให้นักเรียนแต่งกายในชุดเครื่องแบบนักเรียน รวมทั้งมหาวิทยาลัยผู้หญิงบางแห่งก็ยังคงใช้เครื่องแบบอยู่เช่นกัน

โรงเรียนส่วนใหญ่ในชั้นประถมศึกษาไม่บังคับให้นักเรียนใส่เครื่องแบบ สำหรับโรงเรียนที่บังคับ นักเรียนชายจะต้องใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวและสวมหมวก นักเรียนหญิงจะต้องใส่เสื้อสีขาวและกระโปรงจีบสีเทา หรือบางครั้งก็ใส่ชุดกะลาสี เครื่องแบบอาจจะแตกต่างกันไปตามโอกาสและฤดูกาล นักเรียนจะใส่หมวกที่มีสีสว่างสดใสเพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางจราจร

ชุดนักเรียนชั้นมัธยมประกอบด้วยชุดเครื่องแบบทหารสำหรับเด็กผู้ชายและชุดกะลาสีสำหรับเด็กผู้หญิง ชุดเหล่านี้มีต้นกำเนิดมาจากชุดทหารในยุคเมจิ ซึ่งลอกแบบมาจากชุดนาวีของยุโรป ปัจจุบันยังคงมีการใช้ชุดเหล่านี้อยู่ หลายโรงเรียนเปลี่ยนไปใช้ชุดตามโรงเรียนสอนศาสนาของตะวันตก ชุดของผู้ชายประกอบด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาว เนคไท เสื้อแจ๊คเก็ตที่มีตราโรงเรียน และกางเกงขายาว (มักเป็นคนละสีกับเสื้อแจ๊คเก็ต) ชุดผู้หญิงประกอบด้วยเสื้อสีขาว เนคไท เสื้อแจ๊คเก็ตที่มีตราโรงเรียน และกระโปรงตาหมากรุก

ทุกโรงเรียนจะมีเครื่องแบบภาคฤดูร้อน (ชุดผู้ชายประกอบด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงสแล็ก ชุดผู้หญิงประกอบด้วยเครื่องแบบน้ำหนักเบา และกระโปรงตาหมากรุก) และชุดกีฬา นักเรียนอาจแต่งกายแตกต่างกันในชั้นเรียนเดียวกันก็ได้ ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบของแต่ละโรงเรียน นักเรียนบางคนอาจฝ่าฝืนกฎด้วยการใส่เครื่องแบบผิดระเบียบหรือใส่เครื่องแบบข้อห้ามต่างๆ เช่น ถุงเท้าหย่อนๆขนาดใหญ่และติดเข็มกลัด นักเรียนหญิงอาจใส่กระโปรงสั้นๆ นักเรียนชายอาจใส่กางเกงระดับสะโพก ไม่ผูกเนคไท และปลดกระดุมเสื้อ

เนื่องจากบางโรงเรียนไม่มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบแยกเพศหรือห้องที่มีประตูล็อก นักเรียนจึงเปลี่ยนเสื้อกีฬาในห้องเรียน ทำให้มีนักเรียนบางคนที่ใส่ชุดกีฬาไว้ใต้เครื่องแบบนักเรียน โรงเรียนบางโรงเรียนบังคับทรงผม รองเท้า และกระเป๋าหนังสือ แต่นักเรียนมักจะปฏิบัติตามกฎในวาระพิเศษต่างๆเท่านั้น เช่น วันเปิดเทอม พิธีปิด และวันถ่ายรูปชั้น

กะกุรัง (w) หรือ สึเมะเอะริ (l゚ン) เป็นเครื่องแบบสำหรับนักเรียนชายในระดับมัธยม โดยทั่วไปส่วนมากเป็นสีดำ แต่บางโรงเรียนก็ใช้สีกรมท่า และสีน้ำเงินเข้ม

กะกุรังเป็นเป็นเสื้อมีปกที่กลัดกระดุมจากบนลงล่าง กระดุมมักมีตราของโรงเรียน กางเกงเป็นกางเกงขายาว เข็มขัดสีดำหรือสีเข้มๆ เด็กผู้ชายมักใส่รองส้นเตี้ยและรองเท้ากีฬา บางโรงเรียนบังคับให้นักเรียนติดเข็มกลัดที่ปกเสื้อเพื่อบอกโรงเรียนและบอกชั้น

เด็กผู้ชายมักให้กระดุมเม็ดที่สองของเสื้อกับเด็กผู้หญิงที่ตนเองหลงรัก ถือเป็นการสารภาพรักในทางหนึ่ง โดยกล่าวกันว่าเป็นกระดุมเม็ดที่อยู่ใกล้หัวใจและเต็มไปด้วยความรักที่มีมาตลอดสามปีในโรงเรียน การปฏิบัติเช่นนี้เป็นที่นิยมเนื่องมาจากฉากหนึ่งในนิยายที่แต่งโดย ไดจุง ทะเกะดะ

ชุดกะลาสี (Z[[ เซราฟุกุ) เป็นเครื่องแบบนักเรียนหญิงชั้นมัธยมโดยทั่วไป โรงเรียนประถมบางโรงเรียนก็ใส่ชุดกะลาสี ชุดนี้เริ่มใช้เป็นเครื่องแบบครั้งแรกตั้งแต่ปี 1921 โดย อลิซาเบธ ลี ผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยฟุกุโอะกะ โจะกะกุอิง ชุดนี้ลอกแบบมาจากราชนาวีของอังกฤษในสมัยนั้น ซึ่งลีเคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่สหราชอาณาจักร

เช่นเดียวกับเครื่องแบบนักเรียนชาย ชุดกะลาสีมีความคล้ายคลึงกับชุดทางทหาร ประกอบด้วยเสื้อเชิ้ตที่มีปกแบบกะลาสีและกระโปรงจีบ ในช่วงหน้าร้อนและหน้าหนาวจะมีการปรับแขนเสื้อและเนื้อผ้าให้เหมาะสมกับฤดูกาล มีรีบบิ้นผูกอยู่ข้างหน้าโดยร้อยผ่านรูรอบๆเสื้อ บางครั้งอาจเป็นเนคไท ผ้าพันคอ หรือโบว์ สีทั่วไปได้แก่สีกรมท่า สีขาว สีเทา สีเขียวอ่อน และสีดำ

บางครั้งรองเท้าและถุงเท้าก็ถูกนับรวมเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแบบ ถุงเท้าโดยทั่วไปเป็นสีกรมท่าและสีขาว รองเท้าเป็นรองเท้าส้นเตี้ยสีน้ำตาลและสีดำ ซึ่งถุงเท้าย่นๆเป็นที่นิยมมากในกลุ่มเด็กผู้หญิง แม้จะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแบบก็ตาม

ความสำคัญเชิงวัฒนธรรม

โรงเรียนแต่ละโรงเรียนมีเครื่องแบบแตกต่างกันไป เครื่องแบบนักเรียนมักทำให้นักเรียนที่จบไปแล้วหวนรำลึกถึงความหลังอันเป็นสัญลักษณ์ของวัยเด็กอันสดใส นักเรียนบางคนดัดแปลงเครื่องแบบเพื่อสร้างความเป็นตัวของตัวเอง เช่น ทำกระโปรงให้สั้นลงหรือยาวขึ้น ไม่ผูกริบบิ้น ซ่อนตราโรงเรียนไว้ในปกเสื้อ ฯลฯ

เนื่องจากเครื่องแบบนักเรียนหญิงเป็นสัญลักษณ์ที่ให้ความรู้สึกทางเพศอย่างหนึ่ง จึงมีการขายชุดนักเรียนหญิงที่ใช้แล้วตามร้านค้าที่เรียกว่า บุรุเซะระ แม้ว่าปัจจุบันการขายเช่นนี้จะเป็นสิ่งผิดกฎหมายก็ตาม เครื่องแบบนักเรียนหญิงยังมีบทบาทอย่างมากในวัฒนธรรมโอะตากุ สื่อบันเทิงประเภทอะนิเมะและมังกะมักจะมีตัวละครในชุดเครื่องแบบนักเรียนอยู่ด้วยเสมอ

ประวัติความเป็นมาของเครื่องแบบนักเรียนญี่ปุ่นที่แสนจะน่ารักนั้นช่างยาวนานและเก่าแก่มากเลยนะจ๊ะ หวังว่าน้องๆคงจะได้รับความรู้และความเพลิดเพลินไปกับบทความที่พี่ปาล์มนำมาฝากนะคะ แต่ยังไงก็ตามเครื่องแบบนักเรียนไทยเราก็สวยงามเรียบร้อยน่ารักไม่แพ้ชาติไหนๆเช่นกันจ้า จริงไหมเอ่ย?

พี่ปาล์มขอขอบคุณบทความและภาพประกอบจาก wikipedia ค่ะ

 

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
ขนนกแห่งรัตติกาล สาวกบารามอส Member 19 มิ.ย. 51 20:04 น. 28

เพื่อนเราคนนึงเคยไปญี่ปุ่นมา

บอกว่าสาวญี่ปุ่นใส่กระโปรงสั้นมากๆ เลย

แบบว่าเดินทีเห็น กกน. เลย

(วางระเบิดเสร็จก็จากไปด้วยความรวดเร็จ เอิ๊กๆๆ)

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

61 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
*||MallaM||* Member 18 มิ.ย. 51 17:58 น. 6
^
^
^
แกไม่พอใจก็ไปประท้วงสิ -*-

นี่ชุดนักเรียนญี่ปุ่นนะคะ ไม่ได้เกี่ยวกับชุดนักเรียนไทยเล๊ย~!! -*-

แต่ชุดนักเรีนมัธยมน่ารักดีนะ ^^ ชอบอ่า
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
เอดีพีอี 18 มิ.ย. 51 19:03 น. 12
แต่ชุดของเค้ามันมีแขนสั้นด้วยนะ ใส่ในฤดูร้อน ถ้าคนไทยใส่สีแบบนี้บ้างก้อดีนะเราว่า (เหมือนใส่ชุดเนตรนารี) อยากใส่ยูนิฟอร์มสีเข้มๆ ไม่ชอบขาวเลย ซักก้ยาก
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
เครียดโว้ยยยย 19 มิ.ย. 51 00:35 น. 17
ลองเอามาใส่ที่ไทยสิ ชักตายกันพอดี แค่ชุดนักเรียนธรรมดาก็ร้อนจะตายชักอยู่และ ยิ่งใส่เสื้อซับในอีก เหงื่อไหลเหมือนเขื่อนแตก ญี่ปุ่นเมืองหนาว เราเคยมีเพื่อนเป็นคนญี่ปุ่น มันก็บอกว่าใส่กันสั้นแบบนี้แหละ ก้มทีก็เห็นหมด เพราะจะได้ถนัดต่อการเดินทาง (มันเกี่ยวกันด้วยหรอ ก็ไม่รู้ดิ) แหม...ในเมืองไทยก็มีเด็กญี่ปุ่นเยอะแยะนี่ คิๆๆๆๆ แต่ญี่ปุ่นแนวไหน อันนี้คิดเอง ขาวๆคงไม่ใช่ มีแต่หมองๆ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กัน 19 มิ.ย. 51 12:00 น. 19
เกาหลีไม่ได้เลียนแบบญี่ปุ่นซะหน่อย ประเทศเกาหลีกะญี่ปุ่นเคยผนวกเข้าด้วยกันรู้มั้งป่าวว แล้วก็ต้องมีบ้างซิที่วัฒนธรรมจะคล้ายๆกัน แหม ถ้างั้นประเทศที่ใช้ตะเกียบก็คงเลียนแบบกันหมดซิเนอะ ประเทศที่นับถือศาสนาเดียวกันก็เลียนแบบกันหมดซิ อย่าไปคิดอะไรให้มันเลวร้ายไปหน่อยเลย
0
กำลังโหลด
bullet✚harmony Member 19 มิ.ย. 51 13:18 น. 20
ชุดน่ารัก-,.-
แร้วดูชุดที่ไทยจิ เหมืองกังไปหมด ไม่ลงทุนรุยT^T
ชุดอินเตอร์ก้อเหมือนๆกันหมดแค่เปี่ยนสี เปี่ยนนิสนุง
แงๆ ชุดเขาน่ารัก อิจฉาๆ 5555
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด